“เ้ากล้าทำร้ายเขา?” เว่ยฉีเทียนเผยสีหน้าดูไม่ได้พร้อมไอสังหารแผ่ออกจากร่าง
“เขาโจมตีข้าก่อน หรือว่าเ้าไม่เห็น? รนหาที่ตายเอง ข้าไม่ลงมือฆ่าเขา ก็เห็นแก่หน้าเขามากพอแล้ว!”
เย่เฟิงหันไปยิ้มให้เว่ยฉีเทียนด้วยท่าทางเ็าแล้วกล่าวต่อว่า “จำต้องบอกว่าในสี่มหาพลแห่งอาณาจักรเว่ย ก่อนหน้านั้นพลเหล็กกล้าถูกข้าสังหาร บัดนี้พลทองแดงก็อ่อนหัด ข้าไม่รู้ว่าอาณาจักรเว่ยเ้าที่ขึ้นชื่อว่าเป็อาณาจักรศูนย์กลางแห่งแดนชิงอวิ๋น เหตุใดผู้ฝึกยุทธ์จึงอ่อนหัดเยี่ยงนี้เล่า?”
เมื่อเว่ยฉีเทียนได้ยินก็เผยหน้าเขียวสลับขาว เขารู้สึกขายหน้าเป็อย่างมาก ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกเย่เฟิงตบหน้าต่อหน้าผู้คน ทำให้ความเกลียดชังที่มีต่อเย่เฟิงพุ่งทะยานสูง
“ข้าจำต้องยอมรับว่าเ้าอวดดีมากจริง ๆ!” ขณะนั้นมีเงาร่างหนึ่งเดินออกมาจากฝั่งอาณาจักรเว่ย คนผู้นี้สวมใส่ชุดสีเงิน รูปร่างผอมบาง ให้ความรู้สึกที่มืดมน เมื่อมองไปแล้วรู้สึกถึงความไม่สบายใจ
“เป็พลเงิน เย่เฟิงผู้นี้ยั่วให้พลเงินเกิดโทสะแล้ว ข้าอยากดูว่าคราวนี้เขาจะจัดการอย่างไร?” ผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งจากสำนักศึกษาเสินเจียงกล่าวพลางแสยะยิ้ม เหมือนรู้สึกยินดีปรีดาในความโชคร้ายของผู้อื่น รวมถึงคนมากมายที่มีความแค้นกับเย่เฟิงก็เช่นกัน พวกเขาต่างยิ้มเย้ยหยันอย่างเย็นเยือก
“แต่ว่าคนที่ชอบอวดดีมักจะต้องตายไว!” พลเงินกล่าวด้วยเสียงเ็า
“งั้นเหรอ?” ดวงตาของเย่เฟิงเผยประกายเย็นเยือก พร้อมกล่าวต่อ “ก็พอ ๆ กันแหละ”
“คุยโวโอ้อวด!” พลเงินดูโมโหเป็อย่างมาก พร้อมไอเย็นแผ่ออกจากร่าง “งั้นเ้ากับข้ามาตัดสินความเป็ตาย ข้าจะทำให้เ้ารู้ว่าเมื่อทำตัวอวดดีต่อหน้าข้า จะมีจุดจบอย่างไร!”
“ตัดสินความเป็ตาย ผลที่จะตามมาเ้าต้องรับไม่ไหวอย่างแน่นอน!” เย่เฟิงกล่าวพร้อมเอาสองมือไพล่หลัง ในน้ำเสียงก็ยังเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่น
“สวะขั้นยุทธ์แท้ที่ 1 ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง อย่าคิดว่าเ้าเอาชนะพลทองแดงแล้วจะสู้กับข้าได้ หากเ้าคิดเช่นนั้น ก็เป็ความคิดที่ผิดมหันต์!” พลเงินกล่าวด้วยรอยยิ้มเ็า พร้อมเผยสีหน้าดูถูกเหยียมหยาม ตบะของเขาบรรลุจุดสูงสุดของขั้นยุทธ์แท้ที่ 4 แม้จะอยู่ระดับเดียวกับพลทองแดง แต่พลังต่อสู้ของทั้งสองคนกลับห่างชั้นกันมาก หากพลเงินอยากเอาชนะพลทองแดง เพียงแค่หนึ่งกระบวนท่าก็ทำได้แล้ว ดังนั้นพลเงินไม่เชื่อว่าตนจะเอาชนะเย่เฟิงไม่ได้
“วูบ!”
เมื่อสิ้นเสีย พลันเห็นพลเงินก้าวออกมา ก่อนเงาร่างจะกลายเป็เสี้ยวเงาสีเงิน ไปเยือนเบื้องหน้าของเย่เฟิงในพริบตา พร้อมกับวาดฝ่ามือที่เปล่งแสงสีเงินเข้าจู่โจมเย่เฟิง แต่จู่ ๆ ฝ่ามือที่อัดแน่นด้วยพลังทำลายล้างก็แยกออกจากหนึ่งเป็สาม โดยโจมตีจากคนละทิศทางที่แตกต่างกันไป
ดวงตาของเย่เฟิงเผยประกายเฉียบคม จากนั้นใช้ย่างก้าวดาวตกผีเสื้อ พร้อมพลังดาราโคจรรอบกายและแผนที่ดาวขนาดมหึมาเข้าปกคลุมทั่วพื้นที่ เงาร่างเย่เฟิงดุจดวงดาว หลบหลีกฝ่ามือทั้งสามของพลเงินได้ในพริบตาเดียว ขณะเดียวกันเขาเหวี่ยงหมัดโจมตีที่อัดแน่นไปด้วยพลังเกินสองแสนจิน
พลเงินตาส่องประกายแสงชั่วร้าย จากนั้นวาดฝ่ามือสีเงินโจมตีอีกครั้ง พลันปรากฏเงาฝ่ามือั์สีเงินที่กลางอากาศ ก่อนจะเข้าปะทะกับหมัดของเย่เฟิง ตามด้วยเสียงะเิดังสนั่น ฝ่ามือั์สีเงินนั่นแม้จะเปี่ยมด้วยพลังมหาศาล แต่ก็ยังคงถูกหมัดของเย่เฟิงทำลายจนกลายเป็ผุยผงสลายหายไปท่ามกลางอากาศ ทว่าหมัดของเย่เฟิงกลับไม่หยุดแค่นั้น มันพุ่งไปหาพลเงินต่อทันที
พลเงินยกมือขึ้นต้าน ก่อนจะเหวี่ยงหมัดเข้าปะทะกับหมัดของเย่เฟิง แต่กลับถูกซัดจนเซถอยหลังไปหลายก้าว
“ตาย!”
เย่เฟิงก้าวออกมาพร้อมรอบกายเปล่งประกายไปด้วยแสงดาว เพียงพริบตาก็ไปปรากฏตัวที่เบื้องหน้าพลเงิน พร้อมกับเหวี่ยงหมัดโจมตีที่อัดแน่นด้วยพลังเกินสองแสนจินอีกครั้ง ในที่สุดพลเงินก็หน้าถอดสี ทั้งยังมองเย่เฟิงด้วยสายตาหวาดกลัว เย่เฟิงอยู่แค่ขั้นยุทธ์แท้ที่ 1 เท่านั้น เขาคิดไม่ตกเลยว่าเพราะเหตุใดจึงะเิพลังออกมาได้รุนแรงถึงเพียงนี้ เย่เฟิงสู้กับเขาโดยออมมือั้แ่เริ่ม ทุกครั้งที่โจมตีจะใช้เพียงพลังกายเท่านั้น โดยกดพลังหยวนเอาไว้และก็ไม่ได้ใช้เคล็ดวิชาใด ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงกำราบพลเงินได้อยู่ดี
“เย่เฟิงผู้นี้ดูเหมือนจะแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม แข็งแกร่งจนพลเงินไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา พลเงินนั้นเป็ผู้ฝึกยุทธ์จุดสูงสุดของขั้นยุทธ์แท้ที่ 4 บัดนี้เขากลับถูกเย่เฟิงกำราบทั้งที่ยังไม่ถึงห้ากระบวนท่าด้วยซ้ำ มันช่างน่าเหลือเชื่อมาก!”
สายตาของทุกคนต่างจับจ้องการต่อสู้ครั้งนี้อย่างไม่วางตา เย่เฟิงกำราบพลเงินโดยข้ามระดับถึงสามขั้น ทำให้พวกเขาตกตะลึงเป็อย่างมาก
“ปัง!” แต่ขณะเดียวกันมีเสียงหนึ่งดังขึ้น จากนั้นผู้คนเห็นพลเงินถูกหมัดของเย่เฟิงกระหน่ำโจมตีไม่ยั้ง ทำให้เขาตื่นตระหนกใจนทำอะไรไม่ถูก ท้ายที่สุดก็หลบหนีไม่ทัน จึงถูกหมัดของเย่เฟิงชกเข้าที่หน้าอกเต็ม ๆ ส่งผลให้กระดูกบริเวณหน้าอกแตกหักไปหลายท่อน จนเขาต้องส่งเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความเ็ป ก่อนร่างจะกระเด็นออกไป
หมัดนี้ผสานด้วยอำนาจหอก วินาทีที่หมัดซัดร่างพลเงิน อำนาจหอกที่ไร้สิ้นสุดนั่นก็แทรกซึมเข้าสู่ร่างของเขา ส่งผลให้เส้นลมปราณสำคัญ ๆ ของพลเงินถูกทำลาย แม้จุดตันเถียนและจุดชี่ไห่จะยังอยู่ แต่ก็เป็ได้เพียงแค่คนไร้ค่าเท่านั้น สำหรับคนไม่รู้จักความเป็ความตายอย่างพลเงิน เย่เฟิงี้เีจะลงมือสังหารเขา ต่อไปก็ให้เขาจบชีวิตตัวเองแล้วกัน!
“แข็งแกร่งมาก!” ผู้คนเห็นเย่เฟิงเอาชนะพลเงินขั้นยุทธ์แท้ที่ 4 ได้อย่างง่ายดายต่างก็แววตาสั่นไหว จำต้องบอกว่าเย่เฟิงผู้นี้แข็งแกร่งมากจริง ๆ เส้นทางแห่งการบำเพ็ญในภายภาคหน้าจักต้องยาวไกลกว่าเว่ยฉีเทียนเป็แน่ หากถกเถียงเื่ที่ว่าคู่ควรหรือไม่นั้น เย่เฟิงเหมาะสมกับองค์หญิงซินอี๋มากกว่าเว่ยฉีเทียน แต่ตัวตนของเว่ยฉีเทียนเป็ที่รู้จักกันดี เขาคือองค์ชายแห่งอาณาจักรเว่ย ได้รับการสนับสนุนจากราชวงศ์เว่ย เย่เฟิงต่อสู้กับเขาไปก็ไร้ประโยชน์ ทั้งที่รู้ว่าผลลัพธ์จะเป็อย่างไรแต่ก็ยังลงมือทำอยู่ดี
“พวกสวะนี้กล้าพูดว่าอยากฆ่าข้างั้นหรือ? ทั้งเ้านายและลูกน้องก็เป็พวกไม้เป็โล้เป็พายเหมือน ๆ กันหมด” เย่เฟิงกล่าวเย้ยหยันโดยไม่เหลือบมองพลเงินแม้แต่นิด ผู้ฝึกยุทธ์อาณาจักรเว่ยต่างต้องะเิโทสะ เย่เฟิงพูดเช่นนี้เป็การตบหน้าราชวงศ์เว่ยชัด ๆ ช่างใจกล้าเกินไปหน่อยแล้ว
“เด็กคนนี้โอหังมาก พลทอง เ้าไปจัดการเขาแทนข้าที!” เว่ยฉีเทียนเผยหน้าเขียว เย่เฟิงแข็งแกร่งมากจริง ๆ จนเว่ยฉีเทียนทำได้เพียงยอมรับอย่างเงียบ ๆ ซึ่งเหตุผลก็เรียบง่าย นาทีนี้ทางฝั่งอาณาจักรเว่ย นอกจากพลทองแล้ว ผู้ฝึกยุทธ์ที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปีไม่มีผู้ใดที่สามารถต้านทานเย่เฟิงได้เลย
ขณะที่พลทองหลับตาอยู่นั้น เมื่อได้ยินคำพูดของเว่ยฉีเทียน เขาก็ลืมตาขึ้นมาแล้วตอบกลับไปว่า “ขอรับ!”
จากนั้นพลทองก้าวออกมา ก่อนจะไปปรากฏตัวที่เบื้องหน้าเย่เฟิง พร้อมดวงตาคู่นั้นส่องประกายแสงสีทอง แม้เย่เฟิงจะเอาชนะพลทองแดงและพลเงินได้ แต่สีหน้าของพลทองยังคงนิ่งเฉยเช่นเดิม “เ้ากล้ามากนะที่ไม่เคารพองค์ชายต้าเว่ย ทั้งยังทำร้ายสหายทั้งสองของข้าอีก ไม่ว่ายังไงวันนี้เ้าก็ต้องชดใช้ แต่คิดว่าการบำเพ็ญตบะคงไม่ใช่เื่ง่าย ๆ เช่นนั้นข้าจะไม่ฆ่าเ้า แต่เ้าจะต้องทำลายตบะด้วยตัวเองเสีย!”
น้ำเสียงของพลทองเรียบเฉย คล้ายพูดเื่ธรรมดาทั่ว ๆ ไป ราวกับว่าสิ่งที่เขาพูดจะเกิดขึ้นจริงและไม่มีผู้ใดสามารถหยุดยั้งได้
“คนอาณาจักรเว่ยดูจะบ้าบิ่นเหมือนกับเ้านะ ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา!” เย่เฟิงกล่าวพร้อมเอามือเท้าเอว โดยไม่สนใจคำพูดของพลทอง
“ตบะของพลทองอยู่ขั้นยุทธ์แท้ที่ 5 ศักยภาพน่าหวาดกลัวมาก ยากที่จะหาคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกัน ทั้งยังมากกว่าเย่เฟิงถึงสี่ขั้น เกรงว่าครั้งนี้เย่เฟิงคงจะไม่โชคดีแล้ว!” ผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งกล่าว เขาคิดว่าเย่เฟิงไม่มีทางผ่านด่านอย่างพลทองไปได้ ถึงอย่างไรตบะของทั้งสองคนก็ห่างชั้นกันมากโข แม้เย่เฟิงจะมีศักยภาพมากเพียงใด แต่ก็เป็ไปไม่ได้ที่จะเอาชนะข้ามระดับถึงสี่ขั้น ยิ่งไปกว่านั้นพลทองเป็ถึงอัจฉริยะระดับสัตว์ประหลาด แล้วจะพ่ายแพ้ให้คนอื่นได้อย่างไร?
“หากข้าไม่สามารถเอาชนะเ้าได้ภายในสามกระบวนท่า ข้ายินดีให้เ้าทำลายตบะเลย แต่ก็เป็ไปไม่ได้ที่ข้าจะพ่ายแพ้ง่าย ๆ เช่นนั้นหรอก!” ขณะที่ผู้คนคาดเดากันว่าเย่เฟิงจะตอบโต้พลทองอย่างไร จู่ ๆ เสียงก็ดังออกจากปากเย่เฟิงอย่างไม่เกรงใจ ทำให้ทุกคนในที่แห่งนั้นต่างต้องนิ่งอึ้งและไม่กล้าเชื่อหูของตัวเองในสิ่งที่ได้ยินไปเมื่อครู่นี้
“เย่เฟิงผู้นี้บอกว่า เขาจะเอาชนะพลทองผู้ซึ่งเป็หัวหน้าสี่มหาพลแห่งอาณาจักรเว่ยภายในสามกระบวนท่างั้นหรือ วาจาของเขาช่างโอหังยิ่งนัก ไม่ได้รู้เลยว่าพลทองแข็งแกร่งมากแค่ไหน รนหาที่ตายชัด ๆ!” ผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งกล่าวขณะมองเย่เฟิงด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม คนอื่น ๆ ก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย และคิดว่าเย่เฟิงนั้นมั่นใจเกินไป จนนำหายนะมาสู่ตนเอง
“สามกระบวนท่า ไอ้หนู เ้ากำลังล้อข้าเล่นงั้นหรือ? ตอนนี้เ้าคืนคำพูดไร้สมองนั่นกลับไปยังทันนะ หากเ้ายังคงดื้อรั้น เช่นนั้นสิ่งที่รอคอยเ้าอยู่ก็มีแต่ความตาย!”
ในฐานะเป็คนต้นเื่ พลทองเองก็คิดว่าเย่เฟิงพูดจาคุยโวโอ้อวดเช่นกัน ดังนั้นหลังจากกล่าวออกไปเช่นนั้น เขาก็เริ่มควบแน่นพลังเพื่อโจมตีเย่เฟิง
“ตูม!”
เย่เฟิงเหวี่ยงหมัดเข้าปะทะกับพลังโจมตีของพลทอง ตามมาด้วยเสียงดังก้องกังวาน พร้อมคลื่นทำลายล้างแพร่กระจาย เย่เฟิงนิ่งดุจภูผา แต่พลทองกลับเซถอยหลังไปสองก้าวและแขนยังสั่นระริกเล็กน้อย
“กระบวนท่าที่สอง!” เย่เฟิงกล่าว จากนั้นก้าวออกมาพร้ะโกนเสียงดังขึ้นว่า “ฝ่ามือภูผาพิฆาต”
นาทีนี้เห็นฝ่ามือภูผาพิฆาตของเย่เฟิงที่ส่งเสียงคำรามดุจคลื่นมหาสมุทร เคลื่อนตัวไปข้างหน้า พลทองยกมือขึ้นต้านทันที ทันใดนั้นพลังอันแกร่งกล้าถาโถมใส่เขา ทำให้เขาตัวสั่นสะท้านอย่างแรง จนเซถอยหลังพร้อมเผยให้เห็นใบหน้าขาวซีด
“คาดไม่ถึงว่าเ้าจะร้ายกาจเช่นนี้!” พลทองมองเย่เฟิงด้วยสายตาเหลือเชื่อ จากนั้นเขาพูดต่อไปว่า “ข้าแค่ต้องรับสามกระบวนท่าของเ้าให้ได้ ก็จะสามารถทำลายตบะของเ้าได้ ข้าก็อยากดูนักว่าเ้าจะเอาชนะข้าภายในสามกระบวนท่าได้อย่างไร?”
พลทองเผยรอยยิ้มเย็นะเื เขารับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของเย่เฟิงอย่างสุดซึ้ง แต่เขาในตอนนี้ค่อนข้างมั่นใจเลยว่าเพียงแค่รับอีกหนึ่งกระบวนท่าของเย่เฟิง ก็จะสามารถกำจัดเย่เฟิงได้แล้ว
ขณะที่กล่าวเช่นนั้น ร่างกายของพลทองก็เปล่งแสงสีทอง ราวกับมีเกราะสีทองปกคลุมร่างอยู่หนึ่งชั้น เพียงมองปราดเดียวก็รู้ว่าแล้วเกราะนี้มีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งมากเพียงใด
“งั้นเ้ารับให้ดี ๆ ละ!” เย่เฟิงไม่ได้สนใจการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับพลทองแม้แต่นิด ทันใดนั้นพลังแห่งอำนาจปะทุออกจากร่างเย่เฟิง พร้อมอำนาจหอกขั้นกายาที่ผสานด้วยพลังหยวนที่สามารถทะลวงทุกสิ่งได้
นาทีต่อมาเห็นเย่เฟิงเหยียดนิ้ว จู่ ๆ ลำแสงสีเงินที่แฝงด้วยอำนาจหอกขั้นกายาพุ่งออกจากปลายนิ้วของเขา มันทำลายกำแพงป้องกันทุกอย่าง ก่อนจะไปเยือนร่างพลทอง
“วูบ!” เสียงหนึ่งพลันดังขึ้น ลำแสงสีเงินนั่นทะลุชุดเกราะสีทองของพลทอง ก่อนทะลวงร่างเขาไป ทันใดนั้นรูเืขนาดเท่าชามปรากฏบนหน้าอกของพลทอง พร้อมกับมีเืพุ่งกระฉูดออกมาไม่หยุด
พลทองนิ่งอึ้งขณะก้มมองหน้าอกของตัวเองด้วยสายตาสิ้นหวัง
