แล้วทำไมยังดื้นด้านอยู่ได้?
เย่เฟิงมองเืที่มุมปากของคนบนพื้น แต่อีกฝ่ายก็ยังจับข้อเท้าของเขาแน่นเพื่อไม่ให้เขาก้าวไปข้างหน้า ชายหนุ่มคนนี้ยังมีเืไหลออกมา น่าเสียดายที่ติดตามผิดคน
ติดตามเป็ลูกน้องของเหยาเป่าซาน หากหลงเสียนยังไม่ตาย ตลอดชีวิตของชายหนุ่มคนนี้ก็เป็ไปไม่ได้ที่จะแก้แค้น มันจำเป็ต้องรู้ว่าแม้แต่แก๊งที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตระกูลหลง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่ารัฐบาลย่อมไม่ปล่อยให้แก๊งใหญ่ขยายตัวจนอยู่เหนือการควบคุม
เมื่ออิทธิพลของแก๊งแข็งแกร่งเกินขอบเขต ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่รัฐจะเข้ามาปราบปราม นี่คือบรรทัดฐานล่างสุดของอำนาจทางการเมือง แต่ตระกูลหลงไม่เป็เช่นนั้น ตระกูลผู้ฝึกวรยุทธ์เก่าแก่ตระกูลนี้สืบทอดความแข็งแกร่งมายาวนานกว่าการก่อตั้งประเทศนี้เสียอีก ในกรณีเช่นนี้ อำนาจทางการเมืองจึงไม่สามารถกวาดล้างตระกูลหลงได้ ทำได้เพียงอยู่ร่วมกัน
แน่นอนว่า เย่เฟิงจะไม่อธิบายเื่นี้กับชายหนุ่มคนนี้ เพราะมันเสียเวลาเกินไป จุดประสงค์ของเย่เฟิงคือการไปเจอหัวหน้าแก๊งใหม่ เพื่อดูว่าอีกฝ่าย้าทำอะไร ส่วนเื่อื่นๆ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขา
เย่เฟิงกระตุ้นพลังชี่ไปที่ขา จากนั้นสะบัดการเกาะกุมของชายหนุ่มรูปร่างกำยำแล้วดึงเซียวเยว่ให้เดินตามไปด้วย ก่อนใช้เท้าถีบประตูห้องส่วนตัวสุดหรู
ขณะนั้นเองเหล่าลูกน้องแก๊งใหม่ต่างรีบเข้ามา เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มทั้งสองคนถูกเตะจนกระอักเืก็ใ นอกจากนี้ยังเห็นเย่เฟิงพาเซียวเยว่ก้าวเข้าไปในห้องส่วนตัวสุดหรู
คนกลุ่มหนึ่งรีบวิ่งไปล้อมรอบห้องเอาไว้ พวกเขาทุกคนรู้ดีว่าลูกพี่กำลังกินอาหารกับเ้าหน้าที่รัฐในห้องส่วนตัว หากมีคนบุกเข้าไปแบบนี้ล่ะก็จะต้องเกิดเื่ใหญ่แน่นอน!
น่าเสียดายที่กลุ่มพวกเขาไม่อาจขวางไว้ได้ทันเวลา เมื่อพวกเขามาถึงและล้อมรอบห้องส่วนตัวก็พบว่าชายหนุ่มเสื้อเชิ้ตดำได้บุกเข้าไปในห้องส่วนตัวและยืนอยู่ข้างๆ ลูกพี่ใหญ่เป่าซานแล้ว
“ได้ยินมาว่าแกอยากเจอฉัน พูดมาสิว่ามีอะไร?”
เย่เฟิงพาเซียวเยว่เข้าไปในห้องนี้ด้วย โดยไม่สนใจกลุ่มเ้าหน้าที่รัฐระดับสูงที่กำลังมองอย่างตกตะลึง เขาตรงดิ่งไปหาเหยาเป่าซานที่อยู่ใกล้ประตู แล้วถามเสียงเบา
มีคนสองคนที่พุ่งเข้ามากะทันหันจนทำให้ทุกคนบนโต๊ะต่างตกตะลึง พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าขณะสังสรรค์เฮฮากันอยู่ดีๆ จะมีคนบุกเข้ามาสร้างปัญหา พวกนั้นไม่รู้เลยหรือไงว่าที่นี่คือสถานที่อะไร?
ไม่แยแสแม้กระทั่งเหยาเป่าซานแห่งแก๊งใหม่ ทุกคนบนโต๊ะเป็เ้าหน้าที่รัฐแห่งเมืองเยี่ยนจิงสามารถพูดได้เลยว่า การเข้ามาอย่างผลีผลามเช่นนี้ ถ้าเป็คนธรรมดาจะต้องตายอย่างแน่นอน!
แต่น่าเสียดายที่เย่เฟิงไม่ใช่คนธรรมดา
“แกเป็ใคร?”
เมื่อเหยาเป่าซานเงยหน้ามองแล้วพบว่าเป็เย่เฟิง ทันใดนั้นก็เกิดแววตาสับสนในทันที เด็กหนุ่มคนนี้บุกเข้าห้องส่วนตัวด้วยตัวเองได้อย่างไรกัน? เขาให้พวกลูกน้องจับตาดูอีกฝ่ายไว้ดีๆ แล้ว— ช่างเป็กลุ่มคนไร้ประโยชน์เสียจริง แค่คนคนเดียวกลับหยุดไว้ไม่ได้!
เหยาเป่าซานขบคิดในใจ ลูกน้องบางคนที่ดึงเข้าแก๊งใหม่ทำให้เขาไม่พอใจมาก จัดการเื่ได้อืดอาดยืดยาด ยิ่งตอนนี้แม้กระทั่งคนเดียวก็ยังขวางไว้ไม่ได้เลย
เมื่อเขาได้ยินคำถามของเย่เฟิงก็ไม่ในักและไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย เขาในตอนนี้เป็หัวหน้าแก๊งใหม่ มีลูกน้องเป็ร้อยๆ เพียงเรียกคำเดียว เหล่าลูกน้องร้อยคนก็มาแล้ว เ้าเด็กคนนี้กล้าบุกมาถึงที่นี่เท่ากับรนหาที่ตายชัดๆ!
เหยาเป่าซานมาที่เมืองเยี่ยนจิง ่เวลาหลายวันนี้เขาใช้ความพยายามอย่างหนักและในที่สุดก็ได้ผลลัพธ์ที่ดี ทว่าในใจของเขามักนึกถึงเื่อัปยศทีู่เาฉางไป๋อยู่เสมอ ดังนั้นจึงส่งคนออกไปตามหาเย่เฟิงทั่วทุกแห่งโดยอาศัยรูปถ่ายที่มีคนแอบถ่ายไว้ทีู่เาฉางไป๋ ในที่สุดก็ได้พบอีกฝ่ายเสียที เขา้าทวงคืนความอัปยศที่ตนได้รับกลับคืนไป
เมื่อนึกถึงวันนั้นที่ถูกเย่เฟิงหิ้วด้วยมือข้างเดียว ความรู้สึกที่ว่าชีวิตตัวเองถูกคนอื่นควบคุมจนไม่สามารถทำอะไรได้ ทำให้เหยาเป่าซานหวาดกลัวอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้เขามีความสามารถแล้ว และ้าแก้แค้นจนแทบทนรอไม่ไหว
“ในเมื่อแกเข้าประตูมาเอง แกก็คงมาหาฉันสินะ” แววตาภายใต้แว่นไร้กรอบของเหยาเป่าซานราวกับเฒ่าจิ้งจอกเ้าเล่ห์ที่ทอประกายเย็นเยียบ เขาโบกมือ “พูดดีๆ กันไม่ได้ก็ต้องใช้กำลังบังคับ พวกแกไปจับมันมาให้ฉัน!”
เขาเห็นว่าลูกน้องแก๊งใหม่จำนวนมากรวมตัวกันนอกประตูห้องจึงไม่กลัวเย่เฟิงแม้แต่น้อย
ก่อนที่สมาชิกในแก๊งจะได้เคลื่อนไหว เย่เฟิงก็ชิงจัดการก่อน เขาคว้าแขนอ้วนๆ ของเหยาเป่าซานแล้วหิ้วร่างอ้วนเหมือนหมูขึ้นมา ในเมื่ออีกฝ่ายมีเจตนาร้าย เย่เฟิงก็ไม่จำเป็ต้องสุภาพด้วยแล้ว
“ใครกล้าขยับล่ะก็ ฉันจะหักคอเ้าหมูอ้วนนี่ซะ”
เย่เฟิงเอ่ยเสียงเบา แม้จะเป็คำขู่ แต่น้ำเสียงไม่เหมือนขู่เลยสักนิด เพราะความจริงเขาไม่แยแสพวกคนข้างนอกเลยสักนิด
เขารู้สึกได้ว่าผู้คนที่ล้อมรอบอยู่ด้านนอกมีปืนพกมาด้วย แต่ตอนนี้มีเ้าหน้ารัฐอยู่ในห้องนี้หลายคน พวกเขาจะกล้าใช้ปืนในสถานที่เช่นนี้ได้อย่างไร?
เ้าหมูอ้วน!
คำพูดดูถูกนี้ทำให้เหยาเป่าซานโกรธขึ้นมาทันที มารดามันเถอะ เขาอ้วนขนาดนั้นเลยหรือไง? อย่างมากสุดก็แค่ร้อยกิโลกรัมเท่านั้นเอง!
ที่สำคัญที่สุดคือเขาถูกเย่เฟิงหิ้วด้วยมือข้างเดียวอีกครั้งจนทำให้เขาแทบบ้า ครั้งก่อนก็รู้สึกอับอายมากพอแล้วจนต้องร่อนเร่มาเมืองเยี่ยนจิง ครั้งนี้เขาเป็ถึงหัวหน้าแก๊งใหม่ ทว่าก็ยังอยู่ในเงื้อมมือเย่เฟิงเช่นนี้ ช่างอัปยศเสียยิ่งกว่าเดิม
แน่นอนว่าเขาสามารถกลายเป็หัวหน้าแก๊งใหม่ อีกทั้งแก๊งนี้ยังเติบโตอย่างรวดเร็ว ความสามารถของเหยาเป่าซานถือว่ายอดเยี่ยมมาก
เขาไม่ได้กรีดร้องเหมือนหมูตัวอ้วนกำลังถูกเชือด แต่เริ่มเอ่ยอย่างใจเย็น เพราะ้าเจรจากับเย่เฟิง “นี่น้องชาย นายพุ่งเข้ามาแบบนี้ มันไม่ค่อยมีมารยาทเลยนะ”
“เฮ้ แล้วที่แกจับฉันแล้วยังให้ฉันรอแกข้างนอก แบบนี้มันมีมารยาทมากหรือไง?”
เย่เฟิงเอ่ยเสียงเบาพร้อมรอยยิ้ม ขณะโยนเหยาเป่าซานลงพื้นแล้วเหยียบอกอีกฝ่ายด้วยเท้าข้างเดียว วินาทีนั้นราวกับว่าศักดิ์ศรีเกือบทั้งหมดของแก๊งใหม่ถูกเหยียบย่ำอยู่ใต้เท้า
เ้าหน้าที่รัฐเบื้องหน้าทุกคนมากินดื่มเพื่อรับผลประโยชน์บางอย่างที่เหยาเป่าซานจะมอบให้ เมื่อเจอเื่แบบนี้แล้วย่อมเป็ไปไม่ได้ที่จะออกหน้าขวาง ทุกคนต่างหวาดกลัวที่จะถูกผลกระทบไปตามๆ กัน จึงหลบซ่อนและมองเย่เฟิงแสดงอำนาจจากที่ไกลๆ
“หยุดนะ!”
ทันใดนั้นเสียงจากข้างนอกก็ดังลอดเข้ามา พร้อมกับผู้คนรอบๆ เปิดทางให้เด็กใหม่ของแก๊งซึ่งถือปืนพลางจดจ้องเย่เฟิงด้วยสายตามาดร้าย ราวกับว่าหากเย่เฟิงขยับแม้แต่นิดเดียวก็จะยิงเขาทันที
แต่การกระทำต่อมาของเย่เฟิงก็ทำให้ทุกคนตกตะลึง เมื่อเขาถูกปืนจ่อก็ค่อยๆ หยิบปืนที่รูปร่างคล้ายปืนกลจากด้านหลัง ปากกระบอกปืนเป็สีฟ้าอ่อน มองดูก็รู้ว่าแม่นยำกว่าปืนในตลาดทั่วไปเป็ร้อยเท่า
ปืนลำแสงสีฟ้าของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ!
นี่เป็ของที่เย่เฟิงได้มาจากทะเลตะวันออกครั้งที่แล้วและเก็บมันในแหวนมิติมาตลอด จนถึงตอนนี้เขาก็ได้นำมันมาใช้ประโยชน์ในที่สุด
ปลายกระบอกปืนสีฟ้าอ่อนเล็งไปยังหน้าประตูทางเข้าห้องส่วนตัว เย่เฟิงขึ้นไกดัง ‘คลิก’ เพื่อปรับะุเป็โหมดทำลายล้าง เมื่อเขายิงออกไป กำแพงทั้งหมดตรงนั้นก็จะะเิเป็รูกว้าง!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้