ก่อนหน้านี้ตอนที่เสิ่นเสวียนติดตั้งค่ายกลเพื่อเก็บหุ่นเชิดเอาไว้ เขาเคยให้เริ่นเสี้ยวเทียนไปตามหาทางออก ตอนนี้เมื่อได้เห็นรอยแยกมิตินั้น ทำให้เริ่นเสี้ยวเทียนคิดไปถึงร่องรอยบางอย่างที่ตนเองเจอมาก่อนหน้านี้ จึงเหาะไปที่นั่นทันทีพร้อมกับเสิ่นเสวียน
ในตอนนี้ไม่มีใครกล่าวถึงท่าทีของอีกฝ่ายเมื่อครู่นี้เลย เหมือนว่าต่างยอมรับในความแข็งแกร่งของกันและกัน
ขณะที่อยู่ห่างจากูเาหินเฮยเย่าไปประมาณหนึ่งลี้กับอีกครึ่งหนึ่ง ทั้งสองคนได้หยุดนิ่งลง
“ที่นี่แหละ ก่อนหน้านี้ข้าสังเกตเห็นถึงความผิดปกติบางอย่าง”
เริ่นเสี้ยวเทียนมองบ่อน้ำหนาวตรงหน้าพลางกล่าว
เบื้องหน้าพวกเขามีบ่อน้ำหนาวเล็กๆ ขนาดประมาณหนึ่งจั้งกว่าๆ บนผิวน้ำมีไอเย็นปกคลุมอยู่แต่น้ำในบ่อกลับไม่ได้เป็น้ำแข็ง มันดูไม่ต่างจากบ่อน้ำหนาวธรรมดาๆ เท่าไรนัก แต่ถ้าหากสังเกตอย่างละเอียดแล้วจะเห็นได้ว่าภายในบ่อมีพลังมิติผสมผสานอยู่
แม้จะเบาบางมาก แต่ทั้งสองคนก็ััได้ไม่ยากนัก
“เป็อย่างนี้นี่เอง”
เสิ่นเสวียนพยักหน้าพลางกล่าว
“ด้วยนิสัยของเขาแล้ว ในเมื่อกล้าเหลือทางออกไว้จะต้องมีทางเข้าเช่นกัน หากข้าเดาไม่ผิดบ่อน้ำหนาวนี้ไม่ได้นำไปสู่ตระกูลเหลยในเมืองเสียเยว่อย่างแน่นอน”
เสิ่นเสวียนนั่งยองๆ ลงไป ใช้มือััผิวน้ำเบาๆ ความหนาวะเืเสียดแทงเข้าไปถึงกระดูก ข้างๆ กันมีสายธารเล็กๆ สายหนึ่ง เป็ไปไม่ได้เลยที่จะมีต้นน้ำเกิดขึ้นใกล้ๆ นี้ สิ่งนี้อธิบายได้เพียงแค่อีกฝ่ายฉลาดอย่างผิดๆ ตั้งใจวางแผนให้เป็เช่นนี้
เหลยป้าเทียนมีค่ายกลที่สามารถนำไปสู่ตระกูลเหลยได้ แต่เขาไม่กล้าออกไป เพราะเขารู้ว่าพวกเสิ่นเสวียนต้องไล่ตามไปอย่างแน่นอน เพื่อหลีกเลี่ยงสองคนนี้มีเพียงต้องไปที่อื่นเท่านั้น
“แล้วพวกเราจะตามไปไหม”
เริ่นเสี้ยวเทียนถามเสิ่นเสวียนอย่างไม่แน่ใจ อันที่จริงอีกฝ่ายได้หนีไปแล้ว ไม่มีความจำเป็ต้องไล่ตามอีก เพราะเหลยป้าเทียนเพียงคนเดียวส่งผลกระทบต่อพวกเขาไม่มากนัก ก่อนหน้านี้พวกเขาแฝงกายเข้ามาที่นี่ก็เพื่อูเาหินเฮยเย่า ไม่มีอะไรสำคัญยิ่งกว่านี้แล้ว
“เ้าอยากฆ่าเขาหรือไม่” เสิ่นเสวียนถามเริ่นเสี้ยวเทียนยิ้มๆ
“เหตุใดถึงถามเช่นนี้”
“เพราะข้าอยากฆ่าเขา” เสิ่นเสวียนยิ้มออกมา สำหรับเขาแล้วไม่ง่ายเลยที่จะมีจิตสังหารต่อใครสักคนหนึ่ง แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วเขาไม่มีทางรามือง่ายๆ แม้จะต้องไล่ล่าไปจนสุดหล้าฟ้าเขียวก็ต้องสังหารให้ได้
นี่คือวิถีของเขา
สังหารคือความคิดของเขา หากไม่อาจบรรลุได้แล้วจะเลื่อนขั้นได้อย่างไร
“ข้าก็อยาก แต่คิดถึงข้อดีข้อเสียแล้วมันไม่จำเป็เลย” เริ่นเสี้ยวเทียนพยักหน้า เริ่นเสี้ยวเทียนเป็คนค่อนข้างมีเหตุผล ยังไม่ต้องกล่าวถึงเื่เสียเวลาเลย อาจจะต้องเสียของล้ำค่าอย่างูเาหินเฮยเย่าลูกนี้ไปด้วยก็ได้ ซึ่งไม่คุ้มกันเลย
“สังหารก็พอแล้ว ข้าทำสัญลักษณ์ที่นี่เอาไว้แล้ว หลังจากนี้ค่อยกลับมาเอา ตามข้าลงไปด้วยกันเถอะ!”
จากนั้นเสิ่นเสวียนก็ะโลงไปในบ่อน้ำหนาวทันที ทำให้เกิดคลื่นกระเพื่อมขึ้นเป็วงกว้าง
“ดูเหมือนตามเ้าไปคงจะไม่ผิด”
เริ่นเสี้ยวเทียนพยักหน้าพลางยิ้ม จากนั้นเขาก็ะโตามเสิ่นเสวียนลงไป
เหลยป้าเทียนคือเป้าหมายที่เสิ่นเสวียน้าสังหารั้แ่มาถึงเมืองเสียเยว่แล้ว ตอนที่ััได้ถึงหินเฮยเย่าเขาก็คิดวางแผนไว้แล้วว่าจะตามหาหินเฮยเย่าผ่านเหลยป้าเทียน ซึ่งในตอนนั้นเขายังไม่คิดจะสังหารใคร
ตอนที่จิตสังหารก่อกำเนิดขึ้นคือตอนที่เขาช่วยอีกฝ่ายแต่กลับได้รับการตอบแทนอย่างชั่วช้า ยังดีที่เขาสร้างหุ่นเชิดได้สำเร็จ หากทำไม่สำเร็จคนที่ต้องหนีคงกลายเป็เขา
ภายในบ่อน้ำหนาว เสิ่นเสวียนและเริ่นเสี้ยวเทียนดำลึกลงไปเรื่อยๆ ยิ่งลึกมากเท่าไรพลังมิติยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น ในที่สุดตอนที่ดำลึกลงไปราวๆ สิบจั้ง ค่ายกลที่มีแสงสีขาวเปล่งประกายพลันปรากฏขึ้น ดูคล้ายภาพมายาภายในบ่อน้ำหนาวที่เยียบเย็นแห่งนี้
เพียงไม่นานทั้งสองก็ไปถึงตรงหน้าค่ายกล ต่างคนต่างยิ้มให้อีกฝ่ายแล้วเข้าไปในค่ายกลพร้อมกัน
เบื้องหน้าของเขามีม่านแสงหมุนวน เมื่อมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนอีกครั้ง ภาพเบื้องหน้าได้เปลี่ยนไปแล้ว
ที่นี่เต็มไปด้วยต้นไม้เรียงราย แต่ละต้นมีขนาดใหญ่ถึงเจ็ดแปดคนโอบ พวกมันสูงหลายสิบจั้งบดบังท้องฟ้าไปหมด ต้นหญ้าแต่ละต้นสูงกว่าหนึ่งจั้ง เมื่อยืนอยู่ในนั้นเหมือนกลายเป็คนตัวเล็กไปทันที
“หุบเขาสุขาวดี”
เริ่นเสี้ยวเทียนมองไปรอบๆ ก่อนจะกล่าว
“แม้หุบเขาสุขาวดีจะไม่ได้ไกลจากเมืองเสียเยว่ แต่ก็ไม่ใกล้เช่นกัน ห่างไปอย่างน้อยสามพันลี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเหลยป้าเทียนจะทำเส้นทางเชื่อมต่อที่นี่เอาไว้ด้วย มากฝีมือยิ่งนัก!”
เริ่นเสี้ยวเทียนพยักหน้าพลางถอนหายใจ เดิมทีเขาคิดว่าจะไปยังสถาบันิญญาได้เร็วกว่านี้ ตอนนี้เกรงว่าต้องใช้เวลาอีกสักพัก
เทียบกับเริ่นเสี้ยวเทียนแล้ว เสิ่นเสวียนรู้สึกดีใจมากกว่า สำหรับเขาแล้วไม่ว่าที่ไหนก็หาประสบการณ์ได้ทั้งนั้น ยิ่งไปกว่านั้นหุบเขาสุขาวดียังเป็สถานที่ที่เขารอคอยมาั้แ่แรก วันนี้ได้มาเยือนแล้วจะต้องเที่ยวดูให้ทั่วอย่างแน่นอน
“พวกเราคลาดกับเหลยป้าเทียนเสียแล้ว ทีนี้จะตามหาอย่างไร” เริ่นเสี้ยวเทียนถามเสิ่นเสวียน
“ไม่รู้เหมือนกัน ลองหาดูแถวนี้ก่อน ไม่แน่ว่าอาจเจออะไรก็ได้ พวกเ้าสองคนก็ออกมาด้วยแล้วกัน”
เสิ่นเสวียนกล่าวจบ พลันมีคลื่นพลังมิติสั่นไหวที่เบื้องหน้า แล้วเสิ่นเลี่ยนกับเสิ่นเสี่ยวเม่ยก็ปรากฏตัวขึ้น
“ท่านพี่”
“ท่านผู้นำ”
เสิ่นเสี่ยวเม่ยและเสิ่นเลี่ยนปรากฏตัวขึ้นก็เรียกเสิ่นเสวียนด้วยความดีใจ
“พวกเราออกจากเส้นทางก่อนหน้ามาแล้ว ที่นี่คือหุบเขาสุขาวดี แต่ยังไม่อาจฝึกตนอย่างสบายใจได้”
“อื้ม” ทั้งสองคนตอบรับพร้อมกับพยักหน้า
“ดี พวกเราออกเดินทางกันเถอะ”
จากนั้นพวกของเสิ่นเสวียนก็ออกเดินทางกันอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้เปลี่ยนสถานที่เป็หุบเขาสุขาวดี
ที่นี่ไม่มีข้อจำกัดทางศีลธรรม ไม่มีข้อกำหนดกฎหมาย ที่นี่คืออาณาเขตที่ถูกทอดทิ้ง เป็ดินแดนของคนชั่วที่โเี้ การมาถึงของพวกเสิ่นเสวียนอาจทำให้เกิดพายุโหมกระหน่ำขึ้นที่นี่ก็เป็ได้
เมื่อเดินเข้ามายังหุบเขาสุขาวดี เสิ่นเสวียนมีความรู้สึกเหมือนเข้าไปยังโลกแห่งการบำเพ็ญเพียร ที่จริงแล้วโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรไม่ได้เป็เช่นนี้หรอกหรือ ตอนนั้นเขาต้องใช้ความโเี้เอาชีวิตรอดในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียร ไล่ตามหาตัวตน ไม่เป็ที่ยอมรับจากทั้งคนและิญญาในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรเป็เวลานาน และถูกเรียกว่าจอมมารเฒ่า
ความจริงแล้วเสิ่นเสวียนเหมือนไม่ได้ค้นหาอะไรเลย เดินนำหน้าคนอื่นไปเรื่อยๆ แต่นั่นเป็เพียงสิ่งที่เขาแสดงออกมาให้เห็นเท่านั้น
เขากำลังรอ รอให้เสี่ยวเหยียนปรากฏตัวขึ้น
ก่อนที่จะออกจากเมืองอวี่ฮว่ามา เสิ่นเสวียนต่อสู้จนได้รับาเ็ ทำให้ผนึกบนผังเมืองซานเหอคลายออกเล็กน้อย ร่างของเสี่ยวเหยียนสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในผังเมืองซานเหอพอดี เขาจึงให้เสี่ยวเหยียนแอบอยู่ในนั้น ดูว่ามันจะทำลายผนึกออกมาได้หรือเปล่า เมื่อใดที่ผนึกคลายออก เมื่อนั้นพลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกมาก
่นี้เขาััได้ว่าเสี่ยวเหยียนกำลังจะออกมาได้แล้ว ถึงตอนนั้นด้วยไหวพริบของเสี่ยวเหยียนแล้ว การตามหาเหลยป้าเทียนคงไม่ใช่เื่ยาก
ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาต้องทำเป็อันดับแรกคือพยายามปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของหุบเขาสุขาวดีโดยเร็วที่สุด
“ดูไม่ออกเลยจริงๆ ที่แท้เ้าก็แอบซ่อนไว้ได้ล้ำลึกเช่นนี้!”
ระหว่างที่เดินไป เสิ่นเสี่ยวเม่ยกล่าวกับเริ่นเสี้ยวเทียนด้วยความประหลาดใจ
“ความจริงแล้วข้าไม่ได้ตั้งใจจะแอบซ่อนหรอก ข้าเห็นพวกเ้ามีพร์สูงส่ง อยากผูกมิตรกับพวกเ้า แต่ถ้าแสดงความแข็งแกร่งมากเกินไปคงยากที่จะเข้าร่วมกับพวกเ้าได้ หวังว่าเ้าจะเข้าใจ” เริ่นเสี้ยวเทียนกล่าวพลางก้มหน้า
“ยิ่งไปกว่านั้น พลังของสหายเสิ่นก็แอบซ่อนไว้อย่างมิดชิดเช่นกัน เ้าสามารถรับมือเหลยป้าเทียนได้หลายครั้ง แสดงว่าต้องมีพลังอย่างน้อยขั้นราชันใช่ไหม!”
เริ่นเสี้ยวเทียนหันมองเสิ่นเสวียนพลางกล่าว เขาไม่ได้อยากรู้ลึกเกี่ยวกับพลังของเสิ่นเสวียน แต่ก็พอคุยกันได้
“ข้าเอาชนะเขาไม่ได้หรอก เป็เพราะหุ่นเชิดของข้าที่ช่วยไว้ทั้งนั้น”
เสิ่นเสวียนยิ้มพลางกล่าว หุ่นเชิดทั้งสองคนยังฟื้นฟูพลังอยู่ในมิติอยู่เลย
“ใช่แล้ว หุ่นเชิดของเ้าคนหนึ่งคือคนจากเผ่าอนธการใช่ไหม”
เริ่นเสี้ยวเทียนมองเสิ่นเสวียนแล้วถามลองเชิง
“ใช่แล้ว”
เสิ่นเสวียนไม่ได้ปิดบังอะไร อีกฝ่ายกล้าถามออกมาแสดงว่ารู้อยู่แล้ว
“สหายเสิ่นยอดเยี่ยมยิ่งนัก แต่ข้าขอเตือนสหายเสิ่นสักหน่อย เผ่าอนธการนั้นมิอาจล่วงเกินได้เลย”
“ข้ารู้แล้ว ดังนั้นคนที่เห็นเขาต้องตายทุกคน สหายเริ่นคงจะไม่เปิดเผยออกไปใช่ไหม”
เสิ่นเสวียนยิ้มมุมปากแล้วกล่าวกับอีกฝ่าย