หลิวเย่ว์หลีพยักหน้าด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย นางมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับนางด้วยแววตาเป็มิตรไม่น้อย
หลิวเย่ว์หลีรู้ทันแผนการของหยางเส้าเฉิน เขาตั้งใจหลอกเสี่ยวหงให้เข้ามาติดกับดักหวังจะกักขังนางไว้ให้นางเสื่อมเสียเกียรติจนต้องตกเป็ของเขา เพื่อจะได้สตรีที่ชอบเขาถึงกับคิดแผนการเลวร้ายนี่ออกมาได้
ตอนแรกนางเองรู้สึกลังเลไม่น้อยที่ต้องทำเช่นนี้ นางคิดมาตลอดว่าเสี่ยวหงคงจะไม่ต่างอะไรกับนางสนมเ่าั้ที่หวังเอาตัวเข้าแลกเพื่ออำนาจในมือ สุดท้ายก็หาทางมาข่มนางกดนางให้จมดิน
แต่วันนี้นางได้เห็นกับตาตนเองแล้วว่าเสี่ยวหงไม่เหมือนกับสตรีเ่าั้ และที่สำคัญนางมีใจให้อวิ๋นหลัวซีสหายสนิทของหยางเส้าเฉิน
นางรู้สึกดีไม่น้อยที่ได้ช่วยเหลือเสี่ยวหงในครั้งนี้
ตอนนี้หยางเส้าเฉินคงตามหาเสี่ยวหงจนแทบคลั่งเป็แน่ ด้วยนิสัยของเขาไม่มีทางยอมให้เสี่ยวหงตกไปเป็ของชายอื่นแม้แต่อวิ๋นหลัวซี
"เหตุใดเ้าถึงต้องหนีองค์รัชทายาทด้วยเล่า สตรีในแผ่นดินนี้มีแต่้าใกล้ชิดกับพระองค์ทั้งนั้น"
หลิวเย่ว์หลีแกล้งโยนหินถามทางลองใจเสี่ยวหง เสี่ยวหงที่ได้ยินเช่นนั้นก็เบ้ปากเล็กน้อยอย่างดูแคลน
"เว้นข้าไว้สักคนเถิดเ้าค่ะ"
"เพราะเหตุใดเล่า เ้าไม่อยากได้อำนาจเช่นนั้นหรือ?"
"ข้าอยากได้อิสระมากกว่าอำนาจเ้าค่ะ ข้าอยากทำในสิ่งที่ข้าชอบ มีสิทธิ์เลือกในสิ่งที่ข้า้า อีกอย่างข้ามีชายในดวงใจอยู่แล้ว"
หลิวเย่ว์หลีเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ่ชีวิตของนางอยู่ในกฎระเบียบมาโดยตลอด เมื่อได้พบเสี่ยวหงวันนี้ทำให้นางต้องมองย้อนดูตัวเองใหม่อีกครั้ง
ความสดใสเช่นนี้ของนางมันหายไปั้แ่ตอนไหนกัน? มันเริ่มหายไปั้แ่นางได้พบเจอกับหยางเส้าเฉินใช่หรือไม่?
"อะ พวกนั้นไปกันหมดแล้ว พี่เย่ว์หลีรีบพาข้าออกไปจากที่นี่เร็วเข้า"
เสียงเรียกของเสี่ยวหงปลุกหลิวเย่ว์หลีให้ตื่นจากความคิด นางพยักหน้าก่อนจะค่อยๆ เปิดประตูมองซ้ายมองขวา แล้วพาเสี่ยวหงเดินมาจนถึงทางออกของวังหลวง
"ข้ามาส่งเ้าได้เพียงเท่านี้ ข้ามีงานต้องไปทำต่อ เ้ารีบไปเถิดเร็วเข้า"
"เ้าค่ะ ขอบคุณท่านมากเ้าค่ะ"
เสี่ยวหงรีบเดินตรงไปหาอิ๋งเอ๋อร์ที่ยืนรออย่างกระวนกระวายใจที่หน้าประตู เมื่อเห็นเสี่ยวหงเดินออกมานางก็รีบวิ่งเข้ามาหานางทันที
"คุณหนูเป็อย่างไรบ้างเ้าคะ งานชมดอกเหมยสนุกหรือไม่"
สนุกกับผีน่ะสิ!!!
เสี่ยวหงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก โชคดีที่นางเจอพี่สาวใจดีผู้นั้น ไม่เช่นนั้นป่านนี้นางคงต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากจะคาดเดานั่นแล้ว ชื่อเสียงของนางคงจะพังพินาศในวังหลวงแห่งนี้เป็แน่
"เรากลับกันเถอะข้าเหนื่อยแล้ว"
"เสี่ยวหง!!!"
เสี่ยวหงที่กำลังจะก้าวเท้าขึ้นรถม้าหันไปมองเสียงเรียกที่คุ้นเคย ก่อนจะหันไปเห็นหยางซูจวิ้นที่เร่งรีบเดินเข้ามาหานาง พร้อมทหารองครักษ์หลายนาย ด้านหลังของเขาสะพายกระบอกธนูเอาไว้ เขาโบกมือไล่ทหารองครักษ์ให้ถอยออกไปก่อนหันไปมองเสี่ยวหงอีกครั้ง
"เ้ามาทำอันใดที่วังหลวง?"
เสี่ยวหงทำหน้าเซ็งเล็กน้อยก่อนจะดึงชายเสื้อของหยางซูจวิ้นเข้ามาใกล้ๆ และเล่าเื่ที่นางพบเจอเมื่อครู่ให้เขาฟัง อย่างไรก็เป็สหายกันแล้ว นางเองก็เชื่อว่าหยางซูจวิ้นยังมีส่วนดีมากกว่าพี่ชายของเขาหลายเท่านัก
หยางซูจวิ้นมีสีหน้าที่เข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ท่านพี่ของเขาพระองค์นี้ถูกเสด็จแม่เลี้ยงดูตามใจจนเสียนิสัยไปแล้ว อยากได้สิ่งใดก็ต้องได้ แต่เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเสี่ยวหงจะถูกใจท่านพี่จนถึงขั้นสร้างเื่หลอกนางเข้าวังมาเช่นนั้น
งานชมดอกเหมยบานบ้าบออะไรกัน งานหาสนมใหม่มาเพิ่มสิไม่ว่า!!!
"เ้ารู้จักกับท่านพี่ของข้าได้อย่างไร?"
"ท่านพี่ของเ้ามาขวางทางข้ากลับจวนวันที่มีเทศกาลแข่งว่าวน่ะสิ"
"เช่นนั้นหรือ? ต่อไปเ้าคงลำบากไม่น้อย"
"พี่ชายเ้านี่หื่นกามนิสัยเสียที่สุด อุ๊บ!!!"
หยางซูจวิ้นรีบยัดซาลาเปาไส้เนื้อที่เขาถือติดมือมาด้วยใส่เข้าไปในปากเสี่ยวหงทันที นางมองเขาด้วยแววตาหงุดหงิด หยางซูจวิ้นที่เห็นเช่นนั้นก็ก้มลงกระซิบที่ข้างหูนาง
"อย่าพูดจาเหลวไหล หากใครมาได้ยินเข้าเ้าจะเดือดร้อน กลืนเข้าไปนั่นแหละดีมาก!!!"
เสี่ยวหงแทบอยากจะยกมือขึ้นไปตบกระบาลของเขายิ่งนัก ยัดมาได้อย่างไรซาลาเปาทั้งลูก แต่จะว่าไปมันก็รสชาติดีไม่น้อย วันหลังนางจะจำรสชาติมันไปลองทำกินเองที่จวนบ้างแล้ว
"เ้าถูกรังแกตรงไหนรึไม่?"
"ไม่ ข้าปลอดภัยดี ว่าแต่เ้าจะไปที่ไหนถึงขนทหารไปเยอะแยะเช่นนี้?"
เสี่ยวหงที่กลืนซาลาเปาลงไปจนหมดปากแล้วหันไปยกชาที่อิ๋งเอ๋อร์ส่งมาให้ดื่มรวดเดียวหมด ก่อนจะหันไปถามหยางซูจวิ้นด้วยแววตาสงสัย
"ข้าจะไปล่าสัตว์ในหุบเขาแถวนี้เสียหน่อย เสด็จพ่อลงโทษข้าไม่ให้ข้าออกไปเที่ยวที่หอเซียหวาอีก ข้าเลยถูกท่านพ่อส่งให้ไปล่าสัตว์ หากวิชาธนูของข้าไม่ก้าวหน้าเสด็จพ่อคงกักบริเวณข้าไปชั่วชีวิต"
หยางซูจวิ้นเบ้ปากคอตกอย่างคนสิ้นหวัง ชีวิตเขาชื่นชอบการพนัน สุรา นารีที่สุด เขาไม่ชอบจับดาบยิงธนูพวกนี้เลยด้วยซ้ำ
เสี่ยวหงที่ได้ยินเช่นนั้นแววตานางก็เป็ประกายขึ้นมาทันที
"ข้าไปด้วยสิ"
"เ้าจะไปทำไมกัน เ้ายิงธนูเป็หรือ?"
"อย่าว่าแต่ยิงธนูเลย ดาบเพียงเล่มเดียวข้าก็ปลิดชีวิตสัตว์มากองตรงหน้าเ้าได้"
"จริงหรือ?"
"ข้าจะหลอกเ้าทำไมกัน"
"เช่นนั้นหากข้าพาเ้าไปด้วย คราวหลังเ้าต้องสอนข้าให้เก่งเช่นเ้า หากเ้าทำไม่ได้ละก็ เตรียมตัวไปหอเซียหวาเป็ธิดานำโชคของข้าได้เลย"
"โอเคร"
"โอ โออันใด?"
"รีบๆ ไปสิ นำทางข้าไปเร็วเข้า อย่าพูดมาก สมองเ้าคิดเป็แต่เื่การพนันหรืออย่างไรกันนะ!"
รถม้าของเสี่ยวหงตามขบวนล่าสัตว์ของหยางซูจวิ้นไปเรื่อยๆ จนรถม้าหยุดลง นางแหวกผ้าม่านออกก่อนจะก้าวลงจากรถม้าและมองไปโดยรอบ
บรรยากาศดีเงียบสงบท่ามกลางหุบเขาแห่งธรรมชาติ
"ไปกันเถอะเสี่ยวหง"
เสี่ยวหงพยักหน้าก่อนจะเดินตามหยางซูจวิ้นเข้าไปในหุบเขา ชุดของนางตอนนี้ค่อนข้างลำบากในการเคลื่อนไหวแต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เท่าใดนัก
บรรยากาศโดยรอบเริ่มปกคลุมไปด้วยผืนป่า เงียบสงบ อากาศค่อนข้างเย็นลงไม่น้อย
"ข้าคิดว่าเ้าจะไม่มาเสียแล้วซูจวิ้น"
"ถวายบังคมท่านอาพ่ะย่ะค่ะ ขออภัยที่ข้ามาช้า"
เสี่ยวหงที่เดินตามหยางซูจวิ้นมานั้น ตอนนี้นางแทบอยากจะหันหลังกลับแล้ววิ่งหนีออกไปให้ไกลเท่าที่จะไกลได้
หยางเทียนฉีชื่อนี้มีแต่ความหายนะ!
คนตระกูลหยางนี่สร้างความปวดหัวให้นางรายวันเลยจริงๆ อ้อ! ยกเว้นหยางซูจวิ้นไว้คนหนึ่งเขากับนางเป็สหายที่ดีต่อกัน
ชินอ๋องหยางเทียนฉีมองเสี่ยวหงด้วยแววตาที่สงสัยไม่น้อย เหตุใดนางจึงมาโผล่อยู่ที่นี่ได้
หยางซูจวิ้นที่ไม่เคยรับรู้เื่ราวของคนทั้งสองมาก่อน ทำให้มองไม่เห็นถึงความผิดปกติใดใดทั้งสิ้น
"ท่านอา นี่คือเสี่ยวหง สหายสนิทของข้าพ่ะย่ะค่ะ วันนี้นางอยากมาชมข้าล่าสัตว์ ข้าจึงพานางติดตามมาด้วย"
หยางเทียนฉีพยักหน้าก่อนจะเดินนำพวกเขาให้เข้าไปในลานกว้างที่เตรียมเอาไว้ ลานกว้างแห่งนี้มีทหารคุ้มกันเข้มงวด นางไม่แปลกใจเท่าใดนักเพราะเคยได้ยินอิ๋งเอ๋อร์เล่าให้ฟังว่าหยางเทียนฉีคุมอำนาจทหารในวังหลวงหลายหมื่นนายไว้ในมือ
"รองแม่ทัพหลัวไม่มาด้วยหรือ?"
เสี่ยวหงเอ่ยถามหยางซูจวิ้นพลางกวาดสายตามองไปโดยรอบเพื่อหาอวิ๋นหลัวซี
"อีกเดี๋ยวคงตามมา เ้าใจเย็นๆ เถิดอีกประเดี๋ยวเ้าก็จะได้แทะโลมท่านพี่หลัวได้อย่างสมใจอยากของเ้า"
เสี่ยวหงพยักหน้าอย่างอารมณ์ดีไม่น้อย
"ั้แ่รู้จักกันมาวันนี้เ้าพูดถูกใจข้าที่สุดองค์ชายรอง"
หยางซูจวิ้นยิ้มตาหยีก่อนจะเดินเข้าไปในกระโจมพร้อมกระบอกธนูของเขา
นางทิ้งตัวลงนั่งที่โต๊ะไม้ใต้ต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะสูดลมหายใจเอาบรรยากาศที่สดชื่นเข้าไปอย่างมีความสุข
"คุณหนูหิวหรือไม่เ้าคะ บ่าวนำขนมกุ้ยฮวากับเกาลัดที่คุณหนูชอบติดมาด้วยเ้าค่ะ"
"เ้าช่างรู้ใจข้าเสียจริง"
เสี่ยวหงยิ้มตาหยีก่อนจะหยิบขนมเข้าปากอย่างมีความสุขพลางดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างช้าๆ
"สถานที่ล่าสัตว์มิใช่ที่ที่สตรีจะมาเดินเล่นได้ เ้าไม่รู้หรือ?"
เสี่ยวหงส่งเสียงเฮอะในลำคอ ก่อนจะเงยหน้าไปมองชินอ๋องหยางเทียนฉีอย่างไม่เป็มิตร ใจคอคิดจะตามสิงนางเลยหรืออย่างไรกัน!
"ทำไมหรือเพคะ หม่อมฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าสถานที่เช่นนี้สตรีห้ามเข้า เป็สถานที่ต้องห้ามหรือเพคะ?"
หยางเทียนฉีหน้าดำมืดทันที ั้แ่เมื่อไหร่กันที่นางกล้าต่อปากต่อคำกับเขาเช่นนี้
"เป็สตรีควรอยู่กับเรือน เย็บปักถักร้อย รอคอยชายหนุ่มมาขอแต่งงาน มิใช่เดินเพ่นพ่านตามชายหนุ่มไปมาเช่นนี้"
เสี่ยวหงเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาไม่น้อย นางลุกขึ้นยืนก่อนจะก้าวเดินเข้าไปหาหยางเทียนฉี แล้วมองหน้าเขาพร้อมกับยกยิ้มเ็าที่มุมปาก
"ทำไมเล่าเพคะ? หม่อมฉันจะตามชายหนุ่มคนไหนก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพระองค์ หรือว่าที่พระองค์มาต่อว่าหม่อมฉันเป็เพราะรู้สึกโกรธที่ชายหนุ่มคนนั้นที่หม่อมฉันตามไม่ใช่พระองค์?"
"นี่เ้า!!!"
"แค่กๆๆ อิ๋งเอ๋อร์ยกน้ำชามาให้ข้าทีเถิด ความชั่วร้ายแถวนี้ติดคอข้าจนแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว"
อิ๋งเอ๋อร์ใจนมือไม้สั่นจับแก้วชาผิดๆ ถูกๆ ส่วนหยางเทียนฉีที่ตอนนี้หน้าดำมืดอยู่แล้วยิ่งมืดลงไปอีกอย่างห้ามไม่ได้
"เชิญเ้าสำลักความชั่วร้ายให้ตายไปเถอะจะได้ไม่รกแผ่นดินนี้"
" หม่อมฉันไม่รีบตายเพคะ หากพระองค์รีบก็ไปตายก่อนได้เลยเพคะ"
"เสี่ยวหง!!!"