สิ่งสำคัญที่สุดคือการปลูกมันหวานกับมันฝรั่งลงในพื้นดินทรายที่เตรียมไว้ พืชสองชนิดนี้เป็ของชั้นยอด
ที่ทำให้เฉินเนี้ยนหรานยินดีกคือในที่แห่งนี้ยังไม่มีการปลูกมันฝรั่ง หากไม่ใช่นางสั่งให้หวงเต๋ออันไปหาเ้านี่มาปลูก นางจะพลาดฤดูกาลปลูกพืชพันธุ์ พูดไปแล้ว การที่หามันฝรั่งเจอนั้นเฉินเนี้ยนหรานถือเป็คนโชคดีคนหนึ่ง
พ่อค้าที่ขายของทางเหนือของที่นี่เห็นว่าทางนั้นมีคนขายพืชพวกนี้ จึงขนกลับมาหนึ่งคันรถ เดิมทีคิดว่าจะขายได้ในราคาดี ผู้ใดจะคาดคิดว่าคนที่นี่กลับไม่รู้จัก ทำไม่เป็ อีกทั้งตอนที่พ่อค้าซื้อกลับมา ยังไม่เข้าใจว่าเ้าสิ่งนี้ปลูกอย่างไร
พอถึงฤดูใบไม้ผลิแล้ว เห็นมันฝรั่งเริ่มรากงอก คิดว่าปล่อยเอาไว้ต่อไปเ้าสิ่งนี้จะเน่าเสียแล้ว เกษตรกรที่นี่ต่างมีความรู้น้อยนิดคิดว่าพืชผลที่กำลังงอกราก ถือเป็ของที่เสียไปแล้ว ดังนั้นพ่อข้าคนนี้จึงพยายามจะขายทิ้งให้หมด
ขณะกำลังขายอยู่นั้น หวงเต๋ออันก็เดินเข้าร้านนี้อย่างไม่ได้ตั้งใจ พอดีกับที่เห็นว่าเ้านี่เป็สิ่งที่นายหญิง้าพอดี ดังนั้นจึงจ่ายไปในราคาหนึ่งตำลึงและสามารถซื้อมันฝรั่งเกือบสามร้อยจินกลับมาได้
ตอนที่เพิ่งจะซื้อกลับมา เฉินเนี้ยนหรานยิ้มหน้าบาน
“นายหญิง เ้านี่มีรากงอกออกมาแล้วต้องปลูกอย่างไรหรือ? ข้ารู้สึกว่าเงินหนึ่งตำลึงนี้ ข้าใช้ไปอย่างตาบอดเสียแล้ว” หวงเต๋ออันบ่นพึมพำ กังวลว่าเฉินเนี้ยนหรานจะตำหนิเขา
“ไม่ เ้านี่น่ะ เดิมทีก็ต้องให้มันรากงอกออกมา แต่รากงอกออกมาแล้วก็ต้องยาวมากๆ หากยาวมากเกินไปแล้วเช่นนั้นก็ดี ตอนนี้พวกเราเอาเ้านี่มาตัดออก นำมันไปวางไว้ในขี้เถ้า รอดูแล้วกัน ปีนี้พวกเรามีผักใหม่ๆ ให้ได้ทานแล้ว”
หนิวซื่อที่อยู่ด้านข้างพอได้ยินว่าจะมีผักใหม่ๆ ให้ทาน จึงรีบเข้ามาหาด้วยดวงตาแวววาว “เ้านี่ทานได้จริงๆ หรือ? ดูกลมๆ แล้วเหมือนจะไม่เลว เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ ตอนนี้ข้าจะลองเอามาปอกแล้วไปผัดทานดู?”
“ไอ๊หยา เ้านี่ทานไม่ได้ มันฝรั่งที่รากงอกออกมาแล้วทานไม่ได้ หากมันมีรากงอกออกมาจะมีพิษนะ เอาล่ะ รอถึงตอนเก็บเกี่ยว พวกเราค่อยทาน” เฉินเนี้ยนหรานใรีบเข้ามาห้าม ล้อเล่นแล้ว มันฝรั่งที่รากงอกออกมาแล้วนั้นมีพิษจนถึงขั้นทำให้คนตายได้เชียวนะ หากทานมันฝรั่งแบบนี้เข้าไป ทั้งครอบครัวจะไม่ตายกันหมดหรือ?
สุดท้ายหนิวซื่อจึงยังไม่สามารถทานเ้าสิ่งนี้ได้ ช่วยไม่ได้ นายหญิงบอกว่ามีพิษ แม้นางจะสงสัยมากว่าเหตุใดของมีพิษยังสามารถนำไปปลูกได้อีก ไหนจะความคิดของนายหญิงที่้าเอามันฝรั่งออกไปขายอีก
มีพิษแต่ยังทานได้ เอาเถอะ ความสามารถในการทำความเข้าใจของนางมีจำกัด อย่างไรฟังคำของนายหญิงไปก็พอ
หลังจากนั้นเช้าวันต่อมา เมล็ดพันธุ์ล้วนถูกพ่อค้าทางใต้คนนั้นนำมามอบให้แล้ว ของเต็มรถม้าสองคันได้ถูกส่งมาถึงในหมู่บ้าน เฉินเนี้ยนหรานวิ่งวนดูของพวกนั้นอย่างตื่นเต้นเหมือนเด็กๆ
“มันฝรั่งก็มีแล้ว เมล็ดบัวก็มีแล้ว แม้มันหวานจะน้อยไปสักหน่อย แต่หากปีนี้ปลูกได้ดีล่ะก็ ต่อไปยังสามารถออกผลได้ การหว่านเมล็ดในปีนี้มีความหวังแล้ว”
เฉินเนี้ยนหรานที่ตื่นเต้นดีใจยกมือขึ้นมาคำนวณเงินไม่หยุด
หนิวซื่อที่อุ้มถวนถวนอยู่ด้านข้างพูดกับเสี่ยวถวนจื่ออย่างอารมณ์ดี “ถวนจื่อ ดูท่านแม่ของเ้าสิ ยามนี้เป็หญิงแม่มดไปแล้วจริงๆ ไอ๊หยา คิดไม่ถึงเลยว่านายหญิงจะมีมุมที่เข้าใจยากเช่นนี้ด้วย เ้าดูสายตาของนางตอนนี้สิ เต็มไปด้วยความหลงใหล ถวนจื่อของพวกเราต่อไปต้องใช้ชีวิตเป็คุณชาย อย่าเลียนแบบนิสัยหลงใหลในเงินอย่างท่านแม่ของเ้ามานะ”
เสี่ยวถวนจื่อนอนอิ่มแล้ว ตอนนี้จึงร่าเริงมากๆ จากคำพูดที่หนิวซื่อพูด เขาก็โบกมือไปมา เมื่อเห็นของแวววาวบนคอของหนิวซื่อเขาก็ยกมืออ้วนๆ มาดึงของใส่เข้าไปในปาก
“อ่อ...อา...” ปากเล็กๆ นี้มีน้ำลายหยดออกมาหลายหยด เด็กน้อยตัวขาวใสสวมชุดผ้าฝ้ายสีแดง หมวกสีแดงรูปกระต่าย ทำให้ทั้งตัวดูแล้วเหมือนเด็กในภาพวาด
หนิวซื่อเห็นแล้วเอ็นดูมาก พร้อมกับจูบเด็กชายสุดหล่อคนนี้อยู่บ่อยครั้ง “ไอ๊หยา หัวใจของข้า เหตุใดป้าไม่คลอดลูกสาวมาสักคนนะ หากคลอดลูกสาวมาสักคนจะได้เลี้ยงเ้ามาเป็ลูกเขยของข้า เมื่อเป็เช่นนี้ เ้าจะได้กลายเป็ลูกชายของข้าแล้ว”
เฉินเนี้ยนหรานที่กำลังคำนวณเมล็ดกับปลูกเมล็ดลงที่นาได้ยินประโยคนี้เข้าก็ไม่พอใจ “พี่สะใภ้ ต่อไปเ้าอย่าคลอดลูกอีกเลย หากคลอดอีกร่างกายจะรับไม่ไหว ข้าคิดว่าลูกชายสองคนของเ้าต่างดีมากแล้ว” ไม่ทันไรก็คิดจะแย่งลูกชายของนางแล้ว ไม่ยอมหรอก
มีหรือหนิวซื่อจะไม่รู้ว่านางกำลังหวง จึงหันไปยิ้มให้นาง “โอ้โอ้ ตอนนี้หวงเชียวนะ ไอ๊หยา ไม่รู้ว่าผู้ใดตอนคลอดถวนจื่อออกมา ยังบอกว่าหนูหน้าตาน่าเกลียดอยู่เลย มาตอนนี้แค่พูดว่าอยากจะหาภรรยาตัวน้อยให้ คนบางคนกลับไม่ยอมด้วย ความจริงแล้วนะนายหญิง ท่านสมควรจะหาคู่หมั้นให้ถวนจื่อสักคนนะเ้าคะ คนเขาว่ากันว่า คู่หมั้นจะต้องเลี้ยงดูั้แ่เล็ก จริงสิ ท่านมักจะพูดคำหนึ่งบ่อยๆ ไม่ใช่หรือ เรียกว่าอะไรนะเื่เลี้ยงดู ข้าจำได้ว่าตอนนั้นท่านพูดเื่นี้กับพวกน้องหก บอกว่าหากเลี้ยงดูขึ้นมาย่อมไม่เลว ไอ๊หยา ข้ากับสามีจะพยายามทำลูกสาวอีกสักคน แล้วให้คุณชายมาเลี้ยงลูกสาวข้าให้โต”
เฉินเนี้ยนหรานโมโหแล้ว เลิกคิ้วเตรียมจะอาละวาด
หนิวซื่อหัวเราะสดใส “ท่านไม่ยอมรับจริงๆ ก็ได้ อย่างน้อยก็เลี้ยงดูลูกสาวข้าให้มาเป็ของเสี่ยวถวนจื่อ ต่อไปหากพูดเื่ราวให้คนรุ่นหลังฟัง สามารถใช้เป็แนวทาง ‘สามีเลี้ยงมา’ ได้”
ก่อนเฉินเนี้ยนหรานจะะเิ หนิวซื่อก็ฉลาดพอที่จะอุ้มถวนจื่อหนีไป...
ซานเยว่ซาน[1] กงจู่หลายคนในหมู่บ้าน แล้วยังมีพวกผู้ใหญ่บ้านพาคนทั้งหมู่บ้านมาเข้าหอบรรพบุรุษมาทำพิธี วางด้วยของหกอย่าง พร้อมทั้งจัดวางผลไม้อีกมากมาย เพื่อมาอธิษฐานให้ปีนี้สามารถเก็บเกี่ยวได้อย่างอุดมสมบูรณ์
เฉินเนี้ยนหรานเป็คนที่ย้ายมาใหม่ก็เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ หากจะเข้าร่วมพิธีแน่นอนว่าจะต้องนำของมาเป็ของไหว้ด้วย
หากเป็แต่ก่อน เฉินเนี้ยนหรานไม่ค่อยเชื่อเื่ผีสางเทพเ้าสักเท่าใดนักจริงๆ แต่เื่ข้ามมิติก็เจอมาแล้ว นางจึงรู้สึกว่าโลกใบนี้ ผีกับเทพบางทีอาจจะไม่รู้ แต่กฎเกณฑ์บางอย่าง นางกลับพูดได้ไม่ชัดเจน
เพราะเช่นนี้ ตอนที่ถวาย นางจึงพาจิตใจที่เต็มเปี่ยมมาถวายของด้วย
โดยของที่วางมี ไก่ เป็ด ปลา เนื้อผลไม้มาหกอย่าง
หลังจากที่นางวางของพวกนี้แล้ว คนทั้งหมู่บ้านต่างใช้สายตาอิจฉามองมา แม้ของพวกนี้จะนำมาถวายในหอบรรพบุรุษ แล้วจะยกกลับไปทานกับคนในเรือน
แต่ทำของถวายออกมาได้มากมายเช่นนี้ นั้นหมายถึงมีหน้ามีตามากและเป็ครอบครัวที่ร่ำรวยมาก
“ปีนี้หมู่บ้านของพวกเราครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุด เกรงว่าจะเป็ครอบครัวของสกุลเฉินแล้ว”
“แน่นอน เฮ้อ แม้นางจะเป็สตรีที่ถูกสามีทิ้ง แต่ฉลาดมาก นิสัยก็ดี แค่ทำการค้าไม่กี่เดือน คนในหมู่บ้านอย่างพวกเราจะเทียบได้อย่างไร”
“แน่นอน คนผู้นี้เทียบไม่ได้ หากไปเทียบอาจจะทำให้คนโมโหจนตายไปเลยก็ได้”
“เหอะ สตรีคนงามที่ถูกสามีทิ้งคนหนึ่ง จะพูดว่าใช้ความสามารถจริงๆ มาหาเงิน ข้าไม่เชื่อหรอก”
“พอเถอะ ยายเฒ่าสกุลจ้าว เ้าไม่มีใบหน้างดงามจะไปโกรธผู้ใดได้”
แต่ละครอบครัวต่างพูดกันมากมาย แต่เฉินเนี้ยนหรานกลับเมินเฉย ความจริงแล้วเวลาของนางมีน้อยมาก ไม่มีเวลาว่างมากพอจะคิดเล็กคิดน้อยกับคนเหล่านี้
พิธีจบลง ทั้งสองคนก็ยกอาหารกลับเรือน ของแต่ละอย่างล้วนมีน้ำมันเต็มไปหมด
“ท่านพี่ อร่อย อร่อย น้ำมันของไก่พอดีมาก แล้วยังปลานี่ ข้าไม่เคยทานปลาที่อร่อยเช่นนี้มาก่อน”
เพื่อทำออกมาให้สวยงาม วันนี้ปลาตัวนี้จึงถูกเอามาเผา ้าราดด้วยน้ำปรุงรสสีแดง ทั้งตัวปลามองจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้วทำให้คนมีความรู้สึกอยากทานขึ้นมา
น้องห้าสำรวมกว่าแต่ทานเข้าไปแล้วลูบท้องไม่หยุด “ท่านพี่ ข้าเองก็คิดว่าอร่อย ต่อไปพวกเราเลี้ยงปลาเยอะๆ ตอนนี้จะทานปลาสักตัวยังต้องไปซื้อในเขต ซึ่งไกลมาก”
เฉินเนี้ยนหรานอุ้มถวนถวน ตอนนี้ตัวของเด็กน้อยแข็งขึ้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กำลังมองทุกคนทานอย่างอารมณ์ดี เมื่อเห็นเฉินเนี้ยนหรานคีบปลาเข้าไปในปาก เขาก็ยื่นหน้ามาทางนาง
“อ้อ...แอ้...”
อ้าปากกว้าง น้ำลายไหลลงมาหลายหยด
หนิวซื่อมองเด็กน้อยก็สงสาร ก่อนจะใช้ตะเกียบแตะน้ำผักใส่เข้าปากของเขา “นายน้อยอยากทานแล้ว มาๆ กับข้าวนี้ไม่เผ็ด”
เด็กน้อยเมื่อได้ยินก็เอามือตบโต๊ะดีใจไม่หยุด
“อ้อ แอ้...”
ใบหน้าเล็กๆ อารมณ์ดีนั้น ทำให้น้องหกที่ทานอิ่มอารมณ์ดี
นางจึงมีความคิดไม่ดีเอาเครื่องปรุงรสเผ็ดเล็กน้อยมาแตะๆ “หลานตัวน้อย มาๆ น้าจะให้เ้าชิมของอร่อย นี่น้ายังเสียดายไม่อยากจะให้เลยนะนี่”
เด็กน้อยไม่รู้จักเผ็ด จึงอ้าปากดูด...
“…”
ทุกคนต่างมองใบหน้าเด็กชายอย่างตื่นเต้น เมื่อเห็นเด็กน้อยขมวดคิ้วนิ่ง ตามมาด้วยอ้าปากร้องไห้จ้าเป็การต่อต้าน...
“แง้แง้...”
“ไอ๊หยา ข้ายังคิดว่าเ้าเด็กคนนี้ไม่รู้จักเผ็ด คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ เขาจะโวยวายออกมาเช่นนี้ จุ๊ๆ เ้าหลานคนนี้ น้าทานอิ่มแล้ว”
เชิงอรรถ
[1] 三月三 เป็เทศกาลหนึ่งของจีนที่จะมีขึ้นมาวันที่ ชู สาม ตามปฏิทินจันทรคติ ซึ่งเทศกาลนี้เป็การไหว้บรรพบุรุษ และร้องเล่นเต้นรำทำเพลง
