หลังจากเก็บโต๊ะและนำพวกจาน ชาม ตะเกียบไปล้างทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย เซี่ยโม่ก็เอาเสี่ยวเฮยไปไว้ในห้องของคนดูแลโกดังสินค้า
เสี่ยวเฮยเคยมาที่ห้องนี้ เมื่อเห็นว่าเป็ห้องที่ตัวเองคุ้นเคย ทั้งยังมีกลิ่นของเซี่ยโม่ มันจึงเดินลากขาที่าเ็ของตัวเองไปรอบๆ ห้องเพื่อตามหา พอไม่เจอจึงถอดใจแล้วปีนขึ้นไปนอนบนเตียงแทน
เซี่ยโม่ปั่นจักรยานไปส่งน้องชายกับสือโถวน้อยที่โรงเรียนประถม รอดูจนเด็กชายทั้งสองเดินเข้าไปในอาคาร เธอถึงค่อยขี่จักรยานไปที่โรงเรียนตัวเอง
ระหว่างนั้นแบ่งความคิดเข้าไปดูในโกดังสินค้าเป็ระยะ เลยได้เห็นว่าพอมันหาเธอไม่เจอก็ขึ้นไปนอนบนเตียงและหลับไปเสียแล้ว
เธอเคยอ่านเจอในไป่ตู้[1]ว่า เหตุการณ์ทำนองนี้คือเื่ปกติ เด็กที่เพิ่งเกิดมักจะนอนหลับวันละหลายรอบ สัตว์ที่ยังเล็กอยู่ก็เช่นกัน
เสี่ยวเฮยเพิ่งจะอายุสามเดือนกว่า ทั้งยังได้รับาเ็มา ให้มันนอนพักเยอะๆ อาจจะส่งผลดีต่อแผลของมันก็เป็ได้
ขณะที่เซี่ยโม่กำลังนั่งเรียน เสี่ยวเฮยนอนจนเต็มอิ่มแล้วจึงตื่นขึ้นมา
มันเดินไปรอบๆ ห้องและลองส่งเสียงร้องเรียก แต่ก็ไม่มีใครปรากฏตัว
เดาเอาว่าเ้าลูกหมาคงจะหิวแล้ว เธอเลยแกล้งทำเป็ก้มหน้าอ่านหนังสือ แต่ความจริงแล้วเธอดึงความคิดเข้าไปในโกดังสินค้า จัดการเทนมใส่ถ้วย และเอาเนื้อส่วนขาของกวางที่เก็บไว้ในนี้ใส่จานให้มันกิน
มือเรียวยื่นไปลูบหัวมันอย่างเอ็นดู ก่อนจะดึงความคิดกลับมาสู่โลกภายนอก
เสี่ยวเฮยมัวแต่ก้มหน้ากินนม พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็ไม่เห็นเด็กสาวแล้ว มันหันรีหันขวางมองหาเธอไปทั่วบริเวณ พอไม่เจอดวงตาของมันก็คลอไปด้วยหยาดน้ำตา ดูน่าสงสารจับใจ
เซี่ยโม่ไม่เคยเห็นท่าทางเช่นนี้ของมันมาก่อน ทันใดนั้นคุณครูที่สอนอยู่หน้าชั้นก็เอามือเคาะที่กระดานเสียงดัง “ตั้งใจฟังหน่อย”
เธอรีบดึงสติกลับมาแล้วตั้งใจเรียน กระทั่งถึงเวลาพักเที่ยง เธอขี่จักรยานออกนอกโรงเรียนไปยังจุดปลอดคน แล้วเข้าไปในโกดังสินค้า
เมื่อเสี่ยวเฮยเห็นเธอ มันก็รีบวิ่งเข้ามาหา ก่อนจะเอาหัวพุ่งชนขาเธอด้วยความโมโห
อาการนี้ชัดเจนว่ามันกำลังไม่พอใจ เธอจึงพูดกับมันด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เอาละ ฉันต้องเรียนเลยอยู่เป็เพื่อนแกไม่ได้นี่นา นี่ไง ฉันก็มาหาแกแล้วนี่”
เธออธิบายอย่างอดทน
เสี่ยวเฮยราวกับฟังรู้เื่ มันหยุดประท้วงด้วยการเอาหัวชน แล้วเปลี่ยนเป็วิ่งวนไปรอบๆ ตัวเธอแทน
สงสัยว่าอยู่ตัวเดียวมันคงจะเหงา เธอทำท่าครุ่นคิดอยู่สักครู่ ทำไมเธอไม่หาอะไรให้มันทำสักหน่อย
คิดได้ดังนั้นเลยเปิดโทรทัศน์ให้มันดู มันจะได้ไม่เบื่อระหว่างรอเธอเลิกเรียน
เธอจำได้แม่นว่า แมวกับสุนัขที่เคยเลี้ยงเอาไว้เมื่อชาติที่แล้ว พวกมันชอบดูโทรทัศน์เป็ที่สุด
เสี่ยวเฮยฉลาดก็น่าจะชอบดูโทรทัศน์เช่นกัน
โทรทัศน์ในห้องคนเฝ้าโกดังเป็โทรทัศน์จอสี เธอเปิดหาช่องที่เป็รายการการ์ตูน
โทรทัศน์กำลังฉายการ์ตูนเื่มิกกี้เมาส์กับโดนัลด์ดักที่ได้รับความนิยมในยุคของเธอเมื่อชาติที่แล้ว
เสี่ยวเฮยถูกการ์ตูนดึงดูดความสนใจ มันนั่งอยู่บนเตียง จ้องมองหน้าจอโทรทัศน์ตาไม่กะพริบ ท่าทางน่ารักของมันช่างน่าขบขันและน่าเอ็นดูเหลือเกิน
เห็นเ้าก้อนขนสงบดีเธอถึงค่อยเดินไปล้างมือ หยิบขนมปังมาสองก้อน ไส้กรอกหนึ่งไม้ กล้วยหนึ่งลูก และส้มอีกหนึ่งลูกมานั่งกินเป็มื้อกลางวัน พร้อมทั้งดูการ์ตูนเป็เพื่อนมันไปด้วย บางครั้งเธอก็ป้อนอาหารใส่ปากมัน
ดูการ์ตูนไปได้พักใหญ่จึงหันไปมองนาฬิกา พบว่าใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียน่บ่ายแล้ว เธอลูบหัวมันพร้อมกับบอกกล่าว “เป็เด็กดีรออยู่ในนี้นะ ฉันต้องไปเข้าเรียนตอนบ่ายแล้ว”
เสี่ยวเฮยคล้ายว่าไม่ได้ยิน มันยังคงใจจดใจจ่อกับการ์ตูนในจอ แววตาของมันมองขึ้นลงตามตัวการ์ตูนในโทรทัศน์ที่กำลังเคลื่อนไหวไปมา
เซี่ยโม่ยิ้มขบขัน เคยได้ยินแต่เด็กติดการ์ตูน เพิ่งเคยเห็นลูกหมาป่าติดการ์ตูนเป็ครั้งแรก
ยุคที่เธออยู่ปัจจุบันแม้จะมีโทรทัศน์เข้ามาแล้ว แต่ใช่ว่าจะพบเจอได้บ่อยนัก ทั้งยังเป็แค่โทรทัศน์จอขาวดำ โทรทัศน์จอใหญ่สีสันจัดเต็มแบบนี้ยังไม่มีในยุคสมัยนี้
เสี่ยวเฮยเป็สัตว์ตัวแรกที่ได้ก้าวเข้าสู่ยุคอนาคตก่อนใคร
่บ่ายระหว่างเรียนหนังสือ เธอมักจะแบ่งความคิดเข้าไปดูในโกดังสินค้าเป็ระยะ เมื่อเห็นว่ามันยังคงตั้งหน้าตั้งตาดูการ์ตูน เธอจึงเรียนหนังสือได้อย่างวางใจ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ระหว่างที่เธอเก็บของหลังคาบเรียนสุดท้ายจบลง เธอแอบแบ่งความคิดส่วนหนึ่งเข้าไปดูความเรียบร้อยในโกดังสินค้า
เสี่ยวเฮยเลิกให้ความสนใจกับโทรทัศน์ เนื่องจากการ์ตูนที่เปิดให้ดูก่อนนี้จบไปแล้ว ในจอถูกแทนที่ด้วยภาพข่าวเธอจึงปิดโทรทัศน์ ครั้นเสี่ยวเฮยเห็นจอสี่เหลี่ยมจู่ๆ ก็ดับไป มันมองหน้าจอที่ตอนนี้กลายเป็สีดำสนิทอย่างสงสัย
มันเอียงคอมองพลางยกขาข้างหนึ่งเคาะไปที่หน้าจอ ทว่าหน้าจอโทรทัศน์ก็ยังคงเป็สีดำ มันเลยไม่คิดจะสนใจอีก
เมื่อเธอพาน้องชายกลับมาถึงบ้าน ฉวยโอกาสตอนที่ยังไม่มีใครกลับมารีบเอาตัวเสี่ยวเฮยออกมาจากในโกดังสินค้า
“เสี่ยวเฮยดื้อไหม” คุณยายกลับมาถึงบ้านก็ถามอย่างเป็ห่วงทันที
“ไม่ดื้อค่ะ พรุ่งนี้หนูเลยว่าจะพามันไปเรียนด้วยอีก”
“ระวังด้วยนะ อย่าให้มันไปกัดใครเขาล่ะ” คุณยายไม่วายกำชับ
“คุณยายวางใจเถอะค่ะ”
เซี่ยเฉินเฟิงได้ยินที่คุยกันก็ตาโตก่อนจะถามอย่างใ “พี่ครับ พี่พาเสี่ยวเฮยไปโรงเรียนด้วยเหรอ ทำไมผมถึงไม่เห็นมันเลยล่ะ”
“จะเห็นมันได้ยังไง ก็พี่เอามันไว้ในกระเป๋าหนังสือ” เธอตอบน้องชาย
“อ๋อ” เด็กชายรับคำอย่างงุนงงเล็กน้อย
พูดจบเซี่ยโม่ถึงค่อยคิดได้ว่า คำตอบเมื่อครู่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าใดนัก กระเป๋านักเรียนของเธอใบเล็กเช่นนั้นจะยัดเสี่ยวเฮยลงไปได้อย่างไร โชคดีที่น้องชายของเธอไม่ใช่คนคิดมาก ส่วนคุณยายเดินไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ครั้งนี้จึงรอดตัวไป
เธอเตือนตัวเองในใจ หลังจากนี้คงต้องระวังให้มากกว่าเดิม
ระหว่างกินข้าวมื้อเย็น เธอคอยป้อนอาหารให้เสี่ยวเฮยไปด้วย พอถึงเวลาเข้านอน เสี่ยวเฮยมองไปรอบๆ เหมือนหาอะไรสักอย่าง เมื่อหาไม่เจอก็มาวิ่งวนรอบตัวเธออย่างดื้อดึง
เดาเอาว่ามันคงกำลังมองหาโทรทัศน์
พอเห็นว่าน้องชายหลับไปแล้ว เธอหันไปมองมันด้วยความรู้สึกก้ำกึ่ง จะยิ้มก็ยิ้มไม่ได้ จะร้องไห้ก็ร้องไม่ออกเช่นกัน ก่อนจะตัดสินใจพามันเข้าไปในโกดังสินค้า
เซี่ยโม่เปิดโทรทัศน์หาช่องที่มีการ์ตูน โชคดีที่มีช่องหนึ่งกำลังฉายการ์ตูนเื่มิกกี้เมาส์กับโดนัลด์ดักอยู่พอดี
เสี่ยวเฮยะโโลดเต้นอย่างดีใจ ก่อนจะนั่งนิ่งอยู่หน้าโทรทัศน์ สายตาของมันจดจ่อภาพในจอ
เสี่ยวเฮยอยากดูการ์ตูนจนไม่รู้วันรู้คืน ตอนนี้ได้เวลานอนแล้ว เธอเลยไม่อาจอยู่เป็เพื่อนมันได้
เธอออกจากโกดังสินค้า ล้มตัวนอนบนเตียงก่อนจะหลับไปอย่างรวดเร็ว
เซี่ยโม่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าตรู่ เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนเอาเสี่ยวเฮยไว้ในโกดังสินค้า เมื่อลองเข้าไปดูความเรียบร้อย พบว่ามันหลับคาโทรทัศน์ไปเสียแล้ว
การ์ตูนเื่มิกกี้เมาส์กับโดนัลด์ดักจบไปนานแล้ว ตอนนี้บนจอฉายการ์ตูนเื่อื่นแทน เธอจึงปิดโทรทัศน์ ค่อยๆ อุ้มมันออกมาจากโกดังสินค้าแล้วพาไปนอนบนฟูกที่จัดเอาไว้ให้
กระทั่งทุกคนในบ้านกินข้าวเช้าจะเสร็จแล้ว แต่เสี่ยวเฮยก็ยังไม่ยอมตื่น
“วันนี้ให้มันอยู่ที่บ้านดีไหม” คุณยายเห็นเ้าลูกหมาหลับปุ๋ยเลยเสนอแบบนั้น
“เดี๋ยวค่อยว่ากันดีกว่าค่ะ”
เซี่ยโม่ทำใจไม่ได้ที่ต้องไปเรียนแล้วทิ้งเสี่ยวเฮยเอาไว้ตัวเดียว เธอเลยเอามันเข้าไปไว้ในโกดังสินค้า
เสี่ยวเฮยนอนหลับอยู่ในนั้นจนถึงตอนเที่ยง เมื่อลืมตาแล้วเห็นเธอ มันะโโลดเต้นอย่างดีอกดีใจ
ด้วยความที่กลัวเสี่ยวเฮยหิวเลยเอาของกินหลายอย่างออกมาป้อนให้มัน
เนื่องจากตอนเช้าเสี่ยวเฮยเอาแต่นอนเลยยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง พอได้โอกาสกินมันจึงตั้งหน้าตั้งตาเขมือบ
ระหว่างนี้เซี่ยโม่รีบกินอาหารด้วยเช่นกัน เสี่ยวเฮยกินอิ่มแล้วก็ไปนั่งอยู่หน้าโทรทัศน์ราวกับกำลังรออะไรบางอย่าง
พอเห็นว่าเด็กสาวไม่สนใจมันเลยเดินมาหา ใช้ปากงับกางเกงของเธอแล้วออกแรงดึงไปที่หน้าโทรทัศน์
เซี่ยโม่ยิ้มด้วยความเอ็นดู เสี่ยวเฮยนี่แสนรู้ดีจริงๆ
เธอเปิดโทรทัศน์ หาช่องที่ฉายการ์ตูนเื่มิกกี้เมาส์กับโดนัลด์ดัก เสี่ยวเฮยเห็นเช่นนั้นก็เปลี่ยนไปดูการ์ตูนอย่างตั้งใจ
พอถึง่เย็นเธอพบว่าแผลบนตัวเสี่ยวเฮยเริ่มเป็สะเก็ดแล้ว อดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดพวกสัตว์แผลถึงได้หายไวขนาดนี้
เวลาล่วงเลยมาถึง่กลางคืน ไม่ว่าจะทำอย่างไรเสี่ยวเฮยก็ไม่ยอมเข้าไปในบ้าน มันเอาแต่นอนเฝ้าแถวรูสุนัขลอดตรงริมกำแพง
เซี่ยโม่สันนิษฐานว่า บางทีคืนนี้แม่ของเสี่ยวเฮยอาจจะมารับกลับ ว่าแต่มันรู้ได้อย่างไรกัน?
เธอกลัวว่าอากาศตอนกลางคืนจะหนาว เลยหาหญ้าแห้งมาปูรองให้เสี่ยวเฮยใช้นอน มันเห็นเช่นนั้นก็วิ่งไปรอบๆ ตัวเธอคล้ายกำลังแสดงความขอบคุณ
นั่งรอเป็เพื่อนเสี่ยวเฮยจนดึกดื่นก็ยังไม่เห็นว่าแม่หมาป่าจะมารับสักที สุดท้ายทนความง่วงไม่ไหวเธอจึงเข้าบ้านไปนอน
เช้าวันต่อมา เซี่ยโม่เดินออกไปดูบริเวณรูสุนัขลอด เสี่ยวเฮยไม่อยู่แล้ว ทว่าบนหญ้าแห้งที่เธอปูเป็ที่นอนให้มันมีกระต่ายป่ากับไก่ป่าวางเอาไว้แทน
แม่ของเสี่ยวเฮยคงมารับมันกลับไปแล้ว
นับั้แ่นี้หากเข้าไปในโกดังสินค้าแล้วเห็นโทรทัศน์ เธอต้องนึกถึงเสี่ยวเฮยมากเป็แน่
--------------------------
[1] ไป่ตู้ เว็บไซต์เซิร์ชเอนจินของจีน ลักษณะคล้ายเว็บไซต์กูเกิล
