"เอ...นั่นอะไรหว่า?"
ตรงบริเวณที่ทัวทาเทียนหวังถูกสังหารฉินโจ้วหยิบหินสองก้อนขนาดประมาณนิ้วหัวแม่มือขึ้นมาดูไปก็คล้ายกับหินคริสตัลสีขาวใสบริสุทธิ์ เมื่อยกขึ้นส่องต้องแสงอาทิตย์หินนั้นก็ส่องประกายกระจ่างใส แวววาวเหมือนหยกขาวแต่แสงที่ส่องออกมานั้นไม่ทิ่มแทงแยงตากลับดูนวลตาเป็อย่างมากระหว่างที่ถือเอาไว้อยู่ในมือ เขาก็รับรู้ได้ถึงพลังิญญาบริสุทธิ์อย่างที่ไม่มีอะไรเทียบพุ่งเข้าปะทะร่างมีความรู้สึกสดชื่นเหมือนป่าไม้ที่ฝนเพิ่งหยุดตก
ชุดขาวลอยล่องหันมามองเมื่อได้ยินเสียงของฉินโจ้วสีหน้าแสดงความประหลาดใจออกมาให้เห็นเพียงครู่ ก่อนจะตรงมาหยุดต่อหน้าฉินโจ้ว ทำให้เขาได้รับรู้เป็ครั้งแรกว่าเมจนี่วิ่งได้เร็วปานนี้เลยหรือนี่
"หินิญญาเป็หินิญญาชั้นดี"น้ำเสียงประหลาดใจออกมาจากสีหน้าที่เฉยชาของชุดขาวลอยล่อง
"หินิญญาคืออะไร?"นี่เป็ครั้งแรกที่ฉินโจ้วได้ยินเกี่ยวกับหินิญญา
"หินิญญาจะบรรจุพลังชี่บริสุทธิ์ของฟ้าดินเอาไว้เป็หินพลังงานประเภทหนึ่งหลังจากเมจดูดซึมมันเข้าไปก็จะสามารถเปลี่ยนเป็พลังจิตได้โดยตรงสำหรับเมจแล้วถือเป็ยาบำรุงกำลังชั้นดีเลยทีเดียว" ก่อนเธอจะพูดต่อว่า"หินิญญานั้นค่อนข้างหายาก จริงๆก็หายากมาก ฉันเคยได้ยินเื่เกี่ยวกับมันมาบ้างแต่นี่เป็ครั้งแรกที่ได้เห็นของจริง มันดูสวยงามมากทีเดียว"
หินิญญานี้สามารถดูดซับได้โดยตรงนี่สิเป็ของดีอย่างแท้จริง ฉินโจ้วถึงกับถอนหายใจในความใจกว้างของทัวทาเทียนหวังเวลาเขามาหาทีไรก็มักจะมีของขวัญติดไม้ติดมือมาให้ตลอด ช่างเป็คนดีเสียจริง
"ถ้าหินิญญามีสิ่งปนเปื้อนน้อยพลังงานก็จะมีความบริสุทธิ์และคุณภาพก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยดูจากคุณสมบัติของหินิญญาสองก้อนนี้แล้วน่าจะเป็หินิญญาระดับขั้นกลางซึ่งมีขนาดใหญ่ราวนิ้วหัวแม่มือได้ บรรจุพลังจิตไว้ราว 500 หน่วยอาจเป็เพราะหินิญญานั้นหาได้ค่อนข้างยากและไม่ค่อยมีวางขายในตลาดราคาของมันต่อชิ้นก็คงมากกว่า 550 เหรียญทอง"ชุดขาวลอยล่องเอ่ยออกมาอย่างคาดเดา
"ไม่เกินห้านาทีจะมีคนของกิลด์์ประมาณสามร้อยคนมาที่นี่"ชุดขาวลอยล่องขมวดคิ้วเล็กน้อยหลังจากพูดจบซึ่งฉินโจ้วก็เข้าใจได้ในทันทีว่าเธอหมายถึงอะไร
กลุ่มที่กำลังตามมาทีหลังนั้นส่วนใหญ่มีพลังในระดับผู้เชี่ยวชาญฉินโจ้วเองถึงจะดีจะร้ายอย่างไรก็ยังเป็ถึงผู้เชี่ยวชาญเช่นกันแต่ให้มีกองหนุนและหน่วยข่าวกรอง ก็ยังเทียบชุดขาวลอยล่องไม่ได้อยู่ดีการหาข่าวข้อมูลเชิงลึกระดับนี้จำเป็ต้องใช้เวลาในการรวบรวมไหนจะต้องใช้เงินอีกไม่น้อย ยังต้องมีความแข็งแกร่งและอื่นๆ อีก ดูๆไปแล้วเธอคนนี้คงจะร่ำรวยไม่น้อย แถมยังแข็งแกร่งอีกด้วยอันที่จริงต่อให้เธอระดับลดลง ก็คงจะสามารถเพิ่มเลเวลกลับมาดังเดิมได้ในทันทีถึงจะรู้อย่างนั้นเขาเองก็ไม่กลัว แค่ 300 คนเขาจะจัดการเก็บกวาดพวกมันให้เรียบเอง ก่อนเขาจะพูดว่า "คุณไปก่อนได้เลยเดี๋ยวผมจะรอเจอพวกมันเอง เผื่อผมจะได้หินิญญาเพิ่มอีกสักหน่อยน่าจะดี"
ชุดขาวลอยล่องพยักหน้าและไม่ได้ห้ามปรามเขาแต่อย่างใด ก่อนจะหันกลับไปอย่างเงียบๆและมุ่งหน้าไปทางเทือกเขาชางซาน หลังจากเดินไปได้ราวสิบเมตรก็พลันนึกขึ้นได้จึงหันมาพูดว่า
"ได้ยินมาว่าพวกเขามีลูกธนูเวทอีกจำนวนไม่น้อยและยังมีอาวุธโจมตีระยะไกลที่มีพลังมากกว่าลูกธนูเวทเสียอีก"
อยู่ๆหน้าผากของเขาก็เริ่มปรากฏเหงื่อไหลซึมออกมาในทันที ผู้หญิงคนนี้เธอจงใจแน่ๆฉินโจ้วจึงเปลี่ยนความคิดในทันใด ก่อนจะวิ่งไล่ตามชุดขาวลอยล่องไป"ผมเองมาคิดๆ ดูแล้วก็รู้สึกว่าการต่อสู้ฆ่าฟันกันนี่เป็เื่ที่ไม่ดีเลยอันที่จริงแล้วผมเป็คนที่รักสันตินะ"
ชุดขาวลอยล่องพยักหน้าแต่ถึงกระนั้นฉินโจ้วก็ยังมองเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความขบขันถึงแม้จะถูกซ่อนไว้ก็ตามซึ่งก็เพียงพอที่จะทำให้ฉินโจ้วรู้สึกเขินจนหน้าแดงได้แล้ว
"มองอะไรกันไม่เคยเห็นหนุ่มหล่อสาวสวยกันหรืออย่างไร?" ฉินโจ้วรู้สึกเคืองอยู่เล็กน้อยแล้วจู่ๆ เขาก็ยื่นมือออกไป ไม้เท้าเวทชี้ไปตรงที่ว่างบริเวณข้างทางก่อนจะปล่อยหนามกระดูกนับสิบชิ้นพุ่งตรงออกไป
ชุดขาวลอยล่องหยุดเดินในทันทีมองไปที่ฉินโจ้วด้วยความสงสัย หรือว่านายเป็บ้าไปแล้ว คงไม่ใช่หรอกน่า อายุก็ไม่น้อยแล้วแต่ทันใดนั้นในขณะที่ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยก็กลับเปลี่ยนเป็ตกตะลึงแทน
เดิมทีที่ตรงนั้นเป็พื้นที่ว่างเปล่าก็พลันเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันมีแรงสั่นกระเพื่อมขึ้นมา พลันก็ปรากฏร่างหนึ่งออกมา ในมือกำมีดสั้นระดับสูงไว้ดูไปคล้ายกับว่าเขา้าพุ่งเข้าแทง มองดูจากการแต่งกายเหมือนนักฆ่าและการที่สามารถซ่อนตัวอยู่ข้างกายคนสองคนเป็เวลานานได้โดยไม่ถูกตรวจพบก็ยิ่งบ่งบอกได้ว่าเป็นักฆ่าอย่างแน่นอน ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปเป็แน่อย่างน้อยก็ต้องเป็ระดับผู้เชี่ยวชาญ
ทันทีที่หนามกระดูกพุ่งออกไปความเร็วของมันไม่ต่างอะไรจากลูกธนูเลยจนกระทั่งหนามกระดูกพุ่งทะลุร่างของนักฆ่าในขณะที่เขาเพิ่งจะมีปฏิกิริยาตอบสนองซึ่งถึงตอนนั้นมันก็สายไปเสียแล้ว หนามกระดูกนับสิบพุ่งทะลุร่างไปไม่ถึงหนึ่งวินาที จากนั้นก็กลายเป็แสงสีเทาในทันที
จนเสียเหลือเกิน...มีแค่เหรียญทองแดงไม่กี่เหรียญหล่นอยู่
"คุณหาตัวนักฆ่าที่ซ่อนอยู่ได้อย่างนั้นหรือ?"ชุดขาวลอยล่องตั้งใจจะถามในตอนที่เขาเพิ่งค้นพบแต่ก็ไม่มีเวลาจึงกลับมาย้อนถาม
"อ๋อ...นั่นเหรอ ทักษะพิเศษของผมน่ะ" ฉินโจ้วพยักหน้าก่อนจะตอบอย่างไม่ใส่ใจ
"อย่างนั้นก็รีบไปเถอะคนของกิลด์์กำลังมาแล้ว" ชุดขาวลอยล่องฉลาดพอที่จะไม่ถามอะไรต่อทุกคนต้องมีไพ่ตายประจำตัวอยู่แล้ว
พวกเขาทั้งสองคนเดินมุ่งหน้าไปทางเทือกเขาชางซานระหว่างทางนั้นไม่มีใครพูดอะไรกันแม้เพียงเล็กน้อยราวกับมีความนัยตราบใดที่เข้าเขตของเทือกเขาชางซานเมื่อไร พวกเขาก็จะปลอดภัยสถานที่แห่งนี้เป็เหมือนดินแดนต้องห้ามของผู้เล่นทั้งหลาย แต่สำหรับเขาแล้วนั้นเหมือนสรวง์ก็ไม่ปาน
"คุณเลยไปเปลี่ยนอาชีพไม่ได้เลย"หลังจากเข้าเขตเทือกเขาชางซาน ฉินโจ้วยังคงรู้สึกเสียใจเพราะตัวเขาเองเป็ต้นเหตุ
ชุดขาวลอยล่องยังคงก้าวเดินต่อไปก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลงว่า "ก่อนอื่นก็คงต้องลบล้างชื่อสีแดงให้ได้ก่อน"
อันที่จริงแล้วมีมากมายหลายวิธีที่สามารถลบล้างชื่อสีแดงวิธีที่ใช้กันส่วนมากก็คือ การสังหารมอนสเตอร์ยิ่งมอนสเตอร์ที่ชั่วร้ายมากเท่าไรก็จะได้มีผลในการลบล้างชื่อได้เร็วขึ้นเท่านั้นยกตัวอย่างเช่น สังหารหมาป่า 100 ตัว สามารถลบล้างชื่อได้ แต่ถ้าจัดการผีดิบก็้าแค่80 ตัวเท่านั้น
"หินิญญานี้แบ่งให้คุณก้อนหนึ่ง"เพราะเมื่อเข้ามาในบริเวณที่ปกคลุมด้วยแก๊สพิษในเทือกเขาชางซานแล้วเขาเองก็ไม่ต้องกังวลเื่ที่ศัตรูจะติดตามเข้ามาและยังคงมีระยะห่างจากกองทัพผีดิบ ซึ่งก็ถือว่าเป็สถานที่ปลอดภัยที่ค่อนข้างหายากอยู่
ชุดขาวลอยล่องไม่ปฏิเสธที่จะรับหินิญญาไว้ก่อนจะนั่งขัดสมาธิและเริ่มดูดซับจากหินิญญาในทันทีอาจเป็เพราะมีระยะห่างพอสมควรจากฝูงผีดิบเธอจึงไม่กังวลว่าจะมีมอนสเตอร์เข้ามาโจมตี ยิ่งความแข็งแกร่งมากขึ้นก็เป็การรับประกันความปลอดภัยที่มากขึ้นไปด้วยเมื่อเห็นดังนั้นฉินโจ้วจึงเริ่มนั่งลงบ้าง
วิธีการดูดซับก็ไม่มีอะไรยุ่งยากแค่กำหินิญญาเอาไว้ในมือก่อนจะเริ่มต้น ''การทำสมาธิ''ความบริสุทธิ์ของหินิญญายิ่งสูงก็จะทำให้ดูดซับได้เร็วขึ้นมากเท่านั้น หรือไม่ก็ช้าไปเลยเพราะผลของการดูดซับขึ้นอยู่กับระดับของ ''การทำสมาธิ''เป็ตัวตัดสิน
ไม่ถึงสิบนาทีหินิญญาในมือของฉินโจ้วก็เปลี่ยนสภาพเป็ฝุ่นผงหลังจากที่ได้ดูดซับพลังชี่ไปจนหมดแล้วซึ่งก็ได้เพิ่มมาอีก 500 หน่วย ทำให้พลังจิตของฉินโจ้วอยู่ที่ 52,760 หน่วย
สิบห้านาทีต่อมาฉินโจ้วรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นชุดขาวลอยล่องดูดซับเสร็จเรียบร้อยเธอคงทั้งโชคดีและคงมีทักษะการทำสมาธิในระดับที่ดี แต่ในส่วนของชุดขาวลอยล่องนั้นเธอเองคิดว่าเธอน่าจะมีระดับเลเวลการดูดซึมในอันดับหนึ่งแต่เหมือนว่าชายคนนี้จะมีทักษะการทำสมาธิที่ดีกว่า แม้ในใจจะยังคิดสงสัยแต่เธอเองก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
กลุ่มผีดิบโชคร้ายที่บอสเพิ่งจะถูกสังหารไปยังไม่ทันจะได้ทำใจ ก็ต้องมาเจอกับการสังหารหมู่อีกคราแต่ก็ดูเหมือนว่าจำนวนของฝูงผีดิบนั้นจะมีจำนวนไม่จำกัดไม่ว่าเขาจะพยายามหนักมากแค่ไหน จำนวนก็ดูเหมือนจะไม่ลดลงแม้แต่น้อยมองไปทางไหนก็เห็นแต่ฝูงผีดิบเต็มไปหมด
สองวันผ่านไปชื่อสีแดงบนหัวของพวกเขาก็หายไป ถึงแม้ฉินโจ้วจะสังหารผู้เล่นไปหลายครั้งซึ่งนับแล้วก็เป็จำนวนมากกว่าชุดขาวลอยล่องเสียอีกและเขาก็สามารถลบล้างชื่อสีแดงได้ก่อนเธออยู่ดี จากนั้นก็คอยช่วยชุดขาวลอยล่องถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไรแต่ในใจของเธอก็ยังคิดว่าฉินโจ้วเป็ผู้เชี่ยวชาญในระดับที่ไม่ธรรมดาเลย
"คุณก็ระวังตัวไว้หน่อยแล้วกันกิลด์์ตั้งค่าหัวของคุณเอาไว้แล้ว ถ้าจัดการคุณได้กิลด์์จะจ่ายให้พวกเขา600 เหรียญทอง ตอนนี้มีผู้เล่นหลายคนกำลังแกะรอยคุณอยู่ คงต้องบอกว่าศัตรูของคุณตอนนี้ไม่ได้มีแค่กิลด์์เท่านั้นแต่อาจจะเป็ใครก็ได้" ชุดขาวลอยล่องได้เตือนฉินโจ้วไว้ก่อนจะจากกันแหล่งข่าวของเธอนั้นรวดเร็วและแม่นยำมากกว่าของฉินโจ้วมากนัก
"คุณเองก็รักษาตัวด้วยนะ"ฉินโจ้วกล่าวขอโทษอีกครั้ง เขาไม่ได้ห่วงตัวเองเลยแม้แต่น้อย
"พวกเขาไม่กล้ายุ่งกับฉันอีกแล้วล่ะ"ท่าทางเมินเฉยไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชุดขาวลอยล่อง
"อย่างนั้นก็ดีแล้ว"หลังจากพูดออกไป ฉินโจ้วรู้ว่าความกังวลของเขาเป็เื่ที่ไม่จำเป็เลยในตอนที่ทัวทาเทียนหวังโจมตีชุดขาวลอยล่อง เขาเองก็ไม่กล้าะโเรียกชื่อเธอเขารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังประเมินความสามารถกองหนุนของชุดขาวลอยล่องอยู่
"มาหาฉันได้ถ้าคุณมีปัญหายุ่งยากใจ" ชุดขาวลอยล่องหยุดพูดไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดต่อจนจบ
ดวงตาของฉินโจ้วส่องประกายด้วยความแปลกใจก่อนจะยิ้มให้เล็กน้อย และไม่ได้พูดอะไรอีกจ้องมองด้านหลังของชุดขาวลอยล่องเดินจากไปจนลับตา "ไป๋ยู่"นั่นก็คือชื่อของเธอ
ติ๊ง!ระบบแจ้งเตือน : ผู้เล่นลมกระจ่างจันทร์แรม้าสนทนาด้วย ฉินโจ้วจึงกดตกลง
"พี่ฉินนี่ช่างเหมาะสมกับที่เป็พี่ฉินเสียจริงทุกครั้งที่คุณเคลื่อนไหวจะต้องมีเื่ให้ประหลาดใจอยู่เสมอ ผู้เล่น 400 คนโดยคุณจัดการเสียหมดภายในอึดใจเดียว และแถมทัวทาเทียนหวังเองก็ยังถูกสังหารไปด้วยได้ยินว่าหลังจากที่ฟื้นคืนชีพแล้วใบหน้าของเขาก็ยังเป็สีเขียวอยู่เลยพอจักรพรรดิหยกได้ข่าวใบหน้าซีดขาวของเขาก็กลายเป็สีเขียวไปด้วยไม่มีผู้เล่นกิลด์์คนไหนที่หน้าเป็ปกติเลย ผมชื่นชมและนับถือคุณเป็อย่างมากคุณนี่เหมือนกับแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวที่ไหลไปเรื่อยๆ โดยไม่มีสิ่งใดมากั้นขวางได้เลยคล้ายกับแม่น้ำหวงที่แยกออกไปเป็สายย่อยๆ ---คุณเป็เหมือนกับพระอมิตาภะที่มาจากแดนสุขาวดี ที่ห่างจากโลกมนุษย์ไปทางทิศตะวันตกหรือก็คือ พระโคตมพุทธเ้า (สิทธัตถะ โคตมะ) อีกคนที่คุณก็น่าจะรู้จักที่หน้ายาวๆหน่อย ทรงพลังมากก็คือ ซุนหงอคง คุณน่าจะรู้จักดีเลยและซุนหงอคงนี่เป็ไอดอลของผมในสมัยเด็กเลยนะแต่ก็ถูกูเาห้านิ้วทับอยู่ตั้งห้าร้อยปี ถ้าผมไม่รู้ว่า ''เหยี่ยวั่ง'' ไม่ให้ข้อผิดพลาดปรากฏขึ้นผมคงคิดว่าคุณคงต้องใช้โปรแกรมช่วยเล่นหรือไม่ก็ต้องเป็ผู้เล่นที่โกงระดับเลเวลแน่เลยไม่พอใจพวกผู้เล่นที่เก่งกว่า โอ้... ทัวทาเทียนหวังผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในการจัดลำดับต้นๆ จุ๊จุ๊... ถูกสังหารอย่างน่าอนาถแท้เหมือนฮีโร่ในหนังที่มาช้าตลอด---" ่ต้นของการพูดคุยกับลมกระจ่างจันทร์แรมก็พอจะได้รับรู้ความคืบหน้าบ้างแต่พอผ่านไปสักพักก็เริ่มคุยไม่รู้เื่ ดูสับสนวุ่นวายไปหมดจนมีแต่เื่ไร้สาระ
"หยุดเลยค่อยๆ พูดมาทีละเื่" ฉินโจ้วรีบขัดจังหวะเขาอย่างรวดเร็วไม่อย่างนั้นแล้วเขาคงไม่มีเวลาพูดเป็แน่
"กิลด์์ตั้งค่าหัวคุณแล้วอยู่ที่ 600 เหรียญทอง คุณจะไปไหนมาไหน่นี้ต้องระวังตัวด้วยนะ"ลมกระจ่างจันทร์แรมพูดจบ ก็เริ่มพูดต่อ "ว่าแต่... บอกหน่อยสิพี่ฉินทำอย่างไรถึงเกลี้ยกล่อมชุดขาวลอยล่องให้เดินทางไปด้วยกันได้นั่นเป็สาวงามระดับตำนานเลยเชียวนา และได้ยินมาว่าเธอยังโสดอยู่อีกด้วยนะ"
ประโยคแรกทำให้ฉินโจ้วรู้สึกซาบซึ้งใจแต่พอได้ยินประโยคหลังเท่านั้นแหละ เกือบจะด่ากลับไปแต่ยังดีที่เขาอารมณ์ยังดีอยู่ ก่อนจะตอบไปว่า "พี่เสี่ยวเฟิงผมว่าตอนนี้ไม่น่าจะใช่เวลามาทำอะไรแบบนี้ไหนคุณจะเล่าเื่การรวบรวมคนของกลุ่มกำลังหลักของกิลด์์ไม่ใช่หรือ? พวกมันกำลังมุ่งหน้าไปทำอะไร มาหาผมอย่างนั้นหรือ?
"อ๋อ...เื่นั้นหรือ คือตอนที่ผมกำลังล้างชื่อสีแดงออก ไม่กี่วันที่ผ่านมาผมเจอผู้เล่นบางคนของกิลด์์ดูเหมือนกำลังทำอะไรอย่างลับๆซึ่งดูเหมือนว่าจะต้องเคลื่อนไหวทำการใหญ่อะไรสักอย่างเป็แน่ผมเลยตามดูอยู่เงียบๆ แต่สุดท้ายแล้วก็หยุดยั้งไม่สำเร็จเวลานี้ก็เลยต้องหลบซ่อนตัวอยู่" ลมกระจ่างจันทร์แรมขอโทษกลายๆแต่ฟังจากน้ำเสียงแล้วดูเหมือนจะดีใจอยู่ไม่น้อย
"มีเื่แบบนี้ด้วยหรือ? อย่างไรคราวหน้าถ้าจะลงมืออีกอย่าลืมบอกด้วย" ดักตีคนจากในเงามืดเป็คนเถื่อนไร้ร่องรอย ฉินโจ้วสนใจเื่ทำนองนี้เป็อย่างมาก
"พี่ฉินนี่คุณมีค่าหัว 600 เหรียญทองแล้วนะตอนนี้ยังกล้าวิ่งไปไหนมาไหนอีกหรือเนี่ย"ลมกระจ่างจันทร์แรมพูดจบก่อนที่จะหัวเราะออกมา
"ตีค่าตัวผมด้วยเงินแค่600 เหรียญทองนี่นะ ผมจะบอกให้พวกเขาเข้าใจ 600 เหรียญทองมันเป็เลขแห่งลางร้าย (250x2)+100 ไม่รู้ไอ้โง่หน้าไหนถึงคิดตัวเลขนี้ขึ้นมา"เขาพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความรังเกียจอย่างเปิดเผย (250 หมายถึง คนบ้า ปัญญาอ่อนไม่เต็มบาท)
ลมกระจ่างจันทร์แรมหัวเราะร่าก่อนจะพูดว่า"พี่ฉิน ผมชื่นชมคุณ ถ้าเป็ไปตามที่ผมคาดไว้ล่ะก็ กิลด์์กำลังมองหาบอสตัวหนึ่งอยู่ดูเหมือนว่าบอสตัวนี้จะดรอปของบางอย่างที่ค่อนข้างพิเศษ น่าจะรู้ผลในเร็วๆ นี้คุณรอฟังข่าวแล้วกัน และจะพยายามคัดลอกเส้นทางหลบหนีมาให้"
ฉินโจ้วยิ้มลมกระจ่างจันทร์แรมรู้ดีว่าเขาชอบอะไร จึงได้เล่าเื่นี้ให้ฟัง ก่อนจะตอบไปว่า"ตกลง ไว้ค่อยติดต่อกัน"
"แล้วอย่าลืมเอายาแดงกับลูกธนูมาให้ด้วยนะ"ลมกระจ่างจันทร์แรมรู้สึกอับอายที่ต้องพูดแบบนี้แต่ตอนนี้เขาไม่มีเงินพอที่จะจ่ายให้ และแถมยังาเ็หนักอีกด้วย
"แค่เื่เล็กน้อยว่าแต่มีอะไรจะถามอีกไหม?" ฉินโจ้วนั้นไม่ได้สนใจเหรียญทองเล็กน้อยพวกนั้นการใช้เงินแลกเปลี่ยนกับความเป็เพื่อนของผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งนั้นมันค่อนข้างคุ้มค่า
"ความสัมพันธ์ของนายกับชุดขาวลอยล่องไปถึงขั้นไหนกันแล้วแค่จับมือกัน... หรือว่าจูบกันแล้ว... ว่าแต่ใครเป็ฝ่ายรุกก่อน เธอหรือว่านาย? แล้วรสชาติเป็อย่างไร?ว่าแต่น้องชายคนนี้ยังโสดยังซิงอยู่นะว่าจะลองถามพี่สะใภ้หน่อยเผื่อเธอจะมีน้องสาวอยู่บ้าง จะได้แนะนำให้รู้จักกันไว้
"ไปให้ไกลๆเลย"
ฉินโจ้วจบบทสนทนากับลมกระจ่างจันทร์แรมด้วยคำพูดเดียว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้