บทที่ 13 ด้ายแดงของดาวมหาลัยซูเหยียน
"ต้องให้หนูถามใช่ไหม"
ปากเล็กของซูเหยียนคว่ำลง แล้วหันไปมองเย่จื่อเฉิน
"เมื่อกี้ปู่ของฉันเขากิน...อี๋ นายเองเหรอ"
ถ้าเป็เมื่อก่อนซูเหยียนคงจะไม่รู้จักเย่จื่อเฉินหรอก แต่เพราะความฮอตของเย่จื่อเฉินในมหาวิทยาลัยใน่นี้ ถ้าเธอไม่รู้จักเขาก็เกินไปแล้ว
"ซะ...ซูเหยียน!"
นี่เป็ครั้งแรกที่เย่จื่อเฉินได้พูดกับเทพธิดาในระยะประชิดขนาดนี้ แถมฝ่ายเทพธิดายังเป็คนเปิดปากพูดก่อนด้วย ส่วนเขาที่อึ้งอยู่ก็ราวกับเป็คนปัญญาอ่อนไปเลย
ชายชราอยู่มาจนอายุปูนนี้แล้วย่อมต้องมองออกอย่างแน่นอน แค่เมื่อครู่นี้เขาก็มองเห็นเค้าลางบางอย่างแล้ว
"พวกเธอรู้จักกันเหรอ"
"เขาอยู่มหาลัยเดียวกับหนูค่ะ"
ซูเหยียนอธิบาย แววตาของชายชราเปล่งประกายแวบหนึ่ง แล้วหันไปพูดกับซูเหยียน
"โอเค ปู่พูดความจริงก็ได้ ปู่กินเหล้าจริง แต่แกก็อย่าไปโทษพ่อหนุ่มนี่เลย ปู่เป็คนมาตีซี้กินเหล้ากับเขาเอง"
"แต่หมอ..."
"หมอทำไม หรือหลานสาวปู่จะฟ้องหมอล่ะ? แล้วอีกอย่าง หมอก็บอกด้วยว่าไม่ให้ปู่กินปิ้งย่าง แต่หลานก็แอบพาปู่มาไม่ใช่หรือไง?"
ชายชราฉีกยิ้ม มองซูเหยียนด้วยแววตาข่มขู่อยู่ในที
"ปู่ไม่มีเหตุผล"
ซูเหยียนโกรธจนกัดปาก ที่เธอพาชายชรามาที่นี่ก็เพราะเห็นว่าวันวันเขาอยู่แต่บ้านจนเก็บกดเกินไป ถึงได้พาออกมา
ตัวเองนั้นหวังดี แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะทำให้ชายชรามาแว้งกัดได้
"หึ งั้นหลานก็คิดเสียว่าปู่ไม่มีเหตุผลก็แล้วกัน ถ้าหลานพูดเื่กินเหล้าออกไป ปู่ก็จะบอกว่าหลานพาปู่มากินปิ้งย่าง สุดท้ายเราก็ลำบากกันทั้งคู่"
ซูเหยียนอารมณ์เสียทันที
"ปู่อยากจะทำอะไรก็แล้วแต่ปู่เลยค่ะ!"
"แบบนี้สิถึงจะเป็หลานรักของปู่ ไปซื้อน้ำเปล่ามาให้ปู่บ้วนปากหน่อยสิ เดี๋ยวกลับบ้านไปแล้วพ่อหลานได้กลิ่นแล้วจะแย่เอา"
"ซื้อที่นี่ก็ได้นี่คะ ปู่คงไม่ได้คิดจะแอบกินเหล้าอีกใช่ไหม"
"ปู่เป็คนแบบนั้นหรือยังไง รีบไปเถอะ"
"เหอะ หนูจะเชื่อปู่สักครั้งก็แล้วกัน"
ซูเหยียนคว่ำปากเดินออกไปจากร้านปิ้งย่าง เย่จื่อเฉินมองตามร่างของซูเหยียนไปจนลับตา
สมแล้วที่เป็ดาวมหาลัยอันดับหนึ่ง ขนาดท่าทางตอนโกรธก็ยังน่ามองเลย
อีกอย่าง ดูจากสภาพของเธอแล้วน่าจะไม่ได้แต่งหน้าด้วย!
ไม่ปัดแก้มก็ยังสวยขนาดนี้ ถ้าแต่งหน้าแล้วจะสวยขนาดไหน
ท่าทางของเย่จื่อเฉินตกอยู่ในสายตาของชายชราทั้งหมด จนสายตามองไม่เห็นร่างของซูเหยียนแล้ว ชายชราถึงได้ยกมือขึ้นไปปัดผ่านหน้าเย่จื่อเฉินไปมา
"พ่อหนุ่ม"
"ฮะ!"
เย่จื่อเฉินถึงได้สติกลับมา เมื่อเห็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของชายชราเขาก็เกิดอาการประหม่าเล็กน้อย
"เธอชื่ออะไร?"
"เย่จื่อเฉินครับ"
"เย่จื่อเฉิน" ชายชราพยักหน้ารับเล็กน้อย จากนั้นจึงมองไปยังทิศทางที่ซูเหยียนหายไปแล้วพูดขึ้น "เธอว่าหลานสาวฉันเป็ยังไงบ้าง?"
"ครับ?"
เย่จื่อเฉินงงไปเล็กน้อยกับคำถามของชายชรา แต่ก็ยังเอ่ยตอบ
"ซูเหยียนเป็ดาวมหาลัยที่ดังมากในมหาลัยเราครับ หน้าตาสวย จิตใจก็ดี แถมยังเรียนเก่งอีก สรุปก็คือดีไปหมดเลยครับ"
"งั้นเหรอ" หลังจากที่ชายชราได้ยิน รอยยิ้มที่แฝงไว้ด้วยความนัยก็ปรากฏขึ้นในดวงตา "เรามาทำข้อตกลงกันหน่อยไหม?"
ระหว่างที่เดินทางกลับมหาวิทยาลัย ย่างก้าวของเย่จื่อเฉินช้ามาก แต่หัวใจกลับเต้นรัวเร็ว ไม่ใช่เพราะอะไร แต่เป็เพราะข้างกายของเขามีดาวมหาลัยอย่างซูเหยียนเดินอยู่ด้วย
ถึงทั้งคู่จะเดินอยู่ด้วยกัน แต่กลับไม่มีใครพูดอะไรเลย
เป็เวลาเนิ่นนาน ซูเหยียนจึงเป็ฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน
"นายกับปู่ฉันตกลงอะไรกันไว้หรือเปล่าเนี่ย?"
เย่จื่อเฉินใจเต้นตึกตัก เพราะมันจริงอย่างที่ซูเหยียนพูด แต่ชายชรานั้นได้กำชับเขามานักหนาว่าห้ามพูดออกไปเด็ดขาด เขาจึงทำได้แค่ตีหน้ามึนตอบไป
"เปล่า"
"เชอะ นายไม่ต้องช่วยปิดบังแทนปู่ฉันเลย ฉันรู้หมดแล้ว"
ซูเหยียนเบ้ปากพูด
"ตอนที่ท่านไป ตรงเอวท่านนูนออกมาขนาดนั้น ถ้าฉันเดาไม่ผิด นายน่าจะซื้อเหล้าให้ท่านใช่ไหม"
เป็คนสวยก็ว่ามากแล้ว ยังจะฉลาดอีก แล้วจะให้คนอื่นมีชีวิตต่อไปยังไงเนี่ย
เย่จื่อเฉินแอบถอนหายใจยาวอยู่4ภายใน นึกถึงตอนที่อยู่นอกร้านปิ้งย่าง ตอนที่ซูเหยียนพยายามห้ามคุณปู่ซูไม่ให้ดื่มเหล้าไว้สุดกำลัง ก็รีบอธิบาย
"เหล้าของฉันไม่เหมือนเหล้าอย่างอื่น ถึงคุณซูจะดื่มเข้าไปก็ไม่เป็อะไรหรอก มีแต่จะเป็ประโยชน์ต่อร่างกาย"
"พอเลย ฉันไม่เคยได้ยินว่ามีเหล้าอะไรที่มันดีต่อร่างกาย แต่นายไม่ต้องเป็กังวลไป ฉันไม่โทษนายหรอก"
ซูเหยียนระบายยิ้ม รอยยิ้มแรกที่เย่จื่อเฉินได้เห็นโดยบังเอิญถึงกับทำให้เขาอึ้งไปในทันที
"สวยจัง"
เย่จื่อเฉินตอบกลับด้วยอาการเพ้อฝัน ซูเหยียนหน้าแดงขึ้นมาดื้อๆ หลังจากที่ได้ยิน ทั้งๆ ที่เธอได้ยินคำพูดพวกนี้มาตั้งมากมายแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมในตอนที่มันออกมาจากปากของเย่จื่อเฉิน เธอกลับมีความรู้สึกที่ต่างออกไป
เพื่อกลบเกลื่อนความผิดปกติในใจ ซูเหยียนจึงพูดขึ้น
"นี่ นายมัวยืนบื้ออะไรอยู่ ปู่ให้นายไปส่งฉันให้ถึงหอโดยปลอดภัยนะ"
"อะ อื้อ!"
เย่จื่อเฉินรีบก้าวเท้าเดิน แต่สายตากลับจ้องมองใบหน้าด้านข้างของซูเหยียนอยู่อย่างนั้น
ส่วนซูเหยียนก็หน้าแดงระเรื่อ บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนดูอบอุ่นขึ้นมาในทันที
"จริงสิ นายเป็ใครกันแน่ ่นี้บนเว็บไซต์ซุบซิบของมหาลัยมีแต่ข่าวของนาย"
ซูเหยียนทำลายบรรยากาศที่เงียบงันขึ้นมาอีกครั้ง เย่จื่อเฉินตบหน้าผากพร้อมกับถอนหายใจแล้วพูดอย่างเอือมระอา
"แม้แต่ดาวมหาลัยก็ยังชอบเมาท์ด้วย"
"ผู้หญิงก็ชอบเมาท์กันทั้งนั้นแหละ ดาวมหาลัยไม่ใช่คนหรือไง!"
ซูเหยียนต่อว่าหน้าบึ้งตึง เย่จื่อเฉินอดยิ้มขำไม่ได้
ทั้งสองคนเดินคุยกันมาจนถึงหอพัก ซูเหยียนเม้มปากโบกมือให้เย่จื่อเฉินแล้วจึงเดินเข้าหอไป
"คือว่า..."
"หืม?"
ซูเหยียนหันมาทันที เธอไม่รู้เลยว่าทำไมตัวเองถึงได้มีปฏิกิริยาตอบสนองเร็วขนาดนี้ ที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือเธอกำลังคาดหวังอะไรบางอย่างอยู่ในใจด้วย...
"ฝันดี"
ลังเลอยู่นาน เย่จื่อเฉินถึงได้พูดคำนี้ออกมา
ไม่รู้ว่าทำไมความผิดหวังถึงได้ตีตื้นขึ้นมาในใจของซูเหยียน แต่ก็ยังยิ้มตอบกลับไป
"นายก็เหมือนกัน รีบพักผ่อนล่ะ ฉันไปแล้วนะ"
"อืม"
เย่จื่อเฉินหัวเราะแ่เบาพร้อมกับโบกมือให้ซูเหยียน จนหลังของซูเหยียนหายลับไปจากสายตา เย่จื่อเฉินถึงได้ตบขาด่าตัวเองอย่างหนัก
"แม่เ้า ไอ้โง่! แค่ขอเบอร์มันยากขนาดนั้นเลยหรือไง"
เทพธิดาเข้าหาได้ง่ายขนาดนั้นหรือยังไง โอกาสดีขนาดนั้น พลาดไปแล้วก็อาจจะพลาดไปตลอดชีวิตเลยก็ได้
ในขณะที่เย่จื่อเฉินหัวเสียกับตัวเองอยู่นั้น...
ติ๊ง!
ได้รับด้ายแดงหนึ่งเส้น
ด้ายแดง?
พอกดเปิดหีบสมบัติ เย่จื่อเฉินก็เห็นว่าในหีบสมบัติมีด้ายสีแดงอยู่หนึ่งเส้น
ด้ายแดง : ดึงหาคู่ในระยะพันลี้ ผู้เฒ่าจันทรา[1]ทำขึ้นด้วยมือ
ผู้ดึงด้ายเย่จื่อเฉิน ผู้ถูกดึงซูเหยียน
ระดับความรู้สึกดีปัจจุบัน 10
นี่มันอะไรเนี่ย!
เย่จื่อเฉินมองดูด้ายแดงบนโทรศัพท์โดยที่หัวสมองมึนงง เขากับซูเหยียนเพิ่งรู้จักกันแล้วทำไมถึงได้มีการหาคู่โผล่ออกมา?
หรือโชคชะตาจะกำหนดให้เขากับซูเหยียนได้ร่วมทางเดินกัน?
แต่ไอ้ระดับความรู้สึกดีนี่มันมีไว้ทำอะไรกัน แล้วข้างบนนี้ก็ไม่ได้บอกไว้ว่าจะได้อยู่ด้วยกันมากแค่ไหน
ติ๊ง!
ผู้เฒ่าจันทราขอเพิ่มคุณเป็เพื่อน
___________________________________________________
[1] ผู้เฒ่าจันทรา ผู้เฒ่าจันทราเป็เทพที่ดูแลในเื่ของคู่ครองความรักและการแต่งงาน