เซี่ยเสี่ยวหลานก็จะบ้าตายเช่นกันกัน
ทำไมตระกูลจี้ไม่ขังคนสมองมีปัญหาเอาไว้ที่บ้านกันนะ?
ตระกูลจี้ไม่รู้จักคิดกันทั้งตระกูลเลยหรืออย่างไร คิดว่าทังหงเอินแค่ล้อเล่นกับพวกเขาจริงๆ น่ะหรือ? บุคคลที่มีตำแหน่งใหญ่เป็อันดับสองของเขตเศรษฐกิจพิเศษ ไม่คิดจะให้ความสำคัญเลยใช่ไหม?
เซี่ยเสี่ยวหลานรู้ดีว่าไม่กี่วันมานี้ทังหงเอินอาศัยอยู่ที่ปักกิ่งเพื่อพบปะเพื่อนฝูง
ตระกูลจี้คงทนไม่ไหว ถึงได้ทำอะไรบุ่มบ่ามเช่นนี้ หากตระกูลจี้ยอมปะทะกับทังหงเอินตรงๆ เซี่ยเสี่ยวหลานคงต้องชมว่าพวกเขาเป็พวกปากตรงกับใจ เด็ดเดี่ยวมากจริงๆ
หาตัวทังหงเอินไม่เจอ หรือไม่กล้าไปหาทังหงเอินกันแน่ ถึงได้มารังแกคนไร้อำนาจแบบเธอถึงที่?
ถูกคนดักหน้าประตูใหญ่มหาวิทยาลัย เซี่ยเสี่ยวหลานย่อมรู้สึกอัดอั้นไปด้วยความโกรธ
เธอออกมาข้างนอกคนเดียว และเพิ่งกลับมาจากสือช่าไห่ เซี่ยเสี่ยวหลานตอนนี้เหมือนมดที่กำลังย้ายรัง เธอค่อยๆ เพิ่มข้าวของเครื่องใช้ให้กับบ้านหลังใหม่ เมื่อซื้อบ้านแล้วจึงไม่อาจใช้เงินได้อย่างสุรุ่ยสุร่าย เธออยากเก็บเงินอีกสักก้อนเพื่อปรับปรุงบ้านครั้งใหญ่ ทว่าตอนนี้คงต้องพักเื่นั้นไว้ก่อนชั่วคราว
บ้านหลังใหญ่ ไม่ต้องเบียดเสียดกับคนอื่น ยังบอกว่า ‘ทนอยู่ไปก่อน’ ใครมาได้ยินเข้าคงอยากต่อยสักหมัดแน่ๆ
์อาจจะไม่พอใจที่เซี่ยเสี่ยวหลานหยิ่งผยองเกินไป ตอนกลับมหาวิทยาลัยจึงได้ทำให้เธอเจอกับจี้หย่า
คุณนายจี้หย่ายังคงสวยสะดุดตาเช่นเคย ทว่าวันนี้ต่างจากวันก่อน เพราะข้างกายเธอมีชาวต่างชาติมาเป็ผู้ติดตามเพิ่มอีกคน
เซี่ยเสี่ยวหลานยังไม่ทันเข้าใจว่าวันนี้จี้หย่าโผล่มาได้อย่างไร อีกฝ่ายก็เปลี่ยนกลยุทธ์เสียแล้ว
จี้หย่าไม่ขอให้เธอไปจากจี้เจียงหยวน แต่กลับขอให้เธอไปต่างประเทศกับจี้เจียงหยวนด้วย!
คำขอนี้ช่างน่าใจหายยิ่งนัก ครั้งก่อนยังบอกว่าอีกหน่อยหนิงเสวี่ยจะไปต่างประเทศกับจี้เจียงหยวนอยู่เลยมิใช่หรือ? บอกว่าหนิงเสวี่ยกับจี้เจียงหยวนเหมาะสมกันที่สุด ทั้งสองตระกูลต่างก็อยากให้พวกเขาคบหากัน หรือทั้งหมดนี้เพียงพูดล้อเล่นกัน ผ่านไปไม่กี่วัน จี้หย่าก็อยากเปลี่ยนว่าที่ลูกสะใภ้แล้ว?
จี้หย่าอยากเป็บ้า แต่เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ว่างเป็บ้าด้วยน่ะสิ ให้เธอไปต่างประเทศกับจี้เจียงหยวน ถ้าเซลล์สมองไม่มีปัญหา เส้นเอ็นที่เชื่อมสมองเอาไว้ก็คงเชื่อมผิดจุดไปหมดแน่นอน!
ระบบความคิดของจี้หย่าตัดสินทุกอย่างด้วยตัวเองไปแล้ว
ตอนนี้ทังหงเอินไม่ยอมให้เธอออกนอกประเทศ ดังนั้นเธอกับจี้เจียงหยวนก็ไม่สามารถไปไหนได้
จี้หย่าคิดว่า ทังหงเอิน้าปกป้องเซี่ยเสี่ยวหลานมิใช่หรือ ถ้าเช่นนั้นก็พาเซี่ยเสี่ยวหลานไปด้วยกันเสีย รับรองว่าสามารถออกนอกประเทศได้อย่างแน่นอน!
พาเซี่ยเสี่ยวหลานออกนอกประเทศ พออยู่นอกประเทศแล้วเซี่ยเสี่ยวหลานก็ทำอะไรไม่ได้ อำนาจของทังหงเอินก็ย่างกรายไปไม่ถึงเช่นกัน ลำดับแรกที่จี้หย่าอยากทำลายคือกำแพงของทังหงเอิน ปี 1984 สำหรับเด็กนักศึกษาแรงดึงดูดเื่การเรียนต่อต่างประเทศนั้นมีสูงมาก จี้หย่าอยากใช้สิ่งนี้เป็เงื่อนไข และเพื่อเพิ่มพลังการโน้มน้าว เธอถึงได้พาจอร์จมาด้วย
ชาวต่างชาติบอกว่าจะทำเื่เรียนต่อให้ คงน่าเชื่อถือว่าให้ชาวจีนเป็คนพูด
จี้หย่าทำอะไรไม่เคยสนใจความคิดของผู้อื่น เธอทำตามใจตัวเองจนเคยชิน และมีแต่คนตามใจเธอเสมอ ตระกูลจี้ไม่เห็นด้วยที่เธอออกมาเช่นนี้ แต่จอร์จยินดีช่วยเธออย่างไร้เงื่อนไข จอร์จคิดว่ามันช่างโรแมนติกมาก จี้เจียงหยวนไม่ยอมกลับอเมริกาเพราะความรัก นั่นเป็สิ่งที่ไม่ควรถูกตำหนิ
ถึงอย่างไรเขาก็มีเงินมากพอ หากแฟนสาวของจี้เจียงหยวนอยากไปต่างประเทศ เขาก็สามารถรับผิดชอบค่าเทอมกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้อีกฝ่ายได้
นี่คือการทำบุญเพื่อบ่มเพาะบุคลากรคุณภาพให้กับประเทศล้าหลังอย่างจีน จอร์จรู้สึกเหมือนว่าตนกำลังทำเื่สูงส่ง
เซี่ยเสี่ยวหลานที่ถูกขวางทางอยากจับสองคนนี้กดลงพื้นแล้วบดขยี้ซ้ำๆ เหลือเกิน!
ใช่แล้ว ต้องเป็พื้นที่ไม่ได้เรียบลื่นอย่างพื้นกระเบื้อง แต่ต้องเป็พื้นปูนขรุขระหยาบกระด้าง พวกเขาถึงจะรู้สึกเจ็บ และเลิกรังควานเธอเสียที จี้หย่าฟังภาษามนุษย์ไม่เข้าใจ เซี่ยเสี่ยวหลานปฏิเสธหรืออธิบายไปย่อมไร้ประโยชน์ เพราะไม่ว่าอย่างไรจี้หย่าก็ยังคงยืนกรานจะทำตามสิ่งที่ตนเองคิดเท่านั้น
ชาวต่างชาติคนนี้ก็เหมือนกัน ทำสีหน้าเมตตากรุณา เซี่ยเสี่ยวหลานอยากพ่นคำหยาบใส่เขาจริงๆ
ทว่ารูปลักษณ์ภายนอกของจี้หย่ากับจอร์จนั้นน่าหลงใหลเกินไป แค่มองก็รับรู้ได้ว่าพวกเขาไม่ใช่คนเดินดินพูดจาเหลวไหล จี้หย่าดูดีมีสง่าราศี จอร์จเองก็ดูสุขุมนุ่มลึก คนทั้งสองที่เป็เช่นนี้บอกเซี่ยเสี่ยวหลานว่าอยากส่งเธอไปเรียนต่อต่างประเทศ แล้วเธอยังไม่ยอมไปอีกหรือ?
“เรียนสถาปัตยกรรมที่ต่างประเทศดีมากเลยไม่ใช่หรือ ถ้าไม่ชอบอเมริกา ยังมีอังกฤษเป็ตัวเลือกอื่นอีกด้วย!”
เพราะอากาศหนาวเกินเวลาพูดจึงมีไอเย็นลอยบดบังใบหน้า แก้มของเซี่ยเสี่ยวหลานเย็นะเื และเธอทนเสียเวลาต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว “ขอโทษค่ะ ฉันไม่สนใจ ฉันจะขอพูดซ้ำอีกครั้ง ฉันกับลูกชายคุณไม่ได้เป็อะไรกัน... ถ้าคุณมารบกวนฉันอีก ฉันคงต้องขอให้เ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยมาจัดการแล้ว ต่อให้ยืนอยู่ตรงหน้าอธิการบดี ฉันก็จะบอกแบบเดียวกันว่าฉันมีคนรักอยู่แล้ว ทางมหาวิทยาลัยจะลงโทษอย่างไรฉันก็รับได้ แต่คนรักของฉันไม่ใช่ลูกชายคุณ!”
แม้หัวชิงจะไม่ห้ามนักศึกษามีความรัก แต่ก็ไม่ค่อยสนับสนุนสักเท่าไร
หนุ่มสาวถูกตาต้องใจกันย่อมเกิดการคบหาดูใจ และท่าทีของมหาวิทยาลัยคือการหลับตาข้างหนึ่ง
เื่เล็กน้อยพวกนี้หากรู้ถึงหูมหาวิทยาลัย ทางมหาวิทยาลัยเองก็คงอยู่เฉยไม่ได้อีก และแน่นอนว่าคงไม่เป็ผลดีกับเซี่ยเสี่ยวหลานเช่นกัน
แต่เซี่ยเสี่ยวหลานยินดีจะทำเช่นนี้!
กวนฮุ่ยเอ๋อไม่เคยเจอจี้หย่า ไม่เคยไปมาหาสู่ แต่หลังฟังคำพูดแค่ไม่กี่ประโยค กวนฮุ่ยเอ๋อก็รู้สถานะของจี้หย่า วันนี้กวนฮุ่ยเอ๋อเห็นเองกับตา ว่าจี้หย่าไม่ได้บุกมาถึงที่เพียงคนเดียว ทว่ายังพาชาวต่างชาติอีกคนมารังแกเซี่ยเสี่ยวหลานด้วย
แขกต่างชาติดีเด่นักหรือ คนอื่นกลัวชาวต่างชาติแล้วอย่างไร กวนฮุ่ยเอ๋อผู้นี้ไม่กลัว
เธอกำลังจะเดินตรงไปหา แต่มีคนเดินมาจากด้านหลัง และเบียดเธอไปอยู่ด้านข้างเสียก่อน
“ขอทางหน่อย พวกเราขอทางหน่อยค่ะ”
“ขอทางหน่อยค่ะ ขอทางด้วย รบกวนหลีกทางหน่อยค่ะ”
“เสี่ยวหลาน เกิดอะไรขึ้น”
“น้องหกไม่ต้องกลัวนะ พวกเรามาแล้ว!”
สมาชิกห้อง 307 ได้ยินว่าเซี่ยเสี่ยวหลานถูกคนดักรออยู่หน้ามหาวิทยาลัยจึงทิ้งงานในมือแล้ววิ่งมาหาเธอทันที นอกจากสองคนที่ไม่อยู่ในหอพักจึงไม่ได้มาด้วย คนอื่นๆ ล้วนมาถึงหน้ามหาวิทยาลัยกันหมดแล้ว
หยางหย่งหงอาศัยร่างกายที่แข็งแกร่งของตนพาสมาชิกห้อง 307 ฝ่าวงล้อมเข้าไปยืนอยู่ข้างเซี่ยเสี่ยวหลาน
“เสี่ยวหลาน เธอไม่เป็ไรใช่ไหม เกิดเื่อะไรขึ้นกันเนี่ย!”
หยางหย่งหงดึงเซี่ยเสี่ยวหลานมาอยู่ด้านหลังตน พลางมองจี้หย่ากับจอร์จด้วยสีหน้าฉงนสงสัย
ซูจิ้งตำหนิ “พวกเธอเป็อะไรกันไปหมด เอาแต่ยืนดูเื่สนุกอย่างนั้นหรือ คนนอกมารังแกเด็กหัวชิงถึงที่ วันนี้ถ้าพวกเธอยืนดูเพื่อนนักศึกษาเซี่ยเสี่ยวหลานถูกรังแกหน้าตาเฉย อนาคตหากมีคนอื่นมารังแกพวกเธอบ้าง แล้วใครจะกล้าก้าวออกมาช่วย?”
ทุกคนยังไม่เข้าใจว่าเื่ราวเป็มาอย่างไร แต่หลังถูกซูจิ้งตำหนิก็เริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาทันที
ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่า จี้หย่าอยากพาเซี่ยเสี่ยวหลานไปต่างประเทศ เพราะลูกชายเธอกับเซี่ยเสี่ยวหลานกำลังคบหากัน ผู้เป็แม่้าประนีประนอม ถึงกับเดินทางมาขอโทษเซี่ยเสี่ยวหลานที่เคยต่อต้าน
แต่เพื่อนนักศึกษาเซี่ยเสี่ยวหลานยืนกรานว่าไม่ใช่ เธอไม่ได้คบหากับลูกชายของจี้หย่า และไม่อยากไปต่างประเทศ
ซูจิ้งรู้สึกกลัว แม่ของจี้เจียงหยวนหรือนี่... ก่อนหน้านี้เธอยังคิดว่าจี้เจียงหยวนทั้งหน้าตาดีและอบอุ่นอยู่เลย ทว่าตอนนี้ดูเหมือนจะน่ากลัวเกินไป ดันมีแม่เอาแต่ใจแบบนี้เสียได้
“คุณน้า ให้จี้เจียงหยวนออกมาพูดสิคะ เื่ที่เสี่ยวหลานมีแฟนแล้วพวกเราก็รู้กันหมด แต่อีกฝ่ายไม่ใช่จี้เจียงหยวนอย่างแน่นอนค่ะ พวกคุณสองแม่ลูกมีปัญหากันก็ควรกลับบ้านไปจัดการกันเองสิคะ หยุดผลักความรับผิดชอบมาที่เสี่ยวหลานจะได้ไหม พฤติกรรมของคุณถือเป็การรบกวนต่อชีวิตการเรียนของพวกเราอย่างรุนแรงนะคะ!”
ซูจิ้งเป็คนใจกล้า และพูดสำเนียงปักกิ่ง จี้หย่าจึงอดปรายตามองเธอไม่ได้
แน่นอนว่ามองเพียงวูบเดียวเท่านั้น เพราะจี้หย่าไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตาอยู่แล้ว
“สาวน้อย เธอกล้ายืดอกรับประกันแทนเพื่อนแบบนี้ แต่รู้หรือเปล่าว่าลับหลังเพื่อนเธอเป็คนอย่างไร...”
“พอได้แล้ว! อายุปูนนี้แล้วยังคิดจะรังแกพวกนักศึกษาหญิงอีก ไม่อายบ้างหรือไร?”
กวนฮุ่ยเอ๋อทนดูต่อไม่ไหวจึงพูดโพล่งขัดจังหวะจี้หย่าขึ้นมา
จี้หย่าเหลือบตาขึ้นมอง กวนฮุ่ยเอ๋อดูไม่เหมือนคนธรรมดาสามัญทั่วไป “คุณเป็ใคร มีสิทธิ์อะไรมายุ่งเื่นี้!”
กวนฮุ่ยเอ๋อแค่นยิ้มอย่างหงุดหงิด เธอไม่มีสิทธิ์แล้วใครมีสิทธิ์มิทราบ? ฉวยโอกาสตอนโจวเฉิงไม่อยู่ปักกิ่งมารังแกแฟนสาวของเขา คิดว่าตระกูลโจวไม่มีสมาชิกคนอื่นแล้วหรืออย่างไร?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้