เมื่อถึงปลายยามโหย่วหลังจากที่ทุกคนทานมื้อเย็นเสร็จ และเก็บจานชามไปทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก็กลับมารวมตัวกันอยู่ที่โต๊ะทานข้าวอีกครั้งและเป็ท่านพ่อที่เอ่ยถาม เื่ที่ลู่ชิงอยากจะพูดคุยกับพวกเขาขึ้นมา ซึ่งนี่เป็เื่ที่น่าแปลกใจสำหรับทุกคนในครอบครัวอย่างมาก เพราะเมื่อก่อนลู่ชิงจะพูดน้อยและทำตัวเงียบ ๆ หากไม่มีผู้ใดถามนาง ก็จะทำงานของตนไม่เคยมีข้อสงสัยใด ๆ
“ชิงเอ๋อร์ท่านแม่ของเ้าบอกพ่อว่า เ้ามีเื่อยากจะพูดคุยกับพวกเราเช่นนั้นหรือ” ลู่เวินเอ่ยถามบุตรสาว
“เ้าค่ะท่านพ่อ ข้ามีเื่สำคัญมากอยากจะบอกความจริงบางอย่างกับพวกท่านทุกคน ก่อนที่จะเล่าข้าอยากขอให้พวกท่านตั้งสติและทำความเข้าใจกับสิ่งที่จะได้ยิน เพราะเื่ที่จะพูดต่อไปนี้อาจจะเหลือเชื่อจนเกินไป หรือจะเรียกว่าเป็เื่เหนือธรรมชาติก็ว่าได้ แต่มันเกี่ยวข้องกับบุตรสาวคนนี้ของท่าน รวมถึงน้องสาวของพวกท่านสองคนด้วยเ้าค่ะ” ที่ลู่ชิงพูดเช่นนั้นเพราะอยากให้พวกเขามีสติกับความจริงที่นางกำลังจะพูดออกไป
“เอาเถอะ ไม่ว่าจะเื่อะไรพวกเราทุกคนยินดีที่จะรับฟังทั้งสิ้น เ้าพูดมันออกมาได้เลยนะชิงเอ๋อร์” เขาอยากจะรู้ว่าบุตรสาวมีเื่หนักใจอันใดกันถึงได้ทำสีหน้ากังวลเช่นนั้น
“ลู่ชิงที่ยืนอยู่ต่อหน้าพวกท่านในตอนนี้ ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกยังคงเป็บุตรสาวของท่านพ่อท่านแม่ และเป็น้องสาวของพี่ชายทั้งสอง แต่ดวงจิตที่อยู่ในร่างกายนี้กลับไม่ใช่บุตรสาวตัวจริงของท่าน สวีลู่ชิงตัวจริงได้ตายจากไปั้แ่เมื่อเช้ามืดของวันนี้แล้วเ้าค่ะ และข้าที่เป็ดวงิญญาที่ตายจากโลกคู่ขนานอีกโลกหนึ่งอันห่างไกล ถูกท่านเทพชะตาพามาอยู่ในร่างบุตรสาวของพวกท่าน ซึ่งข้าเองได้ให้สัญญากับสวีลู่ชิงไว้แล้วว่า จะช่วยดูแลพวกท่านแทนนางนับจากนี้เป็ต้นไปเ้าค่ะ” ข้าเล่าออกไปและสังเกตอาการของทุกคนว่าเป็อย่างไร แน่นอนว่าท่านแม่ร้องไห้ออกมา ั้แ่บอกว่าลู่ชิงตัวจริงนั้นได้ตายไปแล้ว ท่านพ่อกับพี่ชายดูจะเสียใจไม่น้อยแต่ไม่มีน้ำตาให้เห็น
“ขอบอกพวกท่านตามตรง ตัวข้าในโลกแห่งนั้นไม่เป็ที่รักของครอบครัวสักเท่าใดนัก พ่อแม่รักพี่ชายมากถึงมากที่สุด ไม่ว่าพี่ชายอยากได้อะไร้าอะไรล้วนได้ตามที่้าเสมอ แต่กับข้าอยากได้อะไรต้องหามันมาด้วยกำลังของตนเองเท่านั้น ในใจลึก ๆ ข้าใฝ่ฝันมาตลอดว่าอยากมีครอบครัวที่พ่อแม่รักลูกทุกคน ไม่ว่าจะสตรีหรือบุรุษขอแค่มีครอบครัวที่อบอุ่น ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขก็เพียงพอ ดังนั้นข้าที่ได้มาเกิดใหม่ในร่างของบุตรสาวพวกท่าน หากจะขอ
ความเมตตาฝากตัวเป็บุตรสาว เป็น้องสาวของพวกท่านจะได้หรือไม่เ้าคะ” ลู่ชิงคนใหม่พูดถึงเื่ครอบครัวที่นางใฝ่ฝัน และอยากมีในชีวิตสักครั้งให้กับทุกคนได้ฟัง
“เป็เพราะพ่ออย่างข้าที่ไม่เอาไหนปล่อยให้บุตรสาวต้องล้มป่วยจนตาย นี่คงเป็ลิขิตของ์ที่บุตรสาวของข้าได้ใช้ชีวิตเพียงแค่สิบสองหนาว ส่วนตัวพวกเราก็ไม่อาจรู้ได้ว่าจะมีชีวิตอยู่ยืนยาวหรือไม่ ไหน ๆ เื่ราวมันก็เกิดขึ้นแล้ว ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้อะไรได้ ไม่ว่าเ้าจะเป็ใครก่อนหน้านี้แต่ตอนนี้เ้าคือสวีลู่ชิงบุตรสาวคนเล็กของครอบครัวตระกูลสวี” แม้จะเสียใจอยู่ลึก ๆ แต่อย่างน้อยร่างของบุตรสาวก็ยังได้ทำความดีให้อีกคน ได้เกิดใหม่มีโอกาสใช้ชีวิต
ที่เหลือแทนนาง
“โธ่ชิงเอ๋อร์ลูกแม่ ฮือ ๆ เพราะพวกเราดูแลลูกได้ไม่ดี ทำให้เ้าต้องจากไปเร็วเช่นนี้ ฮือ ๆ ๆ” ฟางซินเองไม่อยากเชื่อว่าบุตรสาวของนางได้จากโลกนี้ไปแล้ว จึงยังทำใจไม่ได้ขอตัวกลับเข้าห้องไปก่อน
“เ้าช่วยให้เวลาท่านแม่ได้ทำใจสักพักเถิดนะ พวกเราเองก็เสียใจไม่น้อยแต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้วพวกเราคงต้องยอมรับความจริง เ้าเองอย่าได้กังวลขอเพียงไม่ทำร้ายคนในครอบครัว พวกเราก็อยู่ร่วมกันได้ต่อไปและเ้าก็เกิดอยู่ในร่างของชิงเอ๋อร์ เ้ายังเป็น้องสาวของพวกเราสองคนอยู่ดี” ลู่จื้อพูดขึ้นมาอย่างจริงจังและลู่เสียนก็พยักหน้าเห็นด้วยกับพี่ชาย
“อืม อาจื้อพูดถูกแล้วล่ะ พวกเรายังต้องใช้ชีวิตต่อไป ค่อย ๆ ทำความรู้จักนิสัยใจคอกันไป อย่างไรเสียพวกเราก็ตัดใจทิ้งเ้าไม่ได้อยู่ดี” ลู่เวินยังเคยแอบคิดว่าจะได้เห็นลู่ชิงร่าเริงสดใสบ้าง
“ฮึก ขอบคุณพวกท่านที่ไม่รังเกียจข้าที่เป็คนแปลกหน้ามาจากที่อื่น ข้าขอสัญญาว่าต่อจากนี้ไปความรู้ใดที่ติดตัวมาจากโลกเดิมจะนำทุกอย่างมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพื่อให้ทุกคนได้มีความเป็อยู่ที่ดีขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอนเ้าค่ะ” ลู่ชิงคุกเข่าลงและก้มหัวคำนับให้กับพวกเขา
“ข้ายังมีอีกเื่ที่อยากจะบอกพวกท่านเ้าค่ะ ถือว่าข้าบริสุทธิ์ใจไม่คิดมีความลับกับพวกท่าน ที่จะให้ข้าอยู่ที่นี่ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวตระกูลสวี และเื่นี้มันสำคัญมากหากข้าบอกไปแล้วพวกท่านต้องเก็บเป็ความลับ จะบอกให้คนอื่นรู้ไม่ได้เด็ดขาดนะเ้าคะ” ลู่ชิงไม่ลืมที่จะบอกพวกเขาเื่มิติวิเศษนั่น
“เื่สำคัญที่ต้องเก็บเป็ความลับเลยรึ ถ้าเช่นนั้นเ้าไม่ต้องบอกพวกเราก็ได้” ท่านพ่อถามข้าด้วยความสงสัย ว่าเป็เื่สำคัญอันใด แต่ก็ยังคิดเผื่อว่าไม่ต้องบอกและเก็บไว้กับตัวดีกว่า
“ไม่เป็ไรเ้าค่ะ บอกพวกท่านให้รู้ไว้ย่อมดีที่สุด ยามที่พวกท่านเห็นสิ่งแปลก ๆ จะได้ไม่ใจนจับไข้อย่างไรเล่า ตอนนี้จับมือกันไว้และหลับตานะเ้าคะ หายใจเข้าลึก ๆ ด้วยเ้าค่ะ ข้าจะพาพวกท่านไปยังที่แห่งหนึ่งขอให้พวกท่านมีสติยามที่บอกให้ลืมตา ถ้ามีข้อสงสัยอันใดสามารถถามข้าได้ทันทีเ้าค่ะ” ทุกคนทำตามที่ลู่ชิงบอกแล้วก็พูดคำว่าเข้ามิติ เพียงวูบเดียวก็พาทุกคนมาโผล่ด้านในของมิติแล้ว
“พวกท่านลืมตาได้แล้วเ้าค่ะ” ลู่ชิงบอกให้พวกเขาลืมตาทันทีที่เข้ามาในมิติของตน
“ชิงเอ๋อร์!!! นะ นี่เ้าพาพวกเรามาที่ใดกัน เมื่อครู่ยังอยู่ในบ้านอยู่เลยถ้าท่านแม่ออกมาไม่เจอเล่า” ลู่เสียนใว่าตนเองมาอยู่ที่ใด
“ชิงเอ๋อร์!! เ้าอาคารนั่นคือสิ่งใด ทำไมมันถึงมีขนาดใหญ่เช่นนั้น ที่เมืองหลวงไม่เคยเห็นมีอาคารเช่นนี้นะ” ลู่จื้อมองดูอาคารรูปร่างแปลกตาไปรอบ ๆ
“ชิงเอ๋อร์!! ที่เ้าบอกว่าเป็เื่สำคัญ หรือว่าเ้าจะได้รับพรวิเศษมาจากท่านเทพใช่หรือไม่” ลู่เวินนึกขึ้นได้ว่านี่น่าจะเป็สิ่งที่ลู่ชิงบอกไว้ก่อนหน้านี้
ทุกคนลืมตาขึ้นก็พากันใหันมองซ้ายทีขวาที ถามคำถามจนไม่เว้นช่องให้ลู่ชิงได้ตอบ นางจึงแอบอมยิ้มขำขันเล็กน้อย ก่อนที่ทุกคนจะตั้งคำถามอีกลู่ชิงรีบอธิบายให้ทุกคนฟังทันที
“ท่านพ่อที่นี่เป็มิติวิเศษที่ท่านเทพชะตามอบเป็ของตอบแทนให้ข้าเ้าค่ะ หากมีมิติแห่งนี้จะได้นำของต่าง ๆ ไปสร้างอาชีพให้กับพวกเรา อาคารขนาดใหญ่ที่พวกท่านเห็นมันเรียกว่าห้างสรรพสินค้า ทุกอย่างในนั้นล้วนเป็สินค้าที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันเ้าค่ะ มีข้าวสาร เนื้อสัตว์ อาหารแห้ง ผักผลไม้ แป้งที่ใช้ทำอาหารหรือทำขนมก็มีครบ ร้านเครื่องประดับ อุปกรณ์ตัดเย็บ เครื่องครัว และมีอีกมากมาย
ประเดี๋ยวพวกเราค่อยไปเดินสำรวจด้วยกัน จะได้เลือกของที่อยากจะนำไปทำเป็มื้อเช้าวันพรุ่งนี้ด้วย แต่ว่าตอนนี้ข้าอยากให้พวกท่านได้ดื่มน้ำจากบ่อวิเศษนี่ก่อนเ้าค่ะ ที่ข้าหายป่วยเร็วก็เพราะดื่มน้ำจากในบ่อน้ำ แม้ว่าพวกท่านจะไม่ได้เจ็บป่วยแต่เมื่อดื่มมันไปแล้ว จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิมนะเ้าคะ”
ลู่ชิงอธิบายเื่ห้างสรรพสินค้าไปแล้ว จึงพาบิดาและพี่ชายทั้งสองไปยังบ่อน้ำวิเศษ และตักขึ้นมาใส่แก้วให้พวกเขาได้ดื่ม พี่ชายทั้งสองดื่มแล้วไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ แต่คนที่มีอาการผิดปกติกลับเป็ท่านพ่อ ที่ตอนนี้มีคราบของเหลวสีดำซึมออกมาตามเสื้อผ้า จากที่เคยอ่านนิยายแนวกำลังภายในมาบ้างลักษณะเช่นนี้ มันเป็อาการของคนที่ถูกวางยาพิษอย่างแน่นอน
“ท่านพ่อ!!!” ทั้งสามคนพี่น้องต่างเรียกลู่เวินขึ้นพร้อมกัน
“ท่านพ่ออาการของท่านเช่นนี้ข้าคิดว่าตอนที่ท่านอยู่ที่เมืองหลวง มีคนแอบวางยาพิษท่านเป็แน่เ้าค่ะแต่ไม่ได้ใส่ในจำนวนที่มากนัก เหมือนอยากให้ท่านค่อย ๆ มีอาการเจ็บป่วย และตายไปเองในที่สุดมากกว่าเ้าค่ะ” ลู่ชิงรีบอธิบายความผิดปกติให้ทุกคนฟังจะได้ไม่ใจนเกินไป เมื่อเห็นสิ่งแปลกจากร่างกายของบิดา ที่ยามนี้ทำให้เสื้อผ้าที่สวมอยู่กลายเป็สีดำต่อหน้าพวกเขา
“พวกสารเลว!! แค่ใส่ร้ายท่านพ่อจนพวกเราถูกไล่ออกจากตระกูลแล้วยังไม่พอใจ ถึงกับวางยาพิษท่านพ่ออีก” ลู่จื้อพอได้ฟังสิ่งที่ลู่ชิงพูดก็โมโหเป็อย่างมาก
“สมมติว่าพวกเรายังใช้ชีวิตปกติจนท่านพ่อจากไป ก็คงคิดว่าท่านพ่อป่วยจนรักษาไม่ได้ ทั้งที่จริงแล้วเป็ยาพิษที่ทำให้ท่านพ่อต้องตาย ช่างโชคดีจริง ๆ ที่ได้ดื่มน้ำจากบ่อน้ำวิเศษ จึงได้รู้ความจริงเร็วเช่นนี้และยาพิษนั่นก็ถูกขับออกมาหมดแล้ว” พี่รองตั้งสมมติฐานได้ตรงประเด็น
“ใช่แล้วเ้าค่ะ ตอนนี้ท่านพ่อไม่มีพิษตกค้างในร่างกายอีกแล้ว จากนี้มีแต่จะแข็งแรงสุขภาพดีอายุยืนยาว รวมถึงพวกเราทุกคนด้วยนะเ้าคะ ข้าจะตักน้ำในบ่อวิเศษนี้ไปใส่ในถังน้ำในบ้าน พวกเราจะได้ดื่มทุกวันเพื่อบำรุงร่างกายจนแข็งแรง แล้วพอหิมะละลายอากาศเริ่มอุ่นขึ้นกว่านี้ พวกเราค่อยมาคิดกันว่าจะทำอาชีพอะไรเพื่อหาเงินดีหรือไม่เ้าคะ” ลู่ชิงถามความคิดเห็นจากทุกคนขึ้นมา
“พ่อเห็นด้วยกับชิงเอ๋อร์่ที่รอหิมะละลายพวกเราก็ดูแลร่างกายให้ดี จากนั้นค่อยปรึกษากันเื่อาชีพที่จะใช้หาเงินกันอีกที” ลู่เวินเห็นด้วยกับสิ่งที่บุตรสาวพูดมา
“พวกพี่สองคนก็เห็นด้วยกับเ้า หากมีอาชีพประจำที่สามารถหาเงินได้ พวกเราย่อมมีความเป็อยู่ที่ดีขึ้นกว่านี้แน่นอน” ลู่จื้อและลู่เสียนย่อมไม่ขัดใจน้องสาวของพวกเขาอยู่แล้ว
“ขอบคุณพวกท่านที่เชื่อใจข้าเ้าค่ะ รับรองว่าในอนาคตอันใกล้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ถ้าท่านแม่รู้สึกสบายใจแล้วเื่นี้คงต้องรบกวนท่านพ่อ ช่วยอธิบายกับท่านแม่อีกครั้งนะเ้าคะ” ลู่ชิงรู้สึกมีความสุขมากที่ได้มาอยู่ในครอบครัวนี้
“อืม พ่อจะช่วยอธิบายกับแม่ของเ้าเอง ให้เวลานางหน่อยนะ” ลู่เวินอยากจะคิดว่าบางทีลู่ชิงคนใหม่นี้ อาจเป็ดวงจิตเสี้ยวหนึ่งของบุตรสาว ที่ขาดหายไปทำให้ร่างกายเจ็บป่วยบ่อย ๆ และมันได้กลับมาอยู่ในร่างเดิมของเ้าของแล้ว
“ขอบคุณท่านพ่อเ้าค่ะ”
จากนั้นลู่ชิงก็ชวนทุกคนเข้าไปเดินสำรวจในห้างสรรพสินค้า และให้ท่านพ่อเปลี่ยนเสื้อผ้าด้านในไปก่อน ทุกคนล้วนตื่นตาตื่นใจกับสิ่งของที่มีหลากหลาย ลู่ชิงแยกไปส่วนของอาหารสดและอาหารแห้ง ส่วนท่านพ่อและพี่ชายให้ไปดูฟูกนอน เพื่อจะได้นำออกไปวางในห้องของแต่ละคน
‘สวีลู่ชิงเ้าคงวางใจได้แล้วนะว่า ข้าผู้นี้สามารถดูแลบิดามารดา รวมถึงพี่ชายทั้งสองคนของเ้าได้จริง ๆ’
ขอแค่ทุกคนมีความสุขนั่นถือว่าเป็สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับข้าแล้ว
