ลู่เต้าถูกเปิดโปงจนผู้คนพากันหัวเราะลั่น ทำเอาเขาอับอายขายหน้าจนอยากจะล้มกระดานหนี
ราวกับเ้าคลั่งหมากรุกรู้ล่วงหน้า รีบคว้าข้อมือลู่เต้าเอาไว้ไม่ยอมปล่อย “หนีถือว่าแพ้ แพ้แล้วเ้าต้องจ่ายเงิน!”
ลู่เต้าที่เสียดายเงินจึงได้แต่จำใจกลับมานั่งหน้ากระดานที่เดิม ฝืนเล่นต่อไปอย่างยากลำบาก
ทว่าเขานั้นเพิ่งเคยัักับหมากรุก ย่อมไม่ใช่คู่มือของเ้าคลั่งหมากรุก เดินไปได้ไม่กี่ตา ก็ถูกอีกฝ่ายบีบจนจนมุม
ท่านปู่เคยกล่าวไว้ว่าพนันแล้วต้องยอมรับผลแพ้ชนะ ลู่เต้าจึงควักเงินในกระเป๋าออกมาอย่างหงอยเหงา ให้หนึ่งตำลึงเป็ค่าเล่าเรียน
ว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืนเตรียมหลีกทางให้คนอื่น เ้าคลั่งหมากรุกเหลือบเห็นถุงเงินอูมๆ ของลู่เต้าก็ร้องในใจ วันนี้เป็วันอะไรกันนี่ ไยถึงได้โชคดีเช่นนี้ เพิ่งส่งเทพเ้าแห่งโชคลาภไปหยกๆ ตอนนี้กลับมีลูกแกะน้อยเดินเข้ามาอีก!
เมื่อเห็นว่าลู่เต้าคิดจะไป เ้าคลั่งหมากรุกจึงรีบคว้าข้อมืออีกฝ่ายไว้แน่น บนใบหน้าระบายไปด้วยรอยยิ้ม “เดี๋ยวก่อน! น้องชาย! อย่าเพิ่งไป! พวกเรามาเล่นกันอีกสักสองสามตาดีหรือไม่”
“ไม่เอาหรอก ข้าไม่มีทางชนะท่านแน่” ลู่เต้ายืนกรานว่าจะไป
“เช่นนั้นข้าต่อทหารเ้าหนึ่งตัว...เช่นนี้แล้วเป็อย่างไร” เ้าคลั่งหมากรุกพยายามพูดเกลี้ยกล่อม “เหมือนเดิม เ้าชนะเอาไปทั้งหมด หากแพ้จ่ายให้ข้าเพียงหนึ่งตำลึงก็พอ”
ลู่เต้ารู้สึกหวั่นไหวอีกครั้ง ผลตอบแทนที่มากมายมหาศาลจนเขาลืมตัวไปชั่วขณะ รีบตอบตกลงทันที
เ้าคลั่งหมากรุกเห็นเหยื่อติดเบ็ดก็ลอบยิ้มอยู่ในใจ หลังจากจัดกระดานใหม่ ก็หยิบทหารของตัวเองออกจากกระดานไปตัวหนึ่ง
“เชิญ” เ้าคลั่งหมากรุกเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
ลู่เต้าพยายามนึกว่าปกติท่านปู่เล่นอย่างไร สุดท้ายตานี้ก็ไม่ได้เดินหมากสุดอัศจรรย์นั่นออกมาแล้ว
ไม่เหมือนกับครั้งแรกที่รีบร้อน ครั้งนี้ลู่เต้ากลับสามารถสู้กับเ้าคลั่งหมากรุกได้หลายสิบครั้งก่อนจะพ่ายแพ้!
อีกเพียงนิดเดียวก็จะชนะแล้ว ทำให้ลู่เต้าคิดไปเองว่าเขาต้องชนะได้แน่ เ้าคลั่งหมากรุกยังไม่ทันเอ่ยปากถามว่าจะเล่นต่อหรือไม่ เขาก็รีบวางเงินลงบนกระดานอย่างร้อนใจพร้อมเอ่ยเร่งเร้า “เร็วเข้า!”
เ้าคลั่งหมากรุกหัวเราะชอบใจ กวาดเงินไปกองรวมกันอย่างรวดเร็ว แล้วจัดกระดานใหม่อย่างว่องไว
แม้แต่คนโง่ก็ดูออกว่าเ้าคลั่งหมากรุกจงใจยอมอ่อนข้อให้ แถมยังปล่อยให้อีกฝ่ายได้เปรียบอีกต่างหาก จนกระทั่งถึง่สุดท้ายก็ค่อยพลิกกลับมาชนะ เพื่อให้ลู่เต้าเสียเงินโดยไม่รู้ตัว
เพียงแต่ลู่เต้าเล่าเดาสุ่ม หากคิดจะยอมอ่อนข้อให้ก็ไม่ใช่เื่ง่าย
เป็อย่างที่เ้าคลั่งหมากรุกคาดการณ์ไว้ ลู่เต้าติดกับดักจนถอนตัวไม่ขึ้น หากคิดจะเลิกเล่น เ้าคลั่งหมากรุกก็จะยอมอ่อนข้อให้มากขึ้น เพื่อหลอกล่อให้อีกฝ่ายเล่นต่อเรื่อยๆ
แต่ลู่เต้ากลับหลงกลทุกครั้ง เงินในถุงค่อยๆ ร่อยหรอลงอย่างรวดเร็ว
“อีกตา!” ลู่เต้าผู้ไม่เคยชนะเลยแม้แต่ครั้งเดียวเอื้อมมือล้วงถุงเงินด้วยความหัวเสีย แล้วก็พบว่าภายในว่างเปล่า ปลายนิ้วััได้เพียงความหยาบกระด้างของผ้าดิบเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าลู่เต้าเสียเงินจนเกลี้ยง เ้าคลั่งหมากรุกที่กอบโกยไปอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยก็เปลี่ยนสีหน้าพร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเ็า “ขออภัย ไม่มีเงินก็ไม่ต้องคุยแล้ว!”
ลู่เต้าที่ได้สติก็นึกเสียใจยิ่ง เงินที่ทุกคนในหมู่บ้านเมฆาขาวรวบรวมให้ เขาใช้พนันจนหมดเกลี้ยง อยากจะเอาหัวโขกกำแพงตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด
เ้าคลั่งหมากรุกลูบถุงเงินตุงๆ อย่างพึงพอใจ เงินจำนวนนี้มากพอให้เขาอยู่สบายไปได้หลายเดือน
เขายึดถือคติรู้จักพอเพียง ในเมื่อรีดไถอะไรจากเ้าโง่นี่ไม่ได้แล้ว ก็รีบเก็บของกลับไปหาสุราอาหารรสเลิศมาดื่มกินอย่างสบายใจดีกว่า
ลู่เต้าที่เสียเงินจนหมดร้อนใจเป็อย่างยิ่ง รีบรั้งเ้าคลั่งหมากรุกไม่ให้เก็บของ “เดี๋ยวก่อน! ขออีกตาหนึ่ง! ขอแค่ตาเดียวก็พอ!”
เ้าคลั่งหมากรุกสะบัดแขนออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่สบอารมณ์ “คุณชาย ร้านปิดแล้ว”
“เ้ามันคนแบบไหนกัน! ชนะแล้วก็รีบหนี!”
เ้าคลั่งหมากรุกถอนหายใจ ยกนิ้วชี้ขึ้นอย่างจนใจ “อย่าพูดว่าข้าไม่ให้โอกาสเ้า หากเ้าสามารถหาเงินมาได้อีกหนึ่งตำลึง ข้าก็จะเล่นกับเ้าอีกตาหนึ่ง เพียงแค่ตาเดียวเท่านั้น!”
ลู่เต้าล้วงถุงรื้อเสื้อผ้าทั้งตัวด้วยสีหน้าลำบากใจ
เ้าคลั่งหมากรุกยักไหล่อย่างจนใจ “เช่นนั้นก็แสดงว่าเ้าไม่มีเงินเอง อย่ามาโทษว่าข้าไม่ให้โอกาส”
ว่าแล้วก็เตรียมเก็บของอีกครั้ง ทว่าลู่เต้ากลับเข้ามาขวางไม่ให้เขาเก็บของพลางเอ่ยอ้อนวอน “รอข้าสักครู่!”
ลู่เต้าเดินไปถามผู้ชมโดยรอบ “ใครพอจะมีเงินให้ข้ายืมหนึ่งตำลึงบ้าง! ขอเพียงข้าชนะ ข้าจะคืนเงินต้นให้ ส่วนที่เหลือจะเป็ของท่านทั้งหมด!”
ในใจเขาไม่ได้คิดอะไรมาก แค่อยากจะเอาเงินที่ทุกคนประหยัดอดออมมามอบให้เขาคืนกลับเท่านั้น
ความจริงแล้วนี่ควรจะเป็ข้อเสนอที่ดี ทว่าน่าเสียดายที่หลังจากลู่เต้าพูดไปนานแล้ว ก็ยังไร้วี่แววผู้ใดตอบรับ
“เ้าหนู เ้าโง่หรืออย่างไร” เสียงของไป๋เสียดังขึ้น “คนพวกนี้เห็นเ้าแพ้ติดๆ มาตลอด ใครจะกล้าให้เงินคนที่มีโอกาสชนะเป็ศูนย์ไปเล่นพนัน”
ไป๋เสียส่ายหน้า “เ้าโง่ แต่คนอื่นเขาไม่โง่นะ”
ลู่เต้าห่อเหี่ยวราวกับลูกโป่งที่ถูกปล่อยลม เขาตัดสินใจปล่อยให้เ้าคลั่งหมากรุกเก็บกระดาน และไม่ขัดขวางอีกต่อไป
เมื่อเ้าคลั่งหมากรุกเห็นว่าอีกฝ่ายหมดกำลังใจไร้ซึ่งความมุ่งมั่น ก็วางใจเก็บของต่อ
“เดี๋ยวก่อน”
ทันใดนั้น เสียงเข้มทรงพลังของบุรุษผู้หนึ่งก็ดังมาจากฝูงชน ทำเอาทุกคนหันไปมองเป็ตาเดียว
“เงินหนึ่งตำลึงนั่น...” ฝูงชนต่างพากันหลีกทางโดยอัตโนมัติ
คนที่โผล่มาคือโจวเทียนหยวนที่กำลังโกรธจัด เขาพุ่งเข้าไปคว้าคอเสื้อเ้าคลั่งหมากรุกแล้วข่มขู่ “ข้าออกให้มันเอง! ได้หรือไม่!”
ยามโจวเทียนหยวนบันดาลโทสะ รอบๆ กายไม่เพียงแต่มีสายฟ้าแลบแปลบปลาบ แต่ในอากาศยังมีเสียงฟ้าคำรนอันน่าหวาดหวั่น และยิ่งไปกว่านั้นคือท้องฟ้าพลันมืดครึ้ม คล้ายกับว่าจะมีฟ้าผ่าลงมาได้ทุกเมื่อ
เ้าคลั่งหมากรุกถึงกับพูดไม่ออก เขาเป็แค่คนธรรมดา ใครจะไปทนรับมือกับการข่มขู่ของโจวเทียนหยวนได้ เขารีบพยักหน้าอย่างลนลาน “ดะ...ได้! แต่ต้องบอกก่อนว่าครั้งนี้ต้องรวดเร็วทันใจ ห้ามยอมอ่อนข้อให้อีก!”
ว่าแล้วเ้าคลั่งหมากรุกก็กลับไปนั่งที่เดิม ขณะที่จัดกระดานก็ลอบยิ้มในใจ ในเมื่อมีคนอยากจะมอบเงินให้ถึงที่ เหตุไฉนต้องปฏิเสธด้วยเล่า
ในเวลานี้ ผู้ชมโดยรอบต่างก็พากันเกลี้ยกล่อมให้โจวเทียนหยวนล้มเลิกความตั้งใจ “ท่านพี่โจว ท่านอาจจะยังไม่รู้ ตาแรก เ้าเด็กหนุ่มนี่ก็เดินหมากแปลกประหลาดนัก!”
“โอ้? มีเอกลักษณ์เช่นนี้เชียวหรือ ฮ่าๆๆๆ!” โจวเทียนหยวนมองลู่เต้าด้วยสีหน้าประหลาดใจ และยิ่งสนใจเขามากขึ้นไปอีก
ผู้คนต่างมองหน้ากันไปมา คิดไม่ถึงว่าาาอสนีที่แสนเก่งกาจ พอเล่นหมากรุกแล้วกลับไม่ต่างจากเด็กเล่นขายของ
โจวเทียนหยวนยัดเงินใส่มือลู่เต้าพร้อมให้กำลังใจ “น้องชาย เงินนี้ข้ายืมเ้า! ช่วยเล่นให้ข้าชนะทั้งทุนทั้งกำไรที!”
“วางใจเถอะ! ครั้งนี้ข้ามั่นใจ!”
“ดี! เอาเลย! ฮ่าๆๆ!” เขาหัวเราะลั่นราวเสียงนภาครั่นคร้าม
เสียงหัวเราะก้องไปทั่ว ผู้คนโดยรอบรวมถึงลู่เต้าต่างต้องเอามืออุดหู ไม่เช่นนั้นแก้วหูคงจะแตกด้วยเสียงหัวเราะของเขาเป็แน่
ดวงตาของไป๋เสียเบิกกว้าง เสียงหัวเราะอันเป็เอกลักษณ์นี้ทิ่มแทงหัวใจของเขาเหมือนเข็มแหลม ความทรงจำที่ฝังลึกพลันปรากฏขึ้นอีกครั้ง
เขายังจำได้ว่าหลังจากที่ได้รับเปลวเพลิงสืบสานแห่งภูตมาได้ไม่นาน ไป๋เสียในตอนนั้นก็ถูกผู้ควบคุมิญญากลุ่มหนึ่งขวางทาง พวกมันข่มขู่ให้เขามอบเปลวเพลิงสืบสานแห่งภูตให้ เขาไม่ยอมจึงถูกไล่ล่า จนกระทั่งถูกต้อนจนจนมุม โชคดีที่โจวเทียนหยวนซึ่งกำลังท่องเที่ยวไปทั่วแคว้นทักษิณผ่านมาเห็นเข้า จึงยื่นมือช่วยขับไล่ศัตรูไปได้สำเร็จ
โจวเทียนหยวนนั่งยองๆ มองไป๋เสียที่าเ็สาหัสแทบจะตายอยู่รอมร่อ พร้อมกับเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “เ้าหนู อยากเป็ศิษย์ข้าหรือไม่ ข้าคือโจวเทียนหยวนนะ!”
“ไสหัวไป...” ไป๋เสียเอ่ยเสียงอ่อนแรง
โจวเทียนหยวนผู้เป็หนึ่งในใต้หล้าถึงกับอึ้งไป ก่อนจะหัวเราะลั่น “มีเอกลักษณ์นัก! ข้าถือว่าเ้าตอบตกลงก็แล้วกัน!”
“มาเถิด อาจารย์จะพาเ้ากลับไปรักษาแผลเอง! ฮ่าๆๆๆ!” โจวเทียนหยวนมิได้สนใจเสียงทักท้วงของไป๋เสีย เพียงแต่แบกเขาขึ้นบ่าพาไปอย่างไม่ไยดี
ตอนที่ตนถูกท่านอาจารย์รับเป็ศิษย์โดยที่เขาไม่ได้ยินยอมสักคำ เขาก็ดูเหมือนจะหัวเราะยินดีเช่นนี้...
กลับมายังความเป็จริง เ้าคลั่งหมากรุกได้จัดวางหมากเรียบร้อย แล้วก็ผายมือเชื้อเชิญ “เชิญท่านก่อนเถิด”
มุมปากลู่เต้าเหยียดรอยยิ้มมั่นใจกล่าว “มิบังอาจ เชิญท่านก่อนเถิด”
“โอ? สละสิทธิ์เดินหมากก่อนเชียวหรือ” ไป๋เสียขมวดคิ้ว
ทุกครั้งที่ลู่เต้าแสดงท่าทางมั่นใจเช่นนี้ ไป๋เสียรู้ดีว่าเขากำลังจะทำเื่โง่เขลาอีกแล้ว
เ้าคลั่งหมากรุกตรึกตรอง พอเห็นว่าเป็ลู่เต้าร้องขอ เขาก็ไม่จำเป็ต้องเกรงใจอีก จึงหยิบหมากขึ้นมาวางอย่างไม่ลังเล ลู่เต้าเองก็ตอบโต้กลับอย่างรวดเร็ว
หลังจากเดินหมากไปได้ไม่กี่ตา เ้าคลั่งหมากรุกก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาเดินหมากไปทางไหน ลู่เต้าก็เดินตามแบบไม่ผิดเพี้ยน กระดานหมากของทั้งสองฝ่ายราวกับเป็ภาพสะท้อน
เ้าคลั่งหมากรุกอดหัวเราะในใจไม่ได้ “คิดว่าวิธีนี้จะได้ผลหรือ”
เขาลอบวางกับดักไว้ในกระดานหมาก ขอเพียงลู่เต้ายังคงลอกเลียนแบบวิธีการเดินหมากของเขา ก็จะต้องตกหลุมพรางอย่างแน่นอน
ส่วนลู่เต้านั้นไม่ได้เฉลียวใจเลย เขากำลังจะหยิบหมากเลียนแบบต่อ ทันใดนั้นไป๋เสียก็เอ่ยขัดขึ้น “ดูให้ดีๆ เ้าเดินหมากเช่นนี้มีแต่แพ้กับแพ้”
เป็ไปได้อย่างไร ตอนแรกลู่เต้ายังไม่ค่อยเชื่อนัก เขาใช้สมองคำนวณอีกสองสามหมากข้างหน้าก็ต้องใจนเหงื่อกาฬแตกพลั่ก
เดินหมากเดียว อีกสามหมากก็หมดทางสู้!
