แต่ถึงแม้ว่าหลินหยางจะโมโหมากแค่ไหนก็ตามแต่ฝ่ามือของเวินเทาก็ไม่ใช่เื่ล้อเล่น
พละกำลังเกือบสองพันชั่งอย่างไรก็ยังน่าหวั่นเกรงอยู่ดีราวกับมีูเาลูกเล็กๆ ลูกหนึ่งกำลังถาโถมเข้ามาจะทับเขา แรงอัดอากาศที่พุ่งมาหาหลินหยางนั้นรุนแรงเสียจนเขาลืมตาแทบไม่ขึ้นเขาไม่มีเวลาให้หลบเลย
ในเสี้ยวพริบตานั่นเองหลินหยางได้เร่งพลังเทพอัคคีขึ้นมาแล้วรวบรวมพลังทั้งหมดที่มีกว่าหนึ่งพันสี่ร้อยชั่งไปอยู่ที่ฝ่ามือในขณะเดียวกันก็กระตุ้นพลังเกราะเพลิงคุ้มกายขึ้นมาเพื่อเพิ่มความทนทานของร่างกายขึ้นไปอีกระดับหนึ่งในที่สุดเขาก็สามารถป้องกันฝ่ามือของเวินเทาได้
ตูมมม
เกิดเสียงะเิดังสนั่นหวั่นไหวราวกับเสียงของอสนีบาตร
วินาทีต่อมาร่างกายของหลินหยางก็ปลิวกระเด็นลอยเลียบไปกับพื้นอย่างรวดเร็วราวกับะุปืนโดยกระเด็นไปไกลกว่ายี่สิบเมตรถึงจะสามารถหยุดได้
แม่มันเถอะ!
แข็งแกร่งอย่างที่คิด!
แขนซ้ายของหลินหยางเกือบถูกฟาดจนหักในหนึ่งฝ่ามือตอนนี้เขารู้สึกชาไปทั้งตัว พลังของยอดฝีมือระดับชุ่ยถี่ขั้นท้ายนี่ไม่ใช่เล่นๆ เลยยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่หลินหยางจะต่อกรได้ในตอนนี้จริงๆ
แต่ว่า!
ถ้าหากต้องสู้กับเวินเทาั้แ่เมื่อวานละก็หลินหยางอาจจะโดนอัดจนยับจริงๆ ก็ได้ แต่ถ้าสู้กันวันนี้ อย่างนั้นก็คงเป็วันที่ซวยที่สุดของเวินเทาแล้วละ!
การลงมือของเวินเทาครั้งนี้ทำให้เพลิงพิโรธภายในใจของหลินหยางถูกจุดติดขึ้นอย่างสมบูรณ์อีกฝั่งแสดงตัวชัดเจนว่ามาเพื่อรังแกคนโดยเฉพาะ ดี มาลองดูกันดีกว่าว่าใครจะเป็ฝ่ายรังแกใครกันแน่
“หืม?ยังยืนได้อยู่รึ?”
เวินเทาเห็นหลินหยางโดนฝ่ามือของตัวเองฟาดเข้าใส่เต็มๆไปหนึ่งทีแล้วยังไม่ล้ม เขายิ้มขึ้นอย่างโเี้โชว์ฟันขาวสว่างให้เห็นดูป่าเถื่อนราวสัตว์ป่า “ข้าจะดูสิว่าเ้าจะทนได้สักกี่น้ำ”
ฟิ้ววว
เวินเทาเปิดฉากโจมตีขึ้นแล้ว
เขาดีดตัวพุ่งเข้าใส่หลินหยางอีกครั้งพลังอันน่าเกรงขามของเขาถึงกับทำให้แผ่นหินสีเขียวที่อยู่ใต้เท้าของเขาแตกละเอียดมองเห็นร่างกายเขาเป็เงาดำๆ สายหนึ่งประดุจยมทูตที่กำลังพุ่งเข้ามาหมายจะเอาชีวิต
“เอาเลยพี่รอง ฆ่ามันให้ตายเลย!” เวินโฮ่วะโอย่างได้ใจในที่สุดวันนี้เขาก็จะได้เห็นหลินหยางที่เขาสุดจะเกลียดแสนเกลียดนั่นโดนจัดการเสียที
“โอ้...”คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนถอนหายใจออกมา ในสายตาพวกเขาแล้วหลินหยางไม่มีโอกาสเอาชนะได้เลยต่อจากนี้ไปคงเป็การรังแกเพียงฝ่ายเดียวของเวินเทาแล้ว
“คุณชายหลิน!!” มีเพียงสวี่เหยาเท่านั้นที่ส่งเสียงด้วยความเป็ห่วงแต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
แต่หลินหยางกลัวว่าจะไม่มีโอกาสรอดอีกแล้ว
ตูมม
ในที่สุดก็เกิดเสียงะเิดังกระหึ่ม
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาก็คือทุกคนที่อยู่แถวนั้นล้วนตกตะลึง ภาพที่เกิดขึ้นนั้นเป็ภาพที่ไม่น่าจะเป็ไปได้มากที่สุด
เพราะว่าครั้งนี้คนที่โดนซัดปลิวออกมากลับไม่ใช่หลินหยาง แต่เป็จอมยุทธ์ที่มีฝีมือมากที่สุดของเมืองอวิ๋นเฉิงเวินเทาจอมโอหังคนนั้น ที่ถูกซัดปลิวออกมาแทน
ความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณพวกเขายืนดูเวินเทาที่มีสภาพราวกับตุ๊กตาผ้าที่ถูกซัดลอยจนบินไปไกลสามสิบกว่าเมตรเขาพุ่งไปชนเข้ากับแผงลอยตรงบริเวณเขตเมืองในเลี่ยนเทียนเฮ่าจนพังเละเทะเหลือแต่ซาก
เื่แบบนี้มันเป็ไปได้อย่างไร!
ผู้คนบริเวณนั้นรู้สึกสับสนจนสมองเบลอไปหมดคุณชายหลินนั่นมีพลังมหาศาลขนาดนั้นได้อย่างไร!!
หลินหยางค่อยๆ เดินเข้าไป
ในมือของเขากำลังถือค้อนสีดำด้ามหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่าหลินหยางไปเอามาั้แ่เมื่อไหร่
เป็ค้อนที่แต่เดิมแล้วผู้เป็เ้าของคืออี้สิงอวิ๋น
เป็ค้อนล้ำค่าที่อยู่ในระดับ ‘อาวุธิญญา’
อาวุธต่างๆ ในทวีปชี่อู่นั้นอาวุธที่ระดับสูงกว่าอาวุธธรรมดาระดับหนึ่งคืออาวุธนิลกาฬซึ่งเป็อาวุธที่มีความคมอย่างมาก อีกทั้งยังมีราคาค่อนข้างสูงแต่อาวุธที่มีระดับสูงกว่าอาวุธนิลกาฬก็คืออาวุธิญญา
อาวุธิญญาดูจากชื่อแล้วก็น่าจะเข้าใจความหมายของมันได้ไม่ยาก มันคืออาวุธที่มีิญญาสถิตอาวุธิญญาแต่ละชิ้นจะมีสิ่งที่เรียกว่า ‘คุณสมบัติิญญา’ เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร และเพราะอย่างนั้นเองมันถึงได้มีราคาที่สูงจนน่าใจหาย
ทั้งอาณาจักรชูอวิ๋นจวิ้นมีนักการช่างที่สามารถสร้างอาวุธิญญาได้แค่ประมาณร้อยคนและอย่างที่เคยกล่าวไป อาวุธิญญาขั้นสูงทั้งหมดในอาณาจักรแห่งนี้มีไม่ถึงยี่สิบชิ้นขั้นกลางมีไม่ถึงสองร้อยชิ้น แม้กระทั่งขั้นต่ำเองก็มีอยู่เพียงแค่ประมาณสองพันชิ้นเท่านั้น
สาเหตุก็คือวัตถุดิบที่ใช้ในการสร้างนั้นหาได้ยากมาก และด้วยสาเหตุนี้เองอาวุธิญญาล้วนตกอยู่ในมือของยอดฝีมือระดับเซียนเทียนเกือบทั้งหมดแม้แต่เวินเทาเองก็ยังไม่มีอาวุธิญญาใน
แล้วมันมีความสามารถขนาดไหนกัน?
ยกตัวอย่างเช่นค้อนที่อยู่ในมือของหลินหยางตอนนี้มันเป็อาวุธิญญาขั้นต่ำเพียงเท่านั้น เป็หนึ่งในค้อนทั้งสามอันที่อี้สิงอวิ๋นสร้างขึ้นแถมยังเป็ค้อนที่ตีออกมาได้แย่ที่สุดด้วย แต่มันมีคุณสมบัติิญญาอย่าง ‘ความหนัก’ อยู่ เป็ค้อนที่มีขนาดเล็ก โดยใช้พละกำลังเพียงแค่ห้าร้อยชั่งเท่านั้นก็สามารถเหวี่ยงมันไปมาได้สบายดั่งใจนึกแต่มันกลับสามารถปลดปล่อยพลังออกมาได้มากถึงสองพันห้าร้อยชั่ง
ซึ่งมันเป็ความสามารถที่ขี้โกงอย่างไร้เหตุผลเลยทีเดียว
เวินเทานั้นค่อนข้างซวยที่ดันมาหาเื่หลินหยางในวันนี้ถ้าวัดจากความสามารถแล้ว เวินเทาแข็งแกร่งกว่าหลินหยางหลายเท่าตัว แต่เพราะค้อนิญญาที่อยู่ในมือของหลินหยางนั่นทำให้เขาถูกทุบหัวจนบินไปหนึ่งที
ตูมมมม!
เวินเทาพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาจากซากปรักหักพังอย่างยากลำบากบนหัวเขายังมีเศษผ้าที่มาจากแผงลอยติดอยู่ด้วย สภาพทุเรศจนน่าหัวเราะแต่กลับไม่มีใครกล้าหัวเราะออกมาเลยสักคนเดียว
“ข้าจะฆ่าเ้าหลินอี้!!”
เขาโมโหจนทะลุหลอดแล้วลูกไก่ในกำมือที่ควรจะถูกบีบตายได้ง่ายๆ ตัวนั้น มันกลับใช้ค้อนซัดเขาจนตัวปลิวไม่มีอะไรน่าสมเพชไปมากกว่านี้แล้ว!
ฉึบ
เขาหยิบเอาดาบสั้นสีดำทมิฬเล่มหนึ่งออกมาจากถุงฟ้าดินมันคืออาวุธนิลกาฬชั้นดีเล่มหนึ่ง ‘ดาบหยกทมิฬ’ เป็อาวุธที่สร้างชื่อให้กับเวินเทา
เมื่อครู่เขาแค่อยากจะสั่งสอนหลินหยางเท่านั้นแต่คราวนี้เขาโมโหจนเืขึ้นหน้าแล้ว เขาอยากจะเข้าไปฉีกเนื้อหนังของเ้าเด็กนั่นทั้งเป็เดี๋ยวนี้เลย!
ค้อนสีดำชองหลินหยางนั้นถึงมันจะดูน่ากลัว แต่ระดับความสามารถระหว่างพวกเขามันต่างกันมากเกินไปแค่ใช้ความเร็วระดับชุ่ยถี่ขั้นสูงสุดก็สามารถหลบค้อนนั่นได้แล้ว และเข้าไปฟันแขนข้างซ้ายที่มันใช้ถือค้อนนั่นให้ขาดก็พอ!
เมื่อวางแผนได้อย่างนั้นแล้วเวินเทาก็ยกของในมือขึ้น เขาจับทางหลินหยางได้แล้ว ไม่ยอมเข้าไปปะทะตรงๆ อีกแต่เปลี่ยนไปใช้ความเร็วที่เหนือกว่าในการหลอกล่อให้หลินหยางออกท่าจากนั้นก็หลบการโจมตีนั้น แล้วใช้ดาบสั้นอันคมกริบในมือฟันลงไปทันที
“เ้าหนูคิดจะใช้อุปกรณ์ช่วยในการเอาชนะข้าหรือ ฝันไปเถอะ ตายได้แล้ว!”
เวินเทากู่ก้องด้วยความพิโรธแรงกดดันหนักหน่วง แต่หลินหยางแค่ยิ้มตอบไปอย่างเ็าเท่านั้น “หืมแน่ใจรึ ?”
ตึงง!
ในจังหวะที่เวินเทาคิดว่าเขากำลังจะโจมตีโดนหลินหยางแล้วนั้นไม่รู้ว่าหลินหยางไปเอาผลึกคริสตัลสีแดงสดก้อนใหญ่มาจากไหน เขาใช้มันแทนโล่ในการรับคมดาบของเวินเทา
นั่นอะไรน่ะ!!
อย่างนี้ก็ได้หรือ!!
ผู้คนที่อยู่แถวนั้นต่างตกตะลึงจนมึนงงไปเสียแล้ว
เ้าคุณชายหลินนี่ มันใช้ความสามารถในการเรียกของออกมาทันทีของถุงฟ้าดินในการเรียกผลึกหินสุดแข็งออกมาป้องกันอย่างนั้นหรือ?
ถุงนี่มันใช้แบบนี้ได้ด้วยรึ!
เมื่องหลินหยางเห็นแววตางุนงงของเวินเทาแล้วมุมปากเขาก็ยกขึ้น ในใจพลางคิดว่า ‘ผลึกไฟหลีหยวน’ ของอี้สิงอวิ๋นก้อนนี้มันทั้งแข็งทั้งใหญ่ดีจริงๆ หลังจากนั้นค้อนสีดำในมือของเขาก็แผลงฤทธิขึ้นมาอีกครั้ง“ปลิวไปซะ!!”
ปังง
จอมมารน้อยแห่งเมืองอวิ๋นเฉิงตอนนี้ได้กลายเป็กระสอบทรายที่ถูกซัดปลิวไปในอากาศอีกครั้งบินไปชนร้านค้าพังเสียหายไปอีกร้านหนึ่ง
เวินเทาต้องปีนขึ้นมาจากซากปรักหักพังอีกครั้งซึ่งบนหัวเขาตอนนี้บวมตุ่ยอย่างกับหัวหมูถึงแม้เขาจะมีร่างกายที่แข็งแกร่งของระดับชุ่ยถี่ขั้นสูงสุดแล้วก็ตามและการโจมตีของหลินหยางเองก็ไม่อาจสร้างาแฉกรรจ์ให้เขาได้ก็ตามแต่แค่ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาโมโหจนคลั่งได้
“อ๊ากกกกก!หลินอี้!”
เวินเทาะโกู่ก้องราวกับสัตว์ป่าที่กำลังคลุ้มคลั่งแต่กลับไม่สามารถทำอะไรนักฝึกสัตว์ที่มีอาวุธครบมืออย่างหลินหยางได้เขาจึงได้แต่ะโออกมาอย่างเดือดดาลว่า “ถ้าแน่จริงก็มาสู้กันตรงๆ สักรอบสิวะ!!”
“นี่เ้าปัญญาอ่อนหรือเปล่า?”หลินหยางทำหน้าสมเพชใส่เขา “เ้าที่มีฝีมือระดับชุ่ยถี่ขั้นสูงสุดกลับมารังแกข้าที่มีระดับต่ำกว่าแถมเ้ายังมาท้าประลองตัวต่อตัวกับข้าอีก เ้ายังมีศักดิ์ศรีอยู่หรือไม่?”
คำพูดของหลินหยางนั้นคมกริบดุจคมมีดที่บาดลึกลงไปในจิตใจของเวินเทาเห็นกันชัดๆ เลยว่าใครเข้ามาหาเื่ก่อน แต่พอโดนคนอื่นตบสั่งสอนเข้าหน่อยก็มาหาว่าคนอื่นไม่ยุติธรรมอย่างนั้นหรือ?
หน้าสมเพชเหลือทน
หลินหยางมองดูเวินเทาที่ยืนอยู่ห่างออกไป“ทำไม? ไม่กล้าเข้ามาแล้วรึ?”
เวินเทาขบเคี้ยวฟันด้วยความโมโหจนฟันแทบแตกแต่กลับไม่มีวิธีที่จะใช้จัดการหลินหยางได้
“ได้ เ้าไม่กล้าเข้ามาใช่ไหมอย่างนั้นถึงทีของข้าแล้ว!” หลินหยางแสยะยิ้มอย่างเ็าสายตาอันโเี้จ้องไปยังเวินโฮ่วที่ยืนเอ๋ออยู่ด้านข้าง “เมื่อกี้เ้าด่าข้าว่าอะไรนะ?”
ซวยแล้ว!
เวินโฮ่วใจนฉี่ราดไปแล้ว
ที่จริงแล้วเขาเองก็มีปมในใจเกี่ยวกับหลินหยางอยู่แล้วแต่เดิมก็หวังจะให้พี่ชายของเขาช่วยแก้แค้นให้ แต่ตอนนี้เื่ดันกลับตาลปัตรสองพี่น้องมาให้เขาซ้อมจนน่าอับอายถึงที่สายตาของหลินหยางที่จ้องมาหาเขามันน่ากลัวจนตัวเขายืนแทบไม่อยู่แล้ว
“พวกเ้ายังยืนนิ่งกันอยู่ทำไมไปจัดการมันสิวะ!” เวินโฮ่วรีบหนีไปทางที่เวินเทายืนอยู่พร้อมกับสั่งให้เหล่าลูกสมุนสิบกว่าคนนั่นเข้าไปสกัดหลินหยางเอาไว้
เวินโฮ่วพลาดมากที่ไม่ได้ตัดสินใจพาพวกยอดฝีมือที่แท้จริงของตระกูลเวินมาด้วยที่เขามากับพี่รองแค่สองคนก็เพราะไม่อยากให้มีคนรู้เื่นี้เยอะเกินไปอีกทั้งเขายังเชื่อมั่นในฝีมือของเวินเทามากด้วยแต่ผลที่เกิดขึ้นกลับไม่เป็ไปตามที่เขาคิดไว้เลย...
ส่วนเหล่าลูกสมุนที่มาทำหน้าที่เป็องครักษ์ให้เวินโฮ่วก็ซวยไม่แพ้กันถึงจะรู้ว่าสู้หลินหยางไม่ได้ แต่พวกเขาก็ยืนมองคุณชายของพวกเขาถูกทำร้ายโดยไม่เข้าไปช่วยไม่ได้อยู่ดีทำได้แค่ไปตายเอาดาบหน้าเท่านั้น
แต่หลินหยางที่ไม่กลัวแม้แต่ยอดฝีมือระดับชุ่ยถี่ขั้นสูงสุดนั้นแค่ลูกสมุนเหล่านี้ไม่มีทางได้อยู่ในสายตาของเขาหรอก สภาพเขาตอนนี้ราวกับราชสีห์กำลังแผลงฤทธิ์ไล่ทุบหัวเรียงไปทีละคนๆจนปลิวว่อนไปหมด
ปังปังปัง!
เหล่าคนงานของเลี่ยนเทียนเฮ่าเหมือนได้เปิดหูเปิดตาได้เห็นพวกยอดฝีมือของตระกูลเวินที่ปกติชอบทำตัววางท่าใหญ่โตนั่นตอนนี้บินว่อนเต็มฟ้าไปทั่วทุกทิศทางราวก้อนเนื้อบินได้บ้างก็ลอยไปตกใส่แผงลอยข้างทาง บ้างก็ลอยไปชนประตูสำริดส่วนที่อนาถที่สุดคือลอยไปตกใส่เตาไฟของพื้นที่ส่วนการช่าง กรีดร้องโหยหวนดังลั่น
ผ่านไปไม่กี่อึดใจรอบข้างหลินหยางก็ไม่มีใครยืนอยู่แล้ว
เขาหันกลับไปทางเวินเทาและเวินโฮ่วอีกครั้งเวินเทาตอนนี้กำลังเดือดดาลจนหัวแทบะเิ ส่วนเวินโฮ่วก็ใจนแทบจะร้องไห้แล้ว
“พี่รองพี่รอง!” เวินโฮ่วดึงเสื้อของเวินเทาไม่หยุดจนเวินเทาเริ่มรำคาญ
“เรียกหาป้าเ้าหรืออย่างไร!”เวินเทาไม่เคยรู้สึกสมเพชตัวเองมากขนาดนี้มาก่อน เขาฝืนพุ่งเข้าใส่หลินหยางอีกครั้งพร้อมกับยกดาบหยกทมิฬขึ้นฟาดฟันเป็คลื่นดาบอันคมกริบออกไปสามสายมันคือเพลงดาบประจำตระกูลเวิน เพลงดาบ ‘คลื่นแสงตัดสะบั้น’
แต่ที่น่าเสียดายคือ เพลงดาบนี้สามารถใช้ตัดคลื่นแสงให้ขาดสะบั้นได้แต่กลับไม่สามารถทำอะไรผลึกไฟหลีหยวนที่มีขนาดเท่าตัวคนได้เลยหินแร่ระดับสามนี่มีความแข็งที่สูงมากจนน่าใพอเอามันมาใช้แทนโล่ป้องกันแล้วค่อนข้างไร้เทียมทานเลยทีเดียวหลินหยางยิ้มอย่างเ็า จากนั้นก็เหวี่ยงค้อนในมือออกไปอีกครั้ง
“ไสหัวไป!”
ฟิ้ววว
เวินเทาถูกซัดจนลอยไปอีกแล้ว
คนสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ก็คือเวินโฮ่วเขายืนมองหลินหยางที่กำลังก้าวเข้ามาทีละก้าวอย่างหวาดกลัว เ้านี่มันฉี่แตกจริงๆ แล้วตรงกางเกงปรากฏรอยเปื้อนขนาดใหญ่
หลินหยางแสยะยิ้มเหยียดหยามใส่เวินโฮ่วสวะพรรค์นี้ นอกจากกลั่นแกล้งผู้คนแล้วก็ทำอะไรอย่างอื่นไม่เป็อีกเลยถ้าไม่ได้เห็นแก่หน้าของตระกูลเวินละก็ เขาคงจะขยี้มันทิ้งไปแล้ว
“หลินอี้เ้า ถ้าเ้ากล้ายุ่งกับข้า ท่านพ่อต้องไม่ปล่อยเ้าไปแน่..." มาถึงขนาดนี้แล้วเ้าเวินโฮ่วมันยังไม่เลิกเอาชื่อของคนอื่นมาใช้ข่มขู่อีกแค่ต้องมองขยะพรรค์นี้ก็รู้สึกปวดลูกตาแล้ว เขาจึงออกแรงหวดเ้าขยะนี่ด้วยค้อนใส่หน้ามันเต็มๆ