เมื่อจวินเหยียนและอาจารย์อารองได้ยินคำประกาศกร้าวของอวิ๋นซีต่างก็อดมองไปทางนางไม่ได้ถึงกระนั้นจวินเหยียนก็ได้แต่ยิ้มออกมาอย่างปลงๆ ทว่าอาจารย์อารองกลับมองนางราวกับว่าตนกำลังเจอเข้ากับสัตว์ประหลาดทั้งยังคิดในใจไปว่า ศิษย์หลานน้อยไปหาสตรีที่น่าหวาดกลัวผู้นี้มาจากที่ใดกัน เพียงเปิดปากอีกทีก็บอกว่าจะทำลายบุรุษสองคนเสียอย่างนั้น
แต่ว่า ไม่รู้เพราะเหตุใด อีกใจหนึ่งของเขาถึงได้รู้สึกว่าภรรยาของศิษย์หลานผู้นี้ถูกใจเขาจริงๆอีกทั้ง เมื่อครู่ที่ได้เห็นฝีมือนางที่กระทำต่อเขา ความรวดเร็วนั้น ชัดเจนว่าย่อมต้องเป็คนมีวรยุทธ์
จวินเหยียนเดินไปข้างกายนาง ยิ้มพูดว่า “เปิ่นหวางไม่อยากป่วย ดังนั้นจะนอนกับเ้าเพียงคนเดียว”
อวิ๋นซีตาขวางใส่จวินเหยียนไปทีหนึ่ง ก่อนจะหันมองอาจารย์อารองของเขาไปอีกทีหนึ่งตอนนี้นางสงสัยจริงๆ ว่าอาจารย์ของเขาเองก็คงจะเป็คนที่พึ่งพาไม่ได้ ไม่น่าเชื่อถือได้เช่นกัน
คณะเดินทางเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง ทว่า ครั้งนี้พวกเขากลับมีคนอีกคนที่ติดสอยห้อยตามมาด้วยไล่อย่างไรก็ไม่ยอมไป
ยิ่งกว่านั้น อาจารย์อารองยังถึงขั้นเข้าไปนั่งร่วมรถม้ากับหวานหว่าน เมื่อมองดูเด็กทั้งสามและแม่นมผู้ชราเช่นเขาก็ไม่แม้แต่จะคิด ขับไล่แม่นมลงไปจากรถม้า ทำให้ยามนี้บนรถม้าคันนี้เหลือเพียงเขาและเด็กๆทั้งสาม
หวานหว่านยิ้มมองไปทางอาจารย์อารอง จากนั้นก็หัวเราะฮิฮิ “อาจารย์ปู่รองท่านอยากกินของว่างหรือไม่? ” เมื่อพูดจบนางก็นำของว่างที่ให้เอ้อนีแอบไว้นานแล้วออกมา จากนั้นก็วางลงตรงหน้าชายชรา
เมื่ออาจารย์อารองเห็นเช่นนั้น ดวงตาก็สว่างไสว แต่เมื่อคิดจะเอื้อมมือออกไปหยิบชั่วขณะนั้นหวานหว่านก็นำของว่างกลับมาวางไว้ข้างตนเช่นเดิม “หากอยากกินของว่างนี้ท่านจักต้องเสียสละบางสิ่งเล็กน้อยก่อน อาจารย์ปู่รอง ตัวท่านก็น่าจะรู้นี่ว่าบนโลกใบนี้ไม่มีอาหารกลางวันที่ได้กินเปล่า”
“เ้า! ” อาจารย์อารองมองเด็กน้อยน่ารักตรงหน้า คิดไม่ถึงว่าเ้าตัวเล็กก็จะเป็พวกท้องดำเหมือนบิดานาง น่าโกรธนัก แต่ว่า ก็สมควรตาย เพราะพร์ของเด็กนี่ดีจนน่าใ
“ท่านจะถลึงตามองข้าเยี่ยงนี้ทำไม” หวานหว่านมีสีหน้าน้อยเนื้อต่ำใจ “หากท่านไม่อยากกินก็ช่างเถอะ”
เมื่อพูดจบ นางก็กำลังจะนำไปเก็บไว้ที่เดิม และเป็เฒ่าชราที่ร้อนใจ “อย่าเด็กน้อยหวานหว่าน เ้าบอกอาจารย์ปู่รองมา เ้า้าสิ่งใด? ”
เด็กคนนี้หลอกไม่ง่ายเลยสักนิด ไม่เสียทีที่เป็ลูกของจวินเหยียนและแม่หนูจอมร้ายกาจอวิ๋นซีนั่นคนถึงกับสืบทอดความท้องดำมาจากจวินเหยียนและความขี้งอนเ้าคิดเ้าแค้นมาจากอวิ๋นซี ฉับพลันนั้นชายชราควานหาของในกายตนสุดท้ายก็เจอยาพิษที่สมบูรณ์แบบขวดหนึ่ง เดิมทีตัวเขาเองก็คิดจะมอบให้เด็กน้อยหวานหว่านแต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่านางยังเล็กอยู่ หากเผลอกินเข้าไป ก็ย่อมลำบากแล้ว เพราะ ‘เห็นโลหิตปิดคอ’ ยาพิษชนิดนี้ เมื่อได้ััเป็ต้องตายสถานเดียว
ทว่า เมื่อคิดจะเก็บกลับไป หวานหว่านกลับยื้อแย่งเอาไปเสียก่อนจากนั้นก็เปิดออกดม “เห็นโลหิตปิดคอ ฤทธิ์ของมัน เมื่อผู้ใดโดนป้ายเข้าไป จักต้องตายโดยไร้ข้อกังขาซึ่งพิษนี้เป็พิษงูเฮยอวี้ของซีอวี้ ทว่า ผ่านการกลั่นมาแล้ว ดังนั้น กลิ่นคาวจึงไม่คงอยู่อีกทั้ง อาจารย์ปู่รองยังบดผงดอกเยี่ยนหยางจากซีอวี้ผสมลงไปด้วย ทำให้ผู้ที่ต้องพิษจะไม่แสดงอาการออกมาอย่างกะทันหัน”
คำวินิจฉัยที่ไม่ได้ถาม ทำให้อาจารย์อารองถึงกับต้องมองเด็กน้อยตรงหน้าราวกับมองสัตว์ประหลาด“เ้ารู้ได้อย่างไร? ”
“หากของพวกนี้ข้ายังไม่รู้ เช่นนั้น สองปีที่ข้าร่ำเรียนเื่ยาพิษก็มิใช่ว่าเรียนไปเสียเปล่าแล้วหรอกหรือ”เมื่อหวานหว่านพูดจบก็กลอกตาอย่างปลงๆ อันที่จริงเมื่อไม่กี่ปีก่อนมีคนใช้เ้าสิ่งนี้ด้วยหมายจะสังหารบิดานางแต่สุดท้ายเป็มารดาที่ค้นพบเข้าโดยบังเอิญ และนั่นก็ถือเป็ครั้งแรกที่นางได้รู้ว่าพิษของงูเฮยอวี้แห่งซีอวี้นั้นร้ายกาจเพียงใด เพียงแต่ตอนนั้นพิษของงูเฮยอวี้ที่คนพวกนั้นใช้ยังไม่ได้ผ่านการกลั่นมา ทำให้มีกลิ่นคาวรุนแรงจนเป็ที่สังเกตได้ง่าย
ท่านแม่เคยบอกว่า ถ้าอยากจะปกปิดความคาวของงูเฮยอวี้ ทางที่ดีควรใช้ดอกเยี่ยนหยางจากซีอวี้เช่นกันมากลั่นผสมกับพิษงูเช่นนี้ก็จะสามารถทำให้พิษเป็กลาง และยังช่วยกลบกลิ่นคาวที่ไม่น่าดมนั้นได้ด้วย
“เ้าปรุงยาพิษเป็? ” อาจารย์อารองเริ่มมีท่าทีไม่สงบนิ่งแล้วต่อให้เด็กนี่จะมีร่างกายที่ร้อยพิษไม่กล้ำกลาย แต่นางก็คงจะไม่สามารถปรุงยาพิษเป็ั้แ่ยังเล็กเพียงนี้?อีกประการ อาจารย์ของนางเป็ใคร?
หวานหว่านเบ้ปาก “จะยากอันใดเล่า เมื่อก่อนตอนอยู่ที่จวนหานอ๋อง ด้านหลังเรือนของข้าล้วนปลูกพืชพิษไว้ทั้งสิ้นตัวข้าเองก็ชอบเล่นกับพิษชนิดต่างๆ เป็ที่สุด ส่วนวิชาแพทย์ของท่านแม่นั้น ข้าไม่ได้สนใจเลยสักนิดและคิดแค่ว่า เล่นพิษนี่สิถึงจะเป็สิ่งที่น่าสนุกที่สุด”
การช่วยชีวิตคนอันใดนั่น หากให้พูดตามจริงคนเยี่ยงนางไม่ได้สนใจเลยสักนิด จึงไม่เคยคิดจะร่ำเรียนวิชาแพทย์กับมารดาแต่แรกและหันมาสนใจเกี่ยวกับการปลูกดอกไม้พิษ พืชพิษ รวมถึงการศึกษาตามหาพิษเป็อย่างมากในสายตาของนาง บางครั้งการทำร้ายคนก็ยังดีกว่าการช่วยคน
อย่างไรเสีย คนที่ปรากฏกายอยู่ข้างกายก็ไม่มีทางเลยที่จะเป็คนดีไปเสียทั้งหมด
สำหรับเด็กน้อยคนนี้ หากมีใครกล้าทรยศตน โทษที่คนคนนั้นจะได้รับก็คือต้องตายสถานเดียวนี่เป็เื่ที่มารดาพร่ำบอกนางมาั้แ่นางยังเล็ก เพราะการเป็คนไม่จำเป็ต้องมีจิตใจที่ดีจนเกินไปขอแค่ไม่เป็คนชั่วร้ายต่อผู้อื่นก่อนก็นับว่าเพียงพอแล้ว แต่ว่า หากจะให้นางเป็ดอกบัวขาวดอกหนึ่งที่ทั้งวันเอาแต่เสแสร้งแสดงต่อหน้าคนก็คงต้องขออภัยเป็อย่างยิ่งเพราะตัวนางไม่ชอบจริงๆ และท่านแม่เองก็ไม่ชอบเช่นกัน
“ดีดี เล่นพิษดี” อาจารย์อารองหัวเราะฮิฮิ “เด็กน้อย ถ้าอย่างไร เ้าก็มากราบไหว้ฝากตัวเป็ศิษย์ให้ข้าเสียสิแล้วข้าจะสอนเ้ากลั่นพิษ”
“ตอนนี้ตัวท่านก็นับว่าเป็อาจารย์ปู่ของข้าอยู่แล้ว หากว่าข้ากราบท่านเป็อาจารย์อีกเกรงว่าลำดับาุโก็ได้มั่วไปหมดกันพอดี เช่นนี้เป็อย่างไร ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ท่านก็สอนข้ากลั่นพิษอย่างที่ตั้งใจอย่างไรเสียตัวท่านก็เป็ศิษย์น้องของท่านอาจารย์ของบิดาข้า คนบ้านเดียวกันย่อมไม่แบ่งแยกใครเป็ใคร”ดวงตากลมโตชุ่มชื้นของหวานหว่านมองอาจารย์อารอง กลั่นพิษ? ดียิ่ง
แต่ว่ากราบไหว้อาจารย์ฝากตัวเป็ศิษย์อะไรนี่ ไม่ดีเลยสักนิด
สองพี่น้องต้านีเอ๋อร์และเอ้อนีที่นั่งอยู่ด้านข้างเห็นเื่ราวทั้งหมดนี้ั้แ่ต้นสองพี่น้องหันหน้าสบตากันทีหนึ่ง พวกนางอดคิดไม่ได้ว่า คุณหนูกำลังจะหลอกล่อผู้อื่นอีกแล้วเพียงแต่ไม่รู้ว่า ท่านปู่ผู้นี้จะตกหลุมพรางของคุณหนูหรือไม่
จู่ๆ เอ้อนีก็คิดว่า คนที่ถูกคนหนูจ้องเป็เป้าล้วนโชคไม่ดีกันทุกคนเนื่องด้วยครั้งก่อนที่คุณหนูลอบออกไปเงียบๆจนตอนหลังบังเอิญได้เจออาจารย์พิษที่มาจากซีอวี้ ซึ่งคุณหนูเองก็ถูกใจยาพิษที่อยู่ในมือคนผู้นั้นคนคิดสารพัดวิธีจนสุดท้ายก็ได้มาไว้ในตน
ส่วนอาจารย์พิษผู้น่าสงสาร ต่อให้วิชาพิษจะแก่กล้าเพียงใด แต่กลับไม่เป็วรยุทธ์เมื่อต้องมาเจอเข้ากับคุณหนูของตนที่ร้อยพิษไม่กล้ำกลาย เขาก็ทำได้แค่ยอมรับว่าตนเองดวงซวยแล้ว
เมื่ออาจารย์อารองได้ฟังข้อเสนอนั้นก็ค้นพบว่า เื่นี้ไม่ค่อยดีนัก บิดาของหวานหว่านเป็ศิษย์เพียงคนเดียวของศิษย์พี่ตนหากหวานหว่านมากราบตนเป็อาจารย์ คนก็จะไม่กลายเป็ศิษย์น้องของเ้าเด็กจวินเหยียนนั่นหรอกหรือ?
ถึงแม้จะแปลกๆ ไปหน่อย แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดตัวเขาถึงได้รู้สึกว่าเื่นี้น่าสนุกนัก
“หวานหว่าน เ้ารู้สึกบ้างหรือไม่ว่า แท้จริงแล้วการฝากตัวเป็ศิษย์ข้านั้นก็นับว่ามีข้อดีอยู่มากจริงๆเ้าลองคิดดูเถิด เ้าที่ถูกบิดาเ้ารังแกอยู่บ่อยๆ หากว่าวันใดที่เ้าได้กลายมาเป็ศิษย์ของข้าแล้วเช่นนั้นตัวเ้าก็จะถือเป็ศิษย์น้องของบิดาเ้าด้วย ซึ่งในสำนักของข้านี้มีกฎอยู่ว่าศิษย์พี่ศิษย์น้องสามารถสานสัมพันธ์รักใคร่กันได้ แต่ห้ามทะเลาะวิวาทกันอย่างเด็ดขาดห้ามรังแกผู้อื่น”
เมื่อหวานหว่านได้ยินก็หัวเราะออกมา “อาจารย์ปู่รอง ท่านคิดว่าบิดาข้าเป็คนที่ให้ความสำคัญกับกฎเช่นนั้นหรือ? ”
อาจารย์อารอง “...”
จริงอย่างเ้าเด็กนี่กล่าว ดูเหมือนว่าเ้าจวินเหยียนนั่นจะไม่เคยให้ความสำคัญกับกฎเกณฑ์ใดเลยจริงๆเหมือนว่ากฎประจำสำนักในสายตาของคนเป็แค่มูลสุนัข เพราะหากอีกฝ่ายเกิดไม่พอใจขึ้นมาลองดูสิ ขนาดตัวเขาที่เป็อาจารย์อาก็ยังถูกซัดมาแล้วเลยมิใช่หรือ
“จริงๆ แล้ว ตัวข้าเองก็เพิ่งค้นพบว่า การได้เป็ลูกสาวของบิดาข้าย่อมดีกว่าการเป็ศิษย์น้องอันใดนั่นดังนั้น ข้าว่า ตัวท่านไปหาผู้อื่นจะดีกว่า แต่ว่า ข้าขอเตือนท่านไว้ก่อน มารดาข้าน่ะไม่ชอบสตรีที่งดงามเกินไปเป็ที่สุดหากว่าท่านรับศิษย์หญิงมาก็จงเก็บไว้เองเถิด อย่าให้นางมาสร้างหายนะให้บิดาข้าเป็อันขาดมิเช่นนั้น ถ้ามารดาข้าออกโรงเมื่อไร ฟ้าดินนี้จักต้องะเืเสียจนเทพผีต้องร้องไห้เป็แน่”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้