“ผมว่าผมบอกคุณไปแล้วนะว่าไม่ให้ใส่ชิ้นนั้นน่ะ”
เสียงเย็นพูดก่อนจะเดินมาประชิดตัวด้านหลัง พร้อมกับหยิบเสื้อชั้นในจากมือฉันไป
“ตะ...แต่ว่าข้างนอกมี...”
และในจังหวะที่ฉันยังไม่ทันพูดจบ
“หรือว่าไม่อยากใส่อะไรเลย...??” คนตัวโตยักคิ้วถามเอ่ยปากเอาแต่ใจ
แต่ทว่า...ด้วยประโยคนั้นยังไม่น่าใเท่า อวัยวะบางส่วนของเขาที่ตอนนี้กำลังทิ่มแทงอยู่แถวบริเวณบั้นท้ายของฉัน และด้วยการรับรู้ได้ถึงอันตรายที่ฉันรู้ดีว่ามันจะส่งผลให้ฉันลำบากแค่ไหน ฉันก็ได้แต่รีบเด้งตัวหลบหนีอาวุธร้ายของเขา พร้อมกับเลือกที่จะใส่แค่เสื้อตัวนอกอย่างที่เขา้า
การกระทำของฉันส่งผลทำให้คนตัวโตที่กำอำนาจในมือพอใจทันที เขาที่ยกยิ้มได้ใจใส่ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ส่วนฉันที่เห็นว่าถ้าขืนตัวเองยังอยู่ในห้องนอนกับเขาแบบนี้ต่อไปแล้วละก็ความปลอดภัยต่อพื้นสงวนคงไม่เหลืออย่างแน่นอน พอคิดได้ดังนั้นฉันจึงรีบเดินผละออกไปจากห้องนี้ทันทีแล้วรีบลงไปยังด้านล่างโดยที่หลังยังเสียววาบไม่หาย
หลังจากที่ฉันได้ลงมายังด้านล่างป้าแม่บ้านที่ฉันเจอก่อนหน้านี้ก็ไม่อยู่แล้ว จะมีเพียงก็แต่อาหารที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ที่โต๊ะเรียบร้อยแล้วเท่านั้น และแม้ว่าฉันจะรู้สึกหิวเพราะยามนี้ก็เลยเวลาอาหารเช้าของตัวเองมาพอสมควร แต่ด้วยมารยาทที่ควรมีฉันก็ไม่อาจตรงดิ่งเดินไปกินได้แม้ว่าท้องจะร้องโครกครากแล้วก็ตาม
กระทั่งเมื่อเวลาผ่านไปได้เพียงไม่นานนัก ร่างกำยำเ้าของสายตาคมกริบที่มักจะมองฉันด้วยความหื่นกระหายก็ได้เดินลงมาจากชั้นสอง ภาพของคนตัวโตที่บัดนี้อยู่ในลุคการแต่งตัวดูสบาย ๆ ในแบบที่ฉันเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน และด้วยภาพนั้นก็ทำให้ฉันเผลอมองเขาด้วยความเคลิบเคลิ้มอย่างลืมตัว
“คงไม่หิวแล้วมั้งกินลมเข้าปากไปเยอะขนาดนั้นแล้วน่ะ” ร่างทรงเสน่ห์เอ่ยปากแซวพร้อมกับยีผมที่เปียกชื้นเล็กน้อยด้วยท่าทางเซ็กซี่ และเพราะคำแซวของคนตัวโตที่ส่งมาก็ทำให้ฉันที่หลุดไปอยู่ในภวังค์พลันกลับมาพร้อมกับปากที่หุบปิดสนิทอย่างอัตโนมัติทันที
“หิวไหม...??” คนตัวโตถามด้วยท่าทางสบาย ๆ เป็กันเอง ส่วนฉันหลังจากที่หิวมาสักพักพอเขาทักก็เริ่มหิวขึ้นมาอีกครั้ง นั่นจึงทำให้ฉันรีบพยักหน้าตอบรับกลับไปเพราะไม่อาจปฏิเสธได้ถึงเสียงร้องในท้องของตัวเอง
“ไปซิ นั่งตรงนี้ไม่อิ่มหรอกนะ แล้วก็...มองผมแบบนั้นมันก็ไม่อิ่มเหมือนกัน ‘ต้องกิน’ เท่านั้นถึงจะอิ่ม...เข้าใจไหม” คำพูดคำจาที่แสนจะกำกวมมีเลศนัยแถมยังมาพร้อมกับรอยยิ้มเ้าเล่ห์ร้าย ทำใบหน้าสวยหวานขึ้นเืฝาดแทบทันที
"...ชิ...ใครอยากจะกินคนอย่างคุณกันล่ะ" ฉันบ่นอุบอิบกับตัวเองในขณะที่เดินตามเขาไปยังห้องอาหาร
จากนั้นเราสองคนก็ได้จัดการอาหารตรงหน้ากันอย่างเงียบ ๆ โดยที่ไม่มีใครได้พูดหรือถามอะไรออกมา กระทั่งเมื่อเรากินจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันก็อาสาเก็บจานชามไปล้างตามมารยาทที่ควรจะทำทันที
และในขณะที่ฉันกำลังล้างจานอยู่นั้น...ฉันที่ไม่รู้เลยว่าบัดนี้ด้านหลังได้มีร่างสูงใหญ่ของใครบางคนค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาใกล้ทุกขณะ
จนกระทั่ง...
หมับ...!!
“ว๊ายยยย...!!”
ฉันร้องออกมาด้วยความใ หลังจากที่หน้าอกหน้าใจขนาดใหญ่ของตัวเองกำลังถูกใครบางคนส่งมือเข้ามากอบกุมขยุ้มเอาไว้
"อื้อออออ...ยะ...อย่าค่ะ"
“ก็ทำต่อไปสิ...” ก่อนที่เสียงกระเส่าจากเ้าของมือทั้งสองจะเอ่ยบอกหลังเห็นฉันหยุดชะงักงานในมือ อีกทั้งยังยืนตัวแข็งทื่อได้แต่ผ่อนเสียงออกมาเบา ๆ
“ดะ...เดี๋ยวก็มีคนมาเห็นหรอกค่ะ” ฉันพูดเตือนเขาไปด้วยความรู้สึกกลัวว่าจะมีใครเข้ามาเห็นสภาพเราสองคนแบบนี้ พร้อมกับหันรีหันขวางมองไปทั่วอย่างคนหวาดระแวง
“ก็ไหนบอกว่าอายที่ไม่มีชั้นในปกปิดส่วนนี้ไม่ใช่เหรอไง ผมก็ช่วยปิดให้แล้วนี่ทำต่อไปสิจะได้เสร็จไว ๆ” คนตัวโตที่พูดไม่พูดเปล่าแต่กลับออกแรงขยำหน้าอกใหญ่ทั้งสองข้างที่ล้นทะลักออกมาตามง่ามนิ้วมืออย่างเมามัน ก่อนที่เขาจะซุกใบหน้าลงยังซอกคอขาวอย่างถือวิสาสะแล้วจัดการสูดดมเอาความหอมเข้าเต็มปอด
ฟืดดดดด ~~
“อ่ะ...!! อะ...อือออออ ~~”
การกระทำของเขานั้นทำฉันถึงกับสะดุ้งโหยงหลังจากที่ถูกปลายจมูกคมจรดเข้าแนบเนื้อคอ อีกทั้งยังเผลอครางเสียงหลงออกมา
“ผมจะไม่พูดซ้ำนะว่าเสียงครางของคุณมันช่างปลุกอารมณ์ผมได้เป็อย่างดี เพราะฉะนั้นถ้าคุณยังอยากให้ทุกอย่างมันจบลงเพียงแค่เท่านี้ เพราะฉะนั้นช่วยเก็บเสียงครางของคุณเอาไว้ให้ดี เพื่อความปลอดภัยของตรงนั้นของคุณที่มันยังคงไม่หายช้ำ อีกอย่างมันคงไม่เป็ผลดีแน่ถ้าหากโดนซ้ำลงไปอีกครั้ง...หึหึหึ”
คำพูดยาวเหยียดอย่างน้อยครั้งนักที่เ้าของลมหายใจร้อนจะเอื้อนเอ่ยกับคนอื่น เขาที่กระซิบกระซาบเป่าลมร้อนอยู่แถวต้นคอและกกหูที่พอฟัง ๆ ดูอารามเหมือนส่งคำเตือนมาให้ด้วยความห่วงใย แต่สำหรับฉันกลับรู้สึกว่ามันเป็เหมือนกับไฟที่ใช้สุ่มให้ความกระสันในกายสาวที่ถูกเขากระตุ้นั้แ่เช้าลุกโหมขึ้นเสียมากกว่า
ก่อนที่มือหนาและปลายจมูกคมจะยังคงละลานเรือนร่างร้อนเร่าของฉันไม่หยุด ส่วนฉันก็ทำได้แค่เพียงจิกนิ้วลงกับจานชามที่อยู่ในมือแน่นด้วยพยายามที่จะสกัดกั้นอารมณ์เปลี่ยวที่ตอนนี้มันกำลังวิ่งพล่านไปทั่วร่างสาว โดยเฉพาะบริเวณจุดศูนย์รวมความอ่อนไหวที่แม้ว่าตอนนี้มันจะรู้สึกเจ็บหน่วง ๆ อยู่บ้าง แต่ทว่า...ปฏิกิริยาที่แสดงออกมากลับตอบรับต่อสิ่งเร้าที่คนตัวโตส่งมาปรนเปรอได้เป็อย่างดี
กระทั่งเมื่อร่างกำยำทรมานร่างบางจนสาแก่ใจแล้ว เขาก็ได้แต่ยกยิ้มร้ายก่อนจะผละมือออกไปแล้วเดินกลับไปนั่งยังโซฟาห้องโถงตามเดิมเสมือนว่าสิ่งที่ทำเมื่อครู่ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น
“เฮือก ~~ ฟู่ววววว ~~”
ลมหายใจที่กักเก็บเอาไว้ถูกปล่อยออกมาทันทีหลังจากที่คนตัวโตเดินจากไป โดยที่มือทั้งสองข้างได้แต่พยายามยันอ่างล้างจานเพื่อประคองร่างที่สั่นสะท้านไม่ให้ทรุดร่วงลงไปกับพื้น
“ถ้าโดนแบบนี้ทั้งวัน...ไม่รอดแน่ไอ้มนต์เอ๊ย...” ฉันพึมพำกับตัวเองถึงสถานการณ์ในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้น ก่อนจะนึกคิดในใจถึงปฏิกิริยาของร่างกายที่แสดงออกมายามถูกเขารุกล้ำ
(เฮ้อ อันตรายจริง ๆ เพราะถึงแม้ว่าร่างกายจะมีความ้า แต่ทว่า...่ล่างตอนนี้ก็คงยังไม่พร้อมลงสนามรบ แล้วอย่างนี้จะทำยังไงดี เพราะถ้าขืนถูกเขาทำแบบนั้นอีกคงเดินไม่เป็ทรงแน่)
ฉันที่ยืนครุ่นคิดในใจอย่างใช้ความคิด ก่อนที่เสียงของใครบางคนที่ฉันกำลังหาทางหนีจากเขาจะดังสวนขึ้นมา...
