จื่อถงมิได้กลับมา
เด็กรับใช้ทั้งสองคนล้วนไม่ได้กลับมา
ซูเช่อก็อาศัยอยู่ในโรงหมอต่อ
ครึ่งเดือนต่อมา ซูเช่อจ่ายเงินให้หลิงมู่เอ๋อร์หนึ่งร้อยตำลึงเงินเป็ค่ารักษาตัว จากนั้นก็จ่ายอีกหนึ่งร้อยตำลึงเงิน เพื่อที่จะอาศัยอยู่ในโรงหมอระยะยาว เหตุผลที่เขาบอกนางว่าจะขอรั้งอยู่ที่นี่นั้นมีมากเพียงพอ นั่นก็คือเด็กรับใช้ทั้งสองคนจะต้องกลับมาหาเขา ถ้าหากเขาไปที่อื่น พวกเขาจะต้องหาตัวเขาไม่พบอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น มีเพียงแค่รั้งรออยู่ที่นี่เท่านั้น
หลิงมู่เอ๋อร์ไม่ได้ปฏิเสธ ถึงอย่างไรเขาก็แค่มากินๆ นอนๆ อยู่ในโรงหมอก็เท่านั้น คิดเสียว่าให้ที่พักเขาก็แล้วกัน
ผู้ป่วยที่หลิงมู่เอ๋อร์รักษาให้หายดี นับวันยิ่งมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ชื่อเสียงของนางขจรไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ ผ่านไปได้ไม่นานนัก คนที่อยู่เมืองใกล้ๆ ในละแวกใกล้เคียงหลายแห่งก็รู้ว่าที่นี่มีหมอหญิงเทวดาอยู่
หลิงมู่เอ๋อร์สวมชุดกระโปรงยาวสีม่วง คลุมด้วยผ้าคลุมหน้าสีม่วง ั์ตาคู่นั้นปราดเปรียวเป็อย่างยิ่ง ราวกับเทพธิดาตัวน้อยที่ลงมาจุติบนโลกมนุษย์ก็มิปาน แต่ก่อนรูปร่างของนางแห้งเหี่ยว แต่ตอนนี้หลังจากผ่านการบำรุงมา รูปร่างของนางยิ่งงดงามมากขึ้นเรื่อยๆ สถานที่ที่นางเดินผ่านมักจะอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของยาสมุนไพรอ่อนๆ กลิ่นหอมนั้นอ่อนยิ่งนัก แต่กลับสามารถปลุกพลังทำให้คนรู้สึกมีชีวิตชีวาได้
“หล่อเหลายิ่งนัก!” ภายในโรงหมอ มีแม่นางน้อยกลุ่มหนึ่งห้อมล้อมอยู่ที่นั่น และใช้สายตาเคลิบเคลิ้มเมียงมองไปยังซูเช่อที่เดินเข้ามาจากด้านนอก
ซูเช่อแต่งกายด้วยอาภรณ์สีขาวทั้งร่าง ในมือเล่นป้ายหยกพกห้อยข้างเอว ใบหน้าพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นชวนฝัน เขากวาดสายตาผ่านเหล่าหญิงสาวที่อยู่ด้านข้างไป ยามนั้นรอยยิ้มของเขายิ่งทวีความอบอุ่นยิ่งขึ้นไปอีก
“ว้าว!” ทุกคนเอามือขึ้นมากุมที่หัวใจ ก่อนจะส่งเสียงกรีดร้องที่เสียดแทงแก้วหูออกมา “เขายิ้มให้ข้าด้วย!หล่อเหลามากเหลือเกิน!”
หลิงมู่เอ๋อร์ที่กำลังตรวจวินิจฉัยโรคให้คนป่วยอยู่ ครั้นเห็นสถานการณ์เช่นนี้ นางก็ขมวดคิ้วขึ้นมา ก่อนจะใช้สายตาไม่พอใจมองไปทางซูเช่อที่เดินเข้ามา
ซูเช่อทำราวกับไม่ได้สังเกตเห็นความไม่พอใจของหลิงมู่เอ๋อร์ เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของหลิงมู่เอ๋อร์ เอ่ยด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นว่า “แม่นางหลิง ้าให้ข้าช่วยเหลืออันใดหรือไม่?”
หลิงมู่เอ๋อร์ปฏิเสธอย่างเ็า “ไม่ต้อง ถ้าหากเ้าอยู่ที่นี่ ข้าต้องยุ่งั้แ่เช้าจรดเย็น ก็เกรงว่าคงจะไม่เหลือเวลาพักผ่อนแล้ว”
“เช่นนี้ไม่ดีหรือ?ยิ่งการค้าของแม่นางหลิงดีขึ้นมากเท่าใด ก็จะหาเงินได้เยอะมากขึ้นเท่านั้น” ซูเช่อนั่งลงตรงด้านข้ามหลิงมู่เอ๋อร์
“ข้าเพียงแค่อยากช่วยเหลือคนที่เจ็บป่วยจริงๆ แต่ไม่ใช่กลุ่มคนที่… ป่วยเป็โรครักเพราะคะนึงหา โรคไข้ใจของพวกเขามีเพียงแค่เ้าท่านั้นที่สามารถรักษาได้” หลิงมู่เอ๋อร์ชำเลืองมองไปที่หญิงสาวเ่าั้หนึ่งที แล้วเงยหน้าหันไปมองโจวฉี่เยี่ยนที่อยู่ข้างๆ ก่อนกล่าวว่า “พี่ใหญ่โจวเ้าคะ ลำบากท่านช่วยทำให้แม่นางน้อยเ่าั้ออกไปด้วยเถิดเ้าค่ะ โรงหมอ้าความสงบเป็อย่างยิ่ง”
โจวฉี่เยี่ยนเองก็มีรูปลักษณ์ที่หล่อเหลามากเช่นกัน แต่ความหล่อเหลาของเขาต่างกับซูเช่ออย่างสิ้นเชิง แท้จริงแล้วชายหนุ่มสองคนนี้ดึงดูดหญิงสาวทั้งเมืองนี้ให้คลั่งไคล้ชายงาม แต่ว่าโจวฉี่เยี่ยนไม่ใคร่ชอบพูดจา ไม่โปรดการยิ้มแย้ม เขามักจะทำหน้านิ่งขรึม คนที่ชื่นชอบมีมาก แต่ว่าคนที่หวาดกลัวเขาก็มีไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อไม่กี่วันก่อนที่เขาโยนแม่นางน้อยผู้งดงามนางหนึ่งออกจากประตูอย่างไม่รักหยกถนอมบุปผาเลยแม้แต่น้อย แม่นางน้อยผู้นั้นร้องไห้อย่างเ็ปใจอยู่หน้าประตูหลายชั่วยาม โจวฉี่เยี่ยนไม่เพียงไม่ใจอ่อน ทั้งยังแจ้งทางการมาจับแม่นางน้อยนางนั้นอีกด้วย
นับั้แ่นั้นเป็ต้นมา หญิงสาวเ่าั้ก็รู้ว่ายังมีชายหนุ่มบางคนที่ไม่รู้ถึงอารมณ์รักของหนุ่มสาวมาั้แ่กำเนิด แม้ว่าพวกนางจะควักหัวใจออกมากองตรงหน้า เขาก็ไม่มีทางที่จะหลียวแลมัน
โจวฉี่เยี่ยนมองหญิงสาวเ่าั้อย่างเ็า ครั้นเหล่าหญิงสาวเห็นสีหน้าท่าทางของเขาแล้ว แต่ละคนต่างก็หดคอไปตามๆ กันด้วยท่าทางที่หวาดกลัว
ซูเช่อหันกลับไปมอง โบกมือไปยังทิศทางของหญิงสาวเ่าั้ “แม่นางทุกท่านกลับไปก่อนเถิด!ที่นี่เป็โรงหมอ อย่าได้ยืนกีดขวางทางประตูเลย”
ทุกคนมองที่ไปซูเช่ออย่างคลั่งไคล้ พวกนางกำลังคิดว่า การพูดของบุรุษรูปงามดั่งหยกท่านนี้ เขาต้องเป็คุณชายเป็แน่กระมัง!เขารูปลักษณ์หล่อเหลา ทั้งยังอ่อนโยนและใจดีอีกด้วย
ในที่สุดหญิงสาวผู้คลั่งไคล้เ่าั้ก็จากไป ภายในเวลาอันสั้นโรงหมอก็เงียบสงบขึ้นมาทันที
“พี่ใหญ่โจว แขวนป้ายที่หน้าประตูว่านับั้แ่นี้เป็ต้นไป นอกจากคนป่วยและครอบครัวของคนป่วยแล้ว ผู้อื่นที่มาเข้ามาใกล้หน้าประตูโรงหมอของพวกเรา จะเก็บเงินชั่วยามละสิบอีแปะ พวกเขาอยากจะมาชมงิ้วที่นี่ก็ย่อมได้ ขอเพียงแค่พวกเขาจ่ายเงิน ก็ให้พวกเขาดูให้พอใจ หากคุณชายซูยินยอมล่ะก็ ข้าก็จะให้พวกเขาได้ดูจนหนำอกหนำใจ” หลิงมู่เอ๋อร์เงยหน้ามองซูเช่อ “ความคิดนี้เป็อย่างไร?คุณชายซู”
ซูเช่อยิ้มบางๆ พลางกล่าว “แม่นางอย่าได้โมโหเช่นนี้ หลังจากนี้คนแซ่ซูจะไม่หาเื่วุ่นวายมาให้แม่นางอีกแล้ว”
“ก็หวังว่าจะเป็อย่างนั้น” หลิงมู่เอ๋อร์ไม่สนใจซูเช่ออีกต่อไป
ซูเช่อไม่ได้รบกวนหลิงมู่เอ๋อร์อีก แต่ก็ไม่ได้ไปจากที่นี่ เขานั่งอยู่ที่ด้านหน้าของโต๊ะด้านตรงข้าม จิบชาชั้นเลวอย่างละเมียดละไม ทำราวกับว่านั่นคือน้ำชาชั้นดีที่สุดอย่างไรอย่างนั้น
“ท่านหมอเทวดา…” สตรีนางหนึ่งกุมท้องเดินเข้ามา แววตาของนางวูบไหว มีท่าทางลังเลที่จะกล่าวออกมา
เมื่อได้เห็นคนผู้นี้ หลิงมู่เอ๋อร์ไม่อาจกล่าวไม่ได้เลยว่าโลกใบนี้ช่างกลมเหลือเกิน หญิงตั้งครรภ์นางนี้ไม่ใช่ใครอื่นใด แต่เป็หลิงไฉ่เวยป้าตัวดีของนางนั่นเอง
หลิงมู่เอ๋อร์ไม่ได้เอ่ยอันใด ได้แต่ดูว่าหลิงไฉ่เวยจะมาเล่นลูกเล่นไม้อันใดอีก ตอนนี้นางปิดบังใบหน้าเอาไว้ ดังนั้นหลิงไฉ่เวยจึงจำนางไม่ได้
นางมองที่ท้องของหลิงไฉ่เวย เดาว่าจุดประสงค์ที่นางมาในวันนี้ต้องมีความเกี่ยวข้องกับครรภ์นี้แน่
หลิงไฉ่เวยมองไปรอบๆ ก็เห็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาสองคน พวงแก้มของนางแดงก่ำ ดวงตาฉายประกายความหลงใหลออกมา
ในตอนนั้น นางก็คิดถึงชายหนุ่มที่น่ารังเกียจในบ้านผู้นั้นขึ้นมา นี่เป็ครั้งแรกที่นางรู้สึกเสียใจในภายหลังที่ได้แต่งให้เขา ถ้าหากนางยังไม่ได้แต่งงานก็จะสามารถแต่งงานกับคุณชายรูปงามเช่นนี้ได้
หลิงมู่เอ๋อร์เห็นหลิงไฉ่เวยเอ่ยเพียงประโยคเดียว จากนั้นก็ยืนใจลอยเคลิบเคลิ้มอยู่ที่นั่น นางขมวดคิ้วแล้วมองไปทางซูเช่อที่อยู่ไม่ไกลออกไปนัก
ซูเช่อทำสีหน้าท่าทางราวกับเขานั้นไร้ซึ่งความผิด
ครานี้เขาไม่ได้ทำอันใดเลย สตรีนางนั้นมองเขาอย่างหลงใหลคลั่งไคล้เอง ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับเขาสักหน่อย
“เ้ามาหาหมอ หรือจะมาดูชายหนุ่มกันแน่?” ประโยคนี้กล่าวออกมาอย่างไม่มีความเกรงใจเลยแต่น้อย
หลิงมู่เอ๋อร์มีความเกรงใจต่อคนป่วยมาตลอด ไม่เคยกล่าวคำที่ไม่รื่นหูอย่างนี้ออกมาก่อน
หลิงไฉ่เวยดึงสติกลับมา นางลูบที่ท้อง แล้วนำมือมาวางบนโต๊ะ “ท่านหมอเทวดาได้โปรดช่วยจับชีพจรให้ข้าด้วยเถิด!”
หลิงมู่เอ๋อร์ไม่รู้ว่านางจะลูกเล่นไม้ใด นางจับชีพจร ก่อนจะขมวดคิ้วแน่น
“เด็กในครรภ์ของเ้าตายไปแล้วหลายวัน” ช่างใจกล้าเสียจริง!ทารกในครรภ์ตายแล้วยังไม่รีบเตรียมคลอดเอาออกมา กลับปล่อยไว้อยู่ในท้องอีก
สีหน้าของหลิงไฉ่เวยซีดเซียว ถึงแม้ว่าจะคาดเดาถึงผลลัพธ์มาก่อนล่วงหน้าแล้ว แต่เมื่อได้ยินคำวินิจฉัยก็ยังได้รับความะเืใจอยู่ ดวงตาของนางฉายแววอำมหิตออกมา
หลิงหูเตี๋ย!
เป็เพราะหลิงหูเตี๋ยที่ทำร้ายนาง
“ท่านหมอเทวดา ท่านมีวิธีที่จะช่วยชีวิตลูกของข้าใช่หรือไม่?” หลิงไฉ่เวยมองไปที่หลิงมู่เอ๋อร์ด้วยสายตาขอร้องวิงวอน “ขอร้องท่านล่ะ ช่วยข้าช่วยชีวิตลูกข้าให้กลับคืนมาด้วยเถิด!”
หลิงมู่เอ๋อร์สังเกตใบหน้าเล็กที่ขาวซีดของหลิงไฉ่เวย มองไม่ออกจริงๆ ว่านางรักลูกของตนเองมากขนาดนี้ แต่ว่าก็เป็เื่ปกติ นี่เป็ลูกของนางเอง คนเราไม่ว่าจะโหดร้ายแค่ไหนก็ไม่ทำร้ายลูกตัวเอง!เสือถึงร้ายอย่างไรก็ไม่กินลูกตัวเอง ต่อให้เป็คนที่โเี้มากเพียงใด แต่ก็ไม่คิดที่จะลงมือทำร้ายลูกของตัวเองกระมัง!
“ข้าเป็หมอ ไม่ใช่เทพเซียน” หลิงมู่เอ๋อร์ทำสีหน้าไม่พอใจ “อย่างเดียวที่ข้าสามารถทำได้ตอนนี้ก็คือจัดยาหนึ่งสำรับให้เ้า ช่วยให้เ้าขับเด็กที่อยู่ในท้องออกมา”
“ไม่ได้นะ!” หลิงไฉ่เวยกรีดร้องออกมา
นางเห็นว่ามีผู้ป่วยคนอื่นเดินเข้ามาอีกก็ไม่กล้าดึงความสนใจจากพวกเขา ทำได้เพียงกล่าวด้วยเสียงต่ำเบาว่า “ท่านหมอเทวดา ท่านไม่ได้เป็หมอเทวดาหรอกหรือ?ทุกคนต่างกล่าวกันว่าวิชาแพทย์ของท่านดีเลิศ ท่านสามารถช่วยพวกเขาได้ เหตุใดถึงไม่สามารถช่วยชีวิตลูกของข้าได้ล่ะ?สามีของข้าผู้นั้นไม่ได้มีข้าเพียงผู้เดียว เขายังมีอนุภรรยาอีกนางหนึ่ง อนุนางนั้นกำลังจะปีนขึ้นมาบนตำแหน่งของข้าแล้ว ข้าไม่อาจสูญเสียลูกคนนี้ไปได้ มิเช่นนั้นข้าก็จะยิ่งไม่มีตำแหน่งในบ้านนั้น ท่านหมอเทวดา ขอร้องท่านล่ะ ได้โปรดช่วยชีวิตลูกของข้าด้วยเถิด!”
หลิงมู่เอ๋อร์หัวเราะเยาะ
นางคิดว่าหลิงไฉ่เวยกลายเป็คนดีแล้ว แท้จริงเป็นางที่ประเมินคุณธรรมของสตรีผู้นี้สูงส่งเกินไป
อนุภรรยา?หลิงหูเตี๋ยกับนางอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน นั่นเป็ภรรยาที่เท่าเทียมกันต่างหากเล่า เพื่อที่จะได้กดข่มหลิงหูเตี๋ย แม้แต่ชีวิตน้อยๆ ของตนเองก็ไม่้าแล้ว ช่างกล้าทำลงไปได้จริงๆ
“ข้าเคยกล่าวไปแล้ว ลูกของเ้าไม่อยู่แล้ว” หลิงมู่เอ๋อร์มองหลิงไฉ่เวยอย่างเ็า “ถ้าเ้าไม่เชื่อในวิชาแพทย์ของข้า เช่นนั้นก็ไปหาหมอคนอื่นเถิด!เ้าไปได้แล้ว อย่ามารบกวนคนป่วยผู้อื่นที่จะหาหมอ”
หลิงมู่เอ๋อร์ทำท่าทางเชื้อเชิญนางออกไป
คนป่วยด้านหลังเห็นนางก่อกวนไม่หยุดก็เร่งรัดให้นางออกไปเช่นเดียวกัน แต่ว่านางไม่ยินยอม จากนั้นจึงนั่งร้องไห้ขอร้องอ้อนวอนอยู่ที่นั่นเป็เวลานาน
หลิงมู่เอ๋อร์ถูกรบกวนจนเหลืออด เกือบจะเก็บอารมณ์ของตนเองไม่ไหว ในตอนที่นางอดทนจนเกือบจะหมดความอดทนนั้น ซูเช่อก็เดินเข้าไป กล่าวกับหลิงไฉ่เวยว่า “แม่นาง อย่าได้เสียใจไปเลย เ้ายังอายุยังน้อย ถึงอย่างไรก็ยังสามารถมีบุตรได้ สามีของเ้าโปรดปรานอนุภรรยา นั่นก็เพราะว่าเขามีตาหามีแววไม่ รอเวลานานไป เขาก็จะได้รู้ถึงความดีของเ้าเอง”
เดิมทีหลิงไฉ่เวยเป็คนที่อารมณ์ฉุนเฉียวง่าย แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณชายที่รูปงามเช่นนี้ นางไม่มีทางที่จะแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวออกมา นางหน้าแดงก่อนจะพยักหน้า
หลิงมู่เอ๋อร์มองไปที่หลิงไฉ่เวยอย่างเยาะเย้ยเหยียดหยาม ในเวลาอันสั้น สตรีนางนี้แก่ขึ้นอีกหลายปี ดูเหมือนว่าชีวิตในมือของชายคนนั้นจะไม่น่าพอใจนัก แต่ว่าก็เป็เช่นนั้นจริง นางเองก็เป็คนโง่เขลาคนหนึ่ง เมื่อก่อนก็ถูกหลิงหูเตี๋ยหลอกจนหัวหมุน ตอนนี้หลิงหูเตี๋ยก็ใช้สามีคนเดียวกันกับนาง ทว่ามีเพียงแต่หลิงหูเตี๋ยคนเดียวเท่านั้นที่ชนะอย่างขาดลอย
หลังจากที่หลิงไฉ่เวยจากไป อารมณ์ของหลิงมู่เอ๋อร์ก็ยังไม่ดีขึ้น วันนี้นางตั้งใจจะปิดร้านเร็วขึ้น และก็ให้คนป่วยที่อยู่ด้านหลังเ่าั้รีบกลับเรือนของตนไป
“คุณชายซู…” หลิงมู่เอ๋อร์เห็นซูเช่อเดินตามอยู่ด้านหลังของนางก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย “เ้าจะตามข้าทำสิ่งใด?”
“พรุ่งนี้ก็เป็เทศกาลร้อยบุปผาของพวกเ้าที่นี่” ซูเช่อมองไปที่หลิงมู่เอ๋อร์ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มงดงามสุภาพ “ข้าอยู่ที่นี่อย่างโดดเดี่ยว ไร้ญาติขาดมิตรสหาย รู้จักเพียงแต่แม่นางผู้เดียว ข้าคิดว่าจากระยะเวลาที่ผ่านมานี้ พวกเราก็นับได้ว่าเป็สหายกันแล้ว ดังนั้น จึงอยากไปคารวะเยี่ยมเยียนท่านพ่อท่านแม่ของเ้า”
“ไม่จำเป็แล้ว คุณชายซูเป็เหมือนกับดวงจันทร์บนท้องนภา ผู้น้อยอย่างข้าก็เป็เหมือนกันฝุ่นผงบนพื้นธุลีดิน พวกเราอยู่ในสังคมที่ต่างฐานะกัน” หลิงมู่เอ๋อร์ปฏิเสธอย่างเ็า “ถ้าหากคุณชายซูรู้สึกเบื่อหน่าย ก็สามารถไปไหว้พระที่วัดได้ พรุ่งนี้น่าจะมีผู้ที่มีจิตใจศรัทธาเป็จำนวนมากพากันไปที่วัด คุณชายซูสามารถไปลองชิมอาหารเจที่วัดได้”
“เป็เช่นนี้นี่เอง… เช่นนั้นก็ได้!ในเมื่อแม่นางไม่้าให้คนแซ่ซูรบกวน ข้าก็จะไม่รบกวนแล้ว” ซูเช่อเอามือหนึ่งไพล่หลัง ทำท่าทางอย่างทะนงตัว
มีคุณชายรูปงามผู้หนึ่งยืนอยู่ในท่ามกลางกลุ่มคนธรรมดาทั่วไป ย่อมดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมาย แล้วยังได้หัวใจของหญิงสาวไปไม่น้อยอีกด้วย หลิงมู่เอ๋อร์ที่ทำหน้าที่เป็หญิงสาวที่อยู่ข้างกายของซูเช่อ ก็ได้รับการจดจ้องอย่างแค้นเคียงจากหญิงสาวเ่าั้ไม่น้อยเช่นกัน เป็ไปอย่างที่นางคิดจริงๆ นางถึงไม่ชอบคุณชายผู้สูงศักดิ์ที่หลงตนเองเป็ที่สุด
“แม่นางหลิงเป็หญิงสาวธรรมดา ชื่นชอบใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ถ้าหากเ้ายังจดจำบุญคุณที่นางเคยช่วยชีวิตเ้าได้จริงๆ ก็อย่านำพาความวุ่นวายเ่าั้มาให้นาง” โจวฉี่เยี่ยนเดินมาปรากฏอยู่ด้านหลังของซูเช่อ
ซูเช่อหันกลับไปมองโจวฉี่เยี่ยน ั์ตาที่อ่อนโยนคู่นั้นไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ มีเพียงแต่ความเ็าเฉยเมยเท่านั้น เขาเม้มปากยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “หรือว่าสิ่งที่เ้านำมาให้นางนั้นไม่ใช่ความวุ่นวายหรือ?ผู้อื่นไม่รู้จักเ้า แต่ว่าข้ารู้จักฐานะของเ้า เมื่อเทียบความเดือดร้อนเ่าั้กับเ้าแล้ว เื่เดือดร้อนของข้าจะนับว่าเป็อันใดได้?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้