สวย!
ผู้คนมากมายเมื่อพบเซี่ยเสี่ยวหลานเป็ครั้งแรก คำแรกที่โผล่เข้ามาในหัวก็คือคำนี้ คำบรรยายสละสลวยอะไรก็นึกไม่ออก สวยไร้ที่ติ ธรรมเนียมท้องถิ่นในปัจจุบันอาจไม่เชิดชูความงามเช่นนี้ แต่สวยก็คือสวย เรียบง่ายและตรงไปตรงมา ทำให้ผู้คนหาข้อโต้แย้งไม่ได้
หน้าประตูหน่วยงานของโจวเฉิงมีต้นหลิวทอดยาวเป็แนว เดือนมีนาคมใบหลิวบางเฉียบ ก้านหลิวพลิ้วไสวไปตามสายลม
เซี่ยเสี่ยวหลานสวมเนื้อนอกตัวบางสีเขียว ความยาวถึงบริเวณเข่า ด้านในคือเสื้อไหมพรมสีขาว ท่อนล่างน่าจะสวมเพียงกางเกงสีดำ ขากางเกงเล็กแคบ เรียวขานั้นช่างยาวและตรง
คนส่วนใหญ่เข้ากันไม่ได้กับสีเขียว เพราะทำให้ใบหน้าดูหมองได้ง่าย
แต่พออยู่บนกายเซี่ยเสี่ยวหลานกลับเหมาะเจาะยิ่งนัก
เธอไม่เพียงแต่หน้าตาสวย รูปร่างก็สะโอดสะอง ดุจดั่งต้นหลิวเ่าั้ พอลมพัดผ่าน ก้านหลิวเบาบางก็สะกิดหัวใจของผู้คน
เมื่อครู่โห่ร้องอื้ออึงจะมาดู ‘พี่สะใภ้’ เมื่อได้พบเข้าจริงๆ กลับไม่กล้าเอะอะเสียงดัง พวกเราที่หยาบกระด้างเช่นนี้ พออ้าปากจะทำคนเขาใกลัวหรือเปล่า? เหล่าฟางและเกาเฟยอยู่ด้านหลังกลุ่มคน ทั้งสองต่างไม่พูดอะไรแม้แต่ประโยคเดียว
สวยถึงขนาดนี้ได้อย่างไร?
ดาราภาพยนตร์บนโปสเตอร์ก็หน้าตาแบบนี้เช่นกัน ดาราภาพยนตร์ห่างไกลจากทุกคนมาก ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานได้ยืนงดงามอยู่ตรงนั้นแล้ว
คงทั้งริษยาและเสียหน้า เกาเฟยแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี มีคนรักแบบนี้ ไม่แปลกใจที่โจวเฉิงจะไม่สนคนอื่น
เธอจำใจยอมรับ อย่าว่าแต่ลูกพี่ลูกน้องที่เป็เพียงข้ออ้าง ขนาดตัวเธอเองยังห่างชั้นจากคนรักของโจวเฉิงเหมือนกัน
หลังจากนั้นก็นึกคิดด้วยความเดือดดาล หน้าตาสะสวยแล้วอย่างไร มิใช่แค่ผู้หญิงต่างถิ่นคนหนึ่งหรือ!
เกาเฟยมองอีกฝ่ายั้แ่ศีรษะจรดปลายเท้า อยากจะหาความข้นแค้นและไร้รสนิยมของคนต่างถิ่นให้พบ ทว่ามองไปมองมา เซี่ยเสี่ยวหลานดูเหมือนจะทันสมัยกว่าเธอเล็กน้อยด้วยซ้ำ ความอับอายของเกาเฟยกลายเป็ความรู้สึกโมโห เธอทึกทักว่าเพื่อมาอวดโอ้ถึงหน่วยงานในวันนี้ ทั้งครอบครัวอีกฝ่ายคงต้องกินแกลบกลืนหญ้าไปอีกนานโข!
พอคิดเช่นนี้ เกาเฟยถึงตามหาความภาคภูมิใจกลับมาได้บ้าง
์ท่านยุติธรรม เป็ไปไม่ได้ที่จะทำให้คนคนหนึ่งเป็เลิศเสียทุกอย่าง มีใบหน้าจิ้งจอกสาวที่บุรุษนิยมชมชอบแล้ว ยังต้องมอบสถานะครอบครัวที่ดีให้เธออีกหรือ? คงใช้รูปลักษณ์จับโจวเฉิงจนอยู่หมัด โจวเฉิงยังเด็กเกินไปยิ่งนัก การหาคู่หมายจะพิจารณาแค่รูปลักษณ์ได้อย่างไร!
“ผู้หญิงต่างถิ่นคนเดียว ดูท่าทางภูมิใจของโจวเฉิงนั่นสิ”
เหล่าฟางบ่นอุบอิบด้วยอีกคน
มนุษย์โปรดปรานสิ่งที่เจริญหูเจริญตา หากอยู่ในสถานที่เล็กซึ่งปิดกั้นและล้าหลัง ใบหน้าเช่นนี้ของเซี่ยเสี่ยวหลานโดนคนติว่าดูไม่ภูมิฐาน เห็นแล้วก็รู้ว่าเป็พวกเหลวไหล แม้ออกจากหมู่บ้านต้าเหอ เธอก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็ใบหน้านางเอกผู้มีคุณธรรมสูงส่งได้ทันทีทันใด แต่อันที่จริงผู้คนไม่ได้ใส่ใจว่าภูมิฐานหรือไม่ขนาดนั้นแล้ว การแสวงหาความสวยงามของมนุษย์คือสัญชาตญาณ แฟนสาวที่สะสวยเจริญตาทำเอาเหล่าฟางอิจฉาริษยาและเกลียดชังทีเดียว
มิใช่ว่าเกาเฟยดีไม่พอ ทว่าหากสับเปลี่ยนรูปกายภายนอกกับคนรักของโจวเฉิงได้ เหล่าฟางก็คิดว่าชีวิตนี้สมบูรณ์เพียบพร้อมแล้ว
“พวกนายยืนบื้อทำอะไรน่ะ ยังไม่ทักทายพี่สะใภ้อีก? นี่คือคนรักของฉัน เซี่ยเสี่ยวหลาน”
โจวเฉิงทำลายสถานการณ์อันน่าอึดอัด ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาถูกฝึกฝนจนเกิดปฏิกิริยาอัตโนมัติ ยืดหลังตรงโดยพลัน แสดงความเคารพอยู่ที่เดิม
“สวัสดีพี่สะใภ้!”
“ยินดีต้อนรับพี่สะใภ้มาตรวจตราการปฏิบัติงาน!”
“พี่สะใภ้ ผมคือ...”
โจวเฉิงทำหน้าถมึงทึง เ้าพวกนี้พูดอะไรกัน ให้พวกนายทักทาย ไม่ใช่แนะนำตนเองเสียละเอียดยิบขนาดนี้ คิดจะตีท้ายครัวใช่หรือไม่น่ะ? โจวเฉิงจดจำไม่กี่คนนั่นไว้แล้ว รอเซี่ยเสี่ยวหลานจากไปค่อย ‘จัดการ’ ให้หนัก
เซี่ยเสี่ยวหลานหลุดหัวเราะพรืด “สวัสดีทุกคนค่ะ ได้พบกับทุกคนเป็ครั้งแรก พวกคุณอย่าเกรงใจกันเกินไปเลย ฉันยังต้องขอบคุณที่ปกติพวกคุณคอยดูแลโจวเฉิงด้วยซ้ำ!”
โอ๊ย ใครเป็ผู้ดูแลมัจจุราชโจวกันเล่า มัจจุราชโจวจำเป็ต้องให้พวกเขาดูแลเสียที่ไหน แต่คนรักของโจวเฉิงพูดจาน่าฟังยิ่งนัก นอกจากสุ่มเสียงอันไพเราะ เนื้อความที่เอ่ยก็น่าพึงใจด้วย การพูดตามมารยาทต้องขึ้นอยู่กับว่าใครกล่าว บางคนพูดแล้วแผ่ความเสแสร้ง ส่วนเซี่ยเสี่ยวหลานนั้นจริงใจเป็ที่สุด
โจวเฉิงมองเซี่ยเสี่ยวหลานด้วยความภูมิใจเหลือล้นเช่นกัน
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ชอบจุ้นจ้านก่อความวุ่นวาย เวลาส่งของจะตั้งใจส่งมาเป็จำนวนมาก โจวเฉิงจะได้แบ่งให้คนรอบข้าง จ่ายเงินเท่าไรไม่ใช่ปัญหา โจวเฉิงและเซี่ยเสี่ยวหลานต่างไม่อัตคัดเงินจำนวนแค่นั้น เซี่ยเสี่ยวหลาน้าให้โจวเฉิงมีมนุษยสัมพันธ์อันดีในหน่วยงาน ทำให้ชีวิตเขาดำเนินไปอย่างสบายใจ ถึงครุ่นคิดถี่ถ้วนแบบนี้
นี่คือภรรยาของเขานั่นเอง!
หัวใจดวงนั้นของโจวเฉิงแทบหลุดออกมาจากในอกแล้ว
แต่ดันมีคนไม่รู้กาลเทศะโผล่มาทำลายบรรยากาศ เกาเฟยทำทีสนิทสนมเป็พิเศษ “โจวเฉิง คนรักเธอเป็คนมณฑลไหนน่ะ? พูดจาไม่ติดสำเนียงถิ่นสักนิดเดียว”
“นี่คือ...”
ท่ามกลางเหล่าชายหนุ่มมีหญิงสาวผู้หนึ่ง สวมชุดไปรเวท นั่นก็เป็สมาชิกครอบครัวของคนในหน่วยงาน?
เซี่ยเสี่ยวหลานรอโจวเฉิงแนะนำ ตอนดวงตาของเธอจดจ่อมองเขาช่างสดใสเปล่งประกาย ราวกับปกคลุมด้วยน้ำ โจวเฉิงโดนสายตาแบบนี้มองเข้า ยังจำความรู้สึกรำคาญก่อนหน้านี้ได้ที่ไหน เขาแนะนำพอเป็พิธี
“นี่คือเกาเฟย คนรักของคุณฟาง เธอก็เรียกพี่สะใภ้เถอะ”
เซี่ยเสี่ยวหลานรักษาเกียรติของโจวเฉิงต่อหน้าคนนอกเป็อย่างมาก เธอเรียกตามอย่างว่าง่าย
“พี่สะใภ้ ฉันเป็คนอวี้หนานค่ะ”
มณฑลอวี้หนานหรือ นั่นมันคือสถานที่แสนแร้นแค้น เกาเฟยลอบดูถูก น้ำเสียงเซี่ยเสี่ยวหลานคือสิ่งที่ธรรมชาติสร้าง เหมือนกับรูปลักษณ์นี้ อ่อนหวานและนุ่มนวล คนที่พบครั้งแรกจะเข้าใจผิดว่าเธอนิสัยหัวอ่อน เกาเฟยจึงคิดว่าสามารถข่มเหงได้ไม่ยาก อดไม่ไหวที่จะหักหน้าเซี่ยเสี่ยวหลาน
“มณฑลอวี้หนานรึ ฉันยังไม่เคยไปเลย ที่นั่นพวกเธอผลิตอะไรหรือ?”
เธอถามเช่นนี้เพื่อขุมหลุมให้เซี่ยเสี่ยวหลาน แม้มณฑลอวี้หนานจะยากจนขนาดไหนก็ต้องมีของดีท้องถิ่นบ้างสิ จากมณฑลอวี้หนานมาถึงหน่วยงาน อาจไม่นำของมาฝากคนอื่น แต่ไม่ถืออะไรมาให้โจวเฉิงหน่อยหรือ? เกาเฟยจงใจจะทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานขายหน้าต่อสาธารณชน และทำให้โจวเฉิงพานรู้สึกเสียหน้าไปด้วย หากสายสัมพันธ์ระหว่างสองคนเกิดความขุ่นเคืองขึ้น เกาเฟยก็สุขสมอารมณ์หมายแล้ว
แถมบอกไม่ได้ว่าจะเลวร้ายถึงเพียงใด หญิงสาววัยรุ่นคิดน้อยชั่วขณะจนกระทำเื่เสียมารยาทก็พบได้บ่อยๆ
โจวเฉิงขมวดคิ้ว คนรักของเหล่าฟางเป็อะไร เอาแต่วอแวภรรยาเขาถามโน่นนี่นั่น การไม่รู้จักอ่านอารมณ์คนอื่นช่างน่ารำคาญเหลือทน ทำเช่นนี้ยังพูดว่าตระกูลดีได้อีก
โจวเฉิงเกือบไม่รู้จัก ‘ตระกูลดี’ คำนี้แล้วด้วยซ้ำ!
เซี่ยเสี่ยวหลานเหมือนไม่รู้สึกถึงเจตนาร้ายของเกาเฟยแม้แต่น้อย เธอตอบอย่างซื่อตรงตามคำถามของเกาเฟย “ซินเจิ้งมีพุทราแห้ง เจียวจั้วปลูกเถี่ยกุ้นซานเย่า ชาเหมาเจียนของซิ่นหยางก็ไม่เลว... อวี้หนานคือมณฑลเกษตรกรรมขนาดใหญ่ ผลิตภัณฑ์การเกษตรยอดเยี่ยมมาก”
เกาเฟยยิ้มบางๆ สีหน้าคาดหวังอย่างยิ่ง
“พูดเสียหิวจะแย่แล้ว น่าเสียดายที่ฉันไม่เคยลองสักอย่าง”
นัยยะนั้นของเกาเฟยคือ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่นำของฝากมา น่าเสียดายทีเดียว เซี่ยเสี่ยวหลานมือเปล่ามาเยือนก็จริง โจวเฉิงไม่คาดหวังว่าเซี่ยเสี่ยวหลานต้องแบกของดีท้องถิ่นอะไรมาจากซางตูอยู่แล้ว วาจาหยาบคายประเภทนั้น้าให้ภรรยาเขาทำอะไร?
ความมุ่งร้ายของเกาเฟยทำเอาลูกน้องโจวเฉิงล้วนกระอักกระอ่วนกันหมด
พวกเขาเรียกพี่สะใภ้อย่างเป็มิตรก็เพื่อประจบขอของกินนั่นเอง คนจำนวนสองสามร้อย หากเซี่ยเสี่ยวหลานนำของกินมาฝาก ควรแบ่งให้ใคร? คนได้รับย่อมปลาบปลื้มยินดี ส่วนคนที่ไม่ได้จะคิดอย่างไร?
ในที่สุดเซี่ยเสี่ยวหลานน่าจะเข้าใจเจตนาซ่อนเร้นของเกาเฟยแล้ว เธอกล่าวต่อโจวเฉิงด้วยสีหน้าขอโทษขอโพย
“สินค้าเกษตรพวกนั้นฉันขนคนเดียวไม่ค่อยไหว ฉัน...”
เดิมทีพวกเขาอยู่ไม่ห่างจากประตูใหญ่มากนัก ระหว่างพูด คนส่งเนื้อแพะของตงไหลซุ่นก็มาจนได้ คังเหว่ยจ่ายเงินให้ก่อนแล้ว กำลังจะส่งแพะเข้ามาด้านใน เ้าหน้าที่เวรยามไม่กล้าปล่อยผ่านตามอำเภอใจ จึงรีบเดินมาแจ้ง
“หัวหน้าโจว หน้าประตูมีคนมาส่งแพะ บอกว่าพี่สะใภ้สั่งไว้”
เซี่ยเสี่ยวหลานรับประเด็นต่อได้พอดี
“...ฉันอยากชวนทุกคนกินแพะหันเสียเลยดีกว่า”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้