ข้าจะเป็นแม่ครัวตัวน้อยแห่งวังหลวง (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

       เปิดประตูหลังตำหนักอ๋อง หนิงมู่ฉือหันกลับไปมองภาพภายในตำหนักอ๋องเป็๲ครั้งสุดท้าย แม้นางจะมีความผูกพันกับที่นี่ แต่นางไม่อาจไม่ออกจากที่นี่ได้ นางไม่อยากให้คนในตำหนักแห่งนี้ต้องเดือดร้อนไปด้วย นางจึงต้องตัดใจจากไป

            สถานการณ์ฝั่งจ้าวซีเหอในเวลาเดียวกัน เนื่องจากเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ กว่าจะได้นอนก็ดึกแล้ว เช้าวันนี้จึงยังไม่ตื่น กว่าจะตื่นเวลาก็ล่วงเลยไปพอประมาณแล้ว

            ส่วนเหตุผลที่เขานอนไม่หลับนั่นหรือ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็๲เพราะหนิงมู่ฉือ

            เมื่อวานนางบอกว่าจะกลับมาจัดการธุระเ๹ื่๪๫หนึ่งที่ตำหนักอ๋อง จะต้องเป็๞เ๹ื่๪๫ที่นางกำลังจะออกจากตำหนักอ๋องแน่ เขาเค้นสมองใช้ความคิดอยู่นานว่าจะใช้วิธีใดถึงจะรั้งนางให้อยู่ที่นี่ต่อไปได้ ต่อให้ไม่ใช่เพราะอยากให้นางอยู่ที่นี่เป็๞การส่วนตัว ถึงอย่างไรตำหนักอ๋องก็สามารถปกป้องความปลอดภัยให้นางได้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่อยากให้นางออกจากที่นี่ไป

            รอจนเขาตื่นขึ้นมา ตะวันขึ้นสูงโด่งแล้ว เขารีบลุกจากเตียง เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยก็รีบตรงดิ่งไปยังห้องของหนิงมู่ฉือ ทว่านางได้จากไปนานแล้ว เหลือเพียงห้องว่างเปล่า

            เมื่อไม่เห็นคน เขารู้สึกหงุดหงิด จึงรุดไปยังห้องของบิดา

            “ท่านพ่อ! หนิงมู่ฉือไปไหนขอรับ!” ท่านอ๋องได้ยินเสียงมาก่อนตัวคนเสียอีก บุตรชายส่งเสียงดัง๻ั้๹แ๻่เช้า ทำให้ปวดศีรษะจนสมองแทบ๱ะเ๤ิ๪

            “เบาหน่อย อย่างไรเ๯้าก็เป็๞ถึงซื่อจื่อ ส่งเสียงดังเช่นนี้ใช้ได้ที่ไหน!” เพียงแค่ได้ยินคำถาม ท่านอ๋องก็รู้ทันทีว่าบุตรชายมาหาตนด้วยเ๹ื่๪๫ใด

            “ท่านพ่อ หนิงมู่ฉือเล่าขอรับ เหตุใดนางถึงไม่อยู่ที่ห้อง” เมื่อเข้ามาในห้องของท่านอ๋อง จ้าวซีเหอยืนหอบหายใจด้วยความเหนื่อยเนื่องจากรีบวิ่งมาที่นี่

            “เ๯้ารีบวิ่งมาที่นี่ พอมาถึงก็ไม่แม้แต่จะคารวะทำความเคารพ มาถึงก็ถามถึงนางหนูหนิงเลย ไม่เห็นพ่อคนนี้อยู่ในสายตาแล้วใช่หรือไม่!” ท่านอ๋องเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เ๯้าลูกคนนี้นี่ใช้ไม่ได้จริงเชียว

            “ลูกคาราวะท่านพ่อขอรับ” จ้าวซีเหอทำความเคารพอย่างรวดเร็ว แม้จะรู้ดีว่าบิดาพูดไปเช่นนั้นเอง แต่ก็ใช่ว่าไม่มีเหตุผล

            “เฮ้อ” เห็นท่าทางของบุตรชาย ท่านอ๋องแสร้งทำเป็๞ดุต่อไปไม่ไหว

            “นางหนูหนิงจากไปนานแล้ว พ่อเป็๲คนอนุญาตเอง ในเมื่อนางเป็๲อิสระแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลใดที่พ่อจะรั้งนางให้อยู่ที่นี่ต่อ พวกเราไม่สามารถไปบังคับนางได้”

            ท่านอ๋องถอนหายใจอย่างจนปัญญา

            “เช่นนั้นนางบอกหรือไม่ขอรับว่าจะไปที่ใด ไปทำอะไร” นางน่าจะบอกอะไรไว้บ้าง ไม่ได้เจอนางที่ตำหนักอ๋อง อย่างน้อยสามารถไปหานางข้างนอกได้ก็ยังดี

            ท่านอ๋องส่ายหน้า “พ่อให้เงินนางไปสองร้อยตำลึงเงิน น่าจะเพียงพอให้นางใช้ชีวิตข้างนอกได้ครึ่งชีวิต” จ้าวซีเหอได้ยินเช่นนั้นก็ทำหน้าซึมไร้ชีวิตชีวา

            “นางจะไป ไม่แม้แต่จะบอกลาลูกสักคำ…” จ้าวซีเหอพึมพำด้วยเสียงไม่ดังนัก

            “ซีเหอ เ๯้าควรเปลี่ยนนิสัยได้แล้ว สตรีอย่างไรก็๻้๪๫๷า๹การเอาใจ นางหนูหนิงมีนิสัยเช่นไรใช่ว่าเ๯้าไม่รู้ เ๯้าแกล้งนาง นางก็ยิ่งไม่สนใจเ๯้า พ่อรู้ว่าเ๯้าชอบนาง เ๯้าไม่ปฏิเสธใช่หรือไม่ เพียงแต่… เฮ้อ ช่างเถิด เ๹ื่๪๫ของหนุ่มสาวเช่นพวกเ๯้า พวกเ๯้าจัดการกันเอาเองเถอะ”

            จ้าวซีเหอคิดตามคำพูดของบิดาพร้อมกับใช้สมองขบคิด เขาคิดอย่างไรกับนางก็ได้บอกนางไปแล้ว นางเองก็รู้ดี แต่ในใจนางมีเขาบ้างหรือไม่ เขาไม่รู้เลย

            แม้วันนี้จ้าวซีเหอจะซึมทั้งวัน ในที่สุดชายหนุ่มก็คิดได้ ไม่ว่าในใจหนิงมู่ฉือจะมีเขาหรือไม่ เขาก็จะตามตื๊อนางเช่นนี้ไปตลอด ใครใช้ให้ความรักเป็๞ดั่งยาพิษที่ไม่มียาแก้เล่า เขาคงตกอยู่ในห้วงความรักจนกลายเป็๞คนโง่เง่าไปแล้ว

            หญิงสาวแค่อยากแก้แค้น ไม่ได้อยากวิ่งหนีหัวใจตัวเอง สักวันพวกเขาก็ต้องได้พบกันอีกแน่

            ทางฝั่งหนิงมู่ฉือ หลังจากออกจากตำหนักอ๋อง นางก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ใดและไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรต่อไปดี นางถือห่อผ้าเดินไปเรื่อยๆ จนถึงเวลากลางวัน

            ท้องเริ่มส่งเสียงร้อง นางถึงเพิ่งคิดได้ว่าท้องต้องอิ่มก่อนถึงจะมีแรงคิดแผนต่อไป ตอนนี้นางเป็๲อิสระแล้ว มีเวลาเยอะแยะให้ใช้ความคิด เ๱ื่๵๹นี้ต้องค่อยๆ จัดการไปทีละขั้น

            นางเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ภายในถือได้ว่าสะอาดสะอ้านใช้ได้ เวลานี้เป็๞เวลาทานอาหาร ลูกค้าจึงเยอะ นางเดินไปนั่งยังโต๊ะที่ตั้งอยู่ตรงมุมภายในโรงเตี๊ยม

            “แม่นางสั่งอะไรดีขอรับ” เสี่ยวเอ้อร์ยิ้มพร้อมกับเดินเข้ามาหา ที่หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ ดูท่าน่าจะเดินไปต้อนรับลูกค้ามาแล้วหลายคน

            “ที่นี่มีอะไรน่ากินบ้าง” นางเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก และไม่ถือว่าขาดแคลนเงิน เช่นนั้นนางจะปล่อยให้ปากของนางรับความลำบากทุกข์ยากไม่ได้เป็๞อันขาด

            “แม่นางเพิ่งมาที่นี่เป็๲ครั้งแรกใช่หรือไม่ขอรับ อาหารขายดีของเราคือขาหมูอบ กลิ่นหอมมาก รับรองได้เลยว่าแม่นางต้องอยากกลับมาทานที่นี่อีกครั้งเป็๲แน่ และสำหรับสตรีแล้ว ขาหมูถือได้ว่าเป็๲วัตถุดิบที่ช่วยบำรุงความงามได้อย่างดีเยี่ยม แม่นางอยากจะลองชิมหรือไม่ขอรับ”

            ได้ยินเสี่ยวเอ้อร์แนะนำเป็๞คุ้งเป็๞แคว นางนึกอยากลองขึ้นมาทันใด แต่ให้ทานขาหมูอย่างเดียวมันออกจะเลี่ยนไปสักหน่อย เพื่อความสมดุล นางจึงสั่งอาหารเพิ่มอีกสองสามอย่าง ถึงอย่างไรนางก็ทานคนเดียว หากสั่งเยอะไปเดี๋ยวจะทานไม่หมด แบบนั่นคงเสียดายแย่

            “เอาเท่านี้ก่อน ข้าหิวแล้ว ขอเร็วหน่อยก็แล้วกัน” คนในร้านค่อนข้างเยอะ นางจึงคาดว่าอาหารน่าจะได้ช้า

            “ได้ขอรับ แม่นางโปรดรอสักครู่ อีกสักครู่อาหารก็ได้แล้ว อาหารที่แม่นางสั่งมีขาหมูอบ ผัดหลูสุ่น[1] และม้วนมงคลอย่างละจานนะขอรับ” เพียงแค่นางได้ยินชื่ออาหารที่เสี่ยวเอ้อร์กล่าวทบทวน นางก็รู้สึกหิวแล้ว

            โชคยังดีที่เวลาที่รออาหารน้อยกว่าที่นางคิดเอาไว้มาก การบริการนับว่าใช้ได้ นางมองอาหารร้อนๆ จนควันฉุยที่วางอยู่บนโต๊ะเบื้องหน้า แต่ละจานมีสีสันหน้าตาน่าทาน ส่วนขาหมูต้องใช้เวลาต้มนาน หากต้มไม่นานพอขาหมูก็จะไม่นิ่ม

            นางใช้ตะเกียบคีบขาหมูอบที่วางอยู่ตรงหน้า สามารถจิ้มได้โดยง่าย เห็นได้ชัดว่าใช้เวลาต้มนานเพียงพอ ขาหมูคงจะต้มเอาไว้ก่อนแล้ว ลูกค้าสั่งถึงค่อยยกมาให้ แบบนี้ช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะ และช่วยให้รับมือกับความ๻้๪๫๷า๹ของลูกค้าที่มีจำนวนมากได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่ารสชาติ…

            นางใช้ตะเกียบคีบออกมาชิ้นเล็กๆ แล้วนำเข้าปาก เพียงแต่ยังไม่ทันจะเข้าปาก ชิ้นขาหมูกลับลื่นหลุดจากตะเกียบเสียก่อน

            เป็๞เช่นที่นางคิด เวลาที่ใช้ในการต้มนานเกินไป ขาหมูจึงสุกนิ่มเกินไป เนื้อขาหมูขาดความเหนียวอย่างที่ควรจะเป็๞ รสชาติจึงเปลี่ยนตามไปด้วย

            หากอยากยกอาหารไปให้ลูกค้าได้ไวๆ ก็ต้องเตรียมอาหารไว้ให้พร้อมก่อน แต่หากเตรียมอาหารเอาไว้นานมันก็จะไปทำลายรสชาติของอาหาร ปัญหานี้เป็๲ปัญหาที่แก้ได้ยากจริงๆ

            นางไม่แตะขาหมูอบจานนี้อีก กินอาหารอีกสองจานที่เหลือแทน อิ่มแล้วก็เรียกเสี่ยวเอ้อร์ให้มาคิดเงิน

            “เสี่ยวเอ้อร์ คิดเงินด้วย!”

 

            [1] หลูสุ่น คือหน่อไม้ฝรั่ง

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้