ในจุดตันเถียนของถังเหล่ยยังคงดูดซับพลังิญญาฟ้าดินอย่างต่อเนื่อง พลังิญญาฟ้าดินที่มากขึ้นเรื่อยๆ ช่วยชำระล้างร่างกายของถังเหล่ย
“ทะลวงระดับแล้ว!”
ไม่นานถังเหล่ยก็ััได้ว่าพลังในร่างกายเพิ่มขึ้นหลายพันจินอีกครั้ง ระดับการบ่มเพาะทะลวงระดับผู้ชำนาญยุทธ์ถึงขั้นที่สองได้อย่างราบรื่น
ยารวมิญญาระดับสองเม็ดหนึ่ง สามารถช่วยผู้ชำนาญยุทธ์ธรรมดาเพิ่มระดับได้อย่างน้อยสามระดับย่อย
แต่ร่างกายของถังเหล่ยนั้นพิเศษ พลังิญญาฟ้าดินที่้าในการทะลวงระดับนั้นมหาศาลมาก ดังนั้นหลังจากช่วยถังเหล่ยทะลวงถึงระดับผู้ชำนาญยุทธ์ขั้นที่สองแล้ว ฤทธิ์ยาเม็ดนี้ก็ค่อยๆ ลดลง
ท้ายที่สุดพลังในร่างของถังเหล่ยก็หยุดอยู่ที่ระดับผู้ชำนาญยุทธ์ขั้นที่สองสมบูรณ์เท่านั้น
“ตอนนี้พลังของข้าเกรงว่าจะถึงสี่หมื่นห้าพันจินแล้ว!”
ถังเหล่ยชูหมัดในความมืด พร้อมััพลังในร่างกาย แล้วกล่าวพึมพำออกมา
หากอาศัยเพียงพลัง ถังเหล่ยก็เทียบได้กับผู้ชำนาญยุทธ์ขั้นที่สิบธรรมดาแล้ว
“อาการาเ็ในร่างกายของเ้าเป็อย่างไรบ้าง?”
ถังเหล่ยกระซิบถามหลินเนี่ยน
หลินเนี่ยนดูดซับทั้งของเหลวเลี้ยงิญญาอายุหนึ่งปีไป และยังกินยารวมิญญาไปเม็ดหนึ่งด้วย คงเพียงพอจะรักษาอาการาเ็ในร่างกายแล้ว
“อาการาเ็ของิญญายุทธ์ของข้าหายดีก็จริง แต่มันหลับลึกอยู่ตลอด ไม่ว่าข้าจะเรียกมันอย่างไร ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับเลย”
หลับลึกหรือ?
สายตาของถังเหล่ยเป็ประกาย สายตาที่เขาใช้มองหลินเนี่ยนแฝงด้วยความประหลาดใจอย่างหนึ่ง โชคของเด็กสาวผู้นี้คงไม่ได้ดีมากขนาดนั้นกระมัง! ถังเหล่ยรู้สึกได้ว่า ิญญายุทธ์ของนางอาจกำลังวิวัฒนาการ
ตอนแรกิญญายุทธ์ของถังเหล่ยก็เป็ระดับปฐีขั้นสูง หลังจากกินของเหลวเลี้ยงิญญาเข้าไป ก็ทะลวงระดับนภาได้สำเร็จ
ตอนที่ิญญายุทธ์ของเขาทะลวงระดับ ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยเหมือนกัน
“อย่าเพิ่งรีบร้อน ท้องฟ้าด้านนอกน่าจะยังไม่สว่าง อีกฝ่ายยังหาพวกเราไม่เจอ พักผ่อนต่ออีกหน่อยดีกว่า!”
ระดับพลังของถังเหล่ยตอนนี้ต่ำเกินไป เขาไม่อาจช่วยหลินเนี่ยนตรวจสอบสถานการณ์ในร่างกายได้
ขณะที่ด้านนอกเทือกเขาสัตว์อสูร เยียนหลิงซานกับเฮยเซียจื่อยังคงค้นหากันอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะยืนยันขอบเขตโดยประมาณได้ แต่การค้นหายังคงยุ่งยากอยู่มาก
เพราะตรงบริเวณถ้ำของถังเหล่ยได้วางพืชกลบกลิ่นอายเอาไว้ ผึ้งของเยียนหลิงซานจึงบินผ่านปากถ้ำโดยไม่พบตัวพวกเขาอยู่หลายหน
การต่อสู้ในเมืองอวิ๋นหลิวยังคงดำเนินต่อไป อีกทั้งสถานการณ์ยังรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนอวิ๋นเมิ่งกับเฮยฉานฉู่ก็ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหนแล้ว หลินเนี่ยนเริ่มกังวลเกี่ยวกับอาจารย์ของนาง
เวลาผ่านไปแล้วไปเล่า ความมืดที่หนาแน่นค่อยๆ ถูกแสงอรุณส่องผ่าน ยามเช้ากำลังมาเยือน แสงอาทิตย์เริ่มสาดส่องในเทือกเขาสัตว์อสูร
ถังเหล่ยแอบคำนวณเวลาไว้ในใจ พวกเขาใช้ยามราตรีเพื่อซ่อนตัว แต่ถ้าเช้าแล้ว โอกาสถูกเจอตัวจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
หากถึงตอนเช้า พวกเขาต้องรีบออกจากที่นี่
แต่ยังไงเสียด้านนอกก็คงอันตรายมาก พวกเขาอาจปะเข้าเยียนหลิงซานหรือเฮยเซียจื่อได้ตลอดเวลา
“ิญญายุทธ์ในร่างของเ้าเป็อย่างไรบ้างแล้ว?”
ถังเหล่ยยืมแสงสว่างที่ส่องมาจากภายนอก มองใบหน้าของหลินเนี่ยน
“ยังไม่ขยับ ทางที่ดีที่สุดคือพวกเราไปรวมตัวกับอาจารย์กันเถอะ แต่ข้าไม่รู้ว่าอาจารย์ยังอยู่ในเมืองอวิ๋นหลิวไหมนี่ซี”
หลินเนี่ยนไม่ได้นอนเลยทั้งคืน นางกังวลว่าพวกนางจะถูกเจอตัว
“น่าจะไม่ได้อยู่ในเมืองอวิ๋นหลิวแล้ว เฮยฉานฉู่ไม่ได้จัดการง่ายๆ ถ้าอาจารย์ของเ้าสังหารเขาในเมืองอวิ๋นหลิวสำเร็จ นางน่าจะมาหาพวกเราตั้งนานแล้ว”
ถังเหล่ยคาดเดาว่าอวิ๋นเมิ่งน่าจะกำลังไล่ตามเฮยฉานฉู่ไปอยู่
“เช่นนั้นตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี? ิญญายุทธ์ในร่างของข้าก็ยังไม่ตอบสนอง ถ้าถูกเจอเข้าที่นี่คงยากจะหนีรอดไปได้”
หลินเนี่ยนกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ ในฐานะที่เป็ผู้ฝึกตนผู้หนึ่ง ิญญายุทธ์นั้นสำคัญมาก หากไม่มีิญญายุทธ์แล้ว พลังของผู้ฝึกตนก็ลดลงมากกว่าครึ่งเป็อย่างน้อย
“ต้องออกไปตอนนี้เลย ฉวยโอกาสตอนที่ฟ้าเพิ่งสว่างออกจากที่นี่กลับไปเมืองอวิ๋นหลิวกัน”
ถังเหล่ยกล่าวด้วยท่าทีเด็ดเดี่ยว
หลินเนี่ยนพยักหน้ารับ ไม่มีวิธีไหนดีกว่าวิธีนี้แล้ว
ด้านนอกถ้ำ เฮยเซียจื่อยังคงหลบซ่อนเยียนหลิงซานไปด้วย ใช้วิชาลับค้นหาร่องรอยไปด้วย แต่ขนาดค้นหามาทั้งคืนแล้ว ร่องรอยสักนิดก็หาไม่พบ
เฮยเซียจื่อเริ่มรู้สึกสงสัยว่าเยียนหลิงซานจำผิดหรือเปล่า? หรือพวกถังเหล่ยจะหนีไปไกลแล้ว?
“มีการเคลื่อนไหวแล้ว!”
เฮยเซียจื่อใจสั่นกระตุก ิญญายุทธ์ตัวหนึ่งที่เขาปล่อยออกไปเจอร่องรอยเข้าแล้ว
จากนั้นร่างของเฮยเซียจื่อก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เขากำลังมุ่งหน้าไปทางที่ถังเหล่ยอยู่
ส่วนถังเหล่ยกับหลินเนี่ยนที่เพิ่งออกจากถ้ำ กำลังวิ่งไปทางชายแดนเทือกเขา
ฟุ่บๆ...
พวกถังเหล่ยเพิ่งวิ่งมาได้เวลาหนึ่งก้านธูป ในป่าก็มีเสียงทะลวงอากาศดังขึ้นมา
ถังเหล่ยกับหลินเนี่ยนเบี่ยงตัวหลบ และะโลงจากกิ่งไม้
อาวุธลับนั้นแทงไปโดนต้นไม้ใหญ่หลายคนโอบต้นหนึ่ง ก่อนที่จะค่อยๆ เหี่ยวเฉาลงต่อหน้าทั้งสอง
“ถังเหล่ย เ้าทำให้ข้าเสียเวลาหาอยู่นานนัก!”
ร่างของเฮยเซียจื่อปรากฏขึ้นจากข้างหลัง เขาไม่ได้สวมผ้าคลุมหัวไว้แล้ว และมีรอยแผลเป็น่ากลัวรอยหนึ่งลากยาวั้แ่หางตาไปถึงมุมปาก ดูน่ากลัวยิ่งนัก
ถ้ามีคนเห็นเขาตอนกลางคืนคงคิดว่าเห็นผีเข้าให้แล้วแน่ๆ
“เฮยเซียจื่อ ไยเ้าต้องไล่ตามข้าไม่เลิกด้วย? อาจารย์ของเ้าเป็หรือตายก็ไม่รู้ ในตระกูลถังมียอดฝีมือระดับยอดยุทธ์คนหนึ่งรอเขาอยู่ ไม่ใช่ว่าเ้าต้องไปเก็บศพของอาจารย์ตอนนี้แล้วเรอะ”
ถังเหล่ยที่อยู่ข้างหน้าหลินเนี่ยนเอ่ยตอบโต้
เฮยเซียจื่อหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย ถึงแม้เขาจะไม่รู้สถานการณ์ของตระกูลถัง แต่คิดว่าถังเหล่ยน่าจะไม่ได้โกหก เพราะจักรวรรดิก็ประกาศจับพวกเขามานานพอสมควร
เด็กสาวข้างกายถังเหล่ยก็ใช่ว่าฝีมือพื้นๆ นางต้องไม่ใช่ศิษย์จากตระกูลธรรมดาแน่ เช่นนั้นที่ตระกูลถังมีคนซุ่มรออยู่ก็มีความเป็ไปได้
“อาจารย์ของข้าไม่ได้ขอให้พวกเ้ามากังวล พวกเ้ากังวลเื่ของตัวเองเถอะ ถ้าข้า่ชิงิญญายุทธ์ของเ้ามาสร้างเป็หุ่นเชิดได้ พลังของอาจารย์ต้องเพิ่มขึ้นมากแน่!”
เฮยเซียจื่อจ้องถังเหล่ยไม่ละสายตา
“เอาเถอะ อาจารย์ของเ้ามีศิษย์ที่ดีจริงๆ!”
ถังเหล่ยยักไหล่ แล้วหันไปมองเฮยเซียจื่อครั้งหนึ่ง ก่อนดึงหลินเนี่ยนหนีไปด้วยความรวดเร็วที่ไม่ทันตั้งตัว
พลังต่อสู้ของหลินเนี่ยนยามนี้ยังไม่พอ ส่วนพลังของถังเหล่ยคงไม่มีทางสู้กับเฮยเซียจื่อได้ ใช้แผนหนีก่อนดีที่สุด
เฮยเซียจื่อเหยียดรอยยิ้มเ็า คิดหนีหรือ!? ต่อหน้าเขาเป็ไปไม่ได้หรอก!
พลังสีดำปรากฏขึ้นด้านหลังของเฮยเซียจื่อ จากนั้นเขาก็ะโครั้งหนึ่ง ร่างกายพลันทะยานออกไปราวะุลูกหนึ่ง จนอยู่เหนือหัวของถังเหล่ย
ฟุ่บๆ...
เฮยเซียจื่อยิงเข็มพิษออกมาจากมืออีกครั้ง เพื่อขวางเส้นทางด้านหน้าของถังเหล่ยไว้
ถังเหล่ยหยุดกะทันหัน เข็มพิษเฉียดเส้นผมของถังเขาไปนิดเดียว
เพียงแค่หยุดร่างกาย ถังเหล่ยก็ััได้ถึงแรงกดดันที่ทับลงมาจาก้า
ถังเหล่ยใช้ปราณแท้พลังยุทธ์ในร่างทันที พลังสีทองเดือดพล่านในเส้นชีพจรของเขา และทำให้บนร่างของปล่อยพลังสีทองกระจายออกมา
ในขณะเดียวกันนี้ เงาร่างของสัตว์อสูรขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นด้านหลังของถังเหล่ย
ไม่กี่อึดใจการโจมตีของเฮยเซียจื่อก็มาถึง
ปัง!
สายลมรุนแรงแฝงด้วยพลังสีดำปะทะกับฝ่ามือของถังเหล่ย
พลังสีดำแทรกซึมเข้าิัของถังเหล่ย แต่กลับถูกพลังสีทองในร่างกายของเขาขจัดออกไปในเสี้ยววิ
แต่ร่างกายของถังเหล่ยก็กระเด็นถอยหลังออกไปหลายก้าว ก่อนจะยืนได้มั่นคงอีกครั้ง
“สู้กับผู้ทรงยุทธ์ขั้นที่เก้า เปลืองแรงมากจริง!”