ตูม!
กู่ไห่ปัดเศษหินและเศษไม้ออกไปให้พ้นทาง ก่อนจะเดินออกจากซากกองอิฐหินที่ถล่มลงมา
กู่ฉิน ซ่างกวนเหิน เฉินเทียนซาน และเหล่าเถ้าแก่าุโของสกุลกู่ ล้วนมารวมตัวกันด้วยความเป็ห่วงนายใหญ่ของตน
“นายท่าน ท่านเป็อะไรหรือไม่?”
“พ่อบุญธรรม ท่านไม่เป็อะไรใช่หรือไม่?”
“นายท่าน เหตุใดหอคอยทะยาน์ถึงถล่มลงมาได้?”
ทุกคนมองกู่ไห่อย่างกังวล
“ข้าไม่เป็ไร!” กู่ไห่หันกลับไปมองซากหอคอยทะยาน์นิ่ง
“ที่มันถล่มลงมานั้น ก็เพราะถึงวาระของมันแล้ว เมื่อหอคอยทะยาน์ถล่ม เช่นนั้นชื่อของพระราชวังที่จะสร้างขึ้นมาใหม่นี้ ก็ให้ชื่อว่า ‘ทะยาน์’ เถอะ!” กู่ไห่สั่ง
“ขอรับ!” กู่ฉินตอบ
“ให้เก็บหนังสือทุกเล่มข้างในนั้นออกมา อย่างระมัดระวัง!” กู่ไห่สั่งขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ขอรับ!” ทุกคนตอบรับ
...
เพียงพริบตา ก็ผ่านมาแล้วหนึ่งเดือน
ยังคงมีอีกหลายพื้นที่ในห้าแคว้น ที่ยังไม่ได้จัดระเบียบ ดังนั้นคนโฉดทั้งสามพันคน และผู้ฝึกตนอีกสามพันคนที่ได้รับการคัดเลือกจากเฉินเทียนซาน รวมเป็หกพันคน ก็ถูกส่งกระจายไปทั่วสารทิศในแผ่นดิน เพื่อคอยช่วยเหลือเมืองต่างๆ และเตรียมการตั้งแคว้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวายอย่างรอบด้าน
ณ ด่านหู่เหลา นอกจวนสกุลกู่ มีพระราชวังขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งสร้างความตื่นตะลึงให้แก่ผู้พบเห็นเป็อย่างมาก เพราะพระราชวังแห่งนี้ ถือว่ามีขนาดใหญ่อย่างหาที่เปรียบมิได้… มันมีชื่อว่า ‘ทะยาน์!’
ด้านนอกของพระราชวังทะยาน์ ตอนนี้ เต็มไปด้วยกองทัพในชุดเกราะมากถึงสามหมื่นคน ตรงกลางมีบุรุษจำนวนมากสวมชุดคลุมสุภาพ ดูเหมือนจะเป็เหล่าขุนนางที่ยังมิได้ถูกแต่งตั้ง
บนยอดเขาที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก มีผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วน ซึ่งเคยประสบเหตุที่สำนักหมู่ตาน ต่างมารวมตัวกัน ณ บริเวณนี้ เพื่อที่จะเข้าร่วมพิธีการจัดตั้งแคว้นอย่างเป็ทางการ
พื้นที่ระหว่างพระราชวังทะยาน์และนายทหาร มีแท่นสูงขนาดใหญ่ราวกับแท่นบูชา ตั้งอยู่ใจกลางจัตุรัส
ด้านนอกของวังหลวง ก็มีองครักษ์จำนวนมากยืนประจำการ
“ได้เวลาขึ้นแท่นบูชา เพื่อบวงสรวงฟ้าดินแล้ว!”
พิธีกร[1]คนหนึ่ง ที่ยืนอยู่นอกพระราชวังทะยาน์ะโเสียงดังลั่น
กลุ่มคนสามแสนคนรอคอยอย่างสงบ ทำให้บรรยากาศโดยรอบเงียบสงัด
ตึง!
ประตูใหญ่เปิดออกช้าๆ กู่ไห่ค่อยๆ ก้าวออกจากพระราชวัง
บัดนี้ บนศีรษะของเขาสวมมงกุฎ์ และยังอยู่ในชุดคลุมัสีดำ ลายัที่ประดับอยู่บนชุด ถูกปักด้วยไหมสีทอง ชายเสื้อคลุมนั้น ดูเหมือนจะลากหางยาวเหยียด เท้าซึ่งสวมใส่รองเท้าัเมฆาคู่หนึ่ง ค่อยๆ ก้าวออกจากวังหลวง
กู่ไห่ในตอนนี้ มีสีหน้าที่เคร่งขรึมยิ่ง
ทุกคนที่อยู่ภายนอกยืนนิ่ง พร้อมมองไปยังชายหนุ่ม ผู้ที่กำลังเดินขึ้นไปบนแท่นบูชา ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก
ไม่นาน กู่ไห่ก็เดินไปถึงจุดสูงสุดของแท่นบูชา ทุกคนต่างยืนรออย่างเงียบๆ
บนแท่นบูชาตั้งโต๊ะหนึ่งตัว ซึ่งชายหนุ่มก็วางตราประทับศักดิ์สิทธิ์เมือง์ และม้วนผ้าไหมสีทองลงบนโต๊ะนั้น
หลังจากวางตราประทับศักดิ์สิทธิ์เมือง์แล้ว จึงค่อยๆ กางม้วนผ้าไหมออก เผยให้เห็นผ้าไหมสีทองที่ว่างเปล่า กู่ไห่สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะประสานมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน
“บัดนี้ ขอเชิญ์และผืนแผ่นดิน ณ เกาะจิ๋วหวู่แห่งทะเลพันเกาะ มาเป็สักขีพยานในการเปิดราชสำนัก ขอสาบานกับฟ้าดินด้วยโลหิตของข้า นับแต่นี้เป็ต้นไป ข้า กู่ไห่จะปฏิบัติต่อประชาชน และปกครองแคว้นใหม่นี้อย่างดีที่สุด!” กู่ไห่ะโก้อง
จากนั้น จึงหยิบมีดสีทองออกมา กรีดที่แขนขวาของตน หยาดโลหิตอุ่น ค่อยๆ ไหลรินออกจากาแ
เขาเขียนคำว่า ‘ฮั่น’ บนม้วนผ้าไหมสีทองด้วยเืของตน!
ก่อนที่จะหยดโลหิตลงบนแท่นบูชา
“สร้างแคว้นใหม่ ที่มีชื่อว่า ‘ฮั่น’… แคว้นต้าฮั่น และใช้ ‘ตราประทับศักดิ์สิทธิ์เมือง์’ เป็สมบัติประจำแคว้น เพื่อกุมโชคลาภของแผ่นดิน โดยมี ‘พระราชวังทะยาน์’ เป็ศูนย์กลางแห่งแคว้น
ขอแคว้นต้าฮั่นจงพบแต่ความเจริญรุ่งเรือง! ์ทรงโปรด ยืนเคียงข้างแคว้นของเรา!” กู่ไห่ะโเสียงดังกังวาน
ระหว่างนั้น กู่ไห่ก็ค่อยๆ ยกตราประทับศักดิ์สิทธิ์เมือง์ขึ้นมา และประทับลงบนม้วนผ้าไหมสีทอง
ตูม!
หลังจากประทับตราลงบนชื่อแคว้น พลันเกิดเสียงดังเหมือนฟ้าร้อง ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ
เมฆมืดเริ่มก่อตัวขึ้นบนนภา สายลมแรงโบกสะบัด
“คุกเข่า คารวะ์สามครั้ง!” ทันใดนั้น พิธีกรที่ะโก่อนหน้านี้ ก็ร้องบอกเสียงดังอีกครั้ง
“์ทรงโปรด ยืนเคียงข้างแคว้นต้าฮั่น!” กลุ่มคนสามแสนคนต่างะโขึ้นพร้อมกัน
กู่ไห่ พร้อมด้วยทุกผู้คน พากันคุกเข่าลง
ในเวลาเดียวกัน ณ เมืองต่างๆ ทั่วดินแดนทั้งห้าแคว้น ที่อยู่ภายใต้แคว้นใหม่อย่างเป็ทางการ ชาวบ้านทั้งหมด พากันออกจากบ้าน มารวมตัวกันที่จัตุรัสกลางเมืองเช่นกัน
เสียงะโชื่อกู่ไห่ที่หน้าวังทะยาน์ดังขึ้น พร้อมกับเสียงของข้าราชสำนักที่ได้กล่าวพร้อมกัน ท้ายที่สุดแล้ว สำหรับพิธีสำคัญเช่นนี้ ทุกคำพูดของกู่ไห่ก็ได้ถูกร่างไว้นานแล้ว
และคำพูดของเขา ก็แพร่กระจายไปทั่วแคว้น
“คุกเข่าลง คารวะ์สามครั้ง!” เสียงะโของเหล่าขุนนางดังมาจากทุกเมือง
“ท่านกู่สร้างแคว้นแล้วอย่างนั้นหรือ? ขอบคุณท่านกู่ เพราะท่าน ตระกูลของเราจึงสามารถอยู่รอดมาได้เช่นนี้!”
“ไม่สิ! ตอนนี้ต้องเรียกว่าฮ่องเต้แล้ว!”
“ใช่แล้ว! ฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าฮั่น!”
ผู้คนทั้งหลายต่างทยอยคุกเข่าลงคารวะ์
“์ทรงโปรด ยืนเคียงข้างแคว้นต้าฮั่น!” ประชาชนร้องขอต่อ์
“์ทรงโปรด ยืนเคียงข้างแคว้นต้าฮั่น!”
“์ทรงโปรด ยืนเคียงข้างแคว้นต้าฮั่น!”
ในหลายร้อยเมืองทั่วแผ่นดิน ยามนี้ผู้คนนับไม่ถ้วน กำลังจัดงานเฉลิมฉลอง และเริงระบำ เสียงของผู้คนดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ
ราวกับ์จะรับรู้ถึงวิธีการปกครองของกู่ไห่ จึงได้ดลบันดาลให้มีสายลมพัดผ่าน ประหนึ่งตอบรับความปรารถนาของการก่อตั้งแคว้นในครั้งนี้
ที่ทางเข้าของวังทะยาน์
กู่ไห่คุกเข่าลงต่อหน้าฟ้าดินด้วยความจริงจัง ผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่ด้านล่าง ล้วนปฏิบัติตามอย่างเป็ระเบียบ
เมฆมืดบนท้องฟ้าค่อยๆ สลายตัว ตอนนี้ ทั่วบริเวณมีสายลมพัดมาจากทุกทิศทาง ทว่าลมกระโชกแรงนั้น กลับพัดผ่านเฉพาะบริเวณอันเป็ที่ตั้งของตราประทับศักดิ์สิทธิ์เมือง์ และโบกสะบัดต่อไปยังพระราชวังทะยาน์ที่สูงตระหง่าน
แล้วสายลมก็ค่อยๆ โฉบขึ้นเหนือท้องฟ้า
กู่ไห่มองไปยังสายลมที่หมุนวนอยู่เหนือพระราชวังทะยาน์ ซึ่งราวกับจะเปล่งแสงสีทองจางๆ
“พลังกุศล? นี่คือพลังกุศลจากปวงประชา ที่มารวมตัวกันเหนือวังหลวงอย่างนั้นหรือ? การสร้างแคว้นสามารถเก็บพลังกุศลได้จริงๆ หรือนี่?” ดวงตาของกู่ไห่ทอประกาย
อย่างไรก็ตาม เขาก็จำต้องละความสนใจไปก่อน เพราะเสียงของพิธีกรดังขึ้นอีกครั้ง
“์ทรงโปรด ยืนเคียงข้างแคว้นต้าฮั่น!” พิธีกระโเสียงดัง
“์ทรงโปรด ยืนเคียงข้างแคว้นต้าฮั่น!”
“์ทรงโปรด ยืนเคียงข้างแคว้นต้าฮั่น!”
นับจากด่านหู่เหลา จนถึงหลายร้อยเมืองโดยรอบ ชาวบ้านเกือบทุกคน ต่างร้องะโเสียงดังกึกก้องไปทั่วทั้งแผ่นดิน
ตูมๆ!
ความปรารถนาของประชาชนชาวแคว้น ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งแผ่นดิน จนเกิดการสั่นะเืเล็กน้อย
“ทุกคน… ลุกขึ้น!” พิธีกระโเสียงดัง
ฟึ่บๆ!
ที่หน้าพระราชวัง ทุกคนต่างลุกขึ้นยืน และมองไปยังกู่ไห่บนแท่นบูชา
ชายในชุดคลุมั มองดูเหล่าขุนนางทุกคนที่อยู่เบื้องล่าง
“วันนี้ ข้าได้ก่อตั้ง ‘ต้าฮั่น’ ราชวงศ์แห่งสายน้ำและคุณธรรม ที่นี่เราจะมอบความไว้วางใจให้กับเหล่าขุนนางหลายร้อยคน เพื่อให้ร่วมสร้างแคว้นต้าฮั่นไปกับข้า!” กู่ไห่ะโ
“ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี!”
“ฮ่องเต้ต้าฮั่น ขอทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี!” ทุกคนที่อยู่ด้านล่างะโ
ไกลออกไป พิธีกรหยิบผ้าไหม ที่ถูกเขียนเอาไว้ก่อนหน้านี้ออกมาม้วนหนึ่ง แล้วะโเสียงดัง
“ราชสำนัก์ ขอประกาศราชโองการของฮ่องเต้ ทรงมีพระราชโองการ แต่งตั้งให้กู่ฉิน เป็องค์ชายแห่งราชวงศ์ต้าฮั่น!”
กู่ฉินก้าวออกมาทันที เพื่อรับการปรนนิบัติ สวมเสื้อคลุมพญาอสรพิษ[2] “กระหม่อม กู่ฉิน ขอเข้ารับพระราชทานตำแหน่งองค์ชาย ขอบพระทัยฮ่องเต้ ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี!”
“ข้าราชสำนัก ถังชู เป็รองเ้ากรมแห่งราชสำนักต้าฮั่น!”
ชายชราผมขาวคนหนึ่งเดินออกมาพลัน ก่อนจะมีคนสวมชุดขุนนางให้กับเขา “กระหม่อมถังชูขอเข้ารับตำแหน่งรองเ้ากรม ขอบพระทัยฮ่องเต้ ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี!! ”
“ข้าราชสำนัก เกาเซียนจือ เป็ผู้บัญชาการกองทัพที่หนึ่ง แห่งราชวงศ์ต้าฮั่น!”
เกาเซียนจือก้าวขึ้นมา “กระหม่อม เกาเซียนจือ ขอเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพที่หนึ่ง ขอบพระทัยฮ่องเต้ ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี!!” ”
“ข้าราชสำนัก เฉินเทียนซาน เป็ผู้บัญชาการกองทัพที่สอง แห่งราชวงศ์ต้าฮั่น!”
เฉินเทียนซานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย คิดไม่ถึง ว่าตนเองจะได้รับการแต่งตั้งเป็ผู้บัญชาการกองทัพที่สอง?
“กระหม่อม เฉินเทียนซาน ขอเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพที่สอง ขอบพระทัยฮ่องเต้ ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี!!”
“ฮวางบู เป็นายกองทหารแห่งราชวงศ์ต้าฮั่น!”
“กระหม่อม ฮวางบู ขอเข้ารับตำแหน่งนายกองทหาร! ขอบพระทัยฮ่องเต้ ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี!!”
เฉินเทียนซานที่อยู่ไม่ไกลกันนัก รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ทำไมชายหน้าบากถึงไม่ถูกแต่งตั้งให้เป็ผู้บัญชาการกองทัพ หากแต่เป็นายกองแทนเสียอย่างนั้น? อย่างไรก็ตาม ในเมื่อกู่ไห่ตัดสินใจไปแล้ว เฉินเทียนซานก็ไม่ได้ถามอีก
การแต่งตั้งยังคงดำเนินต่อไป
เมื่อเหล่าเถ้าแก่ที่ติดตามกู่ไห่ ได้สวมเสื้อคลุมอย่างเป็ทางการ แล้ว ใบหน้าของทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยความปีติยินดีอันเปี่ยมล้น
เถ้าแก่กลุ่มนี้ติดตามเขามาอย่างยาวนาน กู่ไห่จึงรับรู้ถึงความสามารถของทุกคนเป็อย่างดี ถึงแม้จะเปลี่ยนจากการบริหารกิจการมาเป็การปกครองแคว้น แต่กู่ไห่กลับเชื่อว่าพวกเขาจะทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเช่นเดิม
“ข้าราชสำนัก เิไท่ เป็ผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร แห่งราชวงศ์ต้าฮั่น!”
เสียงะโดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้เฉินเทียนซาน ฮวางบู เกาเซียนจือ และคนอื่นๆ ต่างแสดงสีหน้าประหลาดใจ แม้แต่เหล่าผู้ฝึกตนที่เคยถูกเิไท่ข่มขู่ ตอนที่อยู่ในสำนักหมู่ตานก็เช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงเกิดความโกลาหลขึ้นทันที
“อะไรกัน? เิไท่ ไม่ได้ตายในกลหมากแห่งความตายหรอกหรือ?”
“กู่ไห่มิได้สังหารเขาอย่างนั้นหรือ? เขาเกลียดกู่ไห่มิใช่หรือ?”
“เิไท่ เ้าคนเืเย็นเช่นนี้ กู่ไห่ยังจะมอบตำแหน่งให้เขาอีกหรือ?”
“ข้ามองผิดไปใช่หรือไม่?”
เหล่าผู้ฝึกตนต่างมองไปยังกลุ่มขุนนาง อย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง
ตามคาด เิไท่สวมเสื้อคลุมอันล้ำค่า แม้ใบหน้าจะเ็า แต่การแสดงออกกลับนอบน้อมยิ่ง
“กระหม่อม เิไท่ ขอเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ขอบพระทัยฮ่องเต้ ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี!!” เิไท่ะโเสียงดัง
ฟึ่บ!
ชื่อเสียงอันโหดร้ายของเิไท่ ยังคงข่มขวัญเหล่าผู้ฝึกตนอยู่มาก ดังนั้น จึงมีเสียงสูดหายใจดังมาจากระยะไกล
“เป็เิไท่จริงๆ กู่ไห่ เขากล้าดีอย่างไร?”
“ผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร? มันคือตำแหน่งอะไรกัน?”
“เิไท่? คนผู้นี้ ถึงกับยอมจำนนต่อกู่ไห่อย่างนั้นหรือ?”
ท่ามกลางความตะลึงลาน การแต่งตั้งขุนนางร้อยตำแหน่งยังคงดำเนินต่อไป
ทุกคนที่คอยติดตามกู่ไห่มา ไม่ว่านานแค่ไหน ก็ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็ขุนนาง ยกเว้นเพียงซ่างกวนเหิน ที่นั่งดื่มเหล้าอยู่
คนเดียว ในลานเล็กๆ ที่ไม่ไกลมากนัก
“ท่านหัวหน้า เหตุใดท่านถึงไม่...?” ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ยืนอยู่ด้านข้างขมวดคิ้ว
ซ่างกวนเหินส่ายหน้า พลางยกยิ้ม ก่อนเอ่ย “ฝ่าาทรงเตรียมจะแต่งตั้งให้ข้าเป็ผู้บัญชาการเหล่าทัพ แต่เป็ข้าเอง ที่ขอติดตามเขาไปนานนับยี่สิบปี โดยไม่รับตำแหน่งใดๆ เพียงแต่ขอให้แขวนชื่อข้าไว้ที่สังกัดวารีของหออี้ผินเท่านั้น!”
“ขอรับ!” ผู้ใต้บังคับบัญชาพยักหน้ารับทราบ แม้จะงุนงงกับสถานการณ์ตรงหน้าก็ตามที
-------------------------------------------
[1] พิธีกรในที่นี้ ภาษาจีนเรียกว่า ‘ซืออี๋’ หมายถึง ผู้ทำหน้าที่พิธีกรในการดำเนินพิธีกรรมต่างๆ
[2] เสื้อคลุมพญาอสรพิษ คล้ายเสื้อคลุมัเพียงแต่แตกต่างกันที่เล็บั ซึ่งปักบนเสื้อและมีพื้นสีน้ำเงิน