[ไข่ลึกลับ]: ไข่ที่กำลังจะให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตลึกลับซึ่งไม่มีใครทราบที่มาของมัน
หลิงเฉินเก็บไข่สัตว์เลี้ยงไว้ในกระเป๋าการที่เทาเที่ยสามารถเรียกมันว่า ‘อสูรยิ่งใหญ่’ โดยไม่จำเป็ต้องคิดที่มาของไข่ใบนี้ต้องไม่ธรรมดาและอสูรที่จะฟักออกมาจะต้องไม่ใช่อสูรทั่วไปอย่างแน่นอนดูเหมือนว่าเขาจะต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ลูกแก้วไร้ธาตุแต่เขาก็เข้าใจดีว่าไอเทมอย่างลูกแก้วพลังงานนั้นโดยปกติแล้วจะไม่ปรากฏใน่ต้นของเกมเพราะมีเพียงบอสพิเศษระดับนางฟ้าขึ้นไปเท่านั้นที่จะดรอปลูกแก้วพลังงานอีกทั้งอัตราการดรอปยังต่ำมากๆ และต่ำกว่าการดรอปอุปกรณ์สวมใส่ระดับสูงอย่างมากเพียงแค่ลูกแก้วพลังงาน ‘ลูกแก้วแห่งความอำมหิต’ ที่เขาได้มาด้วยตัวเองจากอสูรระดับนางฟ้าขั้นต่ำนั้น่กลางของการต่อสู้ก็นับว่าอันตรายสุดๆ และการที่ลูกแก้วพลังงานสามารถดรอปน่าจะมาจากการลุยเดี่ยวของเขากับมันขณะมีเลเวลต่ำกว่าไม่ใช่ผู้เล่นทุกคนที่จะมีโชคและความสามารถในการต่อสู้และสังหารอสูรระดับนางฟ้าอย่างเขาใน่ต้นของเกม อสูรระดับนางฟ้านับเป็มอนสเตอร์ที่ผู้เล่นมิอาจเอาชนะได้โดยง่ายนอกจากนี้ลูกแก้วพลังงานยังเป็ไอเทมที่มีค่า และมีผู้เล่นเพียงแค่หยิบมือที่สามารถได้มันมาใน่กลางและ่ปลายของเกม
การได้ลูกแก้วไร้ธาตุสักลูกเป็เื่ยากมากสำหรับผู้เล่นทั่วไป
“ข้าจะฟักมันออกมาโดยเร็วที่สุด”หลิงเฉินกล่าว หลังจากครุ่นคิดเล็กน้อย เขาก็เงยหน้าขึ้นถาม “เทาเที่ยข้าถามเ้าสักสองสามคำถามได้ไหม?”
“ไม่ได้!”
หลิงเฉินมีคำถามมากมายที่้าถามเทาเที่ยทว่าเทาเที่ยปฏิเสธคำขอของเขาห้วนๆ พร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น “เ้าไม่ต้องถามคำถามใดๆกับข้า การที่เ้าไม่รู้อะไรเลยนับว่าโชคดี หากเ้ารู้เื่ที่ไม่จำเป็มากเกินไปทั้งร่างกาย อารมณ์และจิตใจของเ้าจะต้องแบกรับเครื่องพันธนาการอันหนักอึ้งบางอย่างฉะนั้นแล้วมันจะดีกว่าหากเ้าไม่รู้บางสิ่งบางอย่างเร็วเกินไป ถ้าเ้าอยากรู้จริงๆก็ค้นหาและค้นพบพวกมันด้วยตัวของเ้าเองในระหว่างการตามหาลูกแก้วเทพและลูกแก้วเซียนข้ารู้ว่าเ้า้าทราบเื่อะไร อย่างไรก็ดี ถึงแม้ข้าจะรู้คำตอบข้าก็จะไม่บอกเ้า”
หลิงเฉิน “...”
“โย่”ชีเยว่เม้มริมฝีปากของนางด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มอันงดงาม“เ้าตัวใหญ่ เ้าไม่น่ารักเลยจริงๆ เ้าฝากฝังสิ่งสำคัญเช่นนั้นกับนายน้อยของข้าแล้วยังไม่ให้เขาถามคำถามอีกเื่นี้จะทำให้นายน้อยของข้ารู้สึกเ็ปขนาดไหนไม่ใช่ว่าเ้าควรจะชดเชยนายน้อยของข้าด้วยสิ่งเล็กๆ น้อยๆ หรือไง?”
เพียงแค่ท่าทางเรียบๆ ก็เย้ายวนเหลือเกินขณะที่น้ำเสียงธรรมดาๆ ก็ไพเราะเพราะพริ้งมากจนทำให้หลิงเฉินที่อยู่ข้างๆพลันรู้สึกว่าความแข็งแกร่งทั้งหมดในร่างของเขาหายไปเทาเที่ยเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะอ้าปากพูด “ตกลงข้าเทาเที่ยไม่้าเป็หนี้บุญคุณใครนอกจากนั้นความสามารถของเ้าในเวลานี้ยังอ่อนแอเกินไปการยกระดับความสามารถของเ้าขึ้นอีกเล็กน้อยก็ไม่ได้เป็ตัวเลือกที่เลวร้ายเช่นกันเพราะเ้ารับการฝากฝังของข้า ฉะนั้นเ้าสามารถเสนอเงื่อนไขได้หนึ่งข้อแต่เงื่อนไขนี้ไม่รวมถึงการถามคำถามซึ่งเ้าอยากจะรู้คำตอบและยังจำกัดเพียงแค่การเพิ่มขีดความสามารถของเ้าเท่านั้นข้าสามารถเพิ่มเลเวลหรือค่าสถานะของเ้า และสามารถให้ชิ้นส่วนอุปกรณ์สวมใส่ที่น่าตื่นตาตื่นใจกับเ้าทั้งยังสามารถมอบสกิลที่ทรงพลังให้กับเ้าอีกด้วยเ้าต้องเลือกมันด้วยตัวของเ้าเอง”
การมอบไข่สัตว์เลี้ยงที่มีจุดกำเนิดไม่ธรรมดาให้ฟรีๆและยังให้โบนัสซึ่งสามารถเสนอเงื่อนไขหนึ่งข้อ...
นี่เป็ฝันกลางวันหรือเปล่า!?
เื่นี้แทบจะไม่ต้องคิดด้วยซ้ำหลิงเฉินพูดตอบ “สกิล!”
“ฮ่าๆ เยี่ยมมาก ข้านับถือคำตอบของเ้าเลเวลและค่าสถานะต่างๆ สามารถเพิ่มขึ้นได้ด้วยตัวของเ้าเองอุปกรณ์สวมใส่ระดับสูงเ้าก็สามารถหามันได้ด้วยตัวของเ้าเองเช่นกันมีเพียงแค่สกิลเท่านั้นที่จะติดตัวของเ้าไปตลอดรวมทั้งให้ผลประโยชน์กับเ้าชั่วชีวิตถ้าเช่นนั้นแล้วเ้า้าสกิลติดตัวหรือสกิลโจมตีล่ะ?”
“สกิลติดตัว”หลิงเฉินยังคงพูดตอบอย่างไม่ลังเล
“ยอดเยี่ยม”
หลังสิ้นเสียงพูดของเขาจุดแสงสีดำสองจุดภายในดวงตาทั้งสองข้างของเทาเที่ยก็กระพริบแสงในฉับพลัน หลังจากกระพริบได้สองสามวินาทีจู่ๆ แสงเ่าั้ก็พุ่งออกมา และมุ่งตรงไปที่หลิงเฉินก่อนกระแทกเข้าไปในร่างของเขา
ร่างของหลิงเฉินเอนไปด้านหลังเล็กน้อยก่อนจะถูกห่อหุ้มด้วยมวลของแสงสีดำซึ่งค่อยๆ แพร่เข้าไปในร่างของเขาครั้นแสงเหล่านี้จมลงไปในร่างของเขาจนหมด เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นข้างหูของเขา
“ดริ๊งคุณได้รับสกิลพิเศษ ‘เคล็ดวายุ์’ และ ‘เคล็ดศาสตราจักรพรรดิ’”
[เคล็ดวายุ์]: เลเวลปัจจุบัน: LV1 เลเวลสูงสุด: LV10 แต้มสกิลที่ใช้อัพเกรดเป็LV2: 400 แต้ม เคล็ดต่อสู้โบราณ หลังจากการฝึกฝน มันสามารถเพิ่มความสามารถในการควบคุมอาวุธใดๆอย่างมาก ผล: เมื่อใช้อาวุธใดๆค่าความเสียหายที่สร้างได้จะเพิ่มขึ้น 5% และผลของสกิลนี้จะไม่ทับซ้อนกับสกิลความชำนาญอาวุธอื่น
[เคล็ดศาสตราจักรพรรดิ]: เลเวลปัจจุบัน: LV1 เลเวลสูงสุด: LV10 แต้มสกิลใช้อัพเกรดเป็ LV2:400 แต้ม เคล็ดต่อสู้โบราณ หลังจากการฝึกฝนอุปกรณ์สวมใส่ซึ่งมีเลเวลสูงกว่าเลเวลปัจจุบันของคุณจะสามารถสวมใส่ได้ ผล: ละเว้นเงื่อนไขเลเวลอุปกรณ์สวมใส่ใดๆ 1 เลเวล
ช่างเป็สกิลที่ทรงพลัง!! หลิงเฉินแทบจะะโออกมาด้วยความตกตะลึง
อย่างไรก็ตามอาชีพฝึกหัดทุกอาชีพหัดเมื่อเปลี่ยนไปเป็อาชีพทางการพวกเขาทั้งหมดล้วนมีสกิลติดตัวความชำนาญสำหรับอาวุธเฉพาะ เช่น ‘ความชำนาญดาบ’ ‘ความชำนาญหอก’ ฯลฯสกิลติดตัวเหล่านี้จะเพิ่มความสามารถในการโจมตีและอัตราความแม่นยำเมื่อใช้กับอาวุธเฉพาะตอนที่ได้ลูกแก้วราศีเมถุนมา ครั้งหนึ่งหลิงเฉินเคยคิดกระทั่งว่าด้วยดาบและหอกรวมทั้งอาวุธอื่นๆ ไม่ใช่หมายความว่าตอนที่เขาเปลี่ยนอาชีพเขาจะต้องเรียนสกิลความชำนาญอาวุธ 2 สกิล หรือกระทั่งมากกว่านี้งั้นหรือ! แน่นอนว่ามันจะต้องใช้แต้มสกิลจำนวนมหาศาล ทว่า ‘เคล็ดวายุ์’ ซึ่งเทาเที่ยมอบให้เขานั้นสามารถเพิ่มค่าความเสียหายโดยตรงกับอาวุธทุกประเภทยิ่งไปกว่านั้น มันยังเพิ่มขึ้นถึง 5% เพียงแค่ LV1 โดยเลเวลสูงสุดของ ‘เคล็ดวายุ์’ คือ LV10 ไม่สงสัยเลยว่าผลของมันจะทรงพลังขนาดไหนเมื่ออัพถึงเลเวลสูงสุดแต่สกิลนี้ก็มีจุดอ่อนมันไม่ได้เพิ่มค่าความแม่นยำและไม่สามารถทับซ้อนกับสกิลความชำนาญอาวุธอื่น
‘เคล็ดศาสตราจักรพรรดิ’ เป็สกิลติดตัวที่คงไม่มีใครไม่ประหลาดใจ ด้วยสกิลนี้ในตอนนี้หลิงเฉินสามารถสวมใส่อุปกรณ์ LV10 ไม่ว่าจะเป็ ‘ทะยานเมฆา’ หรือ ‘ดาบทราย’ เขาก็สามารถสวมใส่พวกมันได้ทั้งหมด!เลเวลสูงสุดของสกิลนี้คือ LV10 ที่ LV1มันสามารถละเว้นเงื่อนไขเลเวลอุปกรณ์สวมใส่ 1 เลเวลฉะนั้นแล้วหากสกิลนี้อัพจนถึงเลเวลสูงสุด มันสามารถละเว้นอย่างน้อย 10 เลเวล! ในเวลานั้นเขาจะสามารถสวมใส่อุปกรณ์สวมใส่ที่มีเงื่อนไขเลเวลอุปกรณ์สวมใส่สูงกว่าตัวเขา 10เลเวล! ความสามารถนี้ร้ายกาจจริงๆ
แน่นอนว่าเงื่อนไขแรกคือเลเวลของพวกมันอัพถึงเลเวลสูงการอัพถึงเลเวลสูงนั้นต้องใช้แต้มสกิลจำนวนมหาศาล การอัพเกรดไปเป็ LV2 แต่ละสกิลต้องใช้แต้มสกิล 400 แต้มการอัพเกรดจนถึงเลเวลสูงสุด ไม่ต้องคิดก็รู้ว่ามันเป็แต้มสกิลจำนวนมหาศาลโดยสกิลยิ่งทรงพลังก็ยิ่งยากในการอัพเกรด
“มันเป็ยังไงบ้างเ้าพอใจกับสกิลทั้งสองหรือเปล่า?” เสียงของเทาเที่ยดังขึ้นข้างหูของเขา
“พอใจมาก!” หลิงเฉินกล่าวพร้อมกับพยักหน้า เขาพูดอย่างจริงใจไม่ว่าจะคิดในด้านใดสกิลที่เทาเที่ยมอบให้นั้นล้วนเหนือความคาดหมายของเขาพวกมันถือเป็สกิลที่อสูรระดับเทพลึกลับมอบให้อย่างแท้จริง
“ถึงแม้ตอนนี้พวกมันจะไม่สามารถให้ความช่วยเหลือที่ทรงพลังกับเ้าได้ทันทีแต่ผลของพวกมันจะติดไปกับเ้าตลอดและเ้าจะได้รับผลประโยชน์จากพวกมันสำหรับชีวิตที่เหลืออยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘เคล็ดวายุ์’ ซึ่งมีจุดกำเนิดมาจากคนผู้หนึ่งที่ครั้งหนึ่งกระทั่ง์และปฐียังหวาดกลัวบางทีวันหนึ่ง เ้าอาจจะบรรลุหรือแม้กระทั่งก้าวข้ามระดับของเขาดังนั้นแล้วจดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าพูด รวบรวมลูกแก้วเทพและลูกแก้วเซียนของ ‘จันทร์ต้องสาป’ ให้ครบภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุดในขณะเดียวกันเ้าอย่าลืมฟักสิ่งมีชีวิตซึ่งข้าฝากฝังกับเ้าด้วยอีกทั้งเ้าต้องจำว่าห้ามให้เผ่าเทพจันทราค้นพบการปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งของ‘จันทร์ต้องสาป’!”
หลิงเฉินพยักหน้า ก่อนจะมองและจับจ้องไปที่ผนังหินรอบๆั้แ่เขาตกลงมาในสถานที่แห่งนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาประสบพบเจอพูดตรงๆ ก็เหมือนกับความฝัน
“ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าควรพูดกับเ้าข้าก็บอกเ้าไปหมดแล้วสิ่งที่ข้าสามารถมอบให้เ้า ข้าก็ได้ให้ไปแล้วเช่นกันพื้นที่ใต้ดินแห่งนี้ล้วนว่างเปล่า นอกจากสิ่งที่เ้าเห็นที่นี่ก็ไม่มีอะไรอีกแล้วตอนนี้ข้าจะส่งเ้าขึ้นไปโลก้า ข้ารู้ว่าเ้ามาจากที่ไหน และเ้าควรจะเป็มนุษย์ซึ่งมาจากโลกอีกแห่งข้าเชื่อว่าอีกไม่นานเ้าจะจากผืนแผ่นดินนี้ไปและมุ่งสู่ทวีปหลงลืมและที่นั่นคือจุดเริ่มต้นที่แท้จริง โชคดีนะ เ้ามนุษย์ผู้กำราบ ‘จันทร์ต้องสาป’ ”
ขณะที่เทาเที่ยกำลังพูด มวลของแสงสีเขียวดำก็ห่อหุ้มร่างของหลิงเฉินแล้ว มันคือแสงจากการเปิดใช้งานการเคลื่อนย้ายตำแหน่ง
“รีบร้อนส่งพวกข้าออกไปงั้นหรือ?เ้าตัวใหญ่ เ้ายังคงเหี้ยมโหดเหมือนเดิมนะ” ชีเยว่พูดพร้อมกับหัวเราะ
“เพราะว่าข้าถูกชะตาเ้าและข้าหวังมากกว่าใครอื่นว่า‘จันทร์ต้องสาป’ จะสามารถเผยโฉมขึ้นอีกครั้งในเร็วๆ นี้ สาวน้อย สำหรับเ้าแล้วตลอดหลายปีของการรอคอยนั้นไม่สูญเปล่าไม่มีใครรู้ว่าอนาคตจะเป็เช่นไร แต่อย่างน้อยที่สุดจุดเปลี่ยนก็ได้ปรากฏขึ้นแล้วจับมันไว้ให้ดีล่ะ โชคชะตาของเขาและ ‘จันทร์ต้องสาป’ จะกำหนดโชคชะตาของเ้า และห้ามลืมตัวตนที่แท้จริงของเ้าด้วย โดยเฉพาะอย่าปล่อยให้เผ่าปีศาจแฝงฝันค้นพบเ้าเร็วเกินไป
ดวงตาของชีเยว่หรี่ลงพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ“เ้าตัวใหญ่ ข้าไม่้าให้เ้าเป็ห่วงเื่ของข้า งั้นข้าไปก่อนนะในอนาคตหากมีโอกาส บางทีพวกข้าอาจจะมาเยี่ยมเ้า”
“มันเป็เื่ง่ายที่จะไปจากที่นี่ ทว่ามันแทบจะเป็ไปไม่ได้ที่จะกลับเข้ามาในนี้จุดนี้เ้าควรจะเข้าใจได้ดีกว่าใครๆ นะเ้ามีความเฉลียวฉลาดที่เหนือกว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดและยังมีรูปร่างหน้าตาที่สามารถสะกดโลกทั้งใบแท้จริงแล้วข้าอาจจะไม่ต้องเป็ห่วงเ้า พวกเ้าไปเถิด ข้าหวังว่าในชั่วชีวิตนี้ของข้าจะมีโอกาสได้เห็น‘จันทร์ต้องสาป’ เมินเฉยต่อโลกทั้งใบด้วยตาของตัวเองอีกสักครั้ง”
จังหวะนี้เองที่แสงสีเขียว-ดำถึงจุดเข้มข้นสูงสุดจากนั้นก็หายไปอย่างหมดจดพร้อมกับแสงกระพริบร่างของหลิงเฉินก็หายไปจากที่นี่เช่นเดียวกัน หลังจากหลิงเฉินและ ‘จันทร์ต้องสาป’ จากไปร่างของชีเยว่ก็ค่อยๆ เลือนรางลงจนกระทั่งหายไปอย่างสมบูรณ์
ตอนที่การเคลื่อนย้ายตำแหน่งเสร็จสิ้นแสงสีเขียวก็จางลง ทิวทัศน์เบื้องหน้าของหลิงเฉินพลันสว่างขึ้นการอยู่ใต้พื้นดินอันมืดมิดมายาวนานแสงสว่างมากมายและอากาศบริสุทธิ์ของที่นี่ทำให้หลิงเฉินปิดตาลงด้วยความสบายใจจากนั้นเขาก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างผ่อนคลายเงียบๆ การตกลงไปจากหน้าผาหมาป่าและไม่ตายจากผลของจี้ไพลินหลังจากนั้นก็ต่อสู้ด้วยความสิ้นหวังกับคางคกั์แห่งความละโมบได้รับชัยชนะหลังจากเฉียดความตายนับครั้งไม่ถ้วน และได้ไอเทมต่างๆ มากมาย ต่อมาก็เผชิญหน้ากับเทาเที่ยต่อสู้กับ ‘จันทร์ต้องสาป’ รวมทั้งกำราบมันได้สำเร็จและได้ไอเทมซึ่งทุกข์ทรมานจากการลงทัณฑ์ของ์ที่แม้แต่เทพเ้ายังหวาดกลัวนอกจากนี้เขายังได้รับลูกแก้วพลังงานซึ่งมีความสามารถที่ทรงพลังอย่างยิ่งรวมถึงไข่สัตว์เลี้ยงที่มีจุดกำเนิดไม่ธรรมดา และสกิลติดตัวที่แข็งแกร่งอีกสองสกิล
จู่ๆทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูเหมือนไม่ใช่เื่จริง มันราวกับความฝัน
แท้จริงแล้วเหตุการณ์เหล่านี้ควรปรากฏขึ้นในโลกเกมเสมือนจริงงั้นหรือ?