“รุ่นพี่หลิน”
หลีซีเอ๋อร์ส่งเสียงเรียกเธอออกมาเบาๆหลินลั่วหรานลืมตาขึ้น ลิงตัวน้อยที่คอยติดตามลิงแก่ถือแก้วหินเอาไว้ในมือที่แท้ก็เป็แก้วเหล้าลิงหมักนั่นเอง
สิ่งที่ต่างออกไปก็คือ สีของเหล้าแก้วนี้มีสีที่เข้มขึ้นและเต็มไปด้วยพลัง...โอเคสิ่งเหล่านี้ทำให้ความคิดเลื่อนลอยของหลินลั่วหรานนึกไปถึง “ชา” มันคล้ายกันเกินไปไหม?
เมื่อคิดได้เช่นนี้หลินลั่วหรานก็ก้มหน้าลงดื่มเหล้าลิงหมักในแก้วเมื่อเหล้าไหลลงท้องไปไม่ถึงสามนาที ความรู้สึกร้อนๆ อุ่นๆ ก็กระจายไปทั่วร่างพลังที่เสียไปกับการปล่อย “เวทรักษา” ก็ค่อยๆ ถูกเติมเต็ม หลินลั่วหรานนึกขึ้นมาได้ในทันทีสิ่งนี้มันเหมือนกับยาฟื้นมานาในเกมเลยนี่นา
เธอมีเวลาอยู่ในสถานที่ลึกลับเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้นด้วยแผ่นหยกของพวกเธอ ทำให้รู้ว่าไม่มีใครที่อยู่ใกล้บริเวณแถวนี้เลยด้วยเวลาที่มีจำกัด ทำให้หลินลั่วหรานไม่อาจหยุดอยู่ที่ใดนานๆ ได้หลินลั่วหรานกำลังคิดว่าเมื่อได้รับของมาแล้ว ควรออกเดินทางไปเลยไหมและกลุ่มฝูงลิงก็ส่งเสียงดังขึ้นจากด้านนอก
ลิงแก่ยืนขึ้นก่อนโดยที่ไม่ได้สนใจมารยาทของคนอย่างที่มีมาตลอด มันพุ่งตัวออกไปหลินลั่วหรานนั้นยังคงัักับความนุ่มลึกของเหล้าที่ดื่มเข้าไปอยู่ในตอนนี้เองก็ต้องออกไปดูที่หน้าต่างอย่างห้ามไม่ได้ หลีซีเอ๋อร์ยกมือขึ้นปิดปากก่อนจะส่งเสียงร้องแสดงความใออกมา หลินลั่วหรานจึงหรี่ตาลง
ที่แท้ลิงก่อนหน้านี้เข้ามาแล้วแต่มันไม่ได้เหมือนกับตอนที่ปาลูกท้อใส่พวกเธออย่างคึกคัก มันกลับได้รับาเ็มาหัวหน้าฝูงลิงได้รับาเ็หนักที่สุด แขนของมันถูกยกขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรงท่อนแขนเองก็เต็มไปด้วยคราบเื น่าจะเป็เพราะข้อมือหักไปแล้ว
เื่การหยุดเืนั้นลิงแก่เองก็สามารถทำได้าแของเหล่าลิงน้อยพวกนั้น เพียงดื่มเหล้าวิเศษเข้าไปก็คงจะรักษาได้แต่อาการข้อมือหักของหัวหน้าฝูงลิงนี่สิ ถ้าไม่ต่อกระดูกจะรักษาอย่างไรไปก็เปล่าประโยชน์
หลินลั่วหรานถอนหายใจออกมาก่อนจะลุกขึ้นออกมาจากห้อง เธอหักกิ่งไม้เล็กๆ ลงมาจากต้นไม้ใหญ่ก่อนจะหาเชือกเส้นเล็ก แล้วนำมาใช้ดามกระดูกอย่างระมัดระวังเอาไว้ให้
“เ้าบอกมันด้วยสิ่งนี้จะต้องใส่เอาไว้จนกว่าจะหายสนิท เข้าใจไหม?” ในระหว่างที่หลินลั่วหรานกำลังพันอยู่นั้นการต่อกระดูกโดยตรงทำให้มันปวดมาก ดูจากท่าทางการกัดฟันแน่นของมันก็น่าจะรู้แล้วแต่ว่าที่มุมหางตาของมัน มีอะไรกำลังแวววับอยู่กันนะ น้ำตาเหรอ?
ลิงแก่แสดงท่าทางขึ้นก่อนที่ผู้นำลิงจะพยักหน้าลงเพื่อขอบคุณดวงตาที่มองมายังหลินลั่วหรานก็กลายเป็ความประสงค์ดีอย่างที่ไม่มีให้ในตอนแรก
ความจริงแล้วหลินลั่วหรานก็ไม่ได้อยากจะเป็พระแม่ผู้ช่วยโลกเธอเพียงแค่ทำให้สมกับที่เขาบอกกันว่ามนุษย์เป็สิ่งมีชีวิตที่ประเสริฐที่สุดก็เท่านั้นลิงเองก็เป็สายพันธุ์ที่ใกล้ชิดกัน แม้ว่าจะเข้ามาสู่การฝึกศาสตร์แล้วแต่ว่าแินี้ก็ยังคงไม่หายไปไหน เธอเองก็ไม่ได้รังเกียจอะไรพวกลิงอยู่แล้วดังนั้นกับเื่อะไรที่สามารถทำได้หรือรักษาได้ก็ทำไปเถอะ
ตอนนี้มือของผู้นำลิงไม่ได้ปวดอีกต่อไปแล้วมันจึงทำท่าทางราวกับบอกอะไรบางอย่างกับลิงแก่หลินลั่วหรานเห็นว่าสีหน้าของลิงแก่ดูแย่ลงทุกที ดวงตาของมันเริ่มปรากฏสีแดงขึ้นหลังจากฟังจบก็พุ่งตัวออกไปโดยไม่แม้แต่จะสนใจพวกหลินลั่วหรานที่อยู่ในเหตุการณ์
แน่นอนว่าหลีซีเอ๋อร์ก็ต้องอยากตามไปดูเป็ธรรมดาหลินลั่วหรานยังไม่ได้เหล้าวิเศษมาไว้ในมือ ก็ยิ่งไม่สามารถปล่อยให้ลิงแก่หายไปได้ไม่อย่างนั้นเธอจะไปถามเื่เหล้ากับใครล่ะ? เมื่อเผชิญหน้ากับเหล่าลิงที่ไร้พละกำลังเธอจะเอาหน้าที่ไหนไปแย่งมากันล่ะ!
เพราะว่าเคยเดินมาแล้วครั้งหนึ่งตอนที่เดินออกมาก็เลยไวกว่าตอนที่เดินเข้าไปอยู่มากไม่นานนักทั้งสองก็ได้ยินเสียงของน้ำตกดังขึ้นหลังจากนั้นก็เห็นภาพของน้ำตาปรากฏขึ้นตรงหน้า
เมื่อออกมาจากกลางป่าพวกเธอก็เห็นว่ามีเงาร่างบางอย่างกำลังยืนประจันหน้ากับเหล่าฝูงลิงอยู่ในที่สุดหลินลั่วหรานก็ถอนหายใจออกมา เธอยังเอาแต่คอยกังวลว่าอาจจะเป็เพราะเสี่ยวจินเห็นว่าพวกเธอหายไปนานแล้ว ก็เลยทำร้ายพวกลิงเข้า!
แต่สิ่งที่ยืนประจันหน้ากับพวกลิงไม่ใช่เสี่ยวจินแต่ว่าร่างนั้นกลับเป็หมีที่มีร่างสูงกว่าสองเมตร และถือกระบองเอาไว้และก็เป็หมีตัวใหญ่ที่คนทางฝั่งเหนือชอบพูดกัน!
โอเคหมีดำเป็สัตว์คุ้มครองอันดับที่เท่าไรของประเทศกันนะ? เมื่อหลินลั่วหรานนึกถึงเื่นี้ขึ้นมาได้นี่ก็ไม่ใช่เื่สำคัญ สิ่งสำคัญก็คือใครเคยเห็นมีตัวใหญ่ถือกระบองเข้ามาทำลายถ้ำของลิงบ้างไหม?
หลินลั่วหรานเห็นว่าหมีดำตัวใหญ่นั้นทั้งเนื้อหนาผิวหยาบในมือก็มีอาวุธอยู่ ในกายมีพลังไหลเวียนไม่ขาด ไม่แน่ว่าอาการาเ็ที่ตัวของลิงแก่อาจจะเป็เพราะมันก็ได้...แต่ว่าในยามปกติลิงแก่นั้นไม่อาจจะทำอะไรหมีดำได้ แถมตอนนี้ยังมีอาการาเ็อีกถ้าหากว่ายังฝืนต่อไป ก็อาจจะได้ไปพบกับบรรพบุรุษของมันเร็วขึ้นก็ได้ใช่ไหม?
หลินลั่วหรานรู้สึกว่าความคิดของตัวเองนั้นแย่เกินไปแล้วอยู่ๆ หมีดำก็โจมตีเข้ามา บางทีหมีดำนี่อาจจะโง่อยู่บ้าง เห็นอยู่ชัดๆว่าทางนี้มีคนเข้ามาช่วยเหลือถึงสองคน ยังจะกล้าลงมือโจมตีก่อนความจริงก็ถือว่าโง่มากทีเดียว
แต่ว่าความจริงก็อาจจะต้องบอกว่ามีผู้ช่วยเพียงคนเดียว หลีซีเอ๋อร์กินผลไม้ของพวกลิงไปอีกทั้งยังดื่ม “เหล้าลิงหมัก” ลงไปด้วย เธอชินกับการหยอกล้อเล่นกับพวกลิงทั้งหลายเมื่อเห็นพวกลิงเ่าั้แล้วเธอรู้สึกแค่ว่ามันน่ารักแล้วจะให้เธอปล่อยให้ลิงแก่ถูกทำร้ายอีกได้อย่างไร?
ดังนั้นหลีซีเอ๋อร์จึงลอบโจมตีเข้าไปยังตัวหมีดำโดยที่ไม่สนใจกระบองที่ดูน่ากลัวนั่น! น่าเสียดายที่กระดิ่งบนเส้นเอ็นใสของเธอนั้นเห็นได้ชัดเจนเกินไปแม้แต่หมีดำที่โง่มากก็รู้ว่ามันควรจะขยับตัวออก “เส้นเอ็นใส” หล่นลงกลางน้ำ เมื่อหลีซีเอ๋อร์ดึงมันกลับมาอีกครั้ง ก็จับปลาคาร์ฟตัวใหญ่ที่ดิ้นไปมาขึ้นมาได้...
หลินลั่วหรานอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าถ้าเธออยู่กับหลีซีเอ๋อร์นานเข้าแล้วจะได้รับผลกระทบทางสมองด้วยไหมเฮอะๆ
“รุ่นพี่พวกเราไปช่วยลิงแก่กันเถอะ!”
หลีซีเอ๋อร์เห็นว่าการโจมตีของเธอไม่เข้าเป้าก็นึกถึงคนมากความสามารถที่อยู่ข้างกายขึ้นมา จึงรีบออกปากขอความช่วยเหลือหลินลั่วหรานคอยดูแลเธอมาตลอด หลีซีเอ๋อร์คิดว่าเื่เล็กๆ แบบนี้รุ่นพี่หลินน่าจะทำอะไรได้บ้าง ใครจะคิดว่าหลินลั่วหรานจะส่ายหน้าปฏิเสธ
“ซีเอ๋อร์เมื่อครู่ฉันใช้พลังในการรักษาลิงแก่ไปจนหมดแล้ว คงจะต้องอยู่ที่เธอแล้วล่ะ”
หลีซีเอ๋อร์นิ่งไปก่อนจะคิดได้ว่าหลินลั่วหรานเพิ่งจะใช้พลังอย่างมากไปตอนนี้เธอยังจะขอให้มาช่วยอีก ช่างไม่ได้มีสำนึกอะไรเลย!
แต่ว่า...หมีดำตัวนั้นดูสูงใหญ่หลีซีเอ๋อร์ยังไม่ได้ทำอะไร เธอก็คิดถึงเื่ที่ดื้อดึงอยู่กับเสี่ยวจินที่หน้าผาขึ้นมาเธอจะสามารถเอาชนะหมีดำได้จริงเหรอ?
เมื่อเจอเื่แบบนี้คนที่มีความกล้าไม่ต่างอะไรกับกระต่ายน้อยอย่างหลีซีเอ๋อร์ตอนนี้เธอก็ได้แต่ลังเลและสับสน!
เธอยังคงลังเลอยู่แต่พวกลิงเ่าั้ก็ทนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว พวกมันโดนกระบอกของหมีดำฟาดเข้าจนลอยไปตกลงในน้ำเมื่อผ่านไปสักพัก ทั่วทั้งท้องน้ำก็กลายเป็สีเืไม่อาจรู้ได้ว่าลิงพวกนั้นเป็หรือตาย
หลีซีเอ๋อร์จับเชือกวิเศษในมือไว้แน่นก่อนจะร้องไห้ออกมา
ตอนนี้เธอนึกถึงตอนที่โดนหลินลั่วหรานเหวี่ยงขึ้นไปบนหน้าผาขึ้นมาจนตัวเองตกลงไปในเหวลึก แม้ว่าสุดท้ายแล้วรุ่นพี่หลินจะไม่ได้เป็อะไรแต่ถ้าตอนนั้นเธอมีความกล้ามากหน่อย เติบโตกว่านี้หน่อย ตอบสนองได้ไวขึ้นหน่อยเธอก็อาจจะดึงรุ่นพี่หลินเอาไว้ได้ทันใช่ไหม?
ใบหน้าของหลีซีเอ๋อร์ยังคงประดับไปด้วยน้ำตาแต่ร่างกายของเธอกลับขยับขึ้นไปด้านหน้า เธอสะบัดเชือกออกไปหยุดหมีดำเอาไว้ก่อนที่มือขวาจะร่ายเวทด้วยความรวดเร็วอย่างที่เธอไม่เคยทำได้มาก่อนเมื่อหมีดำถือกระบองเข้ามาหาเธอ เธอก็เปล่งเสียงออกมาว่า “ปีกใส” แล้วเธอก็ใช้เวทที่หลินลั่วหรานเคยใช้ย่างกระต่ายมาใช้ในการโจมตี
แม้ว่าใจของเธอจะยังไม่โเี้พอแต่ว่าอย่างน้อยก็ก้าวขยับขึ้นมาอีกก้าวแล้วใช่ไหม? หลินลั่วหรานถอนหายใจออกมาแต่คนที่ซ่อนตัวอยู่ในถุงจักรวาลกลับเหยียดยิ้มขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“เ้านี่เป็คนที่ดีมากเลยนะยังจะอุตส่าห์เป็ห่วงลูกศิษย์ของสำนักอื่นอีก!”