สาเหตุก็ง่ายมาก เขากับหลินเจ๋อเทียนนั้นรู้จักกัน แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนไม่ได้เป็แค่คนรู้จัก
ในความเป็จริงแล้ว หลินเจ๋อเทียนแอบชอบเยี่ยซีมาโดยตลอด ก่อนที่เยี่ยซีจะหมั้นหมายกับองค์ชายเก้านั้น เขาคอยสังเกตท่าทางของนางอยู่ตลอดมา และระหว่างนั้นเขาก็ได้รู้จักกับเยี่ยเสวียนเลยได้รู้ถึงความชอบต่างๆ ของเยี่ยซี จากนั้นก็จะกลับไปเตรียมของพวกนั้นให้กับนาง
เป็แบบนี้อยู่หลายต่อหลายครั้ง หลินเจ๋อเทียนก็เลยคุ้นเคยกับเยี่ยเสวียน
เยี่ยเสวียนนั้นรู้ดีว่า หากไม่อาศัยโอกาสที่เปิดเผยแบบนี้สั่งสอนิอวี่ ด้วยฐานะองค์ชายของิอวี่แล้ว การจะแอบไปลงมือกับเขาคงไม่สะดวกแน่
ดังนั้น การให้หลินเจ๋อเทียนเล่นงานิอวี่จนาเ็สาหัสต่อหน้าทุกคนถือเป็วิธีที่ดีที่สุดแล้ว! เพราะิอวี่จะหยุดอยู่แค่รอบแปดคนเท่านั้นหากเขาแพ้อย่างง่ายดาย เยี่ยเสวียนคงรับไม่ได้เพราะเขาจะไม่สามารถแก้แค้นให้กับเยี่ยหรงได้?
หลินเจ๋อเทียนที่อยู่ข้างๆ ก็พยักหน้าให้ ถึงแม้สีหน้าของเขาจะเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม แต่สายตาที่มองมาที่ิอวี่นั้นกลับเ็าอย่างมาก
การแข่งขันในคู่แรก เยี่ยซีเอาชนะมาได้อย่างง่ายดาย เพราะคู่ต่อสู้ยอมแพ้ให้นางโดยไม่ลังเลใจเลย
แต่คู่ของซ่งซูเหลียนกับหลิวซงินั้นสนุกมาก หลังจากสู้กันอยู่ประมาณหนึ่งก้านธูป สุดท้ายซ่งซูเหลียนก็ใช้ข้อได้เปรียบอันน้อยนิดของเขาเอาชนะมาได้
ส่วนเยี่ยเสวียนนั้นแข็งแกร่งมาก ใช้แค่สิบลมหายใจเท่านั้นก็เล่นงานคู่ต่อสู้จนหมดสภาพ
ไม่นานนักก็มาถึงคู่ที่สี่ เป็คู่ที่ทุกคนจับตามองมาก นั่นคือคู่ของหลินเจ๋อเทียนกับิอวี่
หลินเจ๋อเทียนะโขึ้นไปบนลานประลองอย่างง่ายดาย แล้วรอิอวี่ที่กำลังเดินขึ้นมาอย่างเงียบๆ แต่ว่าสายตาของเขานั้นดูเหี้ยมมาก
“แฮะๆ พวกเ้าว่าิอวี่จะทนได้นานแค่ไหนกัน?” ด้านล่างลานประลองเริ่มคุยกัน
“ก่อนหน้านี้เห็นิอวี่ใช้กำลังทั้งหมดตีกลองศึกจนเป็สีดำ แสดงว่าในด้านกำลังของเขาก็ไม่ได้แย่” มีคนเริ่มวิเคราะห์ “แต่ในด้านประสบการณ์กับทักษะในการใช้วิชา ิอวี่ก็ไม่ต่างกับผ้าขาว ดังนั้น เขาคงใช้แรงเปล่าๆ ทนได้สักห้าอึดใจแล้วคงแพ้แหละ”
“เหอะๆ เ้าเองก็ประเมินิอวี่สูงไป ถึงแม้ในรอบแรกเขาจะทำให้เราตะลึง แต่อย่าลืมนะ คู่ต่อสู้ของเขาคือผู้มีความสามารถที่โดดเด่นมากที่สุดในรอบร้อยปีของตระกูลหลินอย่างหลินเจ๋อเทียนนะ!”
มีคนพูดขึ้นมาอย่างตรงจุด
ถูกต้อง หลินเจ๋อเทียนฝึกยุทธ์ั้แ่สิบขวบ พอสิบเอ็ดขวบก็สามารถไปถึงขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หนึ่ง อายุสิบห้าก็สามารถไปถึงขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หกได้แล้ว เขาใช้แค่พัดปิงกู่เอาชนะผู้าุโห้าคนของตระกูลหลินที่มีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หกได้เพียงลำพังอย่างง่ายดาย
ตอนนี้หลินเจ๋อเทียนอายุแค่สิบเจ็ด แต่มีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เจ็ดแล้ว และยังติดอันดับที่แปดร้อยสามสิบสองบนตารางนักรบของทางราชสำนักอีกด้วย!
ถึงแม้เมื่อเทียบกับเยี่ยซีที่อายุสิบหกแล้ว พร์ของเขาอาจจะเทียบไม่ได้ แต่ก็ไม่มีข้อกังขาเลยว่า ในการแข่งขันครั้งนี้คงมีแค่เยี่ยซีคนเดียวเท่านั้นที่เป็คู่ต่อสู้ที่สูสีกับเขาที่สุด
แต่ว่า พวกเขาเองก็ยอมรับในตัวของิอวี่ เพราะคนที่เคยถูกตราหน้าว่าเป็คนไม่เอาไหนสามารถมายืนอยู่ตรงหน้าของหลินเจ๋อเทียนได้ คนแบบนี้มีความก้าวหน้าที่น่าทึ่งและน่านับถืออย่างมาก
“องค์ชายสิบเจ็ด ข้ายินดีอย่างยิ่งที่ได้สู้กับท่าน ข้าไร้ความสามารถ หวังว่าการประลองในครั้งนี้กับท่านจะได้รับประสบการณ์กลับไปไม่มากก็น้อย”
หลินเจ๋อเทียนคำนับให้กับิอวี่ จากนั้นก็พูดอย่างมีมารยาท
“เชิญ” ิอวี่ก็ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ เขาพูดออกไปอย่างเรียบง่าย
“ถ้าอย่างนั้น ก็เริ่มเลยนะ”
หลินเจ๋อเทียนยังคงยิ้มอยู่ แต่หลังจากพูดจบ ในมือของเขากลับมีพัดขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาในมือ
หลินเจ๋อเทียนสะบัดมือพร้อมกับเสียงพัดที่กางออกดังขึ้น ลมหนาวที่เย็นไปถึงกระดูกกระจายออกมา จากนั้นตัวพัดก็กลายเป็สีน้ำเงิน ปลายพัดคล้ายกับปีกของจักจั่น มันมีความคมอย่างมาก!
จากนั้น หลินเจ๋อเทียนก็พุ่งเข้าไปตวัดพัดใส่่เอวของิอวี่ราวกับเงาตามตัว
เมื่อมีลมปราณที่หนาวะเืพุ่งมาเข้าใกล้ตัว กระบี่เฟิงโหวสีแดงเืก็ปรากฏขึ้นในมือของิอวี่ จากนั้นเขาก็ฟันพลังลมปราณกระบี่ออกไป ทำให้พลังงานอันแหลมคมนั้นถูกตัดขาดในทันที
“หือ?”
หลินเจ๋อเทียนคิดไม่ถึงเลยว่าิอวี่จะใช้กระบี่เป็ด้วย แล้วยังสามารถต้านทานการโจมตีของเขาได้ในทันที แต่เขาก็ไม่ได้ร้อนใจ เพราะการโจมตีของจริงกำลังจะเริ่มขึ้นหลังจากนี้ต่างหาก
“พัดน้ำแข็ง โหมพายุ!”
หลินเจ๋อเทียนสะบัดข้อมือ พลังเทียบเท่าราชสีห์หนึ่งพันห้าร้อยตัวะเิออกมา และนำพาลมปราณอันเยือกเย็นซัดใส่ิอวี่ กระบวนท่านี้เป็ทักษะหลิงระดับกลาง ถึงแม้พลังการโจมตีจะไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากมาย แต่ว่ามันกลับเป็การก่อกวนที่ดีมาก หากคนปกติเจอการโจมตีแบบนี้จะถูกลมพายุม้วนตัวขึ้นไปบนฟ้าเลยทีเดียว!
“ผัวะ”
ิอวี่ตะคอกแล้วฟันกระบี่เฟิงโหวในมือออกไป เพลงกระบี่สังหารหนีลวนพลังสังหารห้าเท่าพุ่งออกไปฟันจนพายุนั้นขาดออกเป็สองท่อน
จากนั้น หลินเจ๋อเทียนก็อาศัย่ที่ิอวี่ลงมือนั้นเข้าประชิดตัว
“พัดน้ำแข็ง ตัดจันทรา!”
พัดน้ำแข็งที่ราวกับมีดดาบที่แหลมคมพุ่งฟันไปที่ิอวี่อย่างบ้าคลั่ง ิอวี่จับกระบี่เฟิงโหวในมือต้านพลังการโจมตีของหลินเจ๋อเทียนจนล่าถอยไป สีหน้าท่าทางของเขานั้นเริ่มนิ่งลง
ไม่ใช่เพราะการโจมตีของหลินเจ๋อเทียนนั้นแข็งแกร่งมาก แต่เป็เพราะกระบวนท่าที่หลินเจ๋อเทียนใช้นั้นมันเล่นเอาตายและโเี้มาก
ก่อนหน้านี้เขาบอกว่าแค่ประลองฝีมือกัน ดูจากท่าทางแล้วเขามีความจริงใจมาก แต่ตอนนี้ดูไปแล้ว เขาเหมือนอยากจะให้ิอวี่ตายมากกว่า!
ปลายตาของิอวี่เหลือบไปเห็นเยี่ยเสวียนที่อยู่ด้านล่างลานประลองกำลังยิ้มอย่างร้ายๆ ก็เลยทำให้ิอวี่เข้าใจ
หลินเจ๋อเทียนสมรู้ร่วมคิดกับเยี่ยเสวียน พวกเขา้าให้เขาตาย!
ถึงแม้เยี่ยเสวียนจะไม่ได้ลงมือเอง แต่ความเหี้ยมโหดของเขาก็ยังทำให้คนอื่นรู้สึกขยะแขยงมาก
พอได้เห็นิอวี่ถูกหลินเจ๋อเทียนเล่นงานจนต้องถอยร่น ทุกคนก็คิดว่าการประลองในรอบนี้น่าจะจบแล้ว ทุกคนมั่นใจในตัวของหลินเจ๋อเทียนมาก
แต่การประมือกันอย่างต่อเนื่องและเวลาที่ล่วงเลยไป ทำให้สีหน้าของทุกคนเริ่มเปลี่ยน เพราะการโจมตีอย่างบ้าคลั่งของหลินเจ๋อเทียน ถึงแม้ิอวี่จะดูเหมือนเรือลำน้อยที่อยู่กลางคลื่นั์ แต่เขาก็รับมือหลินเจ๋อเทียนได้ถึงสิบกระบวนท่า!
ท่าทางของิอวี่ยังดูสบายๆ มาก สภาพไม่ได้ดูย่ำแย่เลย
แต่หลินเจ๋อเทียนนั้นกลับใช้กระบวนท่าถึงตายทุกครั้ง ทุกการโจมตีเขาเต็มที่อย่างมาก ตอนนี้เหงื่อของเขาผุดออกมาจากหน้าผากจำนวนมาก ความมั่นใจในสายตาของเขานั้นค่อยๆ เริ่มลดลง
“หลินเจ๋อเทียน เ้าไม่จำเป็ต้องตั้งใจออมมือให้ข้าหรอกนะ นี่คือการประลองที่เท่าเทียมกัน ทำให้ทุกคนเห็นความสามารถที่แท้จริงของเ้าสิ” ิอวี่รับมือกับการโจมตีของหลินเจ๋อเทียนไปด้วยและพูดจาประชดประชันไปด้วย
“หุบปากนะ!”
หลินเจ๋อเทียนคิดไม่ถึงเลยว่า ิอวี่จะมีประสบการณ์การต่อสู้กับทักษะการต่อสู้ที่ไม่ด้อยไปกว่าเขาเลย แถมดูเหมือนจะเหนือกว่าเขาด้วยซ้ำไป กระบวนท่าการโจมตีต่อเนื่องนี้มันร้ายกาจมาก แต่กลับถูกิอวี่ใช้ลมปราณกระบี่ต้านจนกระเจิง
กระบวนท่าของเขาไม่สามารถทำอะไริอวี่ได้เลย!
หลินเจ๋อเทียนรู้สึกไม่ค่อยดี แต่เขาก็ยังคงมีความมั่นใจอยู่ เพราะยังไม่ได้ปล่อยท่าไม้ตายของเขาออกไป!
“ก่อนหน้านี้เพราะข้าให้เกียรติท่านถึงได้ไม่เอาจริง แต่ในเมื่อท่านอยากจะรนหาที่ตายเอง ถ้าอย่างนั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่ปราณีล่ะนะ จำไว้ นี่คือกระบวนท่าที่ร้ายกาจที่สุดของข้า ดับทำลาย”
หลินเจ๋อเทียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เ็าออกมา ทุกคนััได้ว่าคำพูดของเขานั้นมันดูเืเย็นและเต็มไปด้วยจิตสังหาร จากนั้นทุกคนก็เห็นหลินเจ๋อเทียนหุบพัด ลมปราณพุ่งขึ้นทั่วตัว แล้วพุ่งแทงพัดไปที่หัวไหล่ด้านขวาของิอวี่ หากทะลุไปได้ แขนขวาของิอวี่ก็จะขาดทันที แล้วเขาก็จะกลายเป็คนแขนด้วน!
กระบวนท่านี้เป็ทักษะการต่อสู้หลิงระดับกลางที่เทียบได้กับทักษะการต่อสู้หลิงระดับสูง ดับทำลาย
เป็ไปตามชื่อเลย พัดพุ่งทะลุทะลวง ไม่มีความปราณี ดับทำลายทุกอย่างจนสูญสิ้น!
ในเวลานี้เอง องครักษ์หน้าพระที่นั่งที่นั่งอยู่ก็เตรียมจะลงมือช่วยิอวี่ ทุกคนแทบจะหยุดหายใจ คิดไม่ถึงเลยว่าหลินเจ๋อเทียนจะกล้าลงมือสังหารเด็ดขาด จะตัดแขนของิอวี่โดยไม่เกรงกลัวอำนาจของราชวงศ์เลย
แต่ว่าิอวี่กลับไม่ได้กลัวและถอยเลย เขารวบรวมพลังลมปราณสังหาร พลังราชสีห์สองพันตัวทั้งหมดไปไว้ที่กระบี่และะเิพลังออกไป!
กระบี่ถูกตวัดขึ้น
ลมปราณกระบี่ที่รุนแรงแข็งแกร่งราวกับฟ้าร้องส่งเสียงคำรามออกไป ในเวลาไม่กี่อึดใจ พัดที่แทงตรงมาก็กระเด็นไปไกล จากนั้นลมปราณกระบี่ก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับแขนข้างขวาของหลินเจ๋อเทียน!
“อ๊า!”
หลินเจ๋อเทียนส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาพร้อมกับนอนกลิ้งอยู่ที่พื้นด้วยความเ็ป เืสดๆ ไหลเต็มลานประลอง
เขาจะไปคาดถึงได้อย่างไร ด้วยกระบวนท่าดับทำลายที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา ไม่เพียงไม่สามารถตัดแขนขวาของิอวี่ได้ แต่กลับเป็เขาเองที่ถูกิอวี่ตัดแขนขวาไป!
เดิมเขาคิดอยากจะให้ิอวี่กลายเป็คนพิการ แต่สุดท้ายแล้วคนที่จะต้องกลายเป็คนพิการกลับเป็เขาเอง
“จำไว้ ข้าแค่โจมตีส่งๆ ทีเดียว พลังสังหารก็คือเก้าเท่า” ิอวี่พูดจบก็เก็บกระบี่แล้วก็เดินลงจากลานประลองไปเลย
“อะไรนะ ... ” หลินเจ๋อเทียนท่าทางเหม่อลอยมาก กระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา ถูกิอวี่โจมตีส่งๆ ทีเดียวก็สามารถทำลายและตัดแขนขวาของเขาจนขาดได้?
ที่แท้ิอวี่ก็เหนือกว่าเขา ... มาั้แ่ต้น เป็เขาเองที่หาเื่ให้ตัวเองอับอาย!
พอเห็นท่าทางสิ้นหวังของหลินเจ๋อเทียนบนลานประลอง ทุกคนก็อดหันหน้ามองกันเองไม่ได้ พวกเขาคิดอยู่แล้วว่าบนลานประลองจะต้องมีการนองเื พวกเขาเดาจุดเริ่มต้นเื่ถูกแต่เดาบทสรุปผิด เพราะคนที่ล้มลงกับพื้นไม่ใช่ิอวี่ แต่เป็คนที่มีพร์สูงมากอย่างหลินเจ๋อเทียน แล้วแขนขวาของเขาก็ถูกฟันจนขาด ชาตินี้เขาจะไม่สามารถใช้คำว่าผู้มีพร์อีกแล้ว!
ทุกคนถึงได้เข้าใจว่า ที่จริงแล้วิอวี่ไม่ใช่คนไม่เอาไหนเลยแม้แต่นิดเดียว!
ทุกคนในตระกูลหลินต่างลุกขึ้นมากันหมด ดวงตาของพวกเขาแดงก่ำ แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเลย
เพราะอย่างแรก หลินเจ๋อเทียนลงมือเหี้ยมโหดก่อน นี่คือเื่จริงที่ทุกคนเห็นกับตา พวกเขาเป็ฝ่ายผิด อย่างที่สอง ิอวี่เป็องค์ชาย ิอ๋องเองก็นั่งอยู่ที่พลับพลา พวกเขามีสิทธิอะไรจะลงมือแบบนั้นกับิอวี่?
พวกเขาไม่ใช่ตระกูลเยี่ยที่มีความเกี่ยวดองของเยี่ยซีกับองค์ชายเก้ารวมอยู่ ดังนั้น ความคับแค้นใจนี้พวกเขาจึงต้องกลืนมันลงท้องไป!
ส่วนเยี่ยเสวียนที่อยู่ด้านล่างลานประลองนั้นสีหน้าของเขาดูแย่ยิ่งกว่า ตอนที่เขาเห็นหลินเจ๋อเทียนใช้กระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดก็คิดว่าิอวี่ต้องพิการแน่ เขายังรู้สึกมีความสุขอยู่เลย
แต่ในตอนนี้ ...
พอเห็นหลินเจ๋อเทียนล้มลงกับพื้นในสภาพอนาถมาก อีกทั้งยังมีเืนองเต็มพื้น เยี่ยเสวียนก็ปากสั่นแล้วก็เกิดความกลัวขึ้นมาในใจ!
เมื่อเ้าหน้าที่นำตัวของหลินเจ๋อเทียนลงมาจากลานประลองและจัดการพื้นที่เรียบร้อยแล้ว บนลานประลองก็กลับมาสะอาดอีกครั้ง แต่ว่าสภาพอันย่ำแย่ของหลินเจ๋อเทียนนั้น ทุกคนยังจดจำได้เป็อย่างดี
หลังจากผ่านการพักไปประมาณสองก้านธูป การแข่งขันในรอบใหม่ก็เริ่มต้นขึ้น ลานประลองแปดแห่งยุบลงเหลือแค่ลานประลองตรงกลางแห่งเดียว และเป็จุดกึ่งกลางของลานประลองทั้งหมดด้วย
ผู้เข้าแข่งขันที่เหลืออีกสี่คน ได้แก่ เยี่ยซี ิอวี่ เยี่ยเสวียน แล้วก็ซ่งซูเหลียน พวกเขาจะต้องขึ้นจบการประลองครั้งสุดท้ายที่นี่!
มู่หลางะโว่า “ในรอบนี้จะทำการจับหมายเลขใหม่ หมายเลขหนึ่งเจอกับสอง สามเจอกับสี่ ิอวี่ เดินออกมาจับหมายเลข”
ิอวี่เป็คนแรกที่ได้จับ เขาได้หมายเลขสอง
“ิอวี่ หมายเลขสอง!” มู่หลางะโเสียงดัง ทำให้เยี่ยเสวียนที่อยู่ข้างๆ ใตื่น
มู่หลางพูดต่อว่า “เยี่ยเสวียน ตาเ้าแล้ว”
“ ... อือ”
เยี่ยเสวียนเดินมาถึงหน้ากล่องแล้วยื่นมือเข้าไป เลือกอยู่นานถึงจับเจอบอลเหล็กมาหนึ่งลูกแล้วค่อยๆ เปิดออกดู
สีหน้าของเขาซีดขาว เขาจับลูกบอลไว้ในมือขวาแน่นมาก ไม่กล้าที่จะมองไปที่หมายเลขที่อยู่้าเลย ในใจก็ภาวนาว่า ‘ไม่เอาเลขหนึ่ง ไม่เอาเลขหนึ่ง ไม่เอาเลขหนึ่ง ... ’
“เ้าทำอะไรอยู่?” มู่หลางเห็นเยี่ยเสวียนชักช้าก็ขมวดคิ้ว จากนั้นจึงยื่นมือไปหยิบลูกบอลเหล็กมาดูหมายเลข้า แล้วะโประกาศออกมาว่า
“เยี่ยเสวียน หมายเลขหนึ่ง!”