วันรุ่งขึ้น
“เ้าไปเป็คนแรก!” ชายชุดดำบอกกู่ไห่
ในบรรดาอาชญากรทั้งสิบหกคน ชายหนุ่มถูกกำหนดให้ออกไปเป็คนแรก
กู่ไห่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด เขาถูกพาตัวออกจากห้องขัง ก่อนที่ข้อมือและข้อเท้าจะถูกใส่ตรวน ชายชุดดำที่ยืนอยู่ด้านหลัง ต่างถือดาบไว้ในมือ
เห็นได้ชัดว่ากลุ่มชายชุดดำ ปฏิบัติต่อนักโทษราวกับไม่ใช่คน แต่ก็ต้องรู้ว่าอาชญากรเหล่านี้อันตรายยิ่ง จำต้องระมัดระวังเป็พิเศษ
ชายหนุ่มค่อยๆ เดินตามอีกฝ่ายไปโดยไม่ได้ปริปาก จนถึงประตูทางเข้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
“เฮ้!”
“ดูนั่น... ออกมาแล้ว!”
“อาชญากรคนแรก!”
เสียงอื้ออึงดังมาจากอัฒจันทร์ ผู้ฝึกตนจำนวนนับไม่ถ้วนนั่งอยู่บนนั้น และร้องะโอย่างดัง
บริเวณทางเข้ามีชายชุดดำยืนอยู่มากมาย นี่เป็ที่ที่มีการคุ้มกันแ่าสุด
กู่ไห่ถูกคุมตัวเข้าไป เหล่าชายชุดดำต่างจับตาดูเขาอย่างเข้มงวด
“ปลดตรวน!” หัวหน้ากลุ่มสั่งเสียงเคร่ง
“ขอรับ!”
ไม่ช้า แขนและขาของชายหนุ่มก็เป็อิสระ
กู่ไห่สะบัดมือไปมา พร้อมมองดูกลุ่มชายชุดดำที่อยู่รอบตัว
“เ้าหนู… ฟังให้ดี ข้าคิดว่าเ้าคงเข้าใจกฎแล้ว สู้ให้เต็มที่ หากชนะ เ้าก็จะมีชีวิตรอด!” หัวหน้ากลุ่มชายชุดดำกล่าวอย่างเ็า
ขณะพูด เขาก็สะบัดมือครั้งหนึ่ง
วิ้ง!
พลันแสงสีฟ้าที่ปกคลุมลานประลองทั้งหมดเอาไว้ ก็ปรากฏขึ้น
ตอนที่แสงนั่นปรากฏ กู่ไห่ก็หรี่ตาลงทันที เพราะเคยเห็นแสงสีฟ้าแบบเดียวกันนี้ เมื่อหนึ่งเดือนก่อน ขอแค่หน้ากากัักับมัน ก็จะะเิทันที พร้อมศีรษะของผู้สวม
ชายหนุ่มสูดหายใจลึก ก่อนพยักหน้า
แสงสีฟ้าคั่นกลางระหว่างสนามและผู้ชม โดยทำหน้าที่เสมือนกรง ซึ่งขังเหล่านักสู้เอาไว้ในสนาม
ทันใดนั้น อักขระอาคมก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนเชิงเขาที่อยู่โดยรอบ
ฟิ้ว!
จู่ๆ เชือกสีแดงก็โผล่ออกมาจากอักขระอาคม พุ่งเข้ามัดแขนขาของกู่ไห่เอาไว้ในพริบตา ทำให้เขาไม่อาจขยับเขยื้อนได้
สีหน้าของกู่ไห่เปลี่ยนไปทันที แต่แทนจะร้องด้วยความกลัว เขากลับเพ่งพินิจอย่างละเอียด
ปัง!
สายฟ้าพุ่งออกจากอักขระอาคม ตรงเข้าใส่ร่างชายหนุ่มในบัดดล
ตูม!
กู่ไห่ได้ยินเสียงะเิจากจุดตันเถียนของตนเอง ก่อนจะเกิดความเ็ปอย่างมหาศาลที่บริเวณนั้น
สีหน้าชายหนุ่มเปลี่ยนไปทันที แต่เพราะถูกเชือกสีแดงมัดไว้ จึงไม่อาจขยับไปไหนได้
“โยนเ้านั่นเข้าไปด้านใน!” หัวหน้ากลุ่มชายชุดดำะโสั่ง
เชือกสีแดง โยนร่างกู่ไห่เข้าไปกลางสนามประลองทันที
ปัง!
ร่างชายหนุ่มร่วงลงพื้น เขาขดตัวงอด้วยความเ็ป ไม่นาน ความเ็ปภายในจุดตันเถียนก็ค่อยๆ ทุเลาลง
อย่างไรก็ตาม จิตใจของกู่ไห่กำลังจดจ่ออยู่ที่จุดตันเถียนของตัวเอง พลังสีเทาที่กั้นขวางไว้เมื่อครู่ หายไปแล้ว มันค่อยๆ ลอยออกมาจากสะดือของเขา ชายหนุ่มมองเห็นมันได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า
วิ้ง!
พลัน พลังชี่จากจุดตันเถียนของเขา ก็พลุ่งพล่านไปทั่วร่างทันที
“พลังของข้าฟื้นคืนมาแล้ว?” สีหน้าของกู่ไห่เปลี่ยนไปทันที
ชายหนุ่มค่อยๆ ลุกขึ้น พลังชี่ฟื้นคืนแล้ว เขารู้สึกได้ถึงพลังของตัวเอง
“กระแสไฟฟ้าหรือ? สิ่งสำคัญในทำลายผนึกคือกระแสไฟฟ้า? บางที กระแสไฟฟ้าที่ทรงพลัง อาจจะทำลายตราผนึกพลังนี่ได้?” ดวงตาของกู่ไห่เปล่งประกายวาววับ ก่อนสูดหายใจเฮือกใหญ่
ชายหนุ่มหันไปมองปากทางเข้าสนามประลองอย่างใ ในเวลานี้ ทางออกถูกกั้นไว้ด้วยแสงสีฟ้า และมีกลุ่มชายชุดดำยืนอยู่ที่อีกด้านหนึ่งของกำแพงแสงนั่น
กำแพงแสงสีฟ้า?
“การป้องกันของพวกเขาช่างแ่านัก!” กู่ไห่ทอดถอนใจ
แสงสีฟ้านั่นทำให้หน้ากากสำริดะเิได้ ชายหนุ่มรู้เื่นี้ดี ย่อมไม่พาตัวเองไปรนหาที่ตาย
ทันใดนั้น เสียงะโเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากอัฒจันทร์
“การประลองรอบใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว คนแรกที่เข้ามาในสนามในรอบนี้คือ 'หมายเลขหนึ่ง' ทุกท่านมองเห็นหรือไม่? เขาคือนักโทษที่มาจากเกาะแห่งหนึ่งในทะเลพันเกาะ เคยสังหารคนทั้งเมือง โดยไม่มีผู้ใดรอดแม้แต่คนเดียว ช่างโเี้ยิ่ง ส่วนความแข็งแกร่งของเขา... เชิญทุกท่านตัดสินด้วยตาตัวเองขอรับ!”
เสียงพิธีกรดังไปทั่วลานประลอง
“โฮก!”
มีเสียงคำรามดังมาจากปากทางเข้าอีกแห่ง
ครืน!
ประตูเหล็กที่ทางเข้าอีกด้านค่อยๆ เปิดออก
หมูป่าขนาดหนึ่งจั้ง เดินเยื้องย่างมาจากปากทางเข้าฝั่งนั้น มันมีเขี้ยวสีแดงก่ำสองข้าง ทุกย่างก้าวของมัน ทำให้เกิดเสียงดังสนั่น เวลานี้หมูป่ากำลังจ้องมองกู่ไห่เขม็ง ด้วยสองตาแดงก่ำ
“ทุกท่านเห็นหรือไม่ขอรับ? นั่นคือสัตว์อสูรที่กินอาชญากรไปในรอบที่แล้ว อสูรหมูป่าระดับก่อ์ขั้นห้า แม้จะอยู่แค่ขั้นห้า แต่ิัก็หนาและแข็งมาก กระทั่งอาวุธระดับก่อ์ก็ยังไม่อาจเจาะทะลุผิวได้ ถึงมันจะอัปลักษณ์ แต่ก็ทรงพลังยิ่ง!”
เสียงพิธีกรดังขึ้นอีก “หมายเลขหนึ่งจะต่อสู้กับอสูรหมูป่าตัวนี้ จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะตาย ตอนนี้เรามาเริ่มวางเดิมพันกันเถอะ มาดูกันว่าใครจะอยู่ ใครจะไป นักโทษจะรอดได้นานแค่ไหน หมูป่าจะรอดหรือไม่ ยิ่งลงเงินมากเท่าใด ท่านก็จะยิ่งได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเท่านั้น รีบวางเดิมพันเร็วเถอะ!” พิธีกระโเร่ง
“อสูรหมูป่าตัวนี้อีกแล้วหรือ? ฮ่าๆๆ คราที่แล้วข้าวางเดิมพันว่ามันชนะ มันก็ชนะติดต่อกันถึงสี่ครั้ง และกินคู่ต่อสู้ทั้งสี่นั่นไป” ใครบางคนะโออกมา
“ข้าพนันว่าอสูรหมูป่าตัวนี้ชนะ กินนักโทษผู้นั้น... กินมันเสีย!”
“ข้าเดิมพันว่าหมายเลขหนึ่งชนะ ฆ่าอสูรนั่น... ฆ่ามันเสีย!”
“ข้าพนันว่าหมูป่าจะฆ่าอาชญากรผู้นั้นได้ ภายในหนึ่งก้านธูป เร็ว รีบรับวางเดิมพัน!”
เสียงร้องะโดังขึ้นทุกหนแห่ง เห็นได้ชัด ว่ามีเวลาไม่มากในการวางเดิมพัน นักเสี่ยงโชคจึงรีบร้อนลงเงิน มีคนของพรรคต้าเฟิงจำนวนมาก กระจายอยู่โดยรอบ เพื่อรับเดิมพันจากผู้ชม
เสียงเอ็ดตะโรดังขึ้นโดยรอบ
กู่ไห่มีสีหน้าดำคล้ำ รอยยิ้มหยันผุดขึ้นบนริมฝีปาก “ข้าเป็อาชญากรที่เข่นฆ่าคนทั้งเมืองหรือ? ใส่ร้ายป้ายสีชัดๆ!”
กระนั้น เขาก็มิได้โต้แย้งแต่อย่างใด เพียงกวาดตามองนักพนันที่อยู่โดยรอบเท่านั้น
ในผู้ชมเกือบหมื่น แต่มีเพียงสามพันคนเท่านั้น ที่วางเดิมพัน เห็นได้ชัด ว่าหลายคนมาเพื่อดูการต่อสู้ ไม่ใช่หาความมั่งคั่งหรือเสี่ยงโชค
“เอาละ... การวางเดิมพันสิ้นสุดลงแล้ว!” เสียงของพิธีกรดังขึ้น
อย่างไรก็ตาม กู่ไห่ยังคงกวาดตามองไปรอบๆ สังเกตโครงสร้างของลานประลอง เพื่อมองหาช่องทางหลบหนี
“โฮก!”
จู่ๆ อสูรหมูป่าั์ตาแดงก่ำก็พุ่งเข้าใส่ชายหนุ่มทันที
เมื่อหมูป่าทะยานเข้ามา กู่ไห่ก็หรี่ตาลง และพลิกร่างหลบอย่างรวดเร็ว มองเพียงแวบเดียว ก็รู้แล้วว่ามันจู่โจมเขา ด้วยพลังอันน่าพรั่นพรึงเพียงใด
อสูรหมูป่าตัวนี้ร้ายกาจมาก เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มหลบการโจมตีได้ มันก็เหวี่ยงหางไปทางอีกฝ่ายทันที
สัตว์อสูรตัวนี้มีรูปร่างใหญ่โตก็จริง แต่มิได้เทอะทะ มันฟาดหางเข้าใส่กู่ไห่ด้วยความเร็วที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง
ดวงตาชายหนุ่มเบิกกว้างด้วยความตระหนก รู้ดีว่าตนเองคงไม่อาจหลบเลี่ยงการโจมตีนี้ได้ จึงซัดฝ่ามือออกไป
ตูม!
เสียงดังสนั่น พลังจากการปะทะอันรุนแรง ทำให้เกิดลมพายุขึ้น
กู่ไห่ซวนเซเล็กน้อย หมูป่าหันกลับมา และมองคู่ต่อสู้ด้วยสายตาหมายมาด
แต่ตอนนั้นเอง สีหน้าเขาก็พลันเปลี่ยนไป “หัวหน้าสำนักซ่งเจี่ย?”
ชายหนุ่มเห็นชายชุดขาวผู้หนึ่ง นั่งเก้าอี้ที่กว้างที่สุด บนอัฒจันทร์แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างออกไป และกำลังมองมายังสนามด้วยท่าทีตื่นเต้น คล้ายมาเพื่อเล่นการพนันเช่นกัน
คนชุดขาวผู้นี้มิใช่ใครอื่น กลับเป็คนที่กู่ไห่คุ้นเคยดี หัวหน้าสำนักซ่งเจี่ยนั่นเอง
เพราะสวมหน้ากากไว้ อีกทั้งด้วยสถานะของเขาในตอนนี้ หัวหน้าสำนักซ่งเจี่ยจึงไม่อาจเดาได้ ว่าคนในสนามคือกู่ไห่
“เร็ว! รีบฆ่ามัน... ฆ่าอสูรตัวนั้นเสีย!”
“อสูรหมูป่า… ฆ่ามัน! รีบกินมันเสีย”...
ผู้ชมบนอัฒจันทร์ต่างส่งเสียงเอ็ดอึง
เมื่อชายหนุ่มเห็นหัวหน้าสำนักซ่งเจี่ยเข้า สีหน้าพลันเปลี่ยนเป็เคร่งขรึม แล้วหลบการโจมตีของสัตว์อสูรที่เผ่นโผนเข้าหาอีกครั้ง
ปัง!
อสูรหมูป่าเคยผ่านการต่อสู้มาแล้วหลายร้อยครั้ง ดังนั้น ยามที่กู่ไห่เบี่ยงตัวหลบการจู่โจม มันก็พุ่งตามเข้าไปชนอย่างแรง
ตูม!
กู่ไห่ถูกชนจนต้องถอยร่นไป หมูป่าเองก็เซตุปัดตุเป๋เช่นกัน
“โฮกๆๆ!”
หมูป่าส่งเสียงคำราม ราวกับว่ากำลังโมโห หันกลับไปโจมตีอีกฝ่ายรุนแรงขึ้น ขณะที่มันอ้าปากคำราม พลังชี่อันน่าสะพรึงกลัวก็พุ่งปะทุทันที
จู่ๆ พลังชี่ก็ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างสัตว์อสูร จนดูเหมือนขนแหลมๆ นับไม่ถ้วน ดูดุร้ายเหลือเกิน
แต่ชายหนุ่มกลับหลบการโจมตีของมันไปได้อีกครา
เนื่องจาก สังเกตเห็นหัวหน้าสำนักซ่งเจี่ยเข้า กู่ไห่ย่อมไม่กล้าใช้เคล็ดวิชาัแรก์ แต่ใช้เฉพาะพลังชี่ในการต่อสู้ พลางกวาดตามองสำรวจไปรอบๆ อัฒจันทร์
คงจะดีไม่น้อย หากได้เจอคนรู้จักเพิ่มอีก
เวลาผ่านไป ชายหนุ่มยังคงหลบการโจมตีของหมูป่าไปได้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ในสายตาของเหล่าผู้ชม กู่ไห่ก็ได้แต่หลบหลีกอย่างฉิวเฉียด ส่วนเ้าหมูป่าที่เอาแต่พุ่งเข้าปะทะนั้น ใกล้จะชนะเต็มที
“ฮ่าๆๆ! รีบกินมัน... ฆ่าเ้าหมายเลขหนึ่งนั่นเสีย!”
“หมูป่าๆๆ!”
“หมูป่าๆ!”
บนอัฒจันทร์ อื้ออึงไปด้วยเสียงร้องะโของบรรดานักพนัน ไม่ว่าเื่ใดที่เกี่ยวข้องกับหินิญญา แม้แต่ผู้ฝึกตนก็ไม่อาจปล่อยวางได้ ต่างส่งเสียงโห่ร้องด้วยแววตาละโมบ
หลังผ่านไปครึ่งชั่วยาม อสูรหมูป่าก็ยังไม่อาจทำร้ายกู่ไห่ได้ มันจึงหงุดหงิดมาก
“โฮก!”
หมูป่าชะลอความเร็วลง ค่อยๆ ต้อนชายหนุ่มให้ถอยร่นไปทีละนิด
อสูรร้ายฉลาดมาก รู้ว่าพวกนักโทษไม่้าจะััแสงสีฟ้าที่อยู่รอบสนาม มันจึงไล่ต้อนกู่ไห่ไปที่กำแพงแสงสีฟ้า บริเวณปากทางเข้าสนาม
“โฮก!”
กู่ไห่ถูกต้อนจนค่อยๆ ถอยร่นไปทีละก้าว จึงมีสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที
“เ้าสัตว์อสูรตัวนี้นี่ ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วใช่หรือไม่?” เขากล่าวเสียงเย็น
ครานี้ กู่ไห่ไม่คิดจะหลบอีก
เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มอยู่ในระยะการโจมตี หมูป่าก็ทะยานเข้าใส่ด้วยแรงทั้งหมดทันที
“โฮก!”
ฉับพลันนั้น มันก็จู่โจมกู่ไห่ทันที
หนนี้ชายหนุ่มไม่ได้หลบหลีก พริบตาเขี้ยวทั้งสองของหมูป่าก็มาอยู่ตรงหน้า เขาไม่อาจเลี่ยงได้อีกแล้ว
“ฮ่าๆๆ! เสร็จแน่… ฉีกมัน… ฉีกเ้าอาชญากรผู้นั้น!”
“เขาไม่มีทางหนีได้อีกแล้ว!”
“ในระยะเพียงเท่านี้ ไม่มีผู้ใดในระดับก่อ์ ที่สามารถหลบพ้นแน่!”
“ฆ่ามัน!”
“ฆ่ามัน!”
“ฆ่ามัน!”
นักพนันนับไม่ถ้วนต่างร้องะโอย่างคึกคะนอง
ปัง!
กู่ไห่และหมูป่าปะทะกันสนั่น อย่างไรก็ตาม เมื่อได้เห็นภาพการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายชัดๆ ก็ทำให้เสียงของผู้คน ที่กำลังร้องะโอย่างตื่นเต้นยินดี พลันติดอยู่ในลำคอทันที พวกเขาจ้องมองสนามด้วยท่าทีตื่นตระหนกยิ่ง
ทุกคนต่างคาดเดาว่า ชายหนุ่มคงจะถูกชนกระเด็น แต่ไม่ใช่เช่นนั้น
ตรงกันข้าม กู่ไห่กลับจับเขี้ยวทั้งสองข้างของหมูป่าเอาไว้ พลางยกเท้าขวาขึ้น กระทืบพื้นอย่างแรง เพื่อปักหลัก ต้านพลังอสูรหมูป่า
“เขาหยุดอสูรหมูป่าเอาไว้ได้? เป็ไปได้อย่างไร?”
“หมูป่ายังกินคนผู้นั้นไม่ได้? ใช้เขี้ยวของเ้า แทงมันให้ตายเสีย!”
ผู้ชมบนอัฒจันทร์ต่างร้องะโเสียงดัง แต่กลับเห็นชายหนุ่มจ้องหมูป่าเขม็ง
“ย๊าก!” กู่ไห่ตะเบ็งเสียง
“อี๊ดๆๆๆ!”
เ้าหมูป่าร้องอย่างน่าสังเวช ขณะเขายกเขี้ยวของมันขึ้น
“อะไรน่ะ?” ทุกคนร้องอุทานอย่างตกตะลึง
“เดรัจฉาน… หึ!” ชายหนุ่มแค่นหัวเราะ พลางรวบรวมแรงไว้ที่มือ
ตูม!
พลัน หัวของหมูป่าก็ะเิออก เืกระซ่านเซ็นไปทั่ว เขี้ยวหมูป่าทั้งสองข้างถูกจับถ่างออกจากกัน ภายใต้พลังอันน่าครั่นคร้ามของกู่ไห่
ขณะที่เขี้ยวถูกจับแยกออกจากกัน มันก็ฉีกกระชากศีรษะหมูป่าออกเป็ชิ้นๆ ในพริบตา
ปัง!
หมูป่าสูงหนึ่งจั้งล้มลงกับพื้น ศีรษะแหลกเหลว อสูรร้ายที่เมื่อครู่ยังแสดงพลังอหังการ ตอนนี้กลับถูกจับฉีกจนหัวแบะ!
ฉากตรงหน้า ช่างสยดสยองยิ่ง
ผู้ที่พนันว่าอสูรหมูป่าชนะทั้งหมด ต่างจ้องชายหนุ่มอย่างตื่นตะลึง
ตรงกันข้ามกับคนที่เดิมพันว่ากู่ไห่ชนะ ต่างโห่ร้องด้วยความยินดี
“หมายเลขหนึ่ง!”
“หมายเลขหนึ่ง!”
“หมายเลขหนึ่ง!”
ผู้ชมบนอัฒจันทร์ต่างส่งเสียงให้กำลังใจ คนที่ชนะพนันนับไม่ถ้วน ต่างเปล่งเสียงเรียกหมายเลขของกู่ไห่
ราวกับว่าเขาคือวีรบุรุษที่นำชัยชนะมาให้ ทุกคนที่เดิมพันข้างชายหนุ่ม ต่างกู่ก้องไม่หยุด
…….
บนที่นั่งของแขกพิเศษ
“ท่านหัวหน้าสำนักซ่งเจี่ย ขออภัยยิ่ง เื่พลังของนักโทษผู้นี้ทางเราก็ไม่ทราบมาก่อนจริงๆ!” ชายชุดดำกล่าวน้ำเสียงแ่เบา
“ช่างเถอะ! ก็แค่หินิญญาไม่กี่ก้อนเท่านั้น แพ้ก็แพ้!” หัวหน้าสำนักซ่งเจี่ยเอ่ยเสียงเรียบ
“หมายเลขหนึ่ง!”
“หมายเลขหนึ่ง!”
“หมายเลขหนึ่ง!”
เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีของผู้คนนับไม่ถ้วน ดังลั่นไปทั่วลานประลอง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้