ภายในูเาไฟเงียบกริบราวกับป่าช้า
เมื่อหมอกควันสลายหายไป จั๋วอวิ๋นเซียน ถังจิ่ว และเสี่ยวเนี่ยนะโออกมาจากซากปรักหักพัง
“เอ๊ะ! เ้า...สัตว์ประหลาดตัวนั้นตายแล้วหรือ?”
ถังจิ่วมองรอบด้านอย่างตกตะลึง เขาไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น เห็นได้ชัดว่าปีศาจอัคคีทั้งน่ากลัวและดูแข็งแกร่งมาก แต่มันกลับถูกพวกเขาที่เป็เด็กน้อยสามคนสังหารตายแล้ว! มันไร้สาระเกินไปหรือไม่?
เสี่ยวเนี่ยนสงบใจลงเล็กน้อย จากนั้นรีบเอ่ยถาม “พี่อวิ๋นเสี่ยว มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เหมือนท่านจะรู้แต่แรกแล้วว่าจะเป็เช่นนี้? หรือว่าปีศาจอัคคีตนนั้นจะเป็ภาพลวงตา?”
“ปีศาจอัคคีมิใช่ภาพลวงตา แต่เป็ส่วนหนึ่งของบททดสอบ”
จั๋วอวิ๋นเซียนจัดเสื้อผ้าพลางส่ายศีรษะแล้วกล่าวออกมาว่า “ในเมื่อเป็บททดสอบ ก็ต้องมีทางออกแน่...บางครั้งขอแค่เ้ากล้าทุ่มสุดชีวิต เส้นทางที่เหมือนเป็ทางตัน อาจจะเป็ทางรอดก็ได้”
“ทำไมเล่า?”
ถังจิ่วเผยใบหน้ามึนงง ต่อให้เป็บททดสอบ แค่ผู้บำเพ็ญเซียนตัวเล็กๆ อย่างพวกเขาสามคนจะสามารถสะกดเทพปีศาจในตำนานได้หรือ? ตอนนี้หากมีคนกล้ายืนขึ้นมาบอกว่าอวิ๋นเสี่ยวเซียนมิใช่บุตรของมิติมายาสุญญตา ถังจิ่วรับประกันเลยว่าจะตีคนผู้นั้นให้ตาย!
จั๋วอวิ๋นเซียนก้มลงจับลาวาที่แข็งตัวแต่ยังคงร้อนอยู่ “เวลานั้นไร้เยื่อใยที่สุด กาลเวลาต้องล่วงเลยผ่านไป ถึงแม้ผนึกที่นี่กำลังอ่อนแอลง ทว่าเทพปีศาจที่ถูกสะกดเอาไว้ก็อ่อนแอลงเช่นกัน ดังนั้นขอเพียงพวกเขามีความกล้ามากพอ ไม่กลัวที่จะสละชีพ ก็สามารถรอดชีวิตจากสถานการณ์สิ้นหวังนี้ได้”
จั๋วอวิ๋นเซียนเว้นจังหวะพูด เขาลุกขึ้นแหงนหน้ามองท้องฟ้า “ที่จริงแล้วที่นี่ไม่ได้ทดสอบพลัง แต่เป็สติปัญญาและความกล้า รวมถึงการเตรียมใจเพื่อเสียสละ”
“……”
ถังจิ่วยิ้มแห้งอย่างพูดไม่ออก เขาไม่รู้แล้วว่าจะอธิบายความรู้สึกของตัวเองอย่างไร ทำไมกันทั้งที่เป็มนุษย์เหมือนกัน อีกทั้งก็เกิดในชาติตระกูลที่มีภูมิหลังไม่ธรรมดา แต่ทำไมถึงรู้สึกว่าสติปัญญาแตกต่างกันมากเพียงนี้?
“ข้ากำลังคิดว่าอวิ๋นเสี่ยวเซียน เ้าเคยเข้ามาแค่ครั้งเดียว ถึงกับมองเห็นหลายสิ่งมากมายขนาดนี้ เ้า...คงไม่ใช่ปีศาจแปลงกายมากระมัง!”
เมื่อได้ยินคำกล่าวหาของถังจิ่ว เสี่ยวเนี่ยนจึงกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “พี่จิ่ว ท่านพูดจาไร้สาระอีกแล้ว พี่อวิ๋นเสี่ยวจะเป็ปีศาจไปได้อย่างไร!”
บนแผ่นดินเซียนฉยง ภูตผีปีศาจแข็งแกร่งมากจริงๆ พวกมันถูกมองเป็ตัวแทนของสิ่งชั่วร้าย ดังนั้นหากคำพูดของถังจิ่วมีคนอื่นมาได้ยินเข้า อาจจะเข้าใจว่าเป็การดูถูก
“หึหึ แค่ล้อเล่นน่ะ!”
“ล้อเล่นแบบนี้ไม่ขำเลยสักนิด”
“เช่นนั้นพวกเราคุยเื่ตลกกันดีหรือไม่?”
ถังจิ่วเข้าไปใกล้เสี่ยวเนี่ยนอย่างหน้าด้าน แต่นางมองกลับมาด้วยสายตาดูถูก ทั้งสองคนจึงเริ่มโต้เถียงกัน
จั๋วอวิ๋นเซียนไม่ได้สนใจพวกเขาสองคน ในใจกลับครุ่นคิด ทุกอย่างในูเาไฟลูกนี้เป็ภาพมายาจริงหรือ? หรือว่าเคยมีอยู่จริงๆ?
ถ้าเป็เพียงภาพมายาก็คงไม่มีอะไรให้พูดมาก
ทว่าหากเคยมีอยู่จริง เช่นนั้นหมายความว่า ตอนนั้นเคยมีผู้ที่ยอมสละชีพเพื่อผนึกปีศาจอัคคีตนนี้...และนี่น่าจะเป็สาเหตุการมีอยู่ของซากโบราณูเาไฟ
……
ผ่านไปไม่นานมีลำแสงส่องลงมาจากฟ้า ในที่สุดทั้งสามคนก็ผ่านบททดสอบของซากโบราณสถาน
หลังจากซากโบราณสถานฟื้นฟูแล้ว นี่ถือเป็การท้าทายที่สำเร็จครั้งแรกของจั๋วอวิ๋นเซียน เขาเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ จึงรีบมองไปยังถุงเก็บของของตัวเอง ครั้งนี้ถึงกับได้รางวัลหนึ่งพันเหรียญมายากับสมบัติวิเศษหลายชนิดในคราวเดียว
ถ้าเขาจำไม่ผิดละก็เมื่อก่อนตอนที่ผ่านบททดสอบซากโบราณสถาน ได้รางวัลเพียงร้อยเหรียญมายาเท่านั้น อีกทั้งสมบัติวิเศษยิ่งมีน้อยเข้าไปใหญ่
“ถังจิ่ว รางวัลหลังซากโบราณสถานฟื้นฟูแล้ว ทำไมถึงได้เยอะเช่นนี้เล่า?”
เมื่อได้ยินคำถามของจั๋วอวิ๋นเซียน ถังจิ่วเริ่มนับรางวัลพร้อมกล่าวด้วยความยินดี “แน่นอนอยู่แล้ว พวกเราเพิ่งเคยผ่านด่านเป็ครั้งแรก!”
“ผ่านด่านครั้งแรกหรือ? หมายความว่าอย่างไร?”
จั๋วอวิ๋นเซียนรู้สึกว่าตัวเองเหมือนพลาดข้อมูลสำคัญไป
ถังจิ่วมองจั๋วอวิ๋นเซียนอย่างประหลาดใจ “เื่นี้เ้าก็ไม่รู้หรือ? เ้าไม่เห็นข่าวที่หอเหนือฟ้าประกาศหรือ?”
“ข่าวอะไรหรือ?”
่นี้จั๋วอวิ๋นเซียนยุ่งอยู่กับการบำเพ็ญจึงไม่มีเวลาไปสนใจเื่อื่น
เสี่ยวเนี่ยนกล่าวอธิบายว่า “จากข่าวที่หอเหนือฟ้าประกาศออกมา หลังจากซากโบราณสถานฟื้นฟูแล้ว รางวัลทั้งหมดจะถูกเริ่มนับใหม่ อีกทั้งผู้ท้าทายหรือกลุ่มผ่านด่านสำเร็จเป็กลุ่มแรก จะได้รับรางวัลเป็เท่าตัว”
จั๋วอวิ๋นเซียนตกตะลึง “มีเื่ดีเช่นนี้ด้วยหรือ?”
“ใช่แล้ว! มิเช่นนั้นจะมีคนมาล้อมที่นี่มากมายได้อย่างไรเล่า?”
ถังจิ่วยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจพลางกล่าวว่า “เพียงแต่เื่ดีเช่นนี้ก็ไม่ใช่เื่ที่ทุกคนจะทำได้ มิเช่นนั้นพวกพี่หญิงหลิงคงไม่วิ่งไปทั่วเพื่อหาคนมาช่วยหรอก”
จั๋วอวิ๋นเซียนเกิดความคิดดีๆ ขึ้นมาจึงถามออกไป “ถังจิ่ว ซากโบราณสถานอย่างูเาไฟที่หลังจากฟื้นฟูแล้วยังไม่มีใครท้าทายสำเร็จ ยังมีอีกหรือไม่?”
“มีสิ ยังมีอีกไม่น้อยเลย...”
ถังจิ่วยกมือขึ้นนับ “จากที่ข้ารู้มา ตอนนี้ซากโบราณสถานระดับต่ำที่ถูกพิชิตแล้วมีเพียงสามสิบเจ็ดแห่ง ซากโบราณสถานระดับกลางยังไม่มีเลยสักแห่ง”
“ดีมาก พวกเราไปท้าทายกันต่อเถอะ”
จั๋วอวิ๋นเซียนกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที เขารู้สึกค่อนข้างตื่นเต้น เพราะเขาอยากแลกสมบัติที่สามารถรักษาแขนขาดให้กับบิดาได้ จึง้าเหรียญมายาจำนวนมาก และการท้าทายซากโบราณสถานนับว่าเป็วิธีการที่ไม่เลวเลย
“กระตือรือร้นถึงเพียงนี้เชียวหรือ!”
ถังจิ่วมึนงง อวิ๋นเสี่ยวเซียนในความทรงจำของเขาเป็คนที่สงบนิ่งราวกับผิวน้ำ ไม่เคยกระตือรือร้นเช่นนี้มาก่อน
จั๋วอวิ๋นเซียนมองอีกฝ่ายอย่างเฉยชา “แล้วเ้าจะไปหรือไม่?”
“ไปสิ! ไปแน่นอน ข้าต้องสนับสนุนสหายเต็มที่อยู่แล้ว!”
ถังจิ่วตบอกอย่างหน้าไม่อาย แสดงท่าทีองอาจผึ่งผาย
เสี่ยวเนี่ยนอยากจะตามพวกเขาสองคนไปด้วย แต่นางเป็คนหน้าบางจึงไม่กล้าเอ่ยปาก
จั๋วอวิ๋นเซียนเหลือบมองถังจิ่วเล็กน้อย จากนั้นหันไปกล่าวกับเสี่ยวเนี่ยนว่า “เสี่ยวเนี่ยนไปกับพวกเราเถอะ ซากโบราณสถานอื่นๆ หลังจากฟื้นฟูแล้วข้าก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็อย่างไร มีคนมาช่วยเพิ่มก็เป็เื่ดีเหมือนกัน”
“ข้าไม่มีปัญหา...ขอบคุณมาก!”
เสี่ยวเนี่ยนพยักหน้าตอบรับโดยไม่ต้องคิด ในใจเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง นางรู้ว่าตนเองมีพลังต่ำต้อย ไม่สามารถช่วยอะไรได้ จั๋วอวิ๋นเซียนเพียงแค่กังวลว่านางจะอึดอัด ถึงได้จงใจกล่าวเช่นนี้ออกมา
“ขอบคุณสหาย!”
ถังจิ่วตบบ่าจั๋วอวิ๋นเซียนเป็การกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจเป็ครั้งแรก เขาก็เข้าใจดี จั๋วอวิ๋นเซียนคงเห็นแก่หน้าเขาถึงได้พาเสี่ยวเนี่ยนไปด้วย สำหรับจั๋วอวิ๋นเซียนแล้วอาจจะเป็เื่เล็กน้อย แต่บุญคุณครั้งนี้เขา...ถังจิ่วจะจดจำเอาไว้ในใจตลอดไป
จั๋วอวิ๋นเซียนกล่าวด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “ไม่ต้องขอบคุณข้า ข้าเห็นแก่หน้าเสี่ยวเนี่ยนถึงพาเ้าไปด้วย”
“อุ๊บ!”
เสี่ยวเนี่ยนทนไม่ไหวหัวเราะออกมา ถังจิ่วยืนแข็งทื่ออยู่กับที่และยังคงค้างอยู่ในท่าตบไหล่
“ได้ พวกเราออกไปก่อนค่อยว่ากัน”
จั๋วอวิ๋นเซียนกล่าว จากนั้นเดินไปทางออก
……
ด้านนอกซากโบราณสถานูเาไฟ หลังจากปีศาจอัคคีถูกสะกด ลาวาที่น่ากลัวจึงค่อยๆ มอดดับ
เมื่อเห็นภาพเช่นนี้ผู้คนรอบด้านล้วนตกอยู่ในความโกลาหล
“ทุกคนรีบดูเร็ว ูเาไฟดับแล้ว!”
“อะไรนะ? แปลว่ามีคนผ่านด่านแล้วหรือ!”
“เป็ฝีมือใครกันแน่?”
“ตรวจสอบเร็วเข้า!”
……
ในเสียงพูดคุยนั้นมีสายตาของขั้วอำนาจไม่น้อยที่ล้อมตรงทางเข้าซากโบราณสถานเอาไว้
ส่วนคนอื่นๆ กำลังรอคอย พวกเขาอยากเห็นว่าใครกันแน่ที่ท้าทายได้สำเร็จ
