ไม่มีใครเคยบอกเ้าหรือว่านางเป็ดังชีวิตของเปิ่นหวาง?
ประโยคนี้เพียงประโยคเดียวที่ราวกับตีกระทบจิตใจของอวิ๋นซีผู้แอบฟังโดยแรงในใจนางปรากฏร่องรอยสั่นไหวอยู่หลายส่วน นี่นางเป็ดังชีวิตเขา? เป็เช่นนั้นจริงๆ หรือ? เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ขอบตาพลันแดงก่ำขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวจวินเหยียน หากว่าในยามที่ข้ายังเป็เฉียวอวิ๋นซี และบุรุษที่ได้พบเจอเป็ท่าน หรือว่าหากตัวข้าเป็อวิ๋นซีมาแต่แรกเช่นนั้นทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเราจะดีสักแค่ไหนกัน
ดังนั้นตัวนางก็สามารถรักเขาโดยไม่ต้องคิดซับซ้อนอันใดได้แล้วใช่หรือไม่ ทั้งยังสามารถกระทำได้เฉกเช่นสิ่งที่เขาพูดเห็นเขาเป็ดังชีวิตตน?
“หึหึในเมื่อนางสำคัญกับท่านมากเพียงนั้น เช่นนั้นข้าก็ยิ่งไม่ควรปล่อยท่านไป ไม่ควรให้ท่านและนางได้อยู่ร่วมกันอีก”เมื่อพูดจบ อวี่โหรวก็ชักกระบี่ยาวพุ่งไปหาอีกฝ่าย
ชั่วขณะนั้นอวิ๋นซีกำลังมองคนสองคนในห้องที่เริ่มเปิดฉากสู้กันทั้งยังเห็นชายที่ถือกระบี่ยาวอีกหลายคนบุกเข้ามาในห้อง ฉับพลันนั้นสีหน้าอวิ๋นซีก็เปลี่ยนไปน้อยๆไม่ว่าวรยุทธ์ของจวินเหยียนจะร้ายกาจสักแค่ไหน นางไม่อาจทราบได้เพราะยังไม่เคยถูกเขาสั่งสอนอย่างจริงจัง ทว่า สิ่งหนึ่งที่นางมั่นใจในตอนนี้ก็คือจวินเหยียนจักต้องได้รับาเ็ภายในอย่างแน่นอน มิเช่นนั้นการเคลื่อนไหวของเขาคงไม่เชื่องช้าเช่นนี้แน่
เมื่อคิดถึงตรงนี้นางก็ไม่มีเวลามาสนใจอะไรแล้ว รีบปล่อยะุสัญญาณทันที จากนั้นก็บุกเข้าไปในห้องผ่านทางหน้าต่างพร้อมกับปล่อยเข็มเงินในมือให้พุ่งออกไปเข็มเงินนั้นพุ่งไปโดยแรง และปักเข้าที่จุดตายของคนที่กำลังจะโจมตีจวินเหยียนพอดี ในตอนนั้นเมื่อได้เห็นคนพวกนั้นล้มลงบนพื้นอวิ๋นซีก็เบาใจลง เพราะเมื่อครู่ยังกังวลว่า จวินเหยียนจะได้รับาเ็
ขณะเดียวกันเมื่ออวี่โหรวเห็นคนที่จู่ๆก็ปรากฏกายขึ้นมา นางก็สั่งเสียงขรึม “ฆ่านางเสีย” ไม่ว่าสตรีมาใหม่ผู้นี้จะเป็ผู้ใดแต่คนที่ปรากฏตัวมาทำลายเื่ดีๆ ของนางในตอนนี้ก็นับว่าเป็ศัตรูของนางทั้งหมด ดังนั้นสำหรับศัตรูแล้วจะทำเป็จิตใจดี มือไม้อ่อนไม่ได้เด็ดขาด
ตอนนี้เองที่อวิ๋นซีเพิ่งได้เห็นคนตรงหน้าอย่างชัดเจนชั่วขณะนั้นนางถึงกับอึ้งงันไป สตรีนางนี้ช่างคุ้นเคยยิ่ง เพียงแต่ตอนนั้นร่างที่นางเห็นเป็บุรุษผู้หนึ่งถึงแม้อีกฝ่ายจะสามารถปลอมตัวให้คล้ายบุรุษได้เป็อย่างดี แต่ก็ไม่อาจลวงสายตาของนางไปได้ทว่า เมื่อครู่ที่จวินเหยียนกล่าวว่าสตรีนางนี้ทรยศเขา หรือว่า...
เมื่อคิดถึงตรงนี้นางก็อดตัวสั่นไม่ได้ แต่ก็รู้ดีว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะหวั่นเกรงหรือหวนคิดถึงเื่ใดนางถือกระบี่ยาวในมือแล้วบุกเข้าไปหมายจะสังหารคนที่ถูกล้อมไว้อยู่
เป้าหมายของนางคือสตรีที่ปรารถนาในตัวสามีนางคนนั้น
ไม่ว่าตอนนั้นคนที่เจอในจวนรัชทายาทจะเป็สตรีผู้นี้ที่ปลอมตัวเป็ชายหรือไม่แต่ตอนนี้คนก็ไม่ได้มีความจำเป็ให้ต้องมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
เดิมทีเพลงกระบี่ของอวิ๋นซีนั้นไม่ได้จัดว่าดีนักทว่า ่นี้ถูกจวินเหยียนฝึกฝนอย่างโหดร้ายทุกวี่วัน ทำให้ฝีมือในตอนนี้พัฒนาขึ้นมากอย่างไรก็ตาม นางก็เชื่อมั่นว่า อีกไม่นานเกินรอ เว่ยหลงและคนอื่นๆ จะต้องบุกเข้ามาช่วยตนไว้ได้ทันแน่
ทางด้านจวินเหยียนเมื่อได้เห็นการมาถึงของอวิ๋นซี ตอนแรกก็อดไม่ได้ให้ประหลาดใจ จากนั้นมุมปากก็ค่อยๆยกขึ้นเป็รอยยิ้มบาง สตรีของเขามาแล้ว ดียิ่ง
การมาถึงของนางทำให้ในตอนที่เขาคิดจะสังหารคน เรี่ยวแรงที่คล้ายเหือดหายพลันกลับมาเต็มเปี่ยม เขายิ่งออกแรงเต็มที่มากขึ้นยามนี้หากมีจวินเหยียนแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็ต้องรอพวกเว่ยหลงมา
ในตอนนั้นเองเป็จวินเหยียนที่พาดกระบี่ยาวในมือไปบนคอของอวี่โหรวขณะที่นางจดจ้องสตรีที่เส้นผมปลิวสยายเพราะการต่อสู้อย่างเอาเป็เอาตาย เดิมทีคิดว่าเป็บุรุษแต่กลับไม่รู้ว่าที่แท้เป็สตรี
“สามีท่านทำเยี่ยงนี้จะเป็การไม่รักหยกถนอมบุปผามากไปหรือไม่” อวิ๋นซีเดินไปข้างกายเขาพร้อมอมยิ้มขณะสบดวงตางามที่กำลังกรุ่นโกรธของอวี่โหรว
จวินเหยียนพูดด้วยท่าทีสงบนิ่ง“รักหยกถนอมบุปผาของสามี มีให้เ้าเพียงผู้เดียว”
อวิ๋นซีมองเขาไปทีหนึ่งจากนั้นก็พูดว่า “สามี ข้าเกลียดดวงตาคู่นั้นของนางยิ่ง ไม่สู้ ควักมันออกมาเสียเล่าท่านคิดว่าจะดีหรือไม่”
เมื่อจวินเหยียนได้ยินดังนั้นกระบี่ยาวในมือก็ขยับไหว และเพียงชั่วอึดใจเท่านั้นดวงตาคู่นั้นของอวี่โหรวก็ตกลงบนพื้น จากนั้นจึงหันมองภรรยาตน “ฮูหยินพอใจหรือไม่”
“ดียิ่ง”มุมปากของอวิ๋นซีโค้งขึ้น ก่อนที่เข็มเงินในมือนางจะพุ่งไปยังจุดหนึ่งบนร่างของสตรีนางนั้นอย่างรวดเร็วจากนั้นก็เฝ้ามองคนที่เดิมทีควรจะเ็ปแสนสาหัสจากาแลึก แต่ยามนี้กลับไม่แม้แต่จะส่งเสียงร้องเพียงเท่านี้อวิ๋นซีก็พึงพอใจแล้ว เพราะนาง้าให้อีกฝ่ายสูญเสียความสามารถในการรู้สึกทั้งหมดไม่เ็ป ไม่รู้สึกใดๆ เช่นนี้ นางจะได้มีเวลาถามไถ่เื่บางอย่างกับสตรีนางนี้
ทว่าสิ่งที่อวิ๋นซีคิดไม่ถึงก็คือ เมื่อครู่นี้เพิ่งจะสกัดจุดความรู้สึกของอีกฝ่ายไป แต่ท่าทีของคนคนนั้นกลับเริ่มแปรเปลี่ยนร่างกายที่ควรนิ่งเฉยกลับขยับเคลื่อนไหวไม่หยุด ท่าทางแบบนั้นราวกับสตรีที่้าร่วมรักก็ไม่ปาน...
อวิ๋นซีหันมองจวินเหยียนที่ยามนี้ใบหน้าแดงก่ำอย่างไม่เป็ปกติเล็กน้อยนางก้าวเข้าไปใกล้ชายหนุ่ม สูดดมกลิ่น จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป “น่าตายนักนางวางยาท่าน” สตรีนางนี้กระทำการต่ำช้าจริงๆ เพียงเพื่อให้ได้บุรุษมา คนถึงกับใช้วิธีชั้นต่ำวางยาอีกฝ่าย
จวินเหยียนสกัดจุดของอวี่โหรวอย่างรวดเร็วจากนั้นก็มองไปยังพวกเว่ยหลงที่เพิ่งฆ่าฟันเหล่าสมุนโฉดชั่วจากด้านนอกเสร็จสิ้นจนได้เร่งรุดเข้ามาถึงด้านในห้องนี้ไปทีหนึ่งเขาโอบเอวอวิ๋นซีไว้แล้วพูดกับพวกเว่ยหลง “อย่าให้นางชั้นต่ำนี่ตาย พาตัวกลับไปแล้วขังไว้ในคุกของจวนอ๋อง”
เมื่อพูดจบเขาก็อุ้มอวิ๋นซีเหาะเหินเดินอากาศจากไป เพียงไม่นานอวิ๋นซีในอ้อมอกของชายหนุ่มก็ได้ละจากเคหาสน์ที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเืและมาถึงยังที่พำนักส่วนตัวแห่งหนึ่งของจวินเหยียนที่ตั้งอยู่ในตัวอำเภอเขาวางอวิ๋นซีลงบนเตียง จากนั้นก็โน้มกายลงมาจุมพิตริมฝีปากนาง “อาซี ข้า...”
อวิ๋นซีไม่พูดอันใดนางกอดคอเขาไว้แล้วโน้มขึ้นไปรับ นี่คือคำตอบของนาง อันที่จริงเมื่อเช้านี้นางก็ตั้งใจจะมอบกายให้เขาแล้วเพื่อจะได้กลายเป็สามีภรรยาที่แท้จริงกับเขา แต่ติดตรงที่เกิดเื่สังหารล้างหมู่บ้านขึ้นเสียก่อนทำให้เขาต้องจากไปกลางคัน
ยิ่งกว่านั้นในตอนที่ได้ยินเขาพูดกับอวี่โหรวว่า ตัวนางเป็ดังชีวิตเขานั้น ความกังวลใดๆ ในใจของนางที่เคยมีก็ล้วนมลายสิ้น
อีกทั้ง ครานี้จวินเหยียนโดนวางยาทำให้ครั้งแรกของนางหลังจากมาเกิดใหม่เป็อวิ๋นซีราวกับเป็ตัวกระตุ้นชั้นดีของเขาแม้จะพูดออกไปเช่นนี้ก็คงไม่น่าชอบใจนัก แต่นางกลับไม่รู้สึกเสียใจ
ชั่วขณะนั้นอาภรณ์ของคนทั้งสองถูกถอดออกไปจนหมดและในตอนที่เขาและนางได้รวมเป็อันหนึ่งอันเดียวกัน หางตาของอวิ๋นซีกลับมีหยาดน้ำผุดออกมาบางทีนั่นอาจเป็เพราะความเ็ปของครั้งแรก หรืออาจเป็เพราะการได้มีชีวิตอยู่มาถึงสามชาติแต่เพิ่งจะได้เจอชายที่กล้าบอกกล่าวต่อสตรีอื่นว่า ตัวนางเป็ดังชีวิตของเขาจนเป็เหตุให้ถึงกับมิอาจข่มกลั้นหยาดน้ำตาแห่งความยินดีไว้ได้
ไม่รู้ว่าคำพูดนี้ และความจริงใจนี้จะยืนยาวไปได้นานสักแค่ไหน หากเป็ไปได้ นางก็หวังให้เป็เช่นนี้ไปชั่วชีวิต
จวินเหยียนจุมพิตน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาจากหางตาของนางเบาๆก่อนจะพูดเสียงต่ำ “อาซี มีประโยคหนึ่งที่ข้าจะพูดแค่ครั้งเดียว ชาตินี้ ข้า โอวหยางจวินเหยียนยอมผิดต่อคนทั้งแผ่นดินแต่จะไม่มีทางผิดต่อเ้า”
คำพูดกระชากอารมณ์นี้เขาจะพูดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เพราะต่อจากนี้ เขาจะใช้การกระทำเป็ตัวบอกนางเอง อย่างไรเสียเขาก็ไม่ใช่คนที่ชั่วช้าดังเช่นโอวหยางเทียนหัวผู้นั้นที่ไม่อาจนำมาเทียบเคียงกับเขาได้ทั้งยัง้าจะบอกนางว่า คนสุดท้ายนั้นมักจะมาช้าที่สุดเสมอ ดังนั้น ความน้อยเนื้อต่ำใจและความเ็ปใดๆที่นางเคยได้รับ ในอนาคตเขาจะขอใช้ความอ่อนหวานที่มีมาทดแทนอดีตอันเลวร้ายของนางเ่าั้
ผ่านไปนานเท่าไรแล้วไม่อาจทราบได้อวิ๋นซีเองก็ไม่รู้ว่าการกระทำอันรักใคร่ระหว่างพวกเขานี้นับเป็ครั้งที่เท่าไรแล้วเพียงแต่รู้สึกได้ว่ากระดูกในร่างคลับคล้ายแหลกสลาย นางหมอบอยู่บนอกเขาอย่างไร้เรี่ยวแรงพลางปัดมือที่อยู่ไม่สุขของเขาออกด้วยความโกรธนางพูด “จวินเหยียน หากอยากให้เปิ่นเฟยเตะท่านออกไป ท่านก็ลองก่อกวนอีกสิ”
เมื่อจวินเหยียนได้ยินก็หัวเราะเสียงต่ำ“ดูท่าเมื่อครู่เปิ่นหวางจะยังร้ายกาจไม่พอ ตอนนี้หวางเฟยจึงยังมีเรี่ยวแรงให้เตะเปิ่นหวางออกไปเช่นนั้น เปิ่นหวางควรต้องพยายามอีกสักหน่อยกระมัง”
เมื่อพูดจบชายหนุ่มก็พลิกกายกระทำต่ออวิ๋นซีอย่างดุร้ายอีกรอบหนึ่ง สุดท้ายเขาก็ได้ใช้ความจริงพิสูจน์ว่าตัวเขานี้ร้ายกาจมากเสียจนอวิ๋นซีเป็ต้องเหนื่อยล้าจนสลบไป
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้