“หลินเฟิงอยู่ไหน?”
น้ำเสียงที่ดังและชัดเจนนั้น ทว่าััได้ถึงความเยือกเย็น เป็ของหญิงสาวตรงหน้าที่งดงามราวกับูเาน้ำแข็งที่ไม่มีผู้ใดทลายได้
“หืม?”
ผู้าุโตระกูลจื่อหันไปตามเสียงและเห็นเมิ่งฉิง จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “เ้าตามหาหลินเฟิงทำไม?”
“หลินเฟิงอยู่ไหน?”
เมิ่งฉิงถามอีกครั้ง แต่น้ำเสียงยังคงเย็นเยือกและไม่ตอบคำถามของผู้าุโตระกูลจื่อ ในตอนนี้นางอยากรู้แค่ว่า หลินเฟิงอยู่ที่ไหน!
ทหารของกองกำลังดาบนภาโลหิตต่างจ้องมองผู้าุโตระกูลจื่อ ทันใดนั้นผู้าุโตระกูลก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่พุ่งมาทางเขา
“หึ!”
สายตาของผู้าุโกลายเป็เยือกเย็น ไม่นานมานี้หลินเฟิงได้สังหารผู้คนของตระกูลจื่อ และยังฝากตราประทับไว้บนหน้าอกของเขา มันทำให้เขาไม่อาจมองหน้าใครได้ แต่ในตอนนี้กลับมีกลุ่มคนที่หยิ่งผยองมาถามเขาตรงๆ เช่นนี้ แล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ไหนกัน!
“หลินเฟิงถูกข้าสังหารไปแล้ว”
ผู้าุโตระกูลจื่อกล่าวอย่างไม่แยแส ซึ่งคาดไม่ถึงว่าคนรุ่นเยาว์จะกล้ามาอวดดีเช่นนี้กับเขา
“ถูกเ้าสังหารไปแล้ว?”
เมิ่งฉิงใจเต้นระรัวขณะกล่าวเสียงแ่เบา
“ใช่ ถูกข้าสังหารไปแล้ว ฝูงชนที่อยู่ที่นี่ก็ต่างรู้ดี”
ผู้าุโตระกูลจื่อตอบเสียงเย็นอีกครั้ง
เมิ่งฉิงเงียบไป แววตาของนางเยือกเย็นกว่าเดิมหลายเท่าและคลื่นอารมณ์ในดวงตาพลันหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น
ร่างกายของนางสั่นสะท้านไปด้วยความโกรธ ราวกับสิ่งที่เพิ่งได้ยินมานั้นเป็เื่ร้ายแรงที่สุดในชีวิต
เหล่าผู้ติดตามของนางต่างก็เงียบเช่นกัน
ทันใดนั้นได้มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้น เกิดแสงสว่างสาดส่องไปทั่วบริเวณและมีคลื่นพลังปะทุออกมา ในตอนนี้ผู้คนต่างรู้สึกหายไม่ออก
“แข็งแกร่งยิ่งนัก กลุ่มคนพวกนี้อย่างน้อยการบ่มเพาะก็อยู่ระดับขอบเขตแห่งจิติญญาขั้นที่ 3 พวกเขาเป็ใคร แล้วหลินเฟิงเป็ใครกันแน่?”
เมื่อฝูงชนััได้ถึงแรงกดดันที่ทรงพลัง พวกเขาต่างสั่นสะท้านด้วยความกลัว
“ฆ่ามันให้หมด!”
เสียงอันทรงพลังดังไปทั่วอากาศพร้อมกับลมปราณที่พวยพุ่งออกมาเรื่อยๆ เหล่าทหารกองกำลังดาบนภาโลหิตกำลังเริ่มกวาดล้าง เพื่อบรรเทาโทสะของพวกเขา
โลหิตสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ เหล่าทหารม้าโลหิตพุ่งไปทางคนตระกูลจื่อและลงมือสังหารอย่างไร้ซึ่งความลังเล
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นต่อเนื่อง เช่นเดียวกับโลหิตที่สาดกระเซ็นไปทั่ว
ในขณะนั้น เมิ่งฉิงเงยหน้ามองไปยังบนท้องฟ้าที่ห่างไกล ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้นางกำลังคิดอะไรอยู่
บางครั้งแม้แต่ตัวนางเองก็ยังไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
นางรู้แค่ว่า หัวใจของนางในตอนนี้มันเ็ปและทรมานแสนสาหัส!
ชีวิตของนางช่างแสนสั้นก็จริง ประสบการณ์ก็มีน้อยนิด ในความทรงจำของนางก่อนหน้านี้ มีเพียงท่านแม่และหุบเขาเฮยเฟิงเท่านั้น
จนกระทั่งวันหนึ่ง ในวันที่พระจันทร์เต็มดวง หลินเฟิงได้ปรากฏตัวบนหุบเขาและในขณะเดียวกันเขาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นในโลกของนางเช่นกัน
ในตอนนี้ความทรงจำของนางล้วนมีเพียงหลินเฟิง หลินเฟิงที่โกรธเกรี้ยว บ้าระห่ำและป่าเถื่อน แต่ก็ทำให้นางยิ้มได้
หยดน้ำตาเริ่มไหลริน ท่ามกลางหยดน้ำตาที่พร่างพราว ราวกับมีภาพของหลินเฟิงฉายอยู่ในนั้น
นางไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน เมิ่งฉิงร้องไห้ด้วยความเ็ป
เมื่อผู้าุโตระกูลจื่อเห็นทหารม้าโลหิตกำลังเข่นฆ่าผู้คนของตระกูล สีหน้าของเขาพลันเยือกเย็นและลมปราณสีม่วงสายหนึ่งได้ปะทุขึ้น ผู้าุโพุ่งทะยานสู่ท้องฟ้าพร้อมโจมตีกลับไปทุกเมื่อ
อย่างไรก็ตามขณะที่เขาคิดจะลงมือ ทันใดนั้นได้มีลมปราณอันหนาวเหน็บมาปกคลุมร่างของเขาเอาไว้
มันช่างเย็นะเื หนาวเหน็บไปถึงขั่วกระดูก!
ไม่เพียงแต่ผู้าุโตระกูลจื่อเท่านั้น ในตอนนี้ผู้คนต่างรู้สึกหนาวเหน็บ ราวกับมีใครสักคนกำลังแช่แข็งโลกทั้งใบ
ราวกับชั้นอากาศถูกน้ำแข็งแช่แข็งไว้!
“ช่างหนาวเย็นอะไรเช่นนี้!”
หัวใจของผู้คนต่างสั่นสะท้าน แล้วพวกเขาต่างมองหญิงสาวที่สวมเสื้อผ้าสีขาวราวกับหิมะ เมิ่งฉิงในตอนนี้ราวกับูเาน้ำแข็ง เธอ้าแช่แข็งทุกอย่างรวมถึงหัวใจของตัวเองด้วย
“ตาย…”
เมิ่งฉิงกล่าวเสียงต่ำออกมาคำเดียว
เกิดพายุขึ้นในอากาศรอบตัวเมิ่งฉิง พร้อมกับเสื้อผ้าสีขาวที่โหมกระพือไปตามแรงลม
ขณะนั้นผ้าคลุมหน้าของนางได้หลุดออกมา ใบหน้าที่งดงามของนางจึงถูกเปิดเผย
ราวกับว่าเวลาได้หยุดลง
ช่างงดงาม… งดงามจนน่าสะพรึงกลัว งดงามจนกระทั่งผู้คนไม่กล้าสบตา
นี่มันไม่ใช่ความงดงามในระดับธรรมดา แต่หญิงสาวตรงหน้านับว่างามล่มเมืองอย่างแท้จริง
ในคราแรกผู้คนต่างคิดว่าใบหน้าของต้วนซินเยี่ยนั้นสวยงามที่สุดในปฐี ทว่าตอนนี้กลับมีหญิงสาวในชุดขาวราวกับเทพธิดามาปรากฏตัวต่อหน้า เธอช่างคล้ายกับเทพธิดาแห่งน้ำแข็ง จนผู้คนรอบข้างต่างคิดว่าตัวเองไร้ค่า
เหล่าเทพเ้าได้สรรสร้างใบหน้าที่สวยหยาดเยิ้มและน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ ช่างเป็อันตรายต่อสิ่งมีชีวิตนัก
เมื่อจื่อหลิงและจื่ออีมองเมิ่งฉิงแล้ว พวกนางก็รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็คนต่ำต้อยไปทันใด โดยเฉพาะจื่ออี นางรู้สึกด้อยค่าจนไม่อาจเงยหน้ามองใครได้อีกต่อไป
“นางมาตามหาหลินเฟิงอย่างนี้ แล้วนางเป็อะไรกับหลินเฟิง?”
จื่อหลิงพึมพำกับตัวเอง ต้วนซินเยี่ยนั้นสวยงามมากจริงๆ แล้วยังรักหลินเฟิงด้วย แต่ในตอนนี้กลับมีหญิงสาวที่งดงามอีกคนมาตามหาหลินเฟิงเช่นกัน
เมิ่งฉิงลงจากหลังม้าและะโขึ้นไปในอากาศ ซึ่งดูเหมือนกับเดินเพียงก้าวเดียวก็มาถึงเบื้องหน้าผู้าุโตระกูลจื่อแล้ว
ผู้าุโตระกูลจื่อยังคงตกตะลึงกับใบหน้าที่สวยงามของเมิ่งฉิง แต่สิ่งที่น่าตกตะลึงมากว่านั่นก็คือความแข็งแกร่งของเมิ่งฉิง ในตอนนี้เขารู้สึกว่าร่างกายของตัวเองกำลังถูกแช่แข็งและมันหนาวเหน็บไปถึงจิติญญา
เขาไม่นึกว่า... ตอนนี้จะต้องมาเสียใจที่บอกว่าเขาได้สังหารหลินเฟิงไปแล้ว
ทันใดนั้นพลังเจินหยวนสีม่วงได้ะเิออกมา ในขณะเดียวกันผู้าุโตระกูลจื่อก็ส่งเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดและโจมตีเมิ่งฉิงทันที
“หัวใจน้ำแข็ง!”
เมิ่งฉิงกล่าวเสียงเบาขณะชี้นิ้วไปที่อากาศ ขณะนั้นผู้าุโตระกูลจื่อต้องสั่นสะท้าน จนกระทั่งมีเืกระอักออกจากปากของเขา
เพียงการโจมตีครั้งเดียวก็ทำให้เขาาเ็ได้แล้ว
เมื่อผู้คนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาต่างตื่นตระหนกและยืนแข็งทื่ออยู่กับที่ เมิ่งฉิงไม่เพียงแต่มีใบหน้าที่สวยงามเท่านั้น แต่ความแข็งแกร่งเองก็น่าประทับใจด้วยเช่นกัน บางทีพลังของนางอาจน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าหลินเฟิงเสียอีก
เมิ่งฉิงได้ปลดปล่อยเจตจำนงแห่งน้ำแข็งอันน่าหวาดกลัวออกมา ซึ่งเจตจำนงแห่งน้ำแข็งนี้ราวกับมันอยู่ในตัวของนางอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และมันก็เย็นะเือย่างมาก
เจินหยวนสีม่วงของผู้าุโตระกูลจื่อถูกแช่แข็ง แม้กระทั่งแสงสีม่วงรอบตัวเขาเองก็ถูกแช่แข็งด้วย ลามไปถึงร่างของผู้าุโตระกูลจื่อ ที่ั้แ่หัวจรดเท้าของเขาล้วนถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งหนาแน่น
จากนั้นฝ่ามือเรียวงามของเมิ่งฉิงก็ตบหน้าของผู้าุโตระกูลจื่อ
“เพียะ!”
มีเสียงหนึ่งดังขึ้น จากนั้นร่างของผู้าุโตระกูลจื่อก็ไปกระแทกกับกำแพงของตำหนัก จนกระทั่งน้ำแข็งที่ปกคลุมร่างแตกออก พร้อมกับกระอักเืออกมาเป็จำนวนมาก
ใบหน้าของผู้าุโตระกูลจื่อดูหมองคล้ำ เขาไม่คาดคิดว่าจะพ่ายแพ้ให้กับหญิงสาวอย่างง่ายดายถึงเพียงนี้
ผู้าุโตระกูลจื่อเหลือบมองฝูงชนด้านล่าง เหล่าทหารม้าโลหิตยังคงไล่ฆ่าคนจากตระกูลจื่ออย่างต่อเนื่อง เหมือนเป็การฆ่าล้างอยู่ฝ่ายเดียว
“ตระกูลจื่อจบสิ้นแล้ว”
ในใจของผู้าุโตระกูลจื่อรู้สึกสิ้นหวัง เป็เพราะเขาพูดออกไปด้วยอารมณ์คับแค้นใจแท้ๆ ตระกูลจื่อถึงได้พังพินาศเช่นนี้
แม้แต่ตัวเขาก็ยังโดนทารุณอย่างเหี้ยมโหดและป่าเถื่อน
“ตูม!”
เกิดเสียงกำปั้นน้ำแข็งปะทะร่างของเขา รอบตัวของเมิ่งฉิงขณะนี้เต็มไปด้วยเจตจำนงน้ำแข็งแห่งการทำลายล้าง ตราบใดที่มันปะทะกับร่างของเขา เขาจะต้องรู้สึกหนาวะเืจนถูกแช่แข็งไปเสียทุกครั้ง
เป็อีกครั้งที่ร่างของเขากระแทกกับกำแพงตำหนัก ซึ่งวงจรนี้เมื่อมองไปแล้วก็ช่างน่าสิ้นหวังเหลือเกิน
“ไม่… หลินเฟิงยังไม่ตาย เขาแค่เข้าไปในเขตต้องห้ามเท่านั้น!”
ผู้าุโตระกูลจื่อะโอย่างเร่งรีบ เมื่อเมิ่งฉิงได้ยินดังนั้น ร่างของนางก็ชะงักค้างไปทันใด ในขณะที่นางค่อยๆ เหลือบมองฝูงชนก็กล่าวด้วยเสียงเ็าว่า “พูดอีกครั้งสิ”
คำพูดนี้เป็ดั่งคำประกาศิต ราวกับว่าหากคำพูดของผู้าุโไม่เป็ความจริงล่ะก็ นางจะสังหารทุกคนในที่นี้
“เขายังไม่ตาย หลินเฟิงแค่เข้าไปในเขตต้องห้าม”
ผู้คนต่างพยักหน้ายืนยันในคำพูดของผู้าุโประจำตระกูลอย่างหนักแน่น ทำให้เมิ่งฉิงที่รู้สึกเ็ปมาสักพัก เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ก็ทำให้นางรู้สึกดีขึ้นและถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ปล่อยข้าไปได้หรือยัง?” ผู้าุโตระกูลจื่อเริ่มร้องขอความเมตตาจากเมิ่งฉิง เพราะเขากำลังหวาดหลัว… เขาหวาดกลัวนางเป็อย่างมาก
“มันสายไปแล้ว”
เมิ่งฉิงส่ายหน้า ทันใดนั้นเจตจำนงที่หนาวเหน็บได้ปกคลุมร่างของผู้าุโตระกูลจื่อ และจู่ๆ ร่างของนางก็อันตรธานไปพร้อมกับกำปั้นที่เข้าปะทะร่างของเขา กำปั้นของนางมีอำนาจของน้ำแข็งที่สามารถแช่แข็งมีชีวิตได้
ร่างของผู้าุโตระกูลจื่อถูกแช่แข็งในทันที เปลือกตาของเขาค่อยๆ ปิดลง แล้วร่างที่ไร้ิญญาก็ร่วงลงกระแทกพื้น
ผู้าุโตระกูลจื่อ ผู้เป็ถึงยอดฝีมือระดับขอบเขตลี้ลับ ตายแล้ว!
ในขณะเดียวกัน การต่อสู้เบื้องล่างก็สิ้นสุดลง ตระกูลจื่อได้ถูกทำลายแล้ว!
ผู้คนต่างตกอยู่ในความเงียบงัน ตระกูลจื่อที่มีชื่อเสียงและอิทธิพลอย่างมากในภูมิภาคนี้ ได้ถูกทำลายลงไปเพราะคนคนเดียวนั่นก็คือ หลินเฟิง!