เมื่อได้ยินราคา “3 ล้าน” นี้จวงเมิ่งเตี๋ยจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักๆเธอไม่สามารถเสนอราคาที่สูงกว่านี้ได้อีกแล้ว ดังนั้น เธอจึงเคลื่อนสายตาหันไปมองจวงตงเฟิงคุณปู่ของเธอที่นั่งอยู่ข้างๆขอแค่คุณปู่ยื่นมือออกมาช่วย หยกคู่นี้ย่อมตกอยู่ในมือของเธออย่างแน่นอนแต่ทว่าคุณปู่ของเธอสอนเธอมาตลอดให้เธอคิดเองตัดสินใจเองและครั้งนี้คุณปู่ก็อาจจะไม่ยอมช่วยเธอเช่นเคย
และเป็ไปตามที่เธอคาดการณ์ เมื่อจวงตงเฟิงเห็นสายตาที่จวงเมิ่งเตี๋ยมองมาเขาก็ยิ้มน้อยๆ แล้วพูดขึ้น “นั่งชมเงียบๆ ก็พอ ไม่แน่หรอกนะหยกคู่นี้อาจจะตกเป็ของหลานก็ได้”
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดคุณปู่ของเธอถึงได้มั่นใจว่าหยกหงส์ัคู่นี้จะตกเป็ของเธอแต่ทว่าตอนนี้เธอทำได้เพียงนั่งชมอย่างว่าง่าย เพราะเธอทำอย่างอื่นที่นอกเหนือไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
จวงเมิ่งเตี๋ยมองหยกคู่นี้อย่างอาลัยอาวรณ์อีกครั้งเมื่อถอนสายตากลับมาแล้วเธอจึงถลึงตาใส่หลินเยว่และหลี่เฉียนโจวสายตาของเธอมีแต่ความโกรธแค้น
ตอนนี้ สายตาของผู้ชมต่างจับจ้องมาที่ตัวจวงเมิ่งเตี๋ยเพียงคนเดียวหากเป็ไปตามลำดับก่อนหน้านี้ มันก็ถึงเวลาที่เธอต้องเสนอราคาแล้วพวกเขาต่างรอให้เธอเสนอราคาออกมา ดวงตาที่มองมาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
ครั้งนี้จะเสนอราคาเท่าไร?
3.5 ล้าน?
ปกติหญิงสาวคนนี้จะชอบเพิ่มราคาครั้งละ 5 แสนหยวน
แต่ทว่าพวกเขาก็ต้องรู้สึกผิดหวังอย่างรวดเร็วเนื่องจากพวกเขาเห็นว่าจวงเมิ่งเตี๋ยเอาแต่นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้สีหน้าราวกับกำลังรับชมละครของคนอื่นอยู่ความเ็าที่ปรากฏบนใบหน้าของเธอเมื่อสักครู่ก็เหลือแต่เพียงความนิ่งเฉย
เมื่อผู้คนภายในงานเห็นท่าทางเช่นนี้จึงอึ้งไปทันทีหรือว่าเธอไม่คิดจะเสนอราคาแล้ว?
บรรยากาศภายในงานเงียบไป 30 วินาที เป็ความเงียบที่เหมือนกับการต่อยมวยที่ผู้ตัดสินจะนับ1 - 10 เพื่อเปิดโอกาสให้นักมวยลุกขึ้นมาชกต่อเวลานี้ ผู้คนภายในงานต่างให้เวลาจวงเมิ่งเตี๋ย 30 วินาทีอย่างพร้อมเพรียงกัน
เมื่อเวลา 30 วินาทีผ่านไปผู้คนที่รอชมละครฉากใหญ่ต่างต้องรู้สึกผิดหวังจวงเมิ่งเตี๋ยไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใดๆ เธอยังคงไม่ได้ยกมือเสนอราคาสีหน้านิ่งเฉยเช่นเดิม
ผู้คนภายในงานต่างถอนหายใจ ในขณะเดียวกันสายตาของพวกเขาต่างมุ่งตรงไปยังตัวของหลินเยว่?
เด็กหนุ่มที่แสดงสีหน้าสงบนิ่งั้แ่แรกคงจะไม่ได้หยุดเสนอราคาหรอกนะ?
จากเดิมที่เป็การต่อสู้ระหว่างหงส์และัตอนนี้จึงกลายเป็การแย่งชิงระหว่างัและพยัคฆ์แทน แต่ทว่าหรือว่าการแย่งชิงระหว่างัและพยัคฆ์ยังไม่ทันเริ่มขึ้นก็จะต้องกลายเป็การสิ้นสุดแล้วอย่างงั้นหรือ?
ดังนั้นสายตาของทุกคนที่มองหลินเยว่จึงเต็มไปด้วยความคาดหวัง เพราะการต่อสู้ครั้งนี้พวกเขายังชมไม่สะใจเลยแล้วจะสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?
หลินเยว่ไม่เคยทำให้คนอื่นผิดหวังและครั้งนี้ก็เช่นกัน ท่ามกลางสายตาของผู้คน หลินเยว่ยกมือขวาขึ้นมาอีกครั้งเขาพูดพร้อมรอยยิ้ม “3.2 ล้าน!”
เมื่อเห็นการกระทำของหลินเยว่และได้ยินเสียงของเขาแล้ว ผู้คนรอบๆ ต่างถอนหายใจอย่างโล่งอกในขณะเดียวกันพวกเขาก็ปรบมือให้กับหลินเยว่อย่างกึกก้อง
เสียงปรบมือนี้แฝงไปด้วยความนับถือถึงความใจกล้าของหลินเยว่
สายตาของทุกคนที่มองหลินเยว่ไม่ได้มีแต่ความสบประมาทหรือว่าเป็สายตาที่้าชมละครฉากนี้อีกต่อไปแต่สายตาของพวกเขาแสดงการยอมรับในตัวของหลินเยว่
เป็การยอมรับในศักยภาพของเขาในขณะเดียวกันก็เป็การชื่นชมความสงบนิ่งที่เขาแสดงออกในภาวะที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือดเช่นนี้
เป็เด็กหนุ่มที่มีอนาคตจริงๆ
ยามมองหลินเยว่ในสมองของทุกคนต่างเกิดความคิดเช่นนี้ขึ้นมา และมีเพียงประโยคนี้ประโยคเดียวที่สามารถบรรยายตัวหลินเยว่ได้เป็อย่างดี
ยังไม่ทันรอให้ผู้ดำเนินการประมูลประกาศราคาของหลินเยว่หลี่เฉียนโจวก็รีบลุกขึ้นยืนอย่างร้อนใจพร้อมทั้งะโเสียงดัง “3.5 ล้าน!”
เมื่อสักครู่เขาเห็นสายตาของทุกคนที่มองหลินเยว่ด้วยความชื่นชมซึ่งเื่นี้เป็สิ่งที่เขายอมรับไม่ได้เลย
สายตาชื่นชมของทุกคนจะต้องรวมอยู่บนตัวเขาเท่านั้นคนบ้านนอกอย่างหลินเยว่ต้องได้รับแต่สายตาดูถูกและคำพูดประชดประชันเท่านั้น!
หลังจากหลี่เฉียนโจวะโออกไปแล้วเขาจึงมองหลินเยว่อย่างอวดดี หลังจากนั้นจึงใช้สายตาดูถูกกวาดตามองรอบๆ งานราวกับว่าเขา้าบอกทุกคนว่ารีบใช้สายตาชื่นชมมองมาที่ตัวเขาสิ
แต่ทว่าสิ่งที่เขาได้รับไม่ใช่สายตาชื่นชมแต่เป็สายตาดูถูกจากทุกคนอย่างพร้อมเพรียงกัน
ไร้มารยาท!
ทุกคนต่างแอบตำหนิอยู่ในใจ
เป็เด็กหนุ่มเหมือนๆ กันทำไมเด็กหนุ่มคนนี้กับเด็กหนุ่มที่เสนอราคาเมื่อสักครู่ถึงได้มีความแตกต่างกันขนาดนี้ล่ะ?
ราวกับว่าคนหนึ่งเป็คนที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาเป็อย่างดีแต่อีกคนกลับเป็คนที่ไม่มีใครเคยสั่งเคยสอน!
“คุณหลี่เฉียนโจวได้เสนอราคาอันน่าตื่นตะลึงอีกครั้งเขาเสนอราคาที่ 3.5 ล้านหยวน!นี่เป็การทำลายสถิติการประมูลหยกแขวนประจำตัวในระดับเดียวกันอย่างแท้จริงขอให้ทุกท่านปรบมือให้กับความใจกล้าและความร่ำรวยของคุณหลี่เฉียนโจวครับ”
ผู้ดำเนินการประมูลก็ยังคงหน้าด้านหน้าทนที่จะชมหลี่เฉียนโจวออกนอกหน้าต่อไปอีกทั้งเขายังเป็ผู้นำในการเริ่มต้นปรบมืออีกด้วย
แต่ผลปรากฏว่า ภายในงานกลับมีเสียงปรบมือเปาะๆแปะๆ ดังขึ้นเท่านั้นมีคนจำนวนมากทำท่าเหมือนกับไม่ได้ยินเสียงของผู้ดำเนินการประมูลเลยทีเดียวพวกเขาทำเพียงนั่งนิ่งอยู่ที่ตำแหน่งของตนเอง
ตอนแรกหลี่เฉียนโจวเห็นสายตาที่มีแต่ความดูถูกมองมาที่เขาเขาก็โมโหจี๊ดหัวร้อนขึ้นมาทันที แต่เขาก็ต้องกดไฟโกรธภายในตัวลงไปแล้วทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้แต่เมื่อได้ยินคำพูดของผู้ดำเนินการประมูลแล้ว เขาจึงรีบลุกขึ้นยืนอีกครั้งและเปลี่ยนเป็ใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้มเพื่อเตรียมรับกับเสียงปรบมือของทุกๆ คนเขาเตรียมยกมือเพื่อแสดงการขอบคุณ แต่ทว่าเขากลับพบว่ามีเพียงไม่กี่คนที่ปรบมือให้กับเขาและคนไม่กี่คนนั้นก็ปรบมือส่งๆ พอเป็พิธีเท่านั้นเองทำให้ใบหน้ายิ้มของเขาเคร่งเครียดขึ้นทันใด หลังจากนั้นจึงกลายเป็ความเกรี้ยวกราดมือทั้งสองข้างต้องลดลงอย่างไม่เป็ธรรมชาติ เขาสบถในลำคอ หลังจากนั้นจึงกระแทกตัวลงนั่งอย่างรุนแรง
เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของหลี่เฉียนโจวแล้วผู้คนภายในงานต่างใช้สายตาที่แสดงความรังเกียจยิ่งกว่าเดิมมองไปทางเขา
ผู้ดำเนินการประมูลก็รู้สึกอึดอัดจากการไม่ให้ความร่วมมือของบรรดาผู้คนที่เข้ามาร่วมงานแต่ทว่าเขาก็พูดข้ามเื่นี้ไปทันที “คุณหลี่เฉียนโจวเสนอราคา 3.5 ล้านหยวนไม่ทราบว่ามีใครให้ราคาสูงกว่านี้ไหมครับ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้ดำเนินการประมูลสายตาของทุกคนจึงมองมายังตัวหลินเยว่เป็จุดเดียว ทุกสายตาล้วนเต็มไปด้วยความคาดหวัง
คุณอย่ายอมให้ไอ้เด็กไม่มีมารยาทคนนั้นได้หยกคู่นั้นไปนะ!
หากหยกคู่นั้นตกอยู่ในมือของเขามันต้องถูกแปดเปื้อนด้วยสิ่งสกปรกอย่างแน่นอน!
ทุกคนภายในงานต่างคิดกันอย่างเงียบๆพวกเขาคาดหวังว่าจะเห็นหลินเยว่ยกมือและเสนอราคาขึ้นอีกครั้ง
หลินเยว่ยังคงไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังเหมือนเช่นเคยมือของเขาค่อยๆ ยกขึ้นมา แต่ทว่า ณ จังหวะนี้เองท่านเฮ่อฉางเหอที่นั่งนิ่งมาตลอดกลับคว้ามือขวาของหลินเยว่ไว้
หลินเยว่อึ้งไปชั่วครู่เขามองอาจารย์ของตนด้วยสายตาข้องใจหรือว่าอาจารย์ไม่้าให้เขาเสนอราคาต่ออีกแล้วอย่างนั้นหรือ?
ทุกคนภายในงานต่างตกตะลึงไปตามๆ กัน ทำไมคนคนหนึ่งจะเสนอราคาแต่กลับถูกอีกคนห้ามไว้ล่ะ?
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของคนจำนวนมากท่านเฮ่อฉางเหอกลับค่อยๆ ยกมือขวาขึ้นมา เขายิ้มพร้อมพูดขึ้น “5 ล้าน”
ตึง......
ภายในงานเกิดเป็ความเดือนพล่าน
เท่า......เท่าไรนะ???
5 ล้าน???
สายตาของทุกคนมองไปยังท่านเฮ่อฉางเหอด้วยความตกตะลึงเมื่อเห็นว่าไม่ใช่การล้อเล่น พวกเขาจึงต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ กันโดยอัตโนมัติ
หยกหงส์ัคู่หนึ่งที่มีมูลค่าอย่างมากแค่ 9แสนหยวนกลับถูกปั่นราคาไปจนถึง 5ล้านหยวนมันเป็ราคาสูงเสียดฟ้าอย่างแท้จริง หรือว่าเขาไม่รู้ว่าจะเอาเงินไปโยนทิ้งไว้ที่ไหนดี?หรือว่ามันมีอะไรแอบแฝงอยู่?
ผู้คนทั้งหลายต่างไม่รู้อะไรเลยแต่ทว่าพวกเขาต่างเกิดประโยคหนึ่งขึ้นในใจ :
ขิงยิ่งแก่ก็ยิ่งเผ็ดจริงๆ!
เขาเสนอราคาเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านหยวนภายในครั้งเดียว ความใจกล้าเช่นนี้ แล้วเด็กหนุ่มจะไปสู้ได้อย่างไร!
ผู้ดำเนินการประมูลได้แต่มองท่านเฮ่อฉางเหออย่างตกตะลึงใบหน้านิ่งค้าง เขาไม่สามารถควบคุมสติของตนเองได้เลย
หลินเยว่มองอาจารย์ของตนด้วยสายตาที่คาดไม่ถึงวันนี้อาจารย์ของเขาเป็อะไรกันแน่? เมื่อสักครู่ยังมีทีท่าใจเย็นอยู่เลยแล้วทำไมจู่ๆ ถึงได้ะเิออกมาแบบนี้ล่ะ
ท่านเฮ่อฉางเหอมองสีหน้าหลินเยว่ที่มีแต่ความคาดไม่ถึงท่านจึงได้แต่หัวเราะ “ฮ่าๆ” แล้วพูดขึ้น “ในเมื่ออยากได้ ก็ต้องยอมลงทุนมากหน่อยจะได้ไม่ต้องสร้างความหวังให้กับคนอื่น มีบางคนหากคุณไม่ยอมเสนอราคาที่สูงมากพอพวกเขาก็ไม่มีทางใเผ่นหนีไป หากคุณเอาแต่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละนิดพวกเขาก็จะทำตัวเหมือนกับ ‘กอเอี๊ยะหนังสุนัข’ ที่เอาแต่ติดตามคุณตลอดไปจำไว้นะ เวลาต่อกรกับคนแบบนี้ คุณต้องกล้าลงมืออย่างเด็ดขาด!”
ถึงแม้ว่าหลินเยว่จะไม่รู้ว่าคำพูดของอาจารย์มีความหมายที่แท้จริงอย่างไรกันแน่แต่ทว่าหลินเยว่ก็ยังคงพยักหน้ารับฟังอย่างหนักแน่น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้