ปั้ก!
อิ๋งเฟิงกลายเป็หินไปเสียแล้ว ดูเหมือนท่านอ๋องจะถูกชักนำให้เสียคนโดยจิ้งจอกแล้วสิ!
“ท่านอ๋อง แล้วจิ้งจอกน้อยตัวนั้น...” อิ๋งเฟิงพลันเคร่งเครียดขึ้นมา หากพาจิ้งจอกน้อยกลับมาไม่ได้จริงๆ เกรงว่าเขาจะไม่มีผลไม้ดีๆ ให้กิน[1]เป็แน่
สายตาของฮั่วเยี่ยนไหวดูมืดมนทันที เขากวาดตาไปทั่วป่าคราหนึ่ง ป่ามีขนาดใหญ่ปานนี้ หากเ้าตัวเล็กยืนกรานที่จะซ่อนตัว ผู้ใดก็หาไม่พบ
เป็เ้าตัวเล็กที่ไร้มโนธรรมอย่างที่คาด
ทางด้านไป๋เซี่ยเหอ เมื่อหลบหนีจากอิ๋งเฟิงมาได้ ก็เดินอยู่ในป่าอย่างไร้จุดหมายเป็เวลานานก่อนจะตัดสินใจหาทางออก นางจำเป็ต้องออกจากป่าแห่งนี้โดยเร็ว
วิชาตัวเบาในสมัยโบราณนั้นช่างมีประโยชน์นัก หากไม่ใช่เพราะอิ๋งเฟิงไม่กล้าแข็งข้อกับนาง วันนี้นางคงไม่สามารถหลบหนีออกมาได้ด้วยซ้ำ ทว่าไม่ได้หมายความว่านางจะไม่ถูกพบตัวเช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้น นางได้ยินว่าอิ๋งเฟิงเป็หัวหน้าองครักษ์เงา ทว่าองครักษ์เงามีทั้งหมดกี่คนนั้นนางก็ไม่ทราบ หากมีอีกหลายคนที่สามารถใช้วิชาตัวเบาได้ เกรงว่าวันนี้นางคงจะหนีไม่พ้นแล้ว
‘จ๊อก’
ท้องเริ่มส่งเสียงร้อง ไป๋เซี่ยเหอตามฮั่วเยี่ยนไหวออกจากจวนมาั้แ่เช้าตรู่ เมื่อมาถึงเหลาอาหารได้กินโจ๊กคำเล็กเพียงไม่กี่คำก็ถูกขัดจังหวะ ทั้งยังต้องใช้พลังไปกับการหลบหนีและซ่อนตัวตลอดเวลา ทำให้ตอนนี้นางหิวเสียแล้ว
ร่างของลูกจิ้งจอกช่างอ่อนแอเสียจริง!
“หงิง!”
มีผลไม้ด้วย
จิ้งจอกน้อยใช้สี่ขาปีนต้นไม้ บนต้นมีผิงกั่ว[2]ลูกเล็กสีแดงสวยงาม ดูน่าอร่อยอย่างยิ่ง นางมองเห็นลูกหนึ่งที่บริเวณเนื้อมีร่องรอยถูกนกจิกกิน ดูแล้วผลนี้คงไม่มีพิษกระมัง
นางเด็ดผิงกั่วลูกนั้นแล้วเอาเข้าปาก ปรากฏว่ามันไม่ได้มีรสชาติหอมหวานอย่างในจินตนาการ ทว่ากลับฝาดและเฝื่อนจนทำให้ลิ้นชา
น้ำผลไม้สีแดงหยดลงบนอุ้งเท้าดอกเหมยสีขาวขนปุกปุย นางยื่นอุ้งเท้าน้อยออกมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวก่อนจะตกอยู่ในภวังค์
ยามที่นางเป็ทหารรับจ้างในอดีตชาติ แม้ว่านางจะเคยกินแมลงหรือเนื้อดิบด้วยใบหน้าไร้อารมณ์มาก่อน ทว่ากลับไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดในเวลานี้นางถึงรู้สึกปวดใจเล็กน้อย
ความเคยชินช่างเป็สิ่งที่น่ากลัวจริงๆ
บางทีอาจเป็เพราะไป๋เซี่ยเหอได้ยินอยู่บ่อยๆ ว่าฮั่วเยี่ยนไหวเป็คนเ็าและไร้ความปรานี ทว่าไม่รู้ั้แ่เมื่อใดที่นางเกิดความคิดว่าฮั่วเยี่ยนไหวปฏิบัติกับนางต่างออกไป
ทำให้นางแทบจะลืมไปว่า สำหรับฮั่วเยี่ยนไหวแล้ว นางเป็เพียงสัตว์น้อยตัวหนึ่งที่เมื่อเบื่อหน่ายแล้วจะทำอย่างไรกับนางก็ได้ทั้งนั้น!
“อยู่ตรงนี้นี่เอง!” จู่ๆ น้ำเสียงอันไพเราะของคุณหนูใหญ่ก็ดังขึ้นจากใต้ต้นไม้
จิ้งจอกน้อยก้มหน้ามองพลางขมวดคิ้วมุ่น
ฉินจิ่นยวนเชิดหน้าขึ้นสูง ใบหน้าของนางดูหยิ่งยโสและเอาแต่ใจ ทุกการกระทำนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าถูกเลี้ยงดูมาดั่งแก้วตาดวงใจของตระกูลใหญ่
ดูสิ นี่ต่างหากที่เป็ท่าทีหยิ่งยโสที่เ้าของร่างควรจะมี เมื่อไป๋เซี่ยเหอนึกถึงท่าทีอ่อนแอของคุณหนูใหญ่ตระกูลไป๋นางก็อดโมโหไม่ได้ ทนแบกรับชื่อเสียงฉาวโฉ่มาเนิ่นนานปานนั้นอย่างเสียเปล่าจริงๆ
“กรร!”
จิ้งจอกน้อยเหลือบมองฉินจิ่นยวนด้วยความเหยียดหยาม จากนั้นก็ทำในสิ่งที่ออกจะสิ้นเปลืองแรงไปบ้าง นั่นคือ โยนแกนผลไม้ในอุ้งเท้าลงไปด้านล่างจนมันกระแทกเข้ากับดั้งจมูกของฉินจิ่นยวนอย่างจัง
ทั้งยังทิ้งคราบสีแดงเอาไว้บนใบหน้า จนทำให้อีกฝ่ายดูเหมือนตัวตลกอย่างไรอย่างนั้น
แม้ว่าฉินจิ่นยวนจะมองไม่เห็นคราบสีแดงบนใบหน้าของตนเอง ทว่าการถูกจิ้งจอกตัวหนึ่งโยนแกนผลไม้ใส่นั้น ช่างเป็การเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของผู้ที่เป็แก้วตาดวงใจแห่งตระกูลฉินจริงๆ!
นางโมโหจนต้องกระทืบเท้าอยู่ใต้ต้นไม้ ก่อนจะสั่งองครักษ์ที่ยืนอยู่เื้ั “รีบขึ้นไปจับมันมาให้ข้าเสีย”
สาวใช้ที่อยู่ด้านหลังมุ่นคิ้ว พลางดึงแขนเสื้อของฉินจิ่นยวนเอาไว้ “คุณหนู ทำเช่นนี้ไม่ดีกระมังเ้าคะ”
ถึงอย่างไรก็เป็สัตว์เลี้ยงของเซ่อเจิ้งอ๋อง มีใครในเมืองหลวงที่ไม่รู้อุปนิสัยของเขาบ้าง? หากต่อต้านเขา จะยังมีผลไม้ดีๆ ให้กินอีกหรือ?
ฉินจิ่นยวนโมโหเสียจนดวงตาแดงก่ำ นางไม่เชื่อหรอกว่าพี่เยี่ยนไหวจะสังหารนางเพื่อเดรัจฉานตัวหนึ่งจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่ไม่มีใคร ขอเพียงนางไม่พูด ใครเล่าจะล่วงรู้?
เมื่อนึกถึงตอนที่พี่เยี่ยนไหวดุนางต่อหน้าสาธารณชน ทำให้นางเสียหน้าเพื่อของเล่นพรรค์นี้ นางก็เกลียดชังเดรัจฉานน้อยตัวนี้แทบตายแล้ว
“ไม่ดีอย่างไร? ข้าแค่้าตัวมันเท่านั้น!” ตราบใดที่มันตกอยู่ในกำมือของนาง ก็แค่เดรัจฉานน้อยตัวหนึ่งเท่านั้น นางมีวิธีการนับร้อยนับพันที่จะทำให้มันอยู่มิสู้ตาย!
“รีบไปจับมันเร็วเข้า!” เมื่อฉินจิ่นยวนเห็นว่าองครักษ์ที่อยู่ข้างหลังเอาแต่ยืนนิ่งไม่ไหวติง นางก็บันดาลโทสะ ก่อนจะยื่นมือไปตบหน้าเขาทันที
องครักษ์ผู้นั้นโมโหจนหน้าแดงก่ำ ทว่าไม่กล้าตอบโต้อะไร ทำได้เพียงก้มหน้าแล้วเอ่ยว่า “คุณหนู ข้าน้อยเป็คนที่นายท่านส่งมาคุ้มครองคุณหนู ไม่ได้มีหน้าที่จับสัตว์ขอรับ”
“บังอาจ!” สาวใช้เื้ัฉินจิ่นยวนตวาดเสียงดังทันที
ในจวนตระกูลฉิน นางเป็หน้าเป็ตาของคุณหนู ใครกล้าไม่ยอมจำนนต่อนางบ้าง?
สาวใช้ชี้หน้าองครักษ์อย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย ก่อนจะก่นด่า “คำพูดของคุณหนูเ้ายังกล้าไม่เชื่อฟัง อย่าลืมเสียเล่าว่าผู้ที่นายท่านรักและเอ็นดูที่สุดก็คือคุณหนู หากเ้ากล้าทำให้คุณหนูขุ่นเคืองละก็ กลับไปนายท่านต้องลงโทษเ้าเป็แน่”
องครักษ์ที่ถูกสาวใช้ชี้หน้าด่าก็หน้าแดงก่ำทันที เขากัดฟันแน่น ดวงตาฉายแววเกลียดชัง เขาขว้างดาบทิ้งอย่างยอมจำนน ก่อนจะเริ่มปีนต้นไม้
แม้ว่าจะมีวรยุทธ์ ทว่าความเร็วในการปีนของเขาไม่รวดเร็วนัก จิ้งจอกน้อยก้มศีรษะ จดจำใบหน้าขององครักษ์ผู้นั้นไว้ในใจ
ฉินจิ่นยวนเอ๋ยฉินจิ่นยวน เป็เ้าที่รนหาที่เองนะ อย่าได้โทษที่ข้าไม่เกรงใจเชียว
เมื่อองครักษ์ปีนขึ้นมาใกล้จะถึงกิ่งไม้ที่จิ้งจอกน้อยยืนอยู่ จิ้งจอกน้อยก็ะโลงจากต้นไม้ไปด้วยความปราดเปรียว จนร่างกายกระแทกเข้ากับศีรษะของสาวใช้
สาวใช้ตกตะลึง ร่างของนางเซถอยหลังเพราะเสียการทรงตัว ส่วนเท้าของนางก็เหยียบลงบนรองเท้าของฉินจิ่นยวน ก่อนที่ทั้งสองคนจะล้มไปพร้อมกัน
“โอ๊ย!”
สาวใช้ทับอยู่บนร่างของฉินจิ่นยวน แทบจะทำให้กระดูกกระเดี้ยวของนางป่นปี้ไปเสียแล้ว
ฉินจิ่นยวนถีบสาวใช้อย่างโเี้ หลังจากสาวใช้กลิ้งไปหลายตลบ หน้าผากก็กระแทกเข้ากับหินจนสลบไปทันที
ฉินจิ่นยวนยืนขึ้นและเดินเข้ามาใกล้จิ้งจอกน้อยด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ ก่อนเอ่ยเสียงแหลม “เดรัจฉานสมควรตาย วันนี้ข้าจะต้องเอาตัวเ้ากลับไปให้จงได้ แล้วข้าจะถลกหนังเ้า เฉือนเ้าเป็ชิ้นๆ ก่อนจะโยนให้สุนัขกิน!”
นางกระโจนเข้าไปตะครุบร่างของจิ้งจอกน้อย ในที่สุดมันก็ตกอยู่ในกำมือของนาง
ฉินจิ่นยวนเลิกคิ้ว ใบหน้าเล็กแสยะยิ้มจนบิดเบี้ยว ไม่หลงเหลือความงดงามแม้แต่น้อย ทว่าแล้วอย่างไรเล่า? ตอนนี้พี่เยี่ยนไหวไม่อยู่ นางย่อมไม่สนใจ มีเพียงพี่เยี่ยนไหวเท่านั้นที่ทำให้นางอดทนได้เสมอ
ทว่าเดรัจฉานที่อยู่ตรงหน้านี้ทำให้ความอดทนของนางถึงขีดสุด
มันเหยียบย่ำเกียรติยศของนาง และความรักที่นางมีต่อพี่เยี่ยนไหว!
หากไม่ใช่เพราะเดรัจฉานน้อยตัวนี้ พี่เยี่ยนไหวจะทำใจดุนางได้อย่างไร? แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่เคยยอมให้สตรีเข้าใกล้ มีเพียงนางเท่านั้นที่สามารถพูดคุยกับเขาได้มากกว่าสองประโยค นี่ไม่ใช่เพราะพี่เยี่ยนไหวมีใจให้นางหรอกหรือ!
“จิ้งจอกน้อยเอ๋ยจิ้งจอกน้อย เ้าทำอะไรไม่ทำ ดันมาแย่งพี่เยี่ยนไหวกับข้าเสียนี่”
มือของฉินจิ่นยวนกำรอบลำคอของจิ้งจอกน้อยเอาไว้ ก่อนจะแกว่งร่างของมันไปมาในอากาศอย่างรุนแรง “ตอนนี้เ้าตกอยู่ในกำมือของข้าแล้ว ยังคิดว่าเ้าจะมีชีวิตรอดได้อีกหรือ? คอยดูเถิด ข้าจะลงโทษเ้า!”
อย่างไรก็ตาม ยามที่สบตากับจิ้งจอกน้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินจิ่นยวนก็แข็งทื่อทันที ก่อนที่หัวใจจะเต้นรัว
ดวงตาของจิ้งจอกน้อยไม่มีความกริ่งเกรงแม้แต่นิดเดียว กลับกลายเป็...บรรลุเป้าหมายแทน
จิ้งจอกน้อยเอนตัวไปด้านหลังและอ้าปากกว้าง แสร้งทำเป็จะกัดนิ้วมือของฉินจิ่นยวน ถึงอย่างไรเด็กสาวก็คือเด็กสาว สัญชาตญาณแรกของนางย่อมเป็ปล่อยมือ
นี่คือสิ่งที่จิ้งจอกน้อยกำลังเฝ้ารอ
ใน่ที่ฉินจิ่นยวนปล่อยมือ จิ้งจอกน้อยก็ถีบร่างของนางอย่างแรงเพื่อยืมแรง ก่อนจะกระโจนขึ้นไปเหนือศีรษะของฉินจิ่นยวน
ตอนแรกไป๋เซี่ยเหอใช้เท้าหลังถีบไปที่อกของฉินจิ่นยวนด้วยความโเี้ เมื่อกระโจนขึ้นมาก็ยื่นอุ้งเท้าออกไปข่วนหน้าอีกฝ่ายอย่างรุนแรงจนเป็รอยเืสามสาย!
กรงเล็บของลูกจิ้งจอกทั้งสั้นและทื่อ แม้ว่าจะสร้างาแได้ไม่มากนัก ทว่าาแเช่นนี้จะไม่มีทางหายไปภายในสิบวันหรือครึ่งเดือนแน่
“กรร!”
ดูว่าใครจะลงโทษใครกันแน่?
เมื่อได้รับความคับข้องใจแล้วไม่ระบายโทสะ นางก็ไม่ใช่จิ้งจอกน้อยแล้ว!
เพียงแต่นางเสียดายต้นไม้ดีๆ ต้นนี้ กว่านางจะเจออาหารก็นับว่ายากลำบากมาก กินได้ไม่กี่ลูกก็หมดเสียแล้ว ช่างน่าหงุดหงิดจริงๆ
------------------------
[1] ไม่มีผลไม้ดีๆ ให้กิน เป็คำเปรียบเปรย หมายถึง ไม่มีผลลัพธ์ดีๆ
[2] ผิงกั่ว หมายถึง แอปเปิ้ล
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้