หัวใจของผมสั่น เผลอก้าวถอยหลังไปครึ่งก้าวอย่างไม่รู้ตัว ยืนผ่อนคลายอยู่ชั่วครู่ ทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่าตอนนี้กู้จิ่นเฉิงเข้ามายืนอยู่ข้างกายผมแล้ว ผมจะทำอะไรที่ขัดกับการกระทำของอวี๋เคอไม่ได้โดยเด็ดขาด จึงพยายามชะลอการเต้นของหัวใจให้ช้าลง ผมต้องใช้ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ในแต่ละวันเพื่อต่อสู้กับโรคหัวใจบังคับให้ตัวเองสงบลง
ผมจะลนลานไม่ได้
ในใจที่เคยบอกว่าจะช่วยเขาก่อนหน้านี้เกิดสั่นคลอนไปชั่วขณะ ประเมินดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว ความเคียดแค้นที่ซ่งฉียวนมีต่อผมนั้นถึงระดับที่ไม่มีทางที่จะลดลงได้อย่างแน่นอน บางทีที่เขายังมีชีวิตอยู่มาได้ถึงสามเดือนโดยที่ถูกอวี๋เคอทรมานเช่นนี้ หนึ่งเหตุผลที่สำคัญมากก็คือความคิดของเขาที่อยากจะฆ่าผม
เขามีชีวิตอยู่ได้ในทุกๆ นาทีก็เพราะ้าที่จะฆ่าผม
ชาติที่แล้วประสบกับอะไรมาผมก็ยังจดจำภาพเ่าั้ได้อย่างชัดเจน แขนขาทั้งหมดและบริเวณทรวงอกคล้ายกับว่ายังคงหลงเหลือความเ็ปที่เกิดจากการฉีกขาดอยู่ การตายของอาจิ่ว ความอัปยศที่ได้รับต่อหน้าทุกคน ความเ็ปจนถึงกระดูกจากการแช่ในบ่อเกลือ ความทรงจำที่อยากจะลืมเมื่อสักครู่นี้กลับย้อนคืนมาในชั่วพริบตาราวกับกระแสน้ำ
จังหวะการเต้นของหัวใจค่อยๆ กลับมาเป็ปกติ สายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของกู้จิ่นเฉิงที่อยู่ข้างกายก็เลือนหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทว่าตอนนี้มีเพียงแค่ผมคนเดียวเท่านั้นที่รู้ ว่าความคิดในสมองของผมมันวุ่นวายมากแค่ไหน
การบำเพ็ญเพียรในปัจจุบันของร่างกายนี้ใกล้จะถึงขั้นมหายานระดับกลางแล้ว พลังปราณสมบูรณ์ กระทั่งสามารถเคลื่อนย้ายพลังแห่ง์และโลกได้เกือบทั้งหมด จนถึงขั้นแค่เพียงโบกมือก็มีพลังที่จะสามารถทำลายดินแดนทั้งหมดได้ พูดง่ายๆ ก็คือ ตอนนี้ผมสามารถปลิดชีวิตของซ่งฉียวนได้เพียงแค่ขยับนิ้ว
“ปังปังปัง...” ซ่งฉียวนใช้ร่างกายกระแทกเข้ากับกรงเหล็กอย่างเต็มกำลัง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยาแยังคงส่งเสียงร้องะโมาทางผม
...ฆ่าเขาเสีย
เวลานี้ผมมีพลังมากพอที่จะฆ่าซ่งฉียวนได้ เพียงแค่ผมฆ่าเขา ก็จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัยไร้เื่ที่ต้องกังวลในโลกนิยายนี้ ได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดตลอดไป ยาม้าอำนาจย่อมมีอำนาจ ยาม้าเงินทองย่อมมีเงินทอง ยาม้าสตรีย่อมมีสตรี หากโลกใบนี้ไม่มีซ่งฉียวนแล้ว เช่นนั้นอวี๋เคอในฐานะตัวร้ายที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดก็จะไม่มีใครสามารถปราบปรามเขาได้แล้ว
ผมสามารถทำได้... ทำทุกอย่างได้ตามที่้า
“นายท่าน้าฆ่าพวกกากเดนของตระกูลซ่งหรือไม่ขอรับ? ถ้าหาก้า ผู้น้อยเต็มใจที่จะจัดการแทนขอรับ”
กู้จิ่นเฉิงที่ถอยลงไปยืนอยู่ด้านหลังของผมเรียบร้อยแล้วเอ่ยขึ้นมาทันที ขัดความคิดของผม น้ำเสียงของเขาราบเรียบ ฟังแล้วไม่รู้สึกถึงอารมณ์ใดๆ
“เขามีชีวิตอยู่มานานมากพอแล้ว” มือของกู้จิ่นเฉิงแกว่งเล็กน้อยกลางอากาศ แล้วชี้ไปยังตำแหน่งที่ซ่งฉียวนอยู่ จากนั้นบรรยากาศเกิดความปั่นป่วนขึ้นมาเล็กน้อย
“ข้าสั่งให้เ้าลงมือแล้วอย่างนั้นหรือ?! ” ผมได้สติในทันที เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดเพื่อหยุดการกระทำโดยพลการของกู้จิ่นเฉิง ภายในใจรู้สึกหนาวเหน็บ มองไปที่ซ่งฉียวนอีกครั้ง เห็นเพียงแค่เด็กนี่ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่งเสียงร้องะโด้วยความโมโห
“ลงมือสิ อวี๋เคอ ทำไมไม่ฆ่าข้า?? หากว่าเ้าปล่อยให้ข้ามีชีวิตรอด ข้าจะไม่มีวันปล่อยเ้าไปแน่นอน! ”
เขาสั่นไปทั้งตัว ได้ยินเสียงกัดฟันดังกรอด แตกต่างจากใบหน้าที่กระตุกจนมีน้ำตาไหลออกมา
แม้ภายนอกจะดูเข้มแข็ง ทว่าภายในจิตใจกลับอ่อนแอ
คำเหล่านี้แวบขึ้นมาในหัวของผม ความคิดที่จะฆ่าซ่งฉียวนก็เลือนหายไปในทันที
อวี๋เคอ เ้าช่างขี้ขลาดจริงๆ เ้าเห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว ซ่งฉียวนเป็พระเอกที่ผมสร้างขึ้น เป็ตัวละครที่ผมเขียนขึ้นมา สิ่งที่ผมกำหนดและชีวิตของเขาก็เป็ผมที่ใช้สมองของตัวเองค่อยๆ จินตนาการออกมาทีละนิด และใช้มือค่อยๆ พิมพ์ออกมาทีละตัวอักษร
เมื่อสักครู่ผมถึงกับอยากจะฆ่าเขา... นี่แตกต่างจากการฆ่าลูกชายของตัวเองอย่างไร?
“เป็ผู้น้อยที่บุ่มบ่ามแล้ว ไม่ควรจะทำอะไรโดยพลการ ผู้น้อยยินดีรับโทษ” กู้จิ่นเฉิงคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น มือขวาวางบนเข่า ก้มศีรษะลง ทั่วทั้งตัวถูกปกคลุมด้วยเงามืด แสงไฟสีน้ำเงินที่อยู่บนแท่นกลมสะท้อนลงบนอาภรณ์สีดำของเขาทำให้ดูมืดมนมากยิ่งขึ้น
ผมหรี่ตาลง รู้สึกว่ากู้จิ่นเฉิงดูแปลกไปเล็กน้อย เขาทำให้ผมมองไม่ออก แต่เมื่อลองคิดทบทวนอย่างละเอียดแล้วกลับไม่พบว่าเขามีอะไรที่ผิดปกติ บางทีอาจเป็เพราะผมเองที่คิดมากเกินไปก็ได้
“ลงโทษอะไรกัน? ไปเถอะ กลับตำหนักบรรทม” ผมหมุนตัวกลับ รีบเดินออกนอกถ้ำไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเดินออกมาห่างจากซ่งฉียวนที่อยู่ด้านหลังมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงะโและเสียงสะอึกสะอื้นของเขาก็เบาลงเรื่อยๆ จนกระทั่งค่อยๆ หายไป
ทิวทัศน์ในยามราตรีด้านนอกถ้ำนั้นมืดพอดี อากาศเย็นสักเล็กน้อย กู้จิ่นเฉิงเดินตามมาอยู่ด้านหลังของผมโดยเว้นระยะห่างสองก้าว แม้เนิ่นนานแล้วแต่ก็ไม่มีคำพูดใดๆ
“ไว้ชีวิตซ่งฉียวนชั่วคราว ข้าย่อมมีวิธีจัดการ”
“ผู้น้อยเข้าใจแล้วขอรับ”
ผมแหงนมองทิวทัศน์ในยามราตรีที่ไร้ขอบเขตและแสงจากดวงดาวที่มีอยู่เล็กน้อย ผมรู้สึกได้แค่เพียงความว่างเปล่า
ซ่งฉียวน แม้จะเกิดใหม่ในชาตินี้ ข้าก็ยังคงเลือกที่จะช่วยเ้า