พี่ชายแสดงสีหน้าเป็กังวล ตลอดชีวิตร่ำเรียนเขียนอ่านใช้ชีวิตตามวิถีเต๋า มักได้รับการสั่งสอนให้เคารพกตัญญูต่อผู้าุโในบ้าน จึงไม่เคยมีความคิดต่อต้าน การกระทำของน้องสาวและนิสัยที่เปลี่ยนไปของนางทำให้เขารู้สึกไม่คุ้นชิน
“ท่านไม่ต้องเป็กังวลไป พวกเขาทำอะไรเราไม่ได้หรอก แย่สุดก็แค่ไปจากที่นี่ นั่นคือสิ่งที่ข้า้าอยู่แล้ว”
หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าไร้กังวล ไม่มีท่าทีหวาดกลัวต่ออนาคตเลยสักนิด
เมื่อเซี่ยชิงเป่ากลับมาจากบ้านท่านหมอหลิวนางได้เล่าเื่ที่จางซุนโหรวกระทำ หลังจากฆ่าไก่ทั้งเล้ากินเรียบร้อยโดยที่คนบ้านเซี่ยทำได้เพียงยืนมองตาปริบๆ
ตกดึกเซี่ยชิงหลีลอบออกจากกระท่อมไปยังเรือนหลัก
ตะเกียงน้ำมันทุกดวงภายในเรือนมอดดับไปแล้ว หญิงสาวย่องไปยังห้องนอนของจางซุนโหรวอย่างเงียบเชียบ ก่อนเปิดประตูเข้าไปด้านในนางสะดุดใครคนหนึ่งเข้า
“นี่!...เป็เ้าเองหรือ ตามข้ามาทำไม”
หญิงสาวกระซิบเสียงเบาเพราะเกรงว่าคนในเรือนจะตื่นขึ้นมาพบพวกเขา
“ภรรยาจะไปไหน สามีตามไปด้วย”
เซี่ยชิงหลีมองร่างสูงอย่างวิเคราะห์ นางเป็สายลับอยู่หลายปี ค่อนข้างมั่นใจในฝีมือของตน คืนนี้ลอบออกมาอย่างเงียบๆ ไม่คิดว่าคนคนนี้จะตื่นขึ้นมาได้ ทั้งยังตามติดตนโดยที่นางไม่รู้ตัวเลยสักนิด เขาคงไม่ได้แกล้งบ้าหรอกใช่หรือไม่
หญิงสาวอยากจะลองทดสอบดูแต่ไม่ใช่เวลานี้
“อาเหิงรออยู่ตรงนี้ อย่าตามข้ามาเข้าใจหรือไม่”
“อาเหิงรู้แล้ว ทำตามภรรยาสั่ง”
หญิงสาวเปิดประตูห้องของจางซุนโหรวเบาๆ นางใช้ผ้าอุดปากของสะใภ้ใหญ่จากนั้นดึงผ้าห่มคลุมหัวของนางก่อนจะทุบตีจนพอใจ จากนั้นจึงกลับกระท่อมของตนนอนหลับอย่างสบายใจ
เช้าวันต่อมา
“กรี๊ด!! ใบหน้าของข้า”
จางซุนโหรวที่พึ่งได้สติ พยายามลุกจากเตียงด้วยความยากลำบาก หลังจากเห็นตนเองในกระจกถึงกับกรีดร้องออกมาเสียงหลง
ใบหน้าของนางบัดนี้บวมปูดราวกับหัวหมู เพราะเซี่ยชิงหลีตั้งใจตีที่ใบหน้าของนางแค่ที่เดียว
“เกิดอะไรขึ้น เฮ้ย!พี่สะใภ้ใบหน้าของท่าน”
เซี่ยจื่อยวนเมื่อได้ยินกรี๊ดเสียงของสะใภ้ใหญ่จึงรีบเปิดประตูออกมาดู เมื่อเห็นใบหน้าน่าเกลียดของนางเขาก็รีบเบือนหน้าหนีทันที
“น้องรอง!เ้าต้องจัดการบุตรสาวตัวดีของเ้าให้ข้าเดี๋ยวนี้!! ไม่อย่างนั้นข้าไม่ยอม”
“ใจเย็นๆ ก่อนพี่สะใภ้ ท่านค่อยๆ พูดได้หรือไม่ เกิดอะไรขึ้นกับท่านกันแน่”
เซี่ยจื่อยวนฟังไม่เข้าใจเพราะเสียงแหลมที่เอาแต่โวยวายของนาง
“พูดอะไรล่ะ! เ้าดูหน้าข้าสิ! ในหมู่บ้านสือซานจะมีใครกล้าตีข้าถ้าไม่ใช่นางเด็กใบ้สารเลวนั่น”
“เอ่อ...ท่านจะให้ข้าทำอย่างไร”
เมื่อเอ่ยถึงบุตรสาวผู้นั้นที่ใช้แส้เฆี่ยนมารดาของตนจนหมดสติ ภาพยังคงติดตาจนถึงตอนนี้ ทำให้เขาแทบนอนไม่หลับ
“เ้าต้องจับนางมาคุกเข่าให้ข้าตีนางคืน ต้องพานางมาเดี๋ยวนี้!!เดี๋ยวนี้!!”
สะใภ้ใหญ่กรีดร้องพลางเขย่าตัวน้องสามีด้วยความโมโห
“พี่สะใภ้ เื่นั้นท่านก็รู้ว่าเป็ไปไม่ได้”
หากตัวเขาต้องออกหน้าให้นางแล้วเจ็บตัว เช่นนั้นคงได้ไม่คุ้มเสีย เซี่ยจื่อยวนทำท่าจะอธิบาย ทว่าหญิงตรงหน้าก็ดูเหมือนจะไม่ยอมฟัง
“แล้วเ้าจะให้ข้าแบกรับความอยุติธรรมนี้หรือ ข้าทำไม่ได้”
“แต่เื่นี้กับเื่นั้น...พี่สะใภ้ท่านก็รู้ว่าข้าสู้นางไม่ได้ วันก่อนท่านเห็นกับตาว่านางทุบตีท่านแม่อย่างไร ขนาดย่าแท้ๆ นางยังตีจนเป็เช่นนั้น แล้วข้าที่เป็เพียงบิดาของนางท่านคิดว่าเ้าเด็กใบ้นั่นจะยอมไว้หน้าหรือ ข้าไม่อยากเจ็บตัวนะ! เอาอย่างนี้เถอะ ท่านไปตามพี่ชายของท่านมาจัดการเด็กคนนั้นแทนเราดีหรือไม่”
เมื่อถูกสตรีตรงหน้าบีบบังคับเซี่ยจื่อยวนจำต้องคิดหาทางออกให้ตน เช่นนั้นก็ยกเผือกร้อนก้อนนี้ให้พี่ชายของนางไป ให้คนอื่นเจ็บดีกว่าตนเองต้องเจ็บตัว อย่างไรผู้ที่ถูกตีก็ไม่ใช่ตนเอง
“ก็ดีเหมือนกัน บอกไว้ก่อนถ้าพี่ชายของข้าลงมือหนักไป เ้ารอง..เ้าอย่าได้เข้ามาแทรกเชียว”
“จะไม่มีใครกล้าแทรกแซงแน่นอน ข้ารับประกัน”
แม่เฒ่าหวังพยุงกายอันเ็ปของตนเดินออกมาจากห้องนอน สองวันที่ต้องนอนซมเพราะพิษแส้ ความเ็ปที่ได้รับนี้นางกลืนไม่ลงจริงๆ
หลังจากปรึกษากันเรียบร้อยแล้ว จางซุนโหรวก็รีบโพกผ้าปกปิดใบหน้ากลับบ้านเดิมทันที เพียงไม่นานนางก็กลับมาพร้อมชายฉกรรจ์ร่างใหญ่สองคน ใบหน้าที่ดูอัปลักษณ์น่าเกลียดของคนเ่าั้ใครเห็นเป็ต้องผวา
เซี่ยชิงหลีเวลานี้กำลังเปลี่ยนยาและผ้าพันแผลให้มารดา ทุกอย่างที่ได้รับจากท่านหมอหลิวความเอื้อเฟื้อนี้นางจดจำเอาไว้แล้ว วันหน้าจะต้องตอบแทนแน่นอน
หลังจากจัดการไก่ในเล้าไปจนหมดบ้านรองก็ไม่จำเป็ต้องทนหิวอีกต่อไป แม้ยังเช้าอยู่เซี่ยจื่ออี้ก็ไม่ลืมตื่นมาอ่านตำรา ถึงจะขาพิการแต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยถอดใจ หวังวันหน้าจะสามารถรักษาขาและมีโอกาสเข้าสอบข้าราชการเป็ขุนนางทำคุณเพื่อแผ่นดิน
เซี่ยชิงหลีทำอาหารขึ้นโต๊ะเรียบร้อยแล้ว นางตักโจ๊กป้อนให้มารดา จากนั้นจะได้ทานยาที่หมอหลิวจัดเอาไว้ให้ ส่วนเด็กน้อยต่างวัยทั้งสองกำลังล้างหน้าอยู่ด้านข้างกระท่อม
ความสงบเงียบได้จากไปพลันเสียงอึกทึกก็เข้ามาแทนที่
ถังไม้ใบใหญ่ถูกขว้างตรงไปยังเซี่ยชิงเป่าที่ยืนรออาเหิงล้างหน้า ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากเด็กน้อยไม่มีทางหลบได้ทันแน่ นางหลับตาเพื่อรอรับแรงกระแทก ก่อนตายหวังเพียงว่าถังไม้ใบนั้นจะไม่ทำให้ตนเองเ็ปมากนัก
เซี่ยชิงเป่าอายุแปดขวบเตรียมใจที่จะจากโลกนี้ จากมารดา พี่ชาย พี่สาวแล้ว ทว่ารออยู่นานก็ไม่รู้สึกว่าตนเองเ็ปตรงที่ใด เมื่อลืมตาขึ้นพบว่าอาเหิงใช้ร่างกายที่โตกว่าของตนขวางถังไม้ใบนั้นทำให้เด็กน้อยไม่ได้รับาเ็ ทว่าเป็ชายหนุ่มที่กระอักเืออกมา
“พี่อาเหิง!!”
เืสดๆ ของอาเหิงถูกพ่นลงบนหัวของเซี่ยชิงเป่า เมื่อเห็นเืมากมายขนาดนั้นภาพมารดาที่หายใจรวยรินก็ผุดขึ้นในหัว เด็กน้อยที่เคยเข้มแข็งมาโดยตลอด ชอบวางตัวเป็ผู้ใหญ่ทั้งที่อายุเพียงแปดปี บัดนี้ร้องไห้จ้าเสียงดังเพราะความกลัว
“เป่าเอ๋อ...ไม่เป็ไร อาเหิงไม่...เจ็บ”
ชายหนุ่มทรุดกายลงบนพื้นจากนั้นจึงหมดสติไป เซี่ยชิงหลีเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของน้องสาวก็รีบพุ่งออกจากกระท่อมทันที ภาพตรงหน้าทำให้นางสติขาดผึง
ในความคิดของนางเข้าใจว่าน้องสาวถูกทำร้ายจนได้รับาเ็สาหัสเพราะเืที่อยู่บนกาย ยังมีอาเหิงที่บัดนี้นอนอยู่บนพื้นหมดสติไปแล้ว เซี่ยชิงหลีคว้าไม้คานหาบน้ำมากระชับมั่นในมือ นางพุ่งตัวเข้าหาชายฉกรรจ์สองคนที่เป็ต้นเหตุของเื่ทั้งหมด
พี่ชายทั้งสองของจางซุนโหรวเคยทำงานอยู่ในสำนักคุ้มภัย พอมีวิชาการต่อสู้และกำลังภายในอยู่บ้าง แต่เมื่อเทียบกับเซี่ยชิงหลีแล้ววิชาการต่อสู้ของทั้งสองยังห่างชั้น แม้นางจะไม่มีกำลังภายในทว่าสายลับที่ถูกฝึกฝนร่างกายมานานปีมีหรือจะพ่ายแพ้ให้คนเหล่านี้
ไม้คานในมือหญิงสาวฟาดไปยังร่างหนาของแต่ละคนไม่ยั้ง ความเ็ปที่ได้รับไม่ต่างจากถูกแซ่หนังเฆี่ยน ก่อนมาที่นี่พวกเขากระหยิ่มในใจรับเงินจากน้องสาวเพื่อทำงานง่าย ไม่คิดว่าจะชนเข้ากับตอ
เสียงร้องโหยหวนของชายฉกรรจ์ทั้งสองดังลั่นไปทั่วหมู่บ้าน ชาวบ้านต่างแห่มาดูความสนุกไม่คิดว่าจะได้พบเหตุการณ์อันน่าสยดสยองเช่นนี้ ในภายหลัง การกระทำของเซี่ยชิงหลีในวันนี้จะถูกพูดถึงไปอีกนาน
ในขณะที่ทุบตีพี่ชายทั้งสองของจางซุนโหรว ดวงตาของหญิงสาวเริ่มแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ ราวกับสีของโลหิต
ท่าทางของนางไม่ต่างจากมัจจุราชที่ผุดขึ้นมาจากนรก การกระทำของหญิงสาวทำให้สามคนที่เฝ้าดูอยู่ไกลๆ อย่างแม่เฒ่าหวัง จางซุนโหรวและเซี่ยจื่อยวนขวัญผวา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้