พอเ้าของโรงผลิตเครื่องเคลือบจิงผิงเห็นฉู่อี้ สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย คุณชายผู้นี้มาทำไมกัน? แต่ต่อหน้าผู้คนมากมาย เขาก็ทำได้เพียงแสร้งทำเป็ไม่รู้จัก
โรงผลิตเครื่องเคลือบจิงผิงสมชื่อโรงผลิตเครื่องเคลือบที่ดีที่สุดจริงๆ ของที่อวิ๋นเจียว้าล้วนทำออกมาได้อย่างประณีตงดงาม
อวิ๋นเจียวให้คำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ สองสามข้อ ทำเอาช่างฝีมือของโรงผลิตเครื่องเคลือบจิงผิงรู้สึกเหมือนได้รับแสงสว่างในใจขึ้นมาทันที ปัญหารายละเอียดบางอย่างที่พวกเขาแก้ไม่ตกมาโดยตลอดก็มีทางออกขึ้นมาในพริบตา
ทุกคนต่างพากันชมว่าอวิ๋นเจียวฉลาดหลักแหลม อวิ๋นเจียวก็ผลักภาระไปให้อวิ๋นฉี่ซานทันที
“นี่คือแบบร่าง ภาพลายบ่อบัวและปลาจิ่นหลี่ [1] พวกนี้วาดลงบนอ่างอาบน้ำ ภาพดอกไม้พวกนี้ก็วาดลงบนอ่างล้างมือ ส่วนโถส้วมไม่ต้องวาดลายใช้เป็เครื่องเคลือบสีขาวก็พอเ้าค่ะ”
“นอกจากกระเบื้องที่ใช้ในห้องน้ำแล้ว กระเบื้องปูผนังกับกระเบื้องปูพื้นก็ไม่ต้องวาดลายเช่นกัน ข้า้าแบบเรียบง่าย ใช้สีพื้นก็พอ เช่น สีเขียวอมฟ้า สีเหลืองหยก เป็ต้น กระเบื้องปูพื้นเอาขนาดใหญ่หน่อย กระเบื้องปูผนังเอาขนาดเล็กลงมาหน่อย นี่คือขนาดที่้า ภาพอาหารพวกนี้วาดลงบนกระเบื้องที่ใช้ในห้องครัว...”
“อ้อ แล้วอีกอย่าง ไม่ว่าจะเป็อ่างอาบน้ำหรืออ่างล้างมือก็ตาม ตรงท่อระบายน้ำทำให้มีขนาดเท่ากับเหรียญอีแปะ [2] ก็พอ อืม นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว ไม่ทราบว่าที่นี่จะทำเสร็จได้เมื่อไหร่เ้าคะ”
เ้าของโรงผลิตเครื่องเคลือบจิงผิงรีบตอบ “คุณหนูโปรดวางใจ ข้าน้อยจะจัดคนงานส่วนใหญ่มาเร่งงานของคุณหนู ประมาณสองเดือนก็น่าจะแล้วเสร็จขอรับ”
เขาดูออกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นายท่านของเขาหรือบิดามารดาของเด็กสาวผู้นี้ ต่างก็รักและตามใจนางทั้งนั้น แล้วเขาจะกล้าละเลยได้อย่างไร?
ฉู่อี้ไม่รู้สึกร้อนตัวแม้แต่น้อย รีบเอ่ยปาก “ทำตามมาตรฐานบ้านพวกเขาเตรียมไว้ให้อีกชุดหนึ่ง ข้าจะใช้ด้วย!”
เอ๊ะ คนผู้นี้นี่!
อวิ๋นเจียว “ท่านจะใช้ก็ไปหาคนมาวาดแบบร่างใหม่ อย่าเหมือนกับบ้านข้าสิเ้าคะ!” กล่าวจบอวิ๋นเจียวก็หันไปบอกเ้าของหุ่นเชิด “ต่อไปหากพวกท่านจะขาย ก็อย่าเอาแบบของบ้านข้าไปขาย”
เ้าของหุ่นเชิดรีบพยักหน้ารับปากทันที แบบร่างพวกนี้เป็แบบที่อวิ๋นเจียวไปหาเ้าของร้านขายภาพวาดและพู่กันร้านหนึ่งบนเถาเป่า ให้เขาวาดตามภาพที่นางหาไปให้ มีทั้งแบบโบราณ และแบบน่ารักสดใส มีทั้งภาพวาดูเา แม่น้ำ บุคคล สัตว์ ทำให้ผู้คนรู้สึกแปลกใหม่ไม่น้อย
“เด็กคนนี้ เซ่าชิงชอบก็ให้เขาใช้ไปเถิด!”
ฉู่อี้รีบเสริมทันที “ท่านป้าช่างเมตตาข้านัก แบบที่พวกเขาทำออกมาได้ไม่สวย ข้าชอบแบบของเ้า” กล่าวจบฉู่อี้ก็กะพริบตาให้นาง
อวิ๋นเจียว: ...
นี่กำลังใช้อุบายความงามล่อลวงนางงั้นหรือ? มองดูใบหน้าหล่อเหลาของฉู่อี้ที่เหนือกว่าหนุ่มหล่อทั้งหลาย อวิ๋นเจียวก็ได้แต่ถอนหายใจ เอาเถิด เด็กคนนี้ทำสำเร็จแล้ว “งั้นข้าจะหาแบบร่างใหม่ให้ท่านสองสามแบบ รับรองว่าท่านจะต้องชอบ แค่นี้พอหรือไม่เ้าคะ?”
ฉู่อี้รีบคว้าโอกาสทันที “ตกลง!” กล่าวจบก็กำชับเ้าของหุ่นเชิด “แบบร่างที่ข้าใช้ก็ห้ามขายด้วย!”
“ขอรับๆ!” โธ่เอ๊ย นายท่านน้อยของข้า ท่านไม่ต้องเอ่ยปากข้าน้อยก็ไม่กล้าขายอยู่แล้ว!
“ถ้าอย่างนั้น... เอ่อ... คุณหนูอวิ๋น ท่านพอจะมีแบบร่างให้ข้าน้อยอีกสักสองสามแบบได้หรือไม่? ดูสิ พวกเราต่างก็เป็คู่ค้ากัน ทำกำไรได้บ้านท่านก็มีส่วนแบ่งไม่ใช่หรือ?”
อวิ๋นเจียวยิ้มรับปาก “ได้สิเ้าคะ!”
“แบบของเขาไม่ต้องรีบร้อน เ้าจะได้ไม่เหนื่อย!”
อวิ๋นเจียวได้แต่ยิ้มๆ ไม่เอ่ยตอบ เ้าของหุ่นเชิดได้แต่ส่งสายตาให้ฉู่อี้จนหางตาเกือบจะกระตุก แต่ฉู่อี้ก็ไม่สนใจเขา เขาได้แต่ถอนหายใจอย่างหมดอาลัย เอาเถิด เ้าของตัวจริงยังไม่สนใจกิจการค้าขาย แล้วเขาจะร้อนใจไปทำไมกันเล่า!
แบบที่อวิ๋นเจียวหามาเป็ภาพสมัยใหม่ จากนั้นก็นำไปให้เ้าของร้านขายภาพวาดและพู่กันวาดขึ้นมาใหม่ ลายเส้นจึงดูสมจริงและมีความเป็ธรรมชาติยิ่งขึ้น หากมองจากระยะไกลจะยิ่งดูเหมือนจริง
พอช่างฝีมือของโรงผลิตเครื่องเคลือบจิงผิงได้เห็นภาพพวกนี้ก็รู้ได้ทันทีว่าหากนำไปวาดลงบนเครื่องเคลือบแล้วเผาออกมา ต้องขายได้ราคาดีเป็แน่ นั่นจึงเป็เหตุผลที่เ้าของหุ่นเชิดมาขอแบบร่างจากอวิ๋นเจียว
ช่างฝีมือวาดภาพของพวกเขามีงานล้นมืออยู่แล้ว แบบที่พวกเขาวาดก็ลอกแบบมาจากแบบร่างทั้งนั้น ปกติแล้วหากในโรงผลิต้าแบบใหม่ ก็จะไปซื้อแบบสำเร็จรูปจากร้านขายภาพวาดและพู่กัน แล้วนำกลับมาให้ช่างฝีมือลอกแบบ
หลังจากคุยเื่งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว เ้าของหุ่นเชิดของโรงผลิตเครื่องเคลือบจิงผิงก็เตรียมอาหารไว้ต้อนรับพวกเขาอย่างดี ทว่ายังไม่ทันได้กินข้าว ผู้ดูแลที่เขาส่งไปที่หมู่บ้านไหวซู่ก็รีบร้อนวิ่งเข้ามา
เขาไม่สนใจคำนับ กลับหยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ ยื่นให้อวิ๋นโส่วจง “นายท่านอวิ๋น รีบกลับบ้านเถิดขอรับ คุณชายรองบ้านท่านได้รับาเ็!” สิ้นประโยค ทุกคนต่างก็สีหน้าเปลี่ยนไป
“อะไรนะ? ฉี่ซานาเ็ าเ็หนักหรือไม่?”
“าเ็ที่ขาขอรับ ตอนที่ข้าน้อยออกมา หมอรักษาแผลให้เรียบร้อยแล้ว” ความจริงแล้วาเ็หนักมาก กระดูกขาหัก เืไหลไม่หยุด หมดสติไปั้แ่ตอนนั้นแล้ว
ตอนที่เขาออกมา อาจารย์ตั่งสั่งห้ามไม่ให้เขาบอกว่าเป็เื่ใหญ่โต มิฉะนั้นเกรงว่าอวิ๋นโส่วจงและครอบครัวจะร้อนใจเกินไป รีบร้อนเดินทางกลับจะเป็อันตรายได้
“พวกเรากลับกันเดี๋ยวนี้” ฟางซื่อพูดจบก็ดึงอวิ๋นเจียวเดินออกไปข้างนอก
ฉู่อี้รีบสั่ง “ไปตักอาหารใส่กล่องมาสักหน่อย แล้วก็เอาขนมใส่ไปด้วย” กล่าวจบเขาก็รีบตามฟางซื่อและคนอื่นๆ ไป พร้อมกับเอ่ยปาก “ท่านลุง ท่านป้า ข้าไปกับพวกท่านด้วย ตำแหน่งของข้า รถม้าสามารถใช้ม้าได้สามตัว จะได้เร็วกว่า”
ราชรถของฮ่องเต้ใช้ม้าหกตัว อ๋องห้าตัว กงสี่ตัว โหวสามตัว
เมื่อฉู่อี้เอ่ยเช่นนั้น อวิ๋นโส่วจงจึงตอบรับ “เช่นนั้นก็ไปด้วยกัน นำม้าสามตัวมาเทียมรถม้าของพวกเรา เซ่าชิงนั่งรถม้าของพวกเราก็แล้วกัน”
ฉู่อี้พยักหน้า แล้วสั่งจางหลิง “ส่งคนไปที่หมู่บ้านไหวซู่ เชิญหมอไปดูอาการที่บ้าน”
หลังจากออกคำสั่งเสร็จแล้ว ฉู่อี้ก็ตามคนตระกูลอวิ๋นขึ้นรถม้าของพวกเขาไป บ่าวรับใช้นำอาหารมาให้ ส่วนองครักษ์ก็จัดการเทียมม้าให้เรียบร้อยแล้ว รอจนทุกคนขึ้นรถม้าเรียบร้อยแล้ว คนขับรถก็สะบัดแส้ มุ่งหน้าไปบนถนนหลวงอย่างรวดเร็ว
รถม้าของบ้านตระกูลอวิ๋นผ่านการดัดแปลงมาแล้ว แม้ความเร็วจะสูงแต่ก็ยังคงนุ่มนวล
ในใจฉู่อี้เต็มไปด้วยความสงสัย แต่บนใบหน้ากลับไม่แสดงอารมณ์ใดออกมา เพียงแต่ชวนคนตระกูลอวิ๋นกินข้าวเท่านั้น
“ท่านลุง ท่านป้า เจียวเอ๋อร์ กินข้าวกันก่อนเถิด อย่างน้อยๆ พอกลับไปพวกเ้าจะได้มีแรงดูแลฉี่ซาน”
ใบหน้าของอวิ๋นโส่วจงเคร่งขรึม ฟางซื่อก็มีสีหน้ากังวล ส่วนอวิ๋นเจียวก็วิตกกังวลจนดวงหน้าน้อยซีดเผือด
วิกฤตหลายครั้งที่ผ่านมา ล้วนอยู่ในความคาดหมายของพวกเขา อวิ๋นเจียวไม่เคยกังวลเลยแม้แต่น้อย ทว่าครั้งนี้พี่รองกลับขาหัก ไม่รู้ว่าจะหนักหรือไม่
ในจดหมายของอาจารย์ตั่งบอกเพียงว่ามีหมอคอยดูแลอวิ๋นฉี่ซานแล้ว บอกให้พวกเขาไม่ต้องกังวล เดินทางกลับอย่างปลอดภัยก็พอ แต่แบบนี้อวิ๋นเจียวกลับยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ
นางกลัว กลัวว่าพี่รองจะเป็อะไรไป แม้ทุกคนในบ้านจะอยู่ด้วยกันเพียงไม่กี่เดือน แต่อวิ๋นเจียวที่โดดเดี่ยวเดียวดายมานานเกือบสามสิบปีก็รักบ้านหลังนี้ รักทุกคนในบ้านหลังนี้จากใจจริง
นางไม่้าให้ใครในบ้านเป็อะไรไปทั้งนั้น... หัวใจเหมือนโดนมือที่มองไม่เห็นบีบอย่างแรง รู้สึกอึดอัด เ็ป หายใจไม่ออก
“ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกเรากินข้าวกันเถิดเ้าค่ะ หากกลับไปพี่รองเห็นพวกเราหน้าซีดเซียว เขาจะต้องกังวลแน่ๆ อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของเขา”
อวิ๋นเจียวเองก็เอ่ยชวน ฉู่อี้พูดถูก ยิ่งเป็แบบนี้ พวกเขายิ่งต้องกินข้าวกินปลา ดูแลตัวเองให้ดี มิฉะนั้นพอกลับไปจะเอาแรงที่ไหนไปดูแลพี่รอง
อวิ๋นโส่วจงเอ่ยขึ้น “อืม กินข้าวกันเถิด!”
ทั้งครอบครัวต่างฝืนใจกินข้าว แม้จะกินไม่อร่อยจนไม่รู้รสชาติสักนิด แต่ก็ยังคงฝืนกินจนอิ่มท้อง
เชิงอรรถ
[1] ปลาจิ่นหลี่ (锦鲤) คือ ปลาคาร์ป
[1] เหรียญอีแปะ (铜钱) หรือ เหรียญจีนโบราณ เป็เหรียญที่ทำจากทองแดง มีลักษณะกลมแบน ตรงกลางเป็รูรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส