โจวหมัวมัวพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ สีหน้าเปลี่ยนเป็รอยยิ้มประหลาด “องค์หญิงเพคะ หลังจากเื่นี้แม้จะไม่ได้กำจัดฮองเฮา ทุกอย่างดูเหมือนสูญเปล่า ทว่าสำหรับองค์หญิงแล้วอาจจะเป็ผลดีก็ได้นะเพคะ...”
“ผลดีอะไรหรือ” องค์หญิงหลานซินถาม
โจวหมัวมัว “บ่าวเพิ่งจะได้รับข่าวจากองค์ไท่จื่อเพคะ องค์ไท่จื่อตรัสว่าพรุ่งนี้เช้าจะมีเื่น่ายินดีให้องค์หญิงประหลาดพระทัยเพคะ...”
องค์หญิงหลานซินสงสัย “เื่น่ายินดีหรือ เื่น่ายินดีอะไร”
โจวหมัวมัวเข้ามากระซิบกระซาบข้างหูองค์หญิงหลานซิน สีหน้าขององค์หญิงหลานซินเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ยังคงเป็เสด็จพี่ที่ทรงมีวิธีจัดการ!”
ตำหนักเว่ยยาง ล่วงเข้ายามดึก
เซวียนหยวนเช่อพ่อลูกล้วนไม่มีทีท่าว่าจะกลับไปพักผ่อน เ้าตัวเล็กกำลังอ่านหนังสือ ส่วนผู้ใหญ่นั้นกำลังอนุมัติฎีกา เฟิ่งเฉี่ยนเริ่มลำบากใจ แม้นางจะตัดสินใจยอมรับเขาเข้ามาในใจชั่วคราว แต่นางไม่ปรารถนาให้ทุกอย่างพัฒนาเร็วเกินไป นางยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมที่จะมอบทั้งกายและใจให้เขา
ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายนางเอ่ยปากก่อน “เอ่อ เวลาไม่เช้าแล้ว พรุ่งนี้เช้าท่านยังต้องประชุมเช้าอีก ไม่สู้...”
มือของเซวียนหยวนเช่อชะงักงัน เขาเงยหน้าขึ้นมองนางด้วยดวงตาทอประกายเจิดจ้า “เ้ากำลังไล่เจิ้นหรือ”
เฟิ่งเฉี่ยนเหงื่อตก “ข้าเพียงแต่เป็ห่วงสุขภาพของท่าน นอนดึกไม่ดีต่อสุขภาพ!”
เขาวางฎีกาในมือลง เซวียนหยวนเช่อลุกขึ้นเดินมาหานาง “เ้าพูดถูกต้อง นอนดึกไม่ดี เช่นนั้นไม่สู้...”
เขาพลันยื่นมือออกไปโอบเอวคอดของนาง แล้วพูดชิดริมหู “พวกเราพักผ่อนเร็วหน่อยเถิด!”
ลมหายใจอุ่นร้อนผะผ่าวรินรดข้างหูนาง ทำให้ร่างของนางอ่อนยวบ แต่นางยังมีสติพอที่จะผลักเขาออกไป “ข้า สุขภาพของข้ายังไม่หายดีเลย!”
เซวียนหยวนเช่อตวัดสายตามองนาง “เจิ้นรู้ เจิ้นจะระมัดระวัง”
เฟิ่งเฉี่ยนพูดอีก “ข้า ข้ารับปากเย่เอ๋อร์แล้วว่าวันนี้จะนอนเป็เพื่อนเขา ใช่หรือไม่ เย่เอ๋อร์?”
พูดแล้วนางก็ขยิบตาให้บุตรชายอย่างเอาเป็เอาตาย
มิเสียแรงที่เป็บุตรชายที่นางให้กำเนิดมา เขายืนอยู่ข้างนางเสมอ ไท่จื่อน้อยพยักหน้าหงึกหงัก
เซวียนหยวนเช่อจับจ้องนางไม่วางตาเนิ่นนาน มือนั้นลูบไล้ผ่าน่เอวคอดกิ่วไปัักับเส้นผมของนาง เขาพลันหัวเราะออกมาเบาๆ “เจิ้นล้อเ้าเล่นน่ะ! ก่อนหน้าที่เ้าจะพร้อม เจิ้นจะไม่ฝืนใจเ้า!”
เฟิ่งเฉี่ยนหัวใจบีบรัด ความรู้สึกอุ่นซ่านแผ่เข้ามากลางใจ
เขาโน้มกายลงมาแนบหน้าผากกับนางและพูดเสียงเล็กเสียงน้อย “แต่ หากเ้าพร้อมแล้ว จำไว้ว่าต้องบอกเจิ้น...”
แก้มทั้งสองข้างของเฟิ่งเฉี่ยนร้อนฉ่าขึ้นมาทันที ขณะที่เขากำลังผละออกไปนางยื่นมือไปรั้งเขาเอาไว้แล้วพูดงึมงำ “ช้าก่อน! ...ท่าน ท่านรั้งอยู่ที่นี่เถิด!”
เซวียนหยวนเช่อถูกคำพูดและท่าทีของนางทำให้ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด เขามองนางด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ “เ้าพูดอีกครั้งหนึ่งสิ”
เฟิ่งเฉี่ยนขบริมฝีปากแล้วประสานสายตากับเขาตรงๆ พร้อมกับพูดเสียงดังแปดหลอด “ข้าบอกว่า ท่านรั้งอยู่ที่นี่เถิด! พวกเรานอนด้วยกันทั้งสามคน!”
เซวียนหยวนเช่อมองนางนิ่งๆ รอยยิ้มในดวงตานั้นกดลึกยิ่งขึ้น
ไท่จื่อน้อยร้องขึ้นอย่างดีอกดีใจ “เย้...ในที่สุดเย่เอ๋อร์ก็ได้นอนกับเสด็จพ่อเสด็จแม่แล้ว!”
บนเตียงกว้างใหญ่หลังหนึ่ง มีคนนอนอยู่ด้วยกันสามคน เซวียนหยวนเช่อนอนอยู่ริมด้านนอกสุด เฟิ่งเฉี่ยนนอนอยู่ด้านในสุด ตรงกลางมีเ้าตัวน้อยนอนคั่นกลางอยู่
เอนกายลงนอนไม่ถึงสามนาที เ้าตัวเล็กก็หลับปุ๋ยไปแล้ว ซ้ำยังกรนดังฟี๊ๆ
เฟิ่งเฉี่ยนกลับพลิกกายไปมา ทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ
แม้จะมีคนคั่นอยู่หนึ่งคน ทว่ากลิ่นกายเย็นสบายอันเป็เอกลักษณ์ของเขาและฮอร์โมนเพศชายอันเข้มข้นของเขายังคงครอบคลุมข้ามมาอย่างไร้อุปสรรค ส่งผลให้นางเป็เช่นกวางน้อยที่หวาดระแวงภัย ไม่ว่าอย่างไรก็นอนไม่หลับ
“เซวียนหยวนเช่อ ท่านหลับหรือยัง”
ไม่นานนักด้านข้างมีเสียงขึ้นนาสิกตอบกลับมา “หืม”
เฟิ่งเฉี่ยนลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง “หากข้ามิใช่ฮองเฮาที่แท้จริง ท่านจะปฏิบัติต่อข้าเหมือนตอนนี้หรือไม่”
เปลือกตาที่ปิดสนิทนั้นสะท้านน้อยๆ เซวียนหยวนเช่อตอบว่า “ส่งมือมาให้เจิ้น!”
เฟิ่งเฉี่ยนลังเล ไม่รู้ว่าเขา้าทำอะไร แต่ยังคงยื่นมือข้ามไป
มือเพิ่งจะยื่นไปได้ครึ่งทางก็ถูกมือใหญ่ของเขาออกแรงกุมเอาไว้ เขากุมมือของนางไว้ในอุ้งมือก่อนจะพูดเรียบเรื่อย “เ้าจงจำไว้ว่า เจิ้นชอบเ้าที่เป็เ้าในตอนนี้ ที่นอนอยู่ข้างกายเจิ้น เ้าที่มองเห็นและััได้! ไม่ว่าในอดีตเ้าจะเป็อย่างไร ไม่ว่าเ้าจะเป็ใคร เจิ้น้าเพียงเ้าที่อยู่ตรงหน้านี้ คนตรงหน้าที่ริษยา เ้าคิดเ้าแค้น รักแรงเกลียดแรง ทำอาหารเป็ เดินหมากได้ แตกฉานวิชาแพทย์ แล้วยังทะเลาะวิวาทกับผู้อื่นได้อีกด้วย!”
เฟิ่งเฉี่ยนรู้สึกแสบจมูก นางพูดงึมงำ “เกลียดที่สุดเลย! เหตุใดท่านจึงต้องพูดคำพูดจั๊กจี้เช่นนี้ด้วย ข้าชอบท่านที่เ็าเป็น้ำแข็งมากกว่า!”
เซวียนหยวนเช่อส่งเสียงฮึในลำคอครั้งหนึ่ง
เฟิ่งเฉี่ยนหัวเราะขึ้นมาอย่างอ่อนหวาน ฝ่ามือของนางดิ้นรนจนกระทั่งสิบนิ้วประสานกับเขา “แต่ต่อไปคำพูดพลอดรักเหล่านี้ อนุญาตให้พูดกับข้าได้เพียงคนเดียวเท่านั้น! หาไม่แล้ว น่าดูแน่!”
หางเสียงของนางปนเปไปด้วยความรู้สึกได้ใจและออดอ้อน เซวียนหยวนเช่อได้ยินแล้วมุมปากโค้งขึ้นเล็กน้อย “ได้ พูดให้เ้าฟังเพียงคนเดียวเท่านั้น!”
เฟิ่งเฉี่ยนหลับตากุมมือของเขาเอาไว้แน่น เข้าสู่ห้วงนิทรารมณ์อย่างหวานชื่น
เซวียนหยวนเช่อเอียงคอมองข้ามร่างของไท่จื่อน้อย เห็นใบหน้างดงามอ่อนหวานของนางขณะหลับใหลในแววตาของเขาพลันเปล่งประกาย
ที่แท้ ความสุขง่ายดายเช่นนี้เอง...
เขากุมมือของนางเอาไว้แน่น เขาคิดในใจ คืนนี้จะต้องเป็ความฝันอันงดงามแน่นอน!
ฟ้าใกล้สาง ไท่จื่อน้อยเขย่าร่างของเฟิ่งเฉี่ยนไม่หยุด “เสด็จแม่ รีบลุกขึ้นพ่ะย่ะค่ะ! เย่เอ๋อร์ต้องไปเข้าเรียนแล้ว!”
เฟิ่งเฉี่ยนเกียจคร้าน ไม่อยากลุก นางหลับตาพูดว่า “เย่เอ๋อร์เด็กดี ไปเรียนหนังสือเอง ให้เสด็จแม่นอนต่ออีกหน่อย!”
ไท่จื่อน้อยยังคงเขย่าร่างของนาง “เสด็จพ่อจะไปประชุมเช้าด้วยพ่ะย่ะค่ะ เสด็จแม่จะไม่ไปส่งเสด็จพ่อหรือ”
เฟิ่งเฉี่ยนยังคงไม่ยอมลุกจากเตียงอยู่นั่นเอง นางโบกไม้โบกมือ “พวกเ้าเด็กดีเชื่อฟัง ที่เรียนก็ไปเรียน ที่ประชุมเช้าก็ไปประชุมเช้า มื้อเที่ยงข้าจะทำหมูสามชั้นในน้ำซอสให้พวกเ้ากิน!”
ไท่จื่อเห็นเช่นนั้นจึงแบมือถอนใจ ยอมแพ้จริงๆ
เซวียนหยวนเช่อจูงมือเล็กๆ ของเขาแล้วพูดเสียงเบา “ไปเถิด ให้เสด็จแม่ของเ้านอนต่ออีกหน่อย!”
เฟิ่งเฉี่ยนซาบซึ้งใจ ยังคงเป็สามีที่เข้าอกเข้าใจ
ใครเลยจะรู้ว่าเขาพูดเสริมอีกประโยคหนึ่ง “ในเมื่อ สุกรล้วนนอนเช่นนี้ทั้งสิ้น!”
“เซวียนหยวนเช่อ ท่านว่าใครเป็สุกรกัน ท่านน่ะสิเป็สุกร!” หมอนใบหนึ่งถูกเขวี้ยงออกไปเต็มแรง สองพ่อลูกออกไปจากตำหนักบรรทมแล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้