บทที่ 4: ยุทธศาสตร์พลิกชะตา
เสียงติ๊ก-ต็อกของนาฬิกาดิจิทัลบนผนังไม่เคยดังและมีความหมายเท่านี้มาก่อน แต่ละวินาทีที่ผ่านไปคือเวลาในโลกปัจจุบันของ หลินเย่วชิง ที่กำลังจะหมดลง วงล้อจักรวาลในกระจกยังคงหมุนนิ่งๆ แต่ตัวเลขนับถอยหลังสีทองกลับเด่นชัดราวกับเป็คำพิพากษาจาก์
แต่แทนที่จะตื่นตระหนก ตอนนี้หัวใจของเธอกลับเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นที่อันตราย เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็ตัวเอกในภาพยนตร์สายลับที่กำลังวางแผนภารกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ห้องคอนโดหรูของเธอกลายเป็ "ห้องบัญชาการรบ" ไปโดยปริยาย
"เมี๊ยว... เมี๊ยว" เ้าแมวสีดำร้องเรียกอยู่ริมหน้าต่าง พลางมองเธอด้วยแววตาสีอำพันที่ดูจะเข้าใจทุกอย่าง
หลินเย่วชิง หันไปยิ้มให้มัน "เ้าเหมียว มานี่สิ... ในเมื่อเราจะต้องเป็คู่หูร่วมชะตากรรมกันแล้ว ฉันควรจะตั้งชื่อให้เ้าดีๆ สินะ" เธออุ้มมันขึ้นมานั่งบนตัก "เอาชื่อ... 'เสี่ยวตง' (冬 - ฤดูหนาว) ดีไหม? เพราะเราเจอกันใน่เวลาที่ชีวิตฉันกำลังจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เหมือนการก้าวเข้าสู่ฤดูใหม่"
"เมี๊ยว" เ้าเสี่ยวตงเอาหัวมาถูไถกับแขนของเธอเบาๆ
"ฮะๆ ถือว่าเ้ายอมรับชื่อนี้แล้วนะ... เสี่ยวตง" เธอหัวเราะอย่างอารมณ์ดี "เอาล่ะ เสี่ยวตง ถึงเวลาวางยุทธศาสตร์แล้ว! เรามาลุยกันเลย!"
หลินเย่วชิง กลับไปนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยแววตาที่มุ่งมั่นราวกับพญาเหยี่ยว เธอไม่ได้แค่ค้นหาข้อมูล แต่กำลัง "ล่าขุมทรัพย์" ที่ซ่อนอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ั้แ่ปี 1975-2000
"เจอแล้ว!" เธออุทานออกมาเบาๆ เมื่อเลื่อนเมาส์ไปเจอข้อมูลสำคัญ "ปี 1976 เหมาเจ๋อตุงเสียชีวิต... และหลังจากนั้น เติ้งเสี่ยวผิงก็ขึ้นมาเป็ผู้นำ เขาเริ่มการปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งใหญ่... นี่ไง! จุดเปลี่ยน! การสอบเกาเข่าเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง นี่คือประตูสู่โอกาสของผู้คน!"
เธอหันไปหาเ้าเสี่ยวตงที่นอนขดอยู่ข้างๆ "นี่เ้าแมวน้อย... นี่คือคลื่นลูกแรกที่ฉันต้องโต้ให้ได้! ถ้าฉันรู้ข้อสอบล่วงหน้า หรือรู้แนวทางการปฏิรูปการศึกษา ฉันจะสามารถสร้างรากฐานที่มั่นคงให้ครอบครัวตระกูลเหว่ยในฝันนั่นได้!"
เ้าเสี่ยวตงทำเพียงมองกลับมาด้วยดวงตาใสซื่อแล้วร้องเหมียวเบาๆ
"ใช่แล้วล่ะ ฉันก็คิดเหมือนกัน!" หลินเย่วชิง หัวเราะอย่างเบิกบาน "ทุกอย่างจะเริ่มต้นใหม่ เศรษฐกิจจะเติบโตอย่างก้าวะโ นี่แหละคือโอกาสของฉันที่จะพลิกชะตาครอบครัวนั้นให้กลายเป็มหาเศรษฐีแห่งยุค 80 ให้จงได้!"
นิ้วของเธอรัวบนคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็ว เธอเปิดแผนที่เก่าของจีนเทียบกับภาพถ่ายดาวเทียมในยุคปัจจุบัน "ยุค 80-90 คือยุคทองของการลงทุนจากต่างชาติ... เขตเศรษฐกิจพิเศษถูกสร้างขึ้นมากมาย... เซินเจิ้น... จูไห่... เซี่ยเหมิน..."
แววตาของเธอเป็ประกาย "ดูนี่สิเสี่ยวตง! ที่ดินแถบชานเมืองเซินเจิ้นตรงนี้ ในยุค 70 มันเป็แค่หมู่บ้านชาวประมงรกร้าง แต่ตอนนี้มันคือใจกลางย่านธุรกิจมูลค่ามหาศาล! ถ้าฉันไปกว้านซื้อที่ดินแถบนั้นไว้ก่อน... ฮะ ฮะ แค่คิดก็สนุกแล้ว!"
เธอหยิบสมุดบันทึกขึ้นมาแล้วเริ่มจดข้อมูลอย่างละเอียด "แผนการลงทุน: หนึ่ง ซื้อทองคำใน่ปี 70-80 ที่ราคายังถูกและผู้คนสนใจอาหารมากกว่า สอง กว้านซื้อที่ดินในทำเลทองที่จะกลายเป็เขตเศรษฐกิจพิเศษ สาม ซื้อภาพวาดและของเก่าจากศิลปินที่จะมีชื่อเสียงในอนาคตเก็บไว้เก็งกำไร" เธอขีดเส้นใต้คำว่า "ทองคำ" และ "ที่ดิน" เน้นๆ
"ส่วนเื่หุ้น... ฉันอาจจะซื้อหุ้นของบริษัทเหล้าเหมาไถ หรือบริษัทอื่นๆ ที่จะเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต แต่เราต้องไม่โลภ เข้าเร็ว ออกเร็ว ทำกำไรแล้วไปต่อ"
หลังจากวางแผนด้านการลงทุนอย่างรอบคอบ เธอก็หันมาสนใจเื่ที่สำคัญที่สุดในตอนนี้... เงินทุน
"ตอนนี้ฉันมีเงินสดในบัญชีประมาณ 100 ล้านหยวน... คงพอสำหรับการซื้อของจำเป็ใน่แรก" เธอโทรศัพท์หาทนายความส่วนตัวทันที "คุณจางคะ ฉัน้าขายทรัพย์สินทั้งหมดของฉันค่ะ... ใช่ค่ะ ทั้งหมด ทั้งคอนโด รถยนต์ และหุ้นทุกตัว ฉัน้าเงินสดทั้งหมดภายใน 3 วันนี้ค่ะ... ไม่ต้องถามเหตุผลนะคะ แค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอ" เธอสั่งด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาดและเยือกเย็นจนทนายความที่ปลายสายยังต้องประหลาดใจ
"เอาล่ะเสี่ยวตง เงินที่ได้มาทั้งหมด ฉันจะเอาไปซื้อของที่ล้ำค่าที่สุดในยุคนั้น... ยาและสมุนไพรชั้นดี! โสมป่าอายุร้อยปี เห็ดหลินจือหายาก ชาชั้นเลิศจากแหล่งที่ดีที่สุด ในยุคที่ขาดแคลนทางการแพทย์ สิ่งเหล่านี้จะมีค่ามากกว่าทองคำเสียอีก!"
เมื่อทุกอย่างถูกวางแผนไว้ในหัวจนเกือบสมบูรณ์ หลินเย่วชิง ก็หยิบกุญแจรถขึ้นมา "ได้เวลาไปช็อปปิ้งครั้งประวัติศาสตร์แล้วเสี่ยวตง! ถึงจะสั่งออนไลน์ได้ แต่การไปเห็นของด้วยตาตัวเองมันได้อารมณ์กว่าเยอะ!"
ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในวันธรรมดาคราคร่ำไปด้วยผู้คน แสงไฟนีออนสว่างจ้า ชั้นวางของเต็มไปด้วยสินค้านานาชนิดจนล้น นี่คือภาพความอุดมสมบูรณ์ของยุคสมัยที่เธอกำลังจะจากไป หลินเย่วชิง เข็นรถเข็นไปตามทางเดิน แต่ในใจกลับนึกเปรียบเทียบกับภาพความขาดแคลนในฝันของเธอ
เธอตรงไปยังโซนของสดและเริ่ม "กวาด" สินค้าลงรถเข็นอย่างบ้าคลั่ง เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ ถูกสั่งแบบยกชิ้นใหญ่ๆ ข้าวสารและแป้งสาลีถูกสั่งเป็กระสอบ 25 กิโลกรัม เมื่อไม่มีใครมอง เธอแอบเอามือแตะที่สินค้าเบาๆ พลางนึกในใจว่า "เข้าไป" และของชิ้นใหญ่นั้นก็หายวับไปจากรถเข็น เข้าไปอยู่ในมิติส่วนตัวของเธออย่างเงียบเชียบ นี่คือความได้เปรียบที่ทำให้ "ภารกิจช็อปปิ้ง" ของเธอง่ายดายราวกับเล่นเกม
จากนั้นเธอก็มุ่งหน้าไปยังโซนยาและสมุนไพร เธอเลือกซื้อยาปฏิชีวนะ ยาฆ่าเชื้อ ผ้าพันแผล และอุปกรณ์การแพทย์พื้นฐานที่ทันสมัยที่สุดเท่าที่จะหาซื้อได้ "นี่คือเครื่องมือที่จะช่วยให้ฉันเอาชีวิตรอดและสร้างความเชื่อถือ ถ้าฉันรักษาคนได้ ฉันก็จะมีอำนาจต่อรอง"
หลังจากช็อปปิ้งของจำเป็จนพอใจแล้ว เธอก็ขับรถกลับคอนโดเพื่อเก็บของ ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็ชุดเดรสสวยงามเพื่อไปตามนัดสำคัญ... "งานเลี้ยงอำลา" ของเธอเอง
ร้านอาหารที่นัดหมายเป็ร้านประจำของกลุ่มเพื่อนหมอ บรรยากาศอบอุ่นและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
"หมอหลิน! ทางนี้!" หมอหลี่ โบกมือเรียกให้เธอไปนั่งข้างๆ
หลินเย่วชิง ยิ้มกว้างและนั่งลง ทิ้งความกังวลทั้งหมดไว้เื้ัและดื่มด่ำกับ่เวลาสุดท้ายนี้ให้เต็มที่ เธอหัวเราะ พูดคุย และฟังเื่ราวต่างๆ ของเพื่อนๆ โดยไม่มีใครสงสัยเลยว่าภายใต้รอยยิ้มนั้น เธอกำลังจะเดินทางไปยังภารกิจที่ไม่มีใครคาดคิด
เมื่ออาหารมื้อค่ำดำเนินไปจนถึง่ท้าย หลินเย่วชิง ลุกขึ้นยืนและยกแก้วขึ้น "ทุกคน... ฉันอยากจะขอบคุณพวกคุณมากสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง เราผ่านเื่ราวร้ายๆ มาด้วยกันมากมาย ฉันอยากให้พวกคุณรู้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกคุณคือครอบครัวและคนสำคัญสำหรับฉันเสมอ"
หมอหวัง ทำหน้าแปลกใจ "ทำไมพูดเหมือนจะไปไหนไกลๆ เลยล่ะหมอหลิน?"
หลินเย่วชิง ยิ้มอย่างนุ่มนวล ในแววตามีความอาลัยซ่อนอยู่ "ฉัน... ได้รับข้อเสนอที่ดีมากจากต่างประเทศน่ะค่ะ เป็โอกาสที่จะได้ไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ บางทีเราอาจจะไม่ได้เจอกันบ่อยเหมือนเดิมอีกแล้ว แต่ฉันจะคิดถึงพวกคุณเสมอนะ"
"โห! จริงเหรอเนี่ย!" หมอหลี่ พูดขึ้นอย่างตื่นเต้นปนกับความเสียดาย "ไม่ต้องเศร้าไปหรอกหมอหลิน นี่มันเป็เื่ดีนะ! พวกเรามาดื่มอวยพรให้คุณหมอคนสวยของพวกเราโชคดีกับเส้นทางใหม่ในชีวิตกันเถอะ!"
ทุกคนต่างยกแก้วขึ้นและส่งยิ้มให้เธออย่างจริงใจ "ไปอยู่ที่ไหนก็ส่งข่าวมาบ้างนะหมอหลิน!"
หลินเย่วชิง ยกแก้วขึ้นชนกับทุกคน เธอยิ้มกว้างที่สุด แต่ในใจกลับรู้สึกเจ็บแปลบ... เพราะเธอรู้ดีว่าการลานี้ อาจเป็การอำลาครั้งสุดท้ายในยุคสมัยนี้ เธอหวังว่าการเดินทางครั้งใหม่จะทำให้ชีวิตของเธอดีขึ้น และแม้จะไม่รู้ว่าอนาคตที่แท้จริงจะเป็เช่นไร แต่เธอก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมันด้วยหัวใจที่มั่นคงและแผนการที่รัดกุมที่สุด!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้