ร้านที่เซวียเสี่ยวหรั่นดึงอูหลันฮวาเข้ามาเป็ร้านขายเครื่องประทินผิวชื่อว่าเป่าฟางไจ
ในร้านกว้างขวาง ตกแต่งอย่างประณีตงดงาม ของที่ขายล้วนเป็แป้งชาดชั้นดี กำยาน ถุงหอม ยังมีของใช้จุกจิกจำพวกปิ่นปักผม และคันฉ่องทองแดง
พอเข้าไปในร้านกลิ่นหอมของแป้งชาดก็พุ่งเข้ามาปะทะจมูก
ลูกจ้างคนหนึ่งค้อมเอวเข้ามาต้อนรับ แต่พอกวาดมองเสื้อผ้าของพวกนาง รอยยิ้มบนใบหน้ายังไม่เปลี่ยน เพียงแต่พาพวกนางไปยังตำแหน่งที่ขายสินค้าราคาย่อมเยาหน่อย
เซวียเสี่ยวหรั่นมิได้ถือสา เดิมทีเธอก็แค่เข้ามาเดินเล่น ต่อให้มีเงินก็ไม่คิดซื้ออะไรอยู่แล้ว
อีกอย่างแป้งชาดสมัยโบราณมักมีสารปรอทในปริมาณสูง เธอไม่กล้าใช้ส่งเดช
"ต้าเหนียงจื่ออยากซื้อจันฮวา [1] สักชิ้นหรือไม่" อูหลันฮวาดูปิ่นปักผมหลากหลายรูปแบบในตู้ ดวงตาก็ลุกวาวเป็ประกาย แต่ครั้งนี้นางไม่ลืมที่จะกดเสียงให้เบาลง
จันฮวา? เซวียเสี่ยวหรั่นกวาดตามอง
โอ้แม่เ้า ล้วนแต่เป็ดอกไม้จากผ้าไหม และดิ้นแพรทั้งนั้น ดอกทั้งใหญ่ สีสันก็ฉูดฉาด นำมาประดับบนศีรษะ แลดูชอบกลไปหน่อย ไม่เข้ากับรสนิยมความงามในแบบของเธอ
"ข้าไม่ชอบทัดดอกไม้ หลันฮวา เ้าชอบดอกไหนล่ะ เลือกมาสักสองดอก ข้าจะซื้อให้เอง"
วันเกิดของอูหลันฮวาคือ่ปลายปี ตอนนี้อายุยังไม่เต็มสิบแปดปี แท้จริงแล้วก็ยังเป็สาวน้อยที่ชอบเครื่องประดับสวยๆ งามๆ
"ไม่ๆๆ ข้าไม่เอา" อูหลันฮวารีบโบกไม้โบกมือ ั้แ่ติดตามต้าเหนียงจื่อ นางได้กินอิ่มท้อง มีเสื้อผ้าอบอุ่นสวมใส่ นอนหลับสบาย งานไม่มาก ไร้ทุกข์ไร้กังวล นางก็รู้สึกพอใจมากแล้ว
ครั้งก่อนเพราะนางได้รับาเ็ ต้าเหนียงจื่อต้องจ่ายค่ายาไปก้อนใหญ่ อูหลันฮวายังละอายใจมาถึงตอนนี้ ไหนเลยจะกล้าให้นางซื้อของราคาแพงเ่าั้ให้
เห็นสีหน้านางเต็มไปด้วยคำปฏิเสธ เซวียเสี่ยวหรั่นก็ไม่ฝืนใจ ต่อไปถ้ามีโอกาสค่อยแอบซื้อให้นางสักชิ้น
จันฮวาไม่ชอบ แป้งผัดหน้าก็ไม่เอา เซวียเสี่ยวหรั่นเดินอยู่สองรอบรู้สึกไม่มีอะไรน่าสนใจ ขณะที่คิดจะออกจากร้าน หางตากลับไปสะดุดที่ชั้นขายคันฉ่องทองแดง
ดวงตาของเธอสว่างวาบ เดินเข้าไป
กระจกบานเล็กของเธอเอาออกมาให้ใครเห็นไม่ได้ ตอนเช้าหวีผมไม่มีกระจกก็รู้สึกแปลกๆ
ไม่สู้ฉวยโอกาสซื้อกระจกบานเล็กสักบานมาใช้
เซวียเสี่ยวหรั่นดึงอูหลันฮวาไปที่ตู้ขายคันฉ่อง
"ต้าเหนียงจื่ออยากได้คันฉ่องแบบไหนขอรับ"
ลูกจ้างร้านเดินตามอยู่ด้านข้างมาั้แ่ต้น ต้าเหนียงจื่อผู้นี้แม้แต่งกายเรียบๆ แต่สีหน้ากลับเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ ไม่มีความตื่นกลัวสักนิด ดูไม่คล้ายเป็สะใภ้จากสกุลต่ำต้อย
"อยากได้แบบบานเล็กพกพาสะดวก"
คันฉ่องทองแดงน้ำหนักมาก หากซื้อบานใหญ่เกินไปจะลำบากหลังตนเองเปล่าๆ
ลูกจ้างร้านเลือกหยิบคันฉ่องหลิงฮวา [2] ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กออกมาบานหนึ่ง "ต้าเหนียงจื่อ ดูว่าคันฉ่องบานนี้เป็อย่างไร"
เซวียเสี่ยวหรั่นรับมาส่องดูด้านที่ขัดจนเป็เงาวาววับ
ดวงหน้าที่สะท้อนในคันฉ่องเรียวเล็ก คิ้วเป็ทรงสวย แต่สีคิ้วอ่อนไปนิด หนังตาค่อนข้างหนา ดีที่ดวงตาสีขาวกับสีดำตัดกันชัดเจน จมูกไม่โด่งเป็สัน ริมฝีปากเห็นไม่ค่อยชัดเท่าไร แต่เมื่อเครื่องเคราทั้งห้ามารวมกันแล้ว ยังแลดูสบายตา
เสียดาย คันฉ่องเหลืองไปหน่อย ผิวที่สะท้อนออกมาย่อมเหลืองตาม
"ยังใหญ่ไปหน่อย ข้าอยากได้แบบอันเล็กๆ พกพาติดตัวได้" ขนาดบานแค่นี้ถือแล้วยังรู้สึกหนักมือ
ลูกจ้างร้านเข้าไปค้นคันฉ่องทรงกลมลายดอกเบญจมาศมาให้ดู
เซวียเสี่ยวหรั่นมองดูรอบๆ คันฉ่องบานนี้เล็กกว่าบานเมื่อครู่เพียงนิดเดียว ก็ส่ายหน้าแล้วส่งคืนให้
ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะเยาะแว่วมาจากด้านหลัง
เซวียเสี่ยวหรั่นมุ่นคิ้วหันกลับไปมอง
สตรีสวมชุดกระโปรงแพรต่วนสีแดง ประดับไข่มุกมาเต็มศีรษะ ใช้สายตาเย่อหยิ่งแกมเหยียดหยันมองมาที่เธอ
"ไม่มีปัญญาซื้อก็อย่ามาขวางทางผู้อื่น เสี่ยวหลิว ต่อไปให้มีไหวพริบหน่อย อย่าพาใครเข้ามาในร้านเป่าฟางไจส่งเดช"
ลูกจ้างนามเสี่ยวหลิวรีบค้อมกายกล่าวด้วยรอยยิ้ม "คุณหนูขอรับ นายน้อยกล่าวว่า ผู้มาทุกคนล้วนเป็ลูกค้า ไม่ว่าจะซื้อหรือไม่ ก็ต้องให้การต้อนรับอย่างดีที่สุด"
"ญาติผู้พี่มักอ่อนโยนต่อสตรีเช่นนี้เสมอ แต่หากเป็เช่นนี้ต่อไป คนที่เข้ามาในร้านก็จะมีแต่ชาวบ้านชั้นล่างที่มาดูเฉยๆ ไม่มีเงินซื้อ ส่วนคนมีฐานะที่แท้จริงกลับถูกละเลย แล้วการค้าจะไปต่อได้อย่างไร"
หญิงสาวหันมาทางอูหลันฮวาแล้วหยิบผ้าแพรขึ้นมาปิดจมูก ราวกับมีสิ่งสกปรกอยู่ตรงหน้าก็ไม่ปาน
อูหลันฮวาซึ่งยืนอยู่ด้านข้างได้แต่ถลึงตาใส่ ทว่าไม่กล้าต่อปากต่อคำ
"อ้อ เป่าฟางไจควรทำการค้าอย่างไร ถึงคราให้ญาติผู้น้องเข้ามาจัดการั้แ่เมื่อไร"
น้ำเสียงเนิบนาบเอ้อระเหยแต่แฝงแววเชือดเฉือนดังมาจากหน้าประตูห้องโถง
เมิ่งเฉิงเจ๋อในอาภรณ์สีขาวราวกับหิมะ โบกพัดจีบในมือเยื้องกรายเข้ามา
ทันทีที่เขาก้าวเข้ามา ก็ดึงดูดสายตาเหล่าสตรีน้อยใหญ่ทั้งหมดทันที
จิ๊ ช่างเป็บุรุษที่มีเสน่ห์ล้นเหลือ
เซวียเสี่ยวหรั่นมองเขาปราดหนึ่ง บุรุษผู้นี้มีดวงตาดอกท้องดงาม แววตาระยิบระยับทอประกายคลุมเครือ แลดูคล้ายคนเ้าชู้มากรัก
"ญาติผู้พี่ ท่านกลับมาั้แ่เมื่อไร ไฉนพวกเราถึงไม่รู้เลยเล่า" สตรีกระโปรงสีแดงสีหน้าตื่นเต้นวิ่งเข้าไปหา
แต่เมิ่งเฉิงเจ๋อกลับมองนางด้วยหางตาแบบผ่านๆ ติดจะรำคาญด้วยซ้ำ
ั้แ่เขาเข้ามารับ่กิจการของสกุลเมิ่ง เหล่าญาติสตรีาุโทั้งหลายต่างก็ปรี่เข้าหา
สตรีที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ก็เป็ญาติผู้น้องจากบ้านของอาหญิงมิใช่หรือ
"ต้าเหนียงจื่อไม่เจอกันหลายวัน ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือไม่" เมิ่งเฉิงเจ๋อคร้านจะสนใจนาง จึงหันมาประสานมือคำนับให้เซวียเสี่ยวหรั่น
"นายน้อยเมิ่ง ช่างบังเอิญยิ่งนัก" เซวียเสี่ยวหรั่นไม่นึกว่าร้านค้าแห่งนี้จะเป็ของเมิ่งเฉิงเจ๋อ
"จะว่าไปก็ไม่บังเอิญหรอก ผู้น้อยรอต้าเหนียงจื่อที่ร้านค้าสกุลเมิ่งอยู่หลายวันแล้ว แต่ไม่เห็นพวกท่านสองพี่น้องมาสักที ก็เลยออกมาตามหาดู ไม่คิดว่าจะเจอจริงๆ"
มุมปากของเมิ่งเฉิงเจ๋อเดี๋ยวต่ำเดี๋ยวสูง ทอยิ้มอย่างพราวเสน่ห์ เนตรหงส์ทอประกายวับวาวแลดูอ่อนโยน สอดรับกับใบหน้าหล่อเหลา ชวนให้คนไม่อาจละสายตา
สตรีจากรอบทิศทางต่างมองจนเคลิบเคลิ้ม
สตรีชุดกระโปรงสีแดงเดิมทีไม่ได้การตอบรับจากเมิ่งเฉิงเจ๋อก็อับอายมากพอแล้ว พอเห็นเขาทักทายสตรีที่มีกลิ่นอายคนจน ก็ยิ่งโกรธจนตัวสั่น
แต่ยามนี้เมิ่งเฉิงเจ๋อยืนยิ้มบางๆ อยู่ตรงนั้น โทสะของนางพลันมลายสิ้น สองตาจดจ้องเขาไม่กะพริบ
เซวียเสี่ยวหรั่นกลับรู้สึกกระอักกระอ่วน นึกถึงสินค้าตัวอย่างที่ออกหน้าไม่ได้เ่าั้ ก็ไม่อยากนึกเจอหน้าเมิ่งเฉิงเจ๋อเร็วเกินไป
"นายน้อยเมิ่ง หลายวันมานี้ข้าค่อนข้างยุ่ง รอเสร็จธุระก่อน จะไปเยี่ยมเยียนถึงที่อย่างแน่นอน"
ต้องถ่วงเวลาไปก่อน ดูว่าพอจะปรับปรุงอะไรได้อีกบ้าง
"ต้าเหนียงจื่อกล่าวแล้วก็ต้องรักษาคำพูด อย่าให้ผู้น้อยต้องคอยเก้อ" เมิ่งเฉิงเจ๋อสนใจกระเป๋าที่นางเอ่ยถึงวันนั้นมากจริงๆ
ควรรู้ว่าการค้าในนามวาณิชสกุลเมิ่ง ร้านแพรพรรณ ร้านอาภรณ์สำเร็จรูป ร้านเครื่องประทินโฉม ร้านเครื่องประดับคือส่วนที่ทำกำไรสูงสุด
เมิ่งเฉิงเจ๋อเข้าใจศักยภาพในการจับจ่ายใช้สอยของสตรีอย่างถ่องแท้
"เหอะๆ ได้สิ" เซวียเสี่ยวหรั่นยิ้มตอบรับไปอย่างฝืดเฝื่อน
"ต้าเหนียงจื่อต้องตาคันฉ่องบานไหน" ตอนที่เข้ามาถึง เมิ่งเฉิงเจ๋อได้ยินเสียงญาติผู้น้องคนนั้นเอะอะโวยวายเสียงดังแว้ดๆ ไม่หยุด
"เรียนนายน้อย ต้าเหนียงจื่อท่านนี้อยากได้คันฉ่องบานเล็กพกพาสะดวกขอรับ แต่คันฉ่องที่ตั้งอยู่ด้านนอกล้วนใหญ่เกินไป" เสี่ยวหลิวรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว
"ไปหยิบคันฉ่องวิหคล้อมบุปผาออกมา" เมิ่งเฉิงเจ๋อสั่งการ
...
[1] จันฮวา คือดอกไม้ประดับผมที่ทำมาจากผ้าสีสันสดใสให้ดูคล้ายกับดอกไม้จริง
[2] คือกระจกทองแดงสมัยโบราณที่มีรูปทรงเป็ดอกหลิงฮวา หรือคนไทยเรียกว่าดอกกระจับ เป็พืชน้ำดอกมีสีเหลือง ใบเป็รูปสามเหลี่ยมขอบหยัก
