เดิมทีซ่งมู่ไป๋คิดจะตามมาช่วยเซี่ยโม่ หากตอนนี้พอใช้สายตาคมกริบมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว พบว่าเด็กสาวจัดการได้ดีมาก เขาจึงวางใจ
ได้เอาคืนแล้ว คนเหล่านี้ถูกตำรวจจับไปแล้ว เซี่ยโม่ ซ่งมู่ไป๋ และคุณตาจึงบอกลาผู้ใหญ่บ้าน
ซ่งมู่ไป๋เข็นจักรยานพลางเอ่ย “คุณตา งั้นผมไม่กลับไปด้วยแล้วนะครับ ผมขอแยกตรงนี้กลับไปที่สถานีรถไฟเลย” พูดจบก็ทำท่าจะเดินจากไป
กลับถูกเซี่ยโม่ร้องเรียกด้วยน้ำเสียงร้อนรนเสียก่อน “พี่ซ่ง เดี๋ยวก่อนค่ะ”
ซ่งมู่ไป๋หยุดฝีเท้า อู๋กวงเต๋อทำท่าคิดอะไรอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินไปต่อ
เซี่ยโม่เห็นคุณตาเดินไปข้างหน้า เธอเอ่ยด้วยเสียงไม่ดังนัก “พี่ซ่ง ฉันมีเพื่อนนักเรียนคนหนึ่งมีน้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายแดงบรรจุเป็ถุง ้าแลกกับผ้าและฝ้าย”
พ้นฤดูใบไม้ร่วงคือฤดูหนาว เธอกับน้องไม่มีเสื้อผ้าหนาๆ เลยสักตัว ส่วนผ้าห่มก็เป็ผืนบาง ใช้กันความหนาวไม่ได้
ถึงในโกดังสินค้าจะมีของพวกนี้ แต่เธอหาเหตุผลอันเหมาะควรแก่การเอาออกมาไม่ได้เสียที
เธอเลยจะยืมมือซ่งมู่ไป๋และใช้โอกาสนี้เอาของจากในโกดังสินค้าออกมาเพิ่ม
ซ่งมู่ไป๋ตอบกลับทันทีว่า “น้ำตาลทรายแดงและน้ำตาลทรายขาวเป็ของดี ในสหกรณ์ขายถุงละหกเหมา ทั้งยังต้องใช้คูปองจัดสรรอาหาร เพื่อนนักเรียนของเธอขายถุงละเท่าไร”
ชายหนุ่มพูดแบบนี้ เธอถึงเพิ่งรู้ว่าราคาน้ำตาลที่ขายอยู่ในสหกรณ์ขึ้นราคาแล้ว ถึงว่าตอนนำไปขายในตลาดมืดจึงขายหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว
ขายในราคาหนึ่งหยวนก็ได้ อย่างไรเสียในโกดังสินค้าที่ตามเธอกลับมาเกิดใหม่ด้วยก็มีหลายถุง เธอนำมันออกมาขายเพื่อแลกกับของอย่างอื่นได้พอดี
“ถุงละหนึ่งหยวนค่ะ รับประกันว่าคุณภาพดีแน่นอน”
แม้น้ำตาลเหล่านี้จะไม่ได้ระบุวันผลิต วันหมดอายุ ตรารับรอง หรือสถานที่ผลิตเอาไว้ แต่มันกลับเป็ของดีในยุคนี้
“เื่นี้ได้ เพื่อนนักเรียนของเธอมีเท่าไรก็เอามา หรือจะให้ฉันไปเอาเองก็ได้ พรุ่งนี้กับมะรืนนี้่กลางวันฉันอยู่ที่บ้าน ฉันอยู่บ้านเลขที่ 56”
“ค่ะ ไม่แน่พรุ่งนี้ฉันอาจจะไปเอง เพื่อนนักเรียนของฉันไม่ค่อยมีเวลาเท่าไร”
ซ่งมู่ไป๋ถามอย่างเป็ห่วง “งั้นเดี๋ยวฉันไปรับ น้ำตาลมันหนัก เธอจะเอามายังไง”
เธอคิดในใจว่า อีกฝ่ายตอบตกลงจะช่วยเธอเื่นี้แล้ว จะให้เขาเป็ฝ่ายมาเอาเองได้อย่างไร อีกอย่างเธอไม่ต้องเปลืองแรงแบกมันไปด้วยซ้ำ
“ไม่เป็ไรค่ะ ฉันขอปรึกษากับเพื่อนก่อน ไม่แน่เธออาจจะมีวิธี”
ซ่งมู่ไป๋นึกว่าน้ำตาลเป็ของเพื่อนของเด็กสาวจริงๆ เด็กสาวแค่ช่วยขายเท่านั้น มีหนี้น้ำใจครั้งนี้ เด็กสาวต้องไม่มีชีวิตที่ลำบากแน่นอน
“เอาแบบนั้นก็ได้”
เวลานี้เองที่เขานึกอะไรขึ้นมาได้ ถามด้วยน้ำเสียงห่วงใยว่า “อีกเดี๋ยวเธอยังต้องขึ้นเขาอีกใช่ไหม”
เซี่ยโม่พยักหน้า “ค่ะ ว่าจะขึ้นไปหาของป่าและสมุนไพร”
นึกถึงเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อ่เช้าแล้วเขาอดกังวลไม่ได้ “โม่โม่ ต่อไปหากขึ้นเขา หาเพื่อนไปด้วยเถอะ ฉันคิดว่าอีกไม่กี่วันหวางหมาจื่อกับพวกก็น่าจะถูกปล่อยตัวออกมา”
พี่ซ่งกำลังเป็ห่วงเธอหรือ? เซี่ยโม่คิดในใจ
เธอคือเด็กที่ถูกบิดาแท้ๆ ทอดทิ้ง พี่ซ่งไม่เพียงช่วยเหลือสารพัด ยังแสดงความห่วงใยเธออีกด้วย เธอรู้สึกอบอุ่นในหัวใจเหลือเกิน
ชาติที่แล้ว เธอไม่ได้ย้ายมาอยู่กับคุณตาคุณยาย เลยไม่คุ้นกับเพื่อนบ้าน
ชาติใหม่นี้ หลายวันที่ผ่านมาเธอก็แทบไม่มีเวลา แต่พอนึกถึงสายตาเป็ห่วงเป็ใยของคุณตาคุณยาย และคิดถึงคำเตือนของพี่ซ่งเมื่อครู่นี้ เธออย่าทำให้พวกเขาต้องเป็ห่วงเลยจะดีกว่า
เธอรับปากในทันที “ค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะลองถามคุณตาดู ลาก่อนค่ะ”
ซ่งมู่ไป๋ขี่จักรยานจากไป ไม่นานก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ในขณะที่เธอรีบเร่งฝีเท้าเพื่อตามให้ทันคุณตา
พอถึงบ้าน เธอหยิบตะกร้าขึ้นมาเพื่อจะไปขึ้นเขา
ปกติเซี่ยโม่จะขึ้นเขาเป่ยซานเพราะมันอยู่ใกล้ แต่วันนี้คิดจะเปลี่ยนไปที่ไกลหน่อยอย่างเขาตงซานดีกว่า
แม้ตอนนี้หวางหมาจื่อกับพวกจะอยู่ที่สถานีตำรวจ แต่ระวังตัวไว้ก่อนเป็ดีที่สุด
อีกอย่าง ูเาที่คนขึ้นไปบ่อยๆ มักจะมีของป่าและสมุนไพรน้อย ต่างจากูเาที่คนขึ้นไปไม่บ่อยนัก
เธอมองทางเดินบนเขาซึ่งคดเคี้ยวไปมาครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินขึ้นเขาไปตามทางอย่างมั่นใจ
บอกว่าเป็ทางเดินสายเล็กๆ แท้จริงแล้วเป็ทางเดินซึ่งปกคลุมไปด้วยหญ้ารกที่สามารถเดินได้แค่คนเดียว
ระหว่างเดินเจอเห็ดป่าและพวกผัก เธอก้มตัวเพื่อจะเด็ดพวกมัน
เงยหน้าขึ้นมาแล้วมองไปข้างหน้า เธอก็ต้องชะงัก ดอกสายน้ำผึ้งสีเหลืองทองและขาวชูช่อท่ามกลางใบไม้สีเขียว ช่างงดงามเหลือเกิน
หลายวันที่ผ่านมาเธอขึ้นเขาเก็บดอกสายน้ำผึ้งได้ไม่น้อย แต่ยังไม่เคยเจอดอกที่ใหญ่เท่านี้มาก่อน
เธอเดินตรงไปเพื่อจะเด็ดมัน
ทันใดนั้นเอง หางตาของเธอเหมือนเห็นอะไรบางอย่างออกมาจากพุ่มไม้ของดอกสายน้ำผึ้ง
ก่อนหน้านี้เธอมองสำรวจรอบๆ แล้วพบว่าไม่มีใคร เช่นนั้นมันคืออะไร
เซี่ยโม่เข้าไปหลบในโกดังสินค้าโดยไม่ลังเล
อะไรบางอย่างพุ่งชนสิ่งที่กั้นระหว่างโลกความจริงกับโกดังสินค้า เธอชะโงกหน้าออกจากโกดังสินค้าไปดู พบว่ามันคืองูตัวหนาเท่าปากถ้วยข้าว เซี่ยโม่ถึงกับใจนเหงื่อแตกพลั่ก
หลายวันที่ผ่านมา เธอก็เคยเจองูตอนขึ้นเขาบ้างในบางวัน แต่ยังไม่เคยเจอตัวใหญ่เท่านี้มาก่อน และไม่เคยเจอที่งูเลื้อยเข้ามาทำท่าจะฉก เวลาเจออย่างมากเธอก็แค่เดินหนี
นึกไม่ถึงเลยว่าในพุ่มดอกสายน้ำผึ้งจะมีงูตัวใหญ่ซ่อนอยู่
เธอรู้ว่างูสายพันธุ์ไหนมีพิษไม่มีพิษ ซึ่งงูที่ทำท่าจะฉกเธอตัวนี้เป็งูมีพิษ
น่ากลัวเหลือเกิน!
นับั้แ่กลับมาเกิดใหม่ เธอคอยเตือนตัวเองอยู่ตลอดว่าให้รักษาโอกาสครั้งนี้ไว้ให้ดี
คุณตาคุณยายอายุมากแล้ว ส่วนน้องชายก็ยังอายุน้อย เธอต้องปกป้องพวกเขา ชดเชยให้กับชาติก่อนที่เธอไม่ได้ดูแลพวกเขา
งูเลื้อยกลับเข้าไปซ่อนเพื่อรอโอกาส
เวลานี้เองที่เซี่ยโม่นึกอะไรขึ้นมาได้ ในโกดังสินค้ามียามากมายหลายชนิด ไม่รู้ว่าจะมีผงหรดาล[1]หรือเปล่า
พวกงูจะกลัวผงหรดาล เธอเดินไปยังพื้นที่เก็บยา มองตามป้ายที่อยู่บนชั้น หาอยู่นานแต่สุดท้ายก็ต้องผิดหวัง
ผงหรดาลอยู่ในหมวดยาแผนโบราณ แต่ในโกดังสินค้าของเธอส่วนใหญ่มีแต่ยาตะวันตก
เซี่ยโม่ถอนหายใจ หากรู้จะมีวันนี้ เธอคงเตรียมตัวเอาไว้ก่อน
สายตาของเธอยังคงจับจ้องไปบนชั้นวางของ ทันใดนั้นเองก็เหลือบไปเห็นสเปรย์กระป๋องสำหรับพ่นฆ่าพวกหนอน มด และแมลงวันเข้า
งูจะไวต่อกลิ่น หากเธอใช้มัน งูอาจจะกลัวจนหนีไปก็ได้
คิดได้ดังนั้นจึงเอาตะกร้าที่สะพายอยู่บนไหล่ลง
เธอพ่นสเปรย์ออกไป ทั่วทั้งบริเวณปกคลุมไปด้วยควันสีขาว
ผ่านไปครู่ใหญ่ รอบข้างยังคงไร้สุ้มเสียงใด คาดว่างูตัวนั้นคงจะเลื้อยหนีไปแล้ว
เธอเดินไปที่พุ่มดอกสายน้ำผึ้ง พ่นสเปรย์บริเวณนั้นอีกครั้ง แต่ไม่กล้าพ่นลงไปบนตัวดอกไม้โดยตรง
เซี่ยโม่เดินสำรวจดูรอบๆ พุ่มดอกสายน้ำผึ้ง เมื่อไม่พบงูตัวนั้น จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
จัดแจงเก็บสเปรย์ที่พ่นหมดแล้วใส่เข้าไปในโกดังสินค้า ก่อนจะหยิบตะกร้าขึ้นมาสะพายไหล่ดังเดิม จากนั้นถึงค่อยก้มเก็บดอกสายน้ำผึ้ง
ผ่านไปสองชั่วโมงกว่า ในตะกร้าตอนนี้เต็มไปด้วยดอกสายน้ำผึ้ง
เธอหยิบถุงผ้าใบหนึ่งออกมาจากในโกดังสินค้า ก้มเก็บดอกสายน้ำผึ้งต่อแล้วใส่เอาไว้ในถุงผ้าใบนั้น
ถุงผ้าเต็มก็เป็เวลาบ่ายแก่พอดี เธอเอาถุงผ้าใส่ในโกดังสินค้าก่อนจะเดินลงจากเขา
กลับไปถึงบ้าน พบว่าคุณตาคุณยายกลับมากันแล้ว
สายตาของพวกท่านทั้งสองดูแปลกๆ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยว่าพวกท่านทั้งสองเป็อะไรไป
เธอนำดอกสายน้ำผึ้งที่เก็บมาไปล้างให้สะอาด ก่อนจะวางผึ่งเอาไว้บนแคร่ไม้ไผ่
หากพรุ่งนี้ฝนไม่ตก วางตากแดดเอาไว้แค่วันเดียวก็น่าจะใช้ได้
จู่ๆ คุณยายเอ่ยถามเธอว่า “โม่โม่ มู่ไป๋ได้พูดอะไรกับหลานไหม”
เธองงหนัก หรือพี่ซ่งพูดอะไรกับคุณตาคุณยาย?
ชายหนุ่มเพิ่งจะมาที่บ้านเธอแค่ครั้งเดียว หากคุณยายกลับเรียกชื่อเสียสนิทสนม ฟังดูคล้ายเหมือนมีหลานเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคนอย่างไรอย่างนั้น
แม้ในใจจะรู้สึกอิจฉา แต่ก็ยังตอบออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ไม่ได้พูดค่ะ หนูแค่ถามอะไรเขานิดหน่อยเท่านั้น”
—-----------------------
[1] ผงหรดาล เป็แร่ชนิดหนึ่งประกอบด้วยสารหนูและกำมะถัน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้