นางโจวถือท่อนฟืนไว้ในมือและเดินมาพร้อมกับฝุ่นที่เกาะเต็มตัว นางเดินด่ามาตามทาง
“นางเด็กกินบนเรือนขี้บนหลังคา! ข้าใจดีกับเ้ามากเกินไปสินะ? งานการในบ้านมีมากมายไม่ทำ กลับวิ่งโร่มาพูดพล่ามไร้สาระ?!”
ชั่วพริบตานั้น นางโจวเดินมาถึงตัวเสี่ยวหลาน ภายใต้สีหน้าที่ซีดเผือดของเสี่ยวหลาน นางโจวง้างท่อนฟืนขึ้นกำลังจะตีลงไป
เสิ่นม่านรีบดึงเสี่ยวหลานมาไว้ในอ้อมแขน ทว่าตัวนางเองกลับหลบไม่ทันจึงถูกตีเข้าไปเต็มแรงหนึ่งที
นางส่งเสียงเ็ปและแย่งท่อนฟืนจากนางโจวมา “โจวชุ่ยหลาน เ้าคิดจะทำอะไรอีก!”
นางโจวแย่งชิงตัวลูกไม่ทัน จึงหัวเราะกลบเกลื่อน
“ข้าจะทำอะไรได้? ก็แค่เด็กพูดจาไร้สาระ ข้าอุตส่าห์หวังดีเอาของกินมาให้! ตอนนี้กลับหาว่าข้าใส่ยาพิษ หากรู้เช่นนี้แต่แรก ข้าเอาไปให้หมายังจะดีกว่าเอามาให้พวกเ้าสองแม่ลูกเสียอีก!”
เสิ่นม่านจับมือเสี่ยวหลานเอาไว้ไม่ยอมปล่อย จากนั้นมองนางโจวด้วยใบหน้าแสยะยิ้ม “เ้ารู้สึกถูกปรักปรำหรือ? เช่นนั้นข้ายกวอวอโถวเ่าั้ให้เ้ากินหมดดีหรือไม่?”
นางโจวชะงัก รู้สึกว่าหากตนเองยิ่งพูดก็จะยิ่งน่าสงสัย จึงไม่ต่อความเื่นี้อีก
นางเลื่อนสายตาอสรพิษไปทางเสี่ยวหลาน อาศัยจังหวะที่เสิ่นม่านไม่ทันตั้งตัวและพุ่งไปหยิกเด็กน้อยหนึ่งที “นางตัวล้างผลาญ เพราะเ้าวิ่งโร่มาพูดจาไร้สาระแท้ๆ!”
“หากว่ามีพิษจริง เช่นนั้นไยจึงไม่คร่าชีวิตของพวกเ้าสองคนไปด้วย! หืม? เ้าพูดมาสิว่าข้าทำไม่ดีต่อพวกเ้าตรงไหน? ไยจึงเที่ยวให้ร้ายแม่ของพวกเ้าเช่นนี้!”
“เ้าตัวล้างผลาญ! พูดมากนักนะ ข้าจะจับเ้ามาฉีกปากเดี๋ยวนี้...”
สาวน้อยใจนตัวสั่นเทา จึงหลบซ่อนอยู่ในอ้อมแขนของเสิ่นม่านแล้วร้องไห้
เสิ่นม่านอดกลั้นมาสักพักแล้ว พอได้โอกาสจึงคว้าหมับเข้าที่ลำคอของนางโจว “ข้าอดทนกับเ้ามานานแล้ว ขืนยังกล้าแตะนางอีก เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะบีบคอเ้าให้ตายเดี๋ยวนี้?!”
นางโจวแขนขาสั้น นางยื่นกรงเล็บมาคว้าใบหน้าของเสิ่นม่านอยู่นานแต่เกี่ยวไม่ถึง กลับถูกอีกฝ่ายง้างมือตบเข้าที่ใบหน้า
นางล้มลงไปนั่งบนพื้นพลางนวดก้นที่ถูกกระแทกจนเจ็บ โมโหจนเส้นขมับเต้นตุบๆ “ข้าสั่งสอนลูกสาวข้า เกี่ยวอะไรกับคนชั้นต่ำอย่างเ้าด้วย?!”
เสิ่นม่านจ้องมองนางจากมุมสูงอย่างเ็า “พวกเขาไม่ใช่แค่ลูกของเ้า แต่ยังเป็ลูกของพี่ชายข้าด้วย! อย่างน้อยเ้าก็เป็แม่คน อย่าใจร้ายให้มันมากนัก!”
นี่คือการขู่…
เดี๋ยวนี้กระทั่งนังตัวดีก็ยังกล้าขู่นางด้วยหรือ?
ทว่านางโจวหวาดกลัวเกินกว่าจะกล้าตอบโต้ ความเปลี่ยนแปลงในสองวันนี้ของเสิ่นม่าน ทำให้นางรู้สึกเหมือนกำลังมีรับมือกับคนแปลกหน้าอยู่อย่างบอกไม่ถูก
นางโจวตอกกลับทันใด
“เฮอะ! แล้วเ้าเองทำตัวเช่นไร ยังมีหน้ามาว่าข้าด้วยหรือ? ต่อหน้าข้าไยต้องมาเสแสร้งเป็แม่หมาป่าใจดีปกป้องลูกอีก?”
เสิ่นม่านเหยียบไปที่มือของนางโจว ทำให้นางเ็ปจนร้องโอดครวญ ได้ยินเพียงเสิ่นม่านส่งเสียงเยือกเย็น
“ดังนั้นนางจึงได้รับเคราะห์กรรม และข้าถึงต้องมาที่นี่!”
“นางโจว เมื่อคืนเ้าพูดอะไรออกมาข้าล้วนจำได้ทั้งหมด หากต่อไปเ้ากล้าคิดแตะต้องเด็กๆ ข้าจะทำให้เ้านึกเสียใจที่เกิดมาบนโลกนี้! เข้าใจหรือไม่?!”
นางรับเคราะห์กรรมอะไร? ผู้ใดมาที่นี่? เหตุใดยิ่งฟังก็ยิ่งงุนงง?
นางโจวถูกั์ตาดำขลับของอีกฝ่ายจดจ้องจนหลังเย็นะเื แล้วยังปวดมือ จึงได้แต่ยอมจำนน “เข้า เข้าใจแล้ว”
เสิ่นม่านจึงปล่อยนางไป
นางโจวรีบกุลีกุจอลุกขึ้นและพาเสี่ยวหลานกลับไป พร้อมกับมือที่สั่นเทา
พอพวกนางสองคนจากไป ต้าเป่ารีบมาโอบขาของนางไว้แน่น เสิ่นม่านก้มศีรษะลงเห็นน้ำตาเม็ดโตของต้าเป่า
“ท่านแม่ พี่เสี่ยวหลาน พวกนางน่าสงสารจริงๆ นะ ท่านป้าสะใภ้มักจะทุบตีพวกนางเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง...”
เสิ่นม่านคิดถึงรอยฟกช้ำที่แขนของเด็กน้อย หัวใจเริ่มหน่วง นางเอ่ยถามต้าเป่า “แล้วแม่ล่ะ สมัยก่อนก็ตีต้าเป่าเช่นนี้เหมือนกันใช่หรือไม่?”
ต้าเป่าตอบอย่างไร้เดียงสาว่า “ไม่ ทุกครั้งที่ท่านแม่ตีก็มักจะให้ต้าเป่ากินของอร่อย ต้าเป่ารู้ว่าแท้จริงแล้วท่านแม่รักข้ามาก”
เสิ่นม่าน “...”
นี่มันความรักแบบไหนกัน?
เสิ่นม่านแอบเงี่ยหูฟังอยู่สักพัก เมื่อไม่ได้ยินเสียงด่าทอจากบ้านข้างๆ จึงโล่งอก
นางโจวไม่ใช่คนดีอะไร เด็กทั้งสองคนอยู่กับนางมีแต่จะลำบาก
เพื่อป้องกันไม่ให้หลานทั้งสองคนถูกขาย เห็นทีวันรุ่งขึ้นนางต้องไปหาหัวหน้าหมู่บ้านเพื่อถามว่าจะขออำนาจการเลี้ยงดูมาได้หรือไม่
นางพักความคิดเื่นี้ไว้ก่อนชั่วคราว จากนั้นก้มลงมองและเห็นต้าเป่ากำลังจ้องวอวอโถวอย่างเหม่อลอย
หลังจากยุ่งเกือบทั้งวัน เด็กคงหิวแล้ว นางเรียกต้าเป่ามาและบอกเหตุผลกับเขาอย่างจริงจัง
“ต้าเป่า ต่อไปไม่ว่าผู้ใดจะเอาอะไรให้เ้า ขอเพียงแม่ไม่ได้อนุญาต เ้าก็ห้ามกินเด็ดขาด เข้าใจหรือไม่?”
เมื่อเห็นต้าเป่ามองนางอย่างไร้เดียงสา เสิ่นม่านปวดใจ นางนวดแก้มที่ผอมซูบของเขาและพูดอย่างจริงจัง
“บนโลกนี้มีคนชั่วช้ามากมาย พวกเขาจะใส่ยาไว้ในอาหาร พอเ้ากินเข้าไปก็จะหมดสติและถูกจับตัวไป ต่อไปจะไม่ได้เจอกับแม่อีก”
พวกค้ามนุษย์ ไม่ว่ายุคสมัยไหนก็มี ยุคนี้ไม่มีกฎหมายสิทธิมนุษยชน การค้าขายมนุษย์เป็เื่ถูกกฎหมาย นางต้องปกป้องต้าเป่าให้ดี จะได้ไม่ถูกจับไป
จนกระทั่งต้าเป่าพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม เสิ่นม่านถึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกพร้อมหยิกแก้มของเขาด้วยรอยยิ้ม
“เด็กดี แม่จะทำเล่าปิ่ง [1] ให้เ้ากิน!”
ทั้งสองทํางานกันมาทั้งวัน จึงต้มน้ำร้อนอาบเพื่อชะล้างสิ่งสกปรกบนตัว แต่ไม่มีเสื้อผ้าสะอาดให้เปลี่ยน จึงได้แต่ใส่ชุดเดิมไปก่อน
เมื่อถึงเวลานอนเสิ่นม่านก็รู้สึกคันไปทั้งตัว เหมือนว่าจะอาบน้ำไม่สะอาด รู้สึกราวกับมีเห็บเหาไต่อยู่บนตัว เป็เช่นนี้ต่อไปคงไม่ได้ เห็นทีนางต้องหาโอกาสเข้าตำบลเพื่อหาเงินซื้อเสื้อผ้า!
นางคู้ตัวโอบกอดลูกชายและนอนหลับไปด้วยกัน
ขณะที่กำลังสะลึมสะลือ นางได้ยินเหมือนเสียงวัตถุหนักหล่นลงที่ลานบ้าน จึงสะดุ้งตื่นทันใด เสิ่นม่านลุกขึ้นจากเตียงหันไปที่ประตูและมองผ่านรอยแยกประตู
ภายใต้แสงจันทร์ นางเห็นเงาดำของคนกำลังคลำทางเข้ามาจากทางประตู
โจรหรือ?
ผู้คนละแวกบ้านนางหลายลี้ ย่อมรู้ดีว่าบ้านนางไม่มีสิ่งล้ำค่าอันใด เกรงว่าคงมีเป้าหมายคือนางแน่นอน
เสิ่นม่านกลั้นหายใจ จากนั้นก็คว้าท่อนไม้ที่หนาเท่าท่อนแขนตรงข้างประตูมาถือไว้
เมื่อชายหนุ่มเปิดประตูออก นางก็เอาตะกร้าข้างเท้าครอบไปที่ศีรษะของชายคนนั้นและใช้ท่อนไม้ฟาดลงไปเต็มแรง
“ใครก็ได้! ช่วยด้วย! จับโจรเร็วเข้า!”
ในความมืดมิด เสิ่นม่านปากร้องะโมือก็ฟาดต่อไม่ยั้ง ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายโดนฟาดไปกี่ครั้ง ชายคนนั้นเจ็บจนรีบมุดหนีเปะปะไร้ทิศทางพลางส่งเสียงร้องเ็ป
ขณะที่กำลังจะกำลังจะหนีไปทางประตูลานบ้าน เสิ่นม่านก็เปิดตะกร้าที่ครอบศีรษะเขาออก
ในที่สุดเสิ่นม่านก็เห็นอย่างชัดเจนว่าคนที่มาก็คือชายชู้ที่นางโจวแอบมีอะไรด้วยคืนนั้น
เมื่อนึกถึงการกระทำของนางโจวใน่กลางวันและคำสนทนาของทั้งสองในคืนนั้น เสิ่นม่านก็รู้ว่าคนผู้นี้มาเพื่อขโมยเด็ก!
ชายชู้เห็นนางจำตนเองได้ก็ไม่เกรงกลัวอีก สู้จัดการให้มันจบๆ ไปดีกว่า
ฆ่านางและชิงตัวเด็กไป!
เขาคว้ามีดสั้นออกมาจากข้างเอว จากนั้นชี้ไปที่ใบหน้ากลมของเสิ่นม่าน “นางอ้วน รนหาที่เองนะ!”
พูดจบ มีดก็พุ่งมาพร้อมกับเสียงลมหวิว เสิ่นม่านไม่ทันตั้งตัว นางล้มกลิ้งไปด้านข้างและหลบพ้นปลายมีดได้อย่างสวยงาม
นางลุกขึ้นจากพื้นด้วยสภาพน่าสมเพช ชายชู้ถือใบมีดพุ่งเข้ามาอีกครั้ง เสิ่นม่านหลบไม่พ้น จึงใช้มือจับใบมีดไว้
ความเ็ปแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เสิ่นม่านรู้สึกว่าเืเปื้อนมือจนเหนียวเหนอะ นางเ็ปจนมือชาไปครึ่งหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะอุทานว่า “มารดามันเถอะ!”
โดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบ นางพุ่งตัวเข้าไปและใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้าเ็คว้าลำคอของชายชู้ จากนั้นออกแรงตวัดขาสุดแรงเกิด
ชายชู้ถูกเสิ่นม่านตวัดเกี่ยวขา พลันรู้สึกว่าโลกหมุนคว้าง เมื่อได้ยินเสียงตุ้บ เขาก็ถูกนางจับกดไว้ข้างล่างเสียแล้ว
กระบวนท่านี้ของเสิ่นม่านไร้เทียมทานไม่มีช่องโหว่ สำคัญคือรวดเร็วและแม่นยำ ทันทีที่น้ำหนักของนางทับลงไป ชายชู้ก็แทบกระอักเป็เื
ตอนนี้เขาเป็ฝ่ายอยากร้องขอความช่วยเหลือมากกว่า…
-----
เชิงอรรถ
[1] เล่าปิ่ง 烙饼 คือขนมแป้งทอดชนิดหนึ่งของจีน (Chinese pancake) โดยมากทำจากแป้งสาลี ผสมน้ำหรือของเหลวอื่น