ซูอินวางกระเป๋าลงบนโต๊ะตรงทางเดิน หยิบกล่องดินสอที่มีบัตรประจำตัวประชาชน เอกสารยืนยันตัวผู้สอบ แล้วมองผ่านหน้าต่างตรงโถงทางเดินเข้าไปในห้อง
หากจำไม่ผิด…
ในความทรงจำ เธอเห็นหลิงเมิ่งนั่งอยู่ตรงนั้น
การสอบขึ้นมัธยมปลายเป็การสอบใหญ่ นักเรียนมัธยมต้นทั้งเมืองจะมาอยู่คละกัน ซึ่งบังเอิญมากที่เธอกับหลิงเมิ่งได้สนามสอบเดียวกัน
เมื่อดวงตาประสาน อีกฝ่ายเบิกตากว้างมองเธออย่างกับเห็นผี
หากจะบอกว่านี่เป็เพียงการคาดเดา ในตอนนี้เธอมั่นใจมากในการตัดสินใจของตนเอง
ครูคุมสอบเดินเข้ามา ตรวจสอบเอกสารต่างๆ ตามกฎระเบียบก่อนเข้าสู่การสอบ คุณครูตรวจอย่างจริงจัง หยิบกล่องดินสอแบบใสขึ้นมาส่องกับแสงอาทิตย์ เพื่อให้มั่นใจว่าด้านในไม่มีการขีดเขียน
ซูอินเห็นสีหน้าผิดหวังของหลิงเมิ่งจึงหันไปยิ้มให้ ก่อนที่ใบหน้าเย็นะเืจะยิ้มตอบ
ชาติก่อนกล่องดินสอของเธอถูกกระทำการบางอย่าง
ชาตินี้ส่งคนมาสกัดการสอบของเธอ…
หลังจากเซ็นชื่อยืนยันตัวตน ซูอินกลับไปที่นั่งของตนเอง เธอมองหลิงเมิ่งที่หันกลับมา อีกฝ่ายจ้องเธอเขม็งด้วยแววตาลุกโชนดั่งเปลวเพลิง ในใจเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาและรำคาญใจ
“การสอบจะเริ่มแล้ว ห้ามนักเรียนทุกคนกระซิบกระซาบและมองซ้ายมองขวาเด็ดขาด”
กริ่งคุมสอบดังขึ้น คุณครูหันไปตรวจซองใส่ข้อสอบที่ปิดสนิท เมื่อตรวจสอบเอกสารเซ็นชื่อของนักเรียนแล้วจึงพูดเตือนนักเรียนทุกคน
หลิงเมิ่งหันกลับมาอย่างไม่เต็มใจ ซูอินไล่ความคิดซับซ้อนเ่าั้ออกไป
การสอบต่างหากคือเื่สำคัญที่สุด
ส่วนหลิงเมิ่ง…เมื่อซูอินนึกถึงการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่สิ้นสุดสักทีของอีกฝ่าย เธอกวาดตาไปรอบๆ ด้วยสีหน้าผ่อนคลายมากขึ้น
เมื่อรับรู้ชัดเจนแล้ว จึงรวบรวมสติ และรับกระดาษข้อสอบมาจากคุณครู
ข้อสอบถูกแจกก่อนการสอบห้านาที หลังจากเขียนชื่อและตรวจสอบเลขประจำตัวผู้เข้าสอบ ไม่สามารถทำข้อสอบล่วงหน้า ซูอินนั่งตัวตรงก่อนจะทบทวนโจทย์
มันคือข้อสอบชุดนี้!
แม้ว่าเธอเคยดูคร่าวๆ ว่าเป็ข้อสอบเดิมกับในชาติก่อน แต่ซูอินก็ไม่ได้เข้าใจทั้งหมดอย่างถ่องแท้ ่ที่ทบทวนเธอจึงตั้งใจมาก การบ้านที่ครูให้เธอก็ไม่เคยผัดวันประกันพรุ่ง เมื่อมีเวลาก็จะอ่านหนังสือเพิ่มพูนความรู้
เพราะเกรงว่าจะเจอข้อสอบที่ไม่เหมือนกับที่คิดและทำให้เสียเวลา
โจทย์ทั้งหมดในวันนี้ตรงกับที่คิด ในที่สุดก็โล่งใจได้เสียที ขณะเดียวกันใจเธอก็โบยบิน
ส่วนหลิงเมิ่งนั่น ถูกโยนทิ้งโดยที่เธอไม่คิดสนใจ
แม่สาวน้อยช่างใจกว้างอะไรเช่นนี้
เสียงนกหวีดให้ลงมือทำข้อสอบ เธอถือปากกาเจลดำไว้ในมือ ก่อนบรรจงเขียนลงไป
คนที่มีอารมณ์ความรู้สึกแตกต่างจากเธอในตอนนี้คงไม่พ้นหลิงเมิ่งที่กำลังหัวหมุน
(พินอินในข้อใดถูกต้องทั้งหมด…)
ด้านล่างมีคำศัพท์ทั้งหมดสิบหกคำ ทุกคำมีพินอินตัวเล็กๆ สีดำเขียนประกอบไว้ คำศัพท์ต่างๆ หลิงเมิ่งรู้จัก แต่การให้ระบุพินอินอย่างชัดเจน เธอทำไม่ได้!
(ข้อใดต่อไปนี้คือคำที่ใช้แทนกันได้…)
ด้านล่างมีคำโบราณสี่คำที่ค่อนข้างคุ้นตา แต่คุ้นมันก็ส่วนคุ้น เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าคำไหนคือคำแทน
ปกติหลิงเมิ่งไม่ใช่คนตั้งใจเรียน โดยเฉพาะใน่นี้ ความคิดทั้งหมดของเธอไปอยู่ที่ “พี่ใหญ่” ของโรงเรียน โดยใช้อันธพาลเข้ามาสร้างปัญหาก่อกวนซูอิน
พ่อแม่ของเธอไม่ได้ปกปิดความจริงที่้านำซูอินกลับมาอยู่ด้วย แม้ว่าแม่จะเคยอธิบายว่านี่เป็เพียงแผนรับมือชั่วคราว แต่เธอไม่เชื่อเด็ดขาด
เลี้ยงมาตั้งสิบหกปี จะไม่มีความรู้สึกได้อย่างไร!
โดยเฉพาะผลคะแนนยอดเยี่ยมของซูอิน ส่วนตัวเธอได้ที่โหล่ เทียบง่ายๆ คนหนึ่งคือ์ อีกคนคือนรก หลังจากที่ผลสอบออกมา ความต่างขนาดนี้ พ่อและแม่คงยอมเด็กป่าเถื่อนคนนั้นอย่างแน่นอน
เธอไม่มีทางยอมให้เื่แบบนี้เกิดขึ้นแน่!
เธอนำเงินในกล่องออกมาใช้หมด จนสามารถจ่ายเงินให้พี่ใหญ่ไปขัดขวางซูอิน เดิมทีเธอคิดว่ามันไม่มีทางพลาด ซูอินมาสอบไม่ได้ ไม่มีคะแนน ไม่มีทางที่เธอจะมาปรากฏตัวในสนามสอบ
แล้วเป็แบบนี้ได้อย่างไร
หลิงเมิ่งเสียเวลาเอง เธอในตอนนี้หงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่สามารถรวบรวมสมาธิ โจทย์ข้อสอบกลายเป็ดั่งสาส์นจาก์
ครูคุมสอบเดินไปด้านหน้าที ด้านหลังที เดินไปท่ามกลางผู้สอบเพื่อตรวจสอบสถานการณ์เป็ระยะ
และแล้วพวกเขาก็เจอเื่แปลก
นักเรียนหญิงคนหนึ่งที่นั่งติดหน้าต่างฝั่งทางเดินแทบจะไม่ได้ตอบคำถาม คิ้วของเธอขมวดเป็ปม เห็นได้ชัดว่าข้อสอบทำให้เธอเจอความยากลำบากเสียแล้ว
หนึ่งในครูคุมสอบคือครูสอนภาษาจีน เธอมองกระดาษข้อสอบของนักเรียนและพบว่าข้อสอบปีนี้ค่อนข้างยาก นักเรียนของเธอมาจากโรงเรียนชนบท เรียนไม่ยากขนาดนี้
เธอกลัวว่านักเรียนจะทำคะแนนสอบออกมาได้ไม่ดี
ครูคุมสอบขมวดคิ้ว ไม่นานเธอก็จัดการเื่น่าหนักใจนี้ได้ ความยากนี้ก็ยากสำหรับทุกคน อันที่จริงไม่ได้ต่างกันเท่าไร
แต่ไม่นานความรู้สึกความเข้าใจของเธอก็ถูกโจมตี
เมื่อเธอหันกลับมาเห็นนักเรียนหญิงอีกคนที่อยู่ด้านหลัง นักเรียนคนนั้นตอบคำถามอย่างว่องไว ผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็ทำข้อสอบในหัวข้ออ่าน คืบหน้าเกินกว่านักเรียนส่วนใหญ่ในห้อง
ไม่ได้หลอกกันใช่ไหม
ด้วยความสงสัย เธอมายืนอยู่ตรงหน้าซูอิน หยิบข้อสอบที่ซูอินทำเสร็จแล้วและวางอยู่ข้างๆ ขึ้นมา เธอดูั้แ่คำตอบข้อแรก ยิ่งดูก็ยิ่งตะลึง
ตอบถูกทั้งหมด แม้แต่ข้อสอบอ่านภาษาจีนโบราณก็ไม่ผิดเลยสักข้อ
เติมช่องว่างในบทกวีที่แม้แต่เธอเองยังไม่รู้จัก เด็กคนนี้ก็สามารถตอบได้ ตัวอักษรในช่องก็เรียบร้อย ลายมือดูสบายตามาก
เธออดไม่ได้ที่จะมองชุดนักเรียนของซูอิน บนหน้าอกมีตราของโรงเรียนมัธยมทดลอง
เป็นักเรียนของโรงเรียนมัธยมทดลองหรอกหรือ เห็นเช่นนั้นก็ทำให้เธอค่อนข้างโล่งใจ ยิ่งไปกว่านั้นเด็กคนนี้คงเป็นักเรียนดีเด่นของโรงเรียนมัธยมทดลอง
นักเรียนจากโรงเรียนอื่น
เมื่อครูให้ความสนใจเด็กนักเรียนสักคนหนึ่ง ซึ่งในสนามสอบมักจะพบนักเรียนเก่งๆ เช่นนี้ แม้จะไม่ใช่นักเรียนจากโรงเรียนของตนเอง แต่ครูผู้คุมสอบก็ไม่อาจซ่อนความรู้สึกชื่นชม ่เวลาสอบที่เหลือเธอจึงยืนอยู่ข้างๆ ซูอิน
แน่นอนว่าสิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อซูอิน
เธอต้องชะลอความเร็วในการตอบคำถามเพื่อไม่ให้ครูเห็นความผิดปกติ อันดับแรกเธอยังชินกับการเขียนแบบผู้ใหญ่ แต่ตอนนี้เธอต้องเขียนช้าๆ ทำให้ลายมือเรียบร้อยมากกว่าเดิม
เมื่อดูโจทย์เรียงความจากภาพการ์ตูนแล้ว เธอวางปากกาเพื่อตั้งใจคิด และเขียนโครงร่างอย่างระวังบนกระดาษทด
เธอปรับแิและโครงสร้างของตัวอย่างที่ร่างไว้อีกครั้ง เพื่อให้ออกมาเป็เรียงความที่ดีที่สุด
ครูผู้คุมสอบรู้สึกว่ามันยากที่จะอธิบายออกมาเป็คำพูด
โจทย์เรียงความนี้ค่อนข้างยาก ไม่คิดว่าสาวน้อยคนนี้จะสามารถสรรค์สร้างผลงานอันวิจิตรออกมาได้ในเวลาอันสั้น เขียนอย่างลื่นไหล แสดงความคิดได้ชัดเจน หากเธอได้ตรวจข้อสอบฉบับนี้ แน่นอนว่าต้องให้คะแนนเต็มอย่างแน่นอน
เดิมทีซูอินท่องคำตอบมาแล้วอย่างดี เพียงเขียนลงไปตามนั้น และสามารถส่งข้อสอบก่อนเวลากำหนด แต่หลังจากอ้อยอิ่ง ทำให้เธอเขียนคำตอบเสร็จพอๆ กับผู้เข้าสอบคนอื่น
แน่นอนว่าระดับความเร็วของเธอถือว่าไม่ช้า เพราะโจทย์ค่อนข้างยาก ตอนที่กริ่งเก็บข้อสอบดัง มีนักเรียนหลายคนที่ยังเขียนไม่เสร็จ รวมถึงหลิงเมิ่งที่ใจลอย ในเวลานี้เธอกำลังต่อสู้อย่างดุเดือดกับครูผู้คุมสอบ
เห็นเช่นนั้น ซูอินก็อดยิ้มไม่ได้