บทที่ 9 : แขกยามวิกาล กับวิชาตัวเบาฉบับฟิสิกส์
ดวงจันทร์กลมโตลอยเด่นอยู่กลางท้องฟ้ายามรัตติกาล สาดแสงสีเงินยวบยาบลงมากระทบหลังคากระเบื้องเคลือบของคฤหาสน์ตระกูลหลิว บรรยากาศเงียบสงัด มีเพียงเสียงจิ้งหรีดเรไรที่ร้องระงมเป็เพื่อนแก้เหงา
ณ ระเบียงห้องพักรับรองฝั่งตะวันตก
แป้งหอม ในชุดนอนผ้าแพรสีขาวบางเบา (ที่หลิวชิงชิงจัดหามาให้) นั่งห้อยขาอยู่บนราวระเบียง เหม่อมองดวงจันทร์ด้วยสายตาว่างเปล่า
"เฮ้อ... ป่านนี้ที่โลกนู้นจะเป็ยังไงบ้างนะ..." เธอพึมพำกับตัวเอง
ความคิดถึงบ้านเริ่มเกาะกุมหัวใจ แม้ร่างใหม่จะสวยเช้งวับ และมีหนุ่มในฝันอย่าง ต้นกล้า มาอยู่ข้างๆ แต่โลกที่ไร้สัญญาณอินเทอร์เน็ต ไร้แอร์เย็นฉ่ำ และต้องเสี่ยงตายรายวันแบบนี้ มันก็อดใจหายไม่ได้
"คิดถึงแม่เหรอ?"
เสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลัง แป้งหอมสะดุ้งเล็กน้อย หันไปเห็นต้นกล้าเดินออกมาจากเงามืด เขาอยู่ในชุดนอนสีขาวเช่นกัน ผมยาวสลวยที่ยังไม่แห้งสนิทถูกปล่อยสยายลงมาเคลียบ่า กลิ่นสบู่สมุนไพรหอมอ่อนๆ ลอยมาแตะจมูก
"อื้อ... คิดถึงแม่ คิดถึงเตียงนุ่มๆ แล้วก็... คิดถึงชาไข่มุก" แป้งหอมตอบเสียงอ่อย
ต้นกล้าเดินมายืนพิงเสาข้างๆ เธอ สายตามองไปที่ดวงจันทร์ดวงเดียวกัน
"เราก็คิดถึง... ป่านนี้ครูคงโทรแจ้งผู้ปกครองวุ่นวายกันหมดแล้ว แม่เราคงร้องไห้ขี้มูกโป่งแน่ๆ"
บรรยากาศแห่งความเศร้าปกคลุมคนทั้งคู่ แต่ในความเศร้านั้นกลับมีความอุ่นใจที่มีอีกคนคอยรับฟัง
แป้งหอมเงยหน้ามองเสี้ยวหน้าด้านข้างของต้นกล้า แสงจันทร์ตกกระทบสันจมูกโด่งและขนตายาวงอน ทำให้เขาดูหล่อเหลาราวกับเทพบุตรที่หลุดออกมาจากภาพวาด
"แต่มองในแง่ดี..." แป้งหอมพยายามเปลี่ยนเื่ "อย่างน้อยเราก็ได้มาผจญภัยด้วยกันนะ แถมได้ร่างเทพๆ มาด้วย ถือว่าคุ้ม... มั้ง?"
ต้นกล้าหันมาสบตาเธอ มุมปากยกยิ้มจางๆ ที่ทำเอาหัวใจแป้งหอมกระตุก
"อืม... คุ้ม"
เขาตอบสั้นๆ แต่สายตาที่สื่อความหมายทำเอาแป้งหอมหน้าร้อนวูบ
‘คุ้มอะไรยะ? คุ้มที่ได้ร่างใหม่ หรือคุ้มที่ได้อยู่กับฉัน? โอ๊ยยย อย่ามองแบบนี้สิ ใจบางหมดแล้ว!’
ฟุ่บ!
เสียงแหวกอากาศแ่เบาขัดจังหวะโรแมนติก
สัญชาตญาณใหม่ของต้นกล้ากรีดร้องเตือนภัย เขารีบคว้าไหล่แป้งหอมแล้วกระชากร่างเธอให้หมอบลงทันที!
เคร้ง! เคร้ง!
ดาวกระจายสีเงินสองดอกปักฉึกเข้าที่เสาไม้ด้านหลัง ตรงจุดที่ศีรษะของแป้งหอมเคยอยู่เมื่อเสี้ยววินาทีที่แล้ว!
"ใครน่ะ!" ต้นกล้าะโก้อง ั์ตาเปลี่ยนเป็แข็งกร้าว
เขาผลักแป้งหอมไปหลบหลังเสา "แป้ง! หลบไป! อย่าออกมา!"
เงาร่างสีดำสามสายะโลงมาจากหลังคาเรือนอย่างเงียบเชียบ ราวกับแมวป่า
นักฆ่าชุดดำปิดหน้ามิดชิดสามคน ยืนล้อมกรอบต้นกล้าไว้ แววตาอำมหิตจ้องเขม็ง
"ส่งมอบ 'ของสิ่งนั้น' มาซะ... แล้วข้าจะไว้ชีวิต" หนึ่งในนักฆ่าเอ่ยเสียงแหบพร่า
"ของ? ของอะไรวะ?" ต้นกล้าขมวดคิ้ว "ฉันมีแค่ไม้กันสั่นกับเสื้อนักเรียนเน่าๆ อยากได้ก็เอาไปดิ!"
"อย่ามาไขสือ! พลังประหลาดของพวกเ้า... มันมาจาก 'คัมภีร์เซียนา' ใช่หรือไม่!"
‘คัมภีร์บ้าบออะไรอีกวะเนี่ย’ ต้นกล้าคิดในใจ แต่ปากตอบไปว่า
"ผิดแล้วพี่ชาย พลังนี้ได้มาจากการกินไก่อบดินกับน้ำเปล่าล้วนๆ... ถ้าพี่อยากได้สูตร เดี๋ยวผมจดให้!"
"ปากดีนักนะ! ฆ่ามัน!"
นักฆ่าทั้งสามไม่พูดพร่ำทำเพลง พุ่งเข้าใส่พร้อมกระบี่ในมือ
ต้นกล้าไม่มีอาวุธ แต่เขามีสมองระดับอัจฉริยะและร่างกายระดับยอดมนุษย์
เขาเพ่งสมาธิ... ภาพการเคลื่อนไหวของศัตรูดูเชื่องช้าลงในสายตาเขา
‘คนแรกแทงขวา... คนสองฟันล่าง... คนสามอ้อมหลัง... คำนวณวิถี...’
ต้นกล้าเอี้ยวตัวหลบคมกระบี่แรกด้วยองศาที่ฉิวเฉียดชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด
จากนั้นใช้กฏข้อที่ 3 ของนิวตัน (Action = Reaction)
เขากระทืบเท้าลงพื้นส่งแรงปะทะ แล้วเหวี่ยงหมัดขวาตรงเข้าใส่ท้องน้อยของนักฆ่าคนแรก
ตึ้บ!
"อั้ก!" นักฆ่าตัวงอเป็กุ้ง แต่อีกสองคนไม่รอช้า รุมเข้ามาพร้อมกัน
"แป้ง! ก้มหัว!"
ต้นกล้าะโบอกสัญญาณ แป้งหอมที่แอบดูอยู่ เข้าใจทันที เธอหยิบแจกันลายครามใบงามข้างตัว แล้วขว้างออกไปสุดแรงเกิด!
"รับไป! ลูกตบวอลเลย์บอลมหากาฬ!"
แจกันพุ่งแหวกอากาศด้วยความเร็วสูง เข้าปะทะหน้าผากนักฆ่าคนที่สองอย่างจัง!
เพล้ง!
นักฆ่าหงายหลังล้มตึง สลบเหมือดไปทันที
"เฮ้ย! นั่นแจกันสมัยราชวงศ์ถังเลยนะแป้ง!" ต้นกล้าร้องโวยวาย (เสียดายของเก่า)
"ช่างมันเถอะน่า! ชีวิตสำคัญกว่า!" แป้งหะโกนกลับ
นักฆ่าคนสุดท้าย (หัวหน้า) เห็นลูกน้องพลาดท่า ก็สบถคำหยาบแล้วใช้วิชาตัวเบา ะโลอยตัวขึ้นไปบนหลังคา
"ฝากไว้ก่อนเถอะ!"
"คิดจะหนีเหรอ!?" แป้งหอมของขึ้น "มาทำลายบรรยากาศจู๋จี๋... เอ้ย บรรยากาศชมจันทร์ของแม่ แล้วคิดจะหนีง่ายๆ เหรอ! กล้า! ตาม!"
แป้งหอมปีนระเบียง เตรียมจะะโตาม
แต่...
"เดี๋ยวแป้ง! เราใช้วิชาตัวเบาไม่เป็นะ!" ต้นกล้าเตือน
"ไม่ต้องใช้เทคนิค! ใช้แรงควายถึกๆ นี่แหละ!"
แป้งหอมย่อเข่า เกร็งกล้ามเนื้อขา แล้วดีดตัวผึง!
ร่างของเธอลอยละลิ่วขึ้นไปบนอากาศ สูงกว่าหลังคาเกือบสองเมตร!
"วู้วววว! ฉันบินได้!" เธอร้องลั่นอย่างสนุกสนาน
แต่ปัญหาคือ... ขาลง
"เฮ้ย! เบรกยังไงวะ!?"
โครม! เพล้ง!
แป้งหอมลงจอดบนหลังคา... ทะลุกระเบื้องแตกเป็รูกว้าง ขาข้างหนึ่งจมลงไปในหลังคา
"แป้ง!" ต้นกล้ารีบะโตามขึ้นไป (ด้วยการคำนวณวิถีโค้งพาราโบลาที่แม่นยำกว่า) เขาลงจอดอย่างนิ่มนวล แล้วรีบไปดึงขาแป้งหอมขึ้นมา
"เจ็บไหม!?"
"ไม่เจ็บ! แค่อาย!" แป้งหอมหน้าแดง "รีบตามไอ้ชุดดำนั่นไปเร็ว!"
ทั้งคู่ะโไล่กวดนักฆ่าไปตามหลังคาเรือนยามค่ำคืน
ภาพสองหนุ่มสาวในชุดนอนสีขาว ะโข้ามตึกรามบ้านช่องด้วยพละกำลังเหนืุ์ เป็ภาพที่แปลกตาและน่าตื่นเต้น
นักฆ่าหันกลับมามองด้วยความใ
"บ้าไปแล้ว! พวกมันไม่มีลมปราณหนุนร่าง แต่ะโไกลขนาดนี้ได้ยังไง!"
ต้นกล้าคำนวณระยะทาง
"ความเร็วต้นของมันลดลง... แรงต้านอากาศเริ่มมีผล... แป้ง! ขว้างอะไรก็ได้ไปสกัดขาหน่อย!"
"จัดไป!"
แป้งหอมล้วงมือเข้าไปในสาบเสื้อ (ที่ซ่อนกระเป๋ามิติ... เอ้ย กระเป๋าหน้าท้อง... ไม่ใช่! ซ่อนของไว้)
เธอหยิบ 'สมาร์ตโฟน' รุ่นเรือธงออกมา
"อาวุธลับตระกูลจ๊อบส์!"
เธอไม่ได้ขว้าง... แต่เธอกดเปิด 'ไฟฉาย' ในโหมดสว่างสูงสุด (Strobe Light) แล้วชี้ไปที่หน้านักฆ่า!
วาบ! วาบ! วาบ!
แสงไฟ LED สีขาวจ้ากะพริบถี่ๆ ท่ามกลางความมืดมิดของยุคโบราณ ส่งผลรุนแรงยิ่งกว่าะเิแสง
นักฆ่าที่ไม่เคยเจอแสงสังเคราะห์มาก่อนในชีวิต ร้องลั่นด้วยความเ็ป ตาพร่ามัวมองไม่เห็นทาง
"อ๊ากกกก! เนตรมาร! แสบตา!"
นักฆ่าเสียหลักก้าวพลาด สะดุดชายคาบ้าน ร่วงตุ้บลงไปกองกับพื้นถนนเบื้องล่าง!
ต้นกล้าและแป้งหอมรีบะโลงไปยืนขนาบข้าง
นักฆ่าพยายามจะลุกหนี แต่ต้นกล้าใช้เท้าเหยียบอกไว้แน่น
"ใครส่งแกมา?" ต้นกล้าถามเสียงเย็น
นักฆ่ากัดฟันกรอด "ข้าไม่... อึก!"
มันกัดลิ้นตัวเอง... ไม่ใช่ มันกัดแคปซูลยาพิษที่ซ่อนในปาก!
น้ำลายฟูมปาก ตาเหลือก แล้วแน่นิ่งไปในทันที
"เฮ้ย! ฆ่าตัวตายเฉยเลย!" แป้งหอมใ เอามือปิดปาก "โหดร้ายชะมัด..."
ต้นกล้าย่อตัวลงค้นตัวศพ เขาพบป้ายหยกสีดำแกะสลักรูป 'งูพันกระบี่'
"สัญลักษณ์นี่..." เขาขมวดคิ้ว "ดูเหมือนพวกเราจะไปเหยียบตาปลาใครเข้าให้แล้วล่ะแป้ง"
แป้งหอมกลืนน้ำลายลงคอ หันมองรอบกายที่เงียบสงัด
"นี่พวกเรา... หลุดเข้ามาในหนังแอ็กชันจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย?"
ต้นกล้าลุกขึ้นยืน เก็บป้ายหยกเข้าอกเสื้อ แล้วหันมาจับมือแป้งหอมไว้แน่น
มือของเขาอุ่นและชื้นเหงื่อเล็กน้อย
"ไม่ต้องกลัวนะ... ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะปกป้องเธอเอง"
คำสัญญาหนักแน่นท่ามกลางแสงจันทร์และศพนักฆ่า... โรแมนติกแบบเถื่อนๆ สไตล์คู่หูหลงยุค
แป้งหอมยิ้มกว้าง บีบมือตอบ
"ฉันก็เหมือนกัน... ถ้าใครมาทำร้ายนาย ฉันจะเอาไม้กันสั่นฟาดหน้ามันให้ยุบเลย!"
ทั้งสองมองตากันแล้วหัวเราะเบาๆ
แม้หนทางข้างหน้าจะเต็มไปด้วยอันตรายและปริศนา แต่ตราบใดที่มือยังจับกันไว้แบบนี้...
พวกเขาก็พร้อมจะซัดหน้าทุกคนที่ขวางทาง!
