พูดได้เลยว่าสำนักงานใหญ่ประจำเมืองหลวงของงานประมูลมีบรรยากาศที่อึมครึมมากั้แ่ชั้นหนึ่งร้อยหกสิบเป็ต้นไปของตึกใหญ่เมืองหลวงนี้เป็ของสาขาย่อยห้างประมูลเมืองหลวงแห่งห้างประมูลหัวซย่าทั้งหมดทั้งสองขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนสุดของตึกใหญ่เมืองหลวง ลิฟต์จอด ณ ชั้นหนึ่งร้อยเก้าสิบเก้าจากนั้นทั้งสองก็เดินออกมา
“สถานที่ไม่เลวเลยนี่ สถานที่สบายมากเลย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆหลิ่วเยียนเองก็ยิ้มน้อยๆ เธอเองก็มาที่นี่เป็ครั้งแรกเมื่อก่อนทำงานที่อู่เฉิงเป็หลัก แม้จะมาเมืองหลวงก็ยังไม่มีสิทธิ์จะมาที่นี่
“พี่หลิ่วเยียน มาสักทีนะ บอสรอมาชั่วโมงกว่าแล้ว” หญิงสาวสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซ็นติเมตรรายหนึ่งปรากฏตัวอยู่ตรงหน้ากัวไฮว่กับหลิ่วเยียนแล้วพูดขึ้นด้วยความยิ้มแย้ม “ท่านนี้คือคุณกัวไฮว่ใช่ไหมคะ เด็กมากจริงๆ บอสให้ฉันมารับพวกคุณ จริงสิลืมบอกไปเลย ฉันชื่อหลี่โม่หาน”
“เมียจ๋า ที่นี่มีคนสวยเยอะเลยนะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆทำเอาหลี่โม่หานหน้าหน้าแดง กัวไฮว่หมอนี่ร้ายจริงๆั้แ่แวบแรกที่เห็นเธอก็เหลือบมองหน้าอกกับขาของเธอ จริงสิเขาเรียกพี่หลิ่วเยียนว่าเมีย หรือว่า...หลี่โม่หานอดไม่ได้ที่จะมองทั้งคู่อีกรอบ
“บอส พวกเขามาแล้วค่ะ” หลี่โม่หานผลักประตูจากนั้นก็กล่าวกับชายอายุสามสิบปีผู้หนึ่งเบาๆ
“เธอไปทำธุระก่อนเถอะ เดี๋ยวถ้าฉันไม่ได้สั่งใครก็ห้ามเข้ามา” ชายวัยกลางคนพูดเบาๆ “เสี่ยวหลิ่วคิดว่าบ่ายนี้พวกเธอจะไม่มาซะอีก”
“บอสคะ พอดีมีเื่เลยช้าน่ะค่ะ” หลิ่วเยียนพูดยิ้มๆใบหน้าแดงก่ำขึ้นมาอีกครั้ง
“ไม่เป็ไรๆ เสี่ยวหลิ่ว แนะนำให้พวกเรารู้จักหน่อยสิ” ชายหนุ่มพูดยิ้มๆ
“กัวไฮว่ ยาในงานประมูลเมืองอู่เฉิงเป็ของเขาเองทั้งหมดเลยค่ะส่วนท่านนี้คือบอสของห้างประมูลหัวซย่าของเรา” หลิ่วเยียนพูดอย่างยิ้มแย้ม
“โม่เป่ยเฟิง” ชายวัยกลางคนก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับยื่นมือขวาออกมากัวไฮว่ก็ยื่นมือขวาออกมาเหมือนกัน มือทั้งสองก็จับเข้าด้วยกัน
“ประธานโม่ผมยังนึกว่าบอสใหญ่งานประมูลในครั้งนี้จะเป็ตาแก่หรืออย่างน้อยๆก็เป็คุณลุงเสียอีก ไม่คิดเลยว่าประธานโม่จะเด็กขนาดนี้” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ฮ่าๆ น้องกัวไฮว่พูดเกินแล้ว ฉันรู้จักกับหลี่เย่าพี่ใหญ่เธอด้วยนะแล้วก็เคยได้ยินชื่อเธอมาก่อน ว่ากันว่าเธอคือตัวอสรพิษเมืองอู่เฉิงฉันว่าพวกเขาเข้าใจผิดกันแน่ๆ น้องไฮว่จะเป็อสรพิษไปได้ยังไงกัน” โม่เป่ยเฟิงพูดยิ้มๆ
“ฮ่าๆ ประธานโม่ นั่งคุยกันเถอะครับ” กัวไฮว่ยิ้มพลางปล่อยมือออกในตอนนี้โม่เป่ยเฟิงจับข้อมือของเขาเบาๆ เดิมทีเขาอยากจะทดสอบกัวไฮว่สุดท้ายกลับไม่คิดเลยว่าแรงบนมือของกัวไฮว่จะเยอะกว่าเขามากและในที่สุดตัวเองก็เป็ฝ่ายเสียเปรียบไป
“น้องไฮว่ คราวก่อนเคยมีลูกน้องบอกว่าเธอได้กำไรมาไม่น้อยเลยนี่” โม่เป่ยเฟิงพูดยิ้มๆ
“แค่ของเล่นเล็กๆ น่ะครับ ผมแค่อยากได้เงินและก็ผูกมิตรนิดหน่อย” กัวไฮว่กล่าวยิ้มๆ “พี่โม่อยู่ขั้นสูงสุดของเขตแดนโฮ่วเทียนรอให้งานประมูลครั้งนี้เสร็จแล้วผมจะให้ยากระตุ้นปราณพี่เม็ดนึงนะ จะได้เข้าสู่เซียนเทียน”
“แค่กๆ ไอ้น้อง แบบนี้พี่ก็ขอบคุณนายล่วงหน้าเลยนะอันที่จริงฉันได้ยินมาว่ายากระตุ้นปราณนี่ได้ผลดีมาก ถ้าได้ผลแบบนี้จริงละก็ฉันรับประกันเลยว่าต้องประมูลได้ราคาสูงเทียบฟ้าแน่” โม่เป่ยเฟิงพูดยิ้มๆ
“เมียจ๋า ลากกระเป๋ามาหน่อยสิ” กัวไฮว่พูดกับหลิ่วเยียนอย่างยิ้มแย้มหลิ่วเยียนชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็ไปลากกระเป๋าเดินทางมาด้วยใบหน้าสีแดงก่ำ
“ฮ่าๆ ที่แท้เธอกับเสี่ยวเยียน ฮ่าๆต่อไปคงเรียกเสี่ยวเยียนไม่ได้อีกแล้วล่ะ ต้องเรียกน้องสะใภ้แล้วซิส่วนงานประมูลก็จะเป็อย่างนี้นะ ห้างประมูลของเราจะไม่เก็บค่าดำเนินการของพวกนี้ถือว่าเป็ของขวัญให้พวกเธอก็แล้วกัน ไว้พวกเธอจัดงานแต่งเมื่อไหร่พี่ยังมีของขวัญใหญ่ให้อีก” โม่เป่ยเฟิงพูดยิ้มๆ
“ฮ่าๆ งั้นก็ขอบคุณพี่มากเลยนะครับ วันนี้อากาศดีมากเลยให้พี่กินยากระตุ้นปราณหน่อยดีกว่าถ้าได้ผลไม่เหมือนกับที่ผมบอกเดี๋ยวผมเหมาค่าโฆษณาทั้งหมดของงานประมูลครั้งนี้เอง” กัวไฮว่ยิ้มพลางหยิบกล่องหยกออกมาจากตัวอีกครั้งจากนั้นก็ส่งเม็ดยาสีเขียวหยกไปให้โม่เป่ยเฟิง
“นะ...นี่คือยากระตุ้นปราณเหรอ” โม่เป่ยเฟิงกล่าวขึ้นด้วยความตื่นเต้นอันที่จริงบุคคลที่จะสามารถทำให้ผู้กุมห้างประมูลผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขาให้ตื่นเต้นได้มีไม่เยอะ
“นี่พี่ กินเข้าไปตรงๆ เลยแล้วกินเหล้านี่หน่อยนึง ไหนๆแล้วก็ให้พี่ชิมหน่อยว่าเหล้าที่ผมจะประมูลรสชาติเป็ยังไง” กัวไฮว่พูดพลางหยิบไหเหล้าใบนั้นมา แล้วก็หยิบแก้วใบหนึ่งเติมจนเต็มแก้ว
“ได้วันนี้ฉันก็จะชิมเหล้า์ที่พวกเมืองอู่เฉิงนั่นพูดถึงว่ารสชาติเป็ยังไง” โม่เป่ยเฟิงพูดพลางใส่ยาเข้าไปในปาก จากนั้นก็ดื่มเหล้าไปแก้วหนึ่งยาละลายอยู่ในเหล้า กลิ่นหอมหวนของเหล้าผสานรวมเข้ากับพลังงานอันร้อนระอุของยาทำให้โม่เป่ยเฟิงรู้สึกได้ถึงความสบายอย่างไม่เคยเป็มาก่อน
“คุมใจให้เย็นเอาไว้ก็พอแล้ว” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เมียจ๋า ที่นี่ไม่เลวเลยนะ มองเห็นวิวทั้งเมืองหลวงได้จากที่นี่ด้วยไว้ต่อไปเราสร้างตึกสูงมองปราดเดียวก็เห็นูเาน้อยใหญ่เลย” กัวไฮว่พูดพลางโอบหลิ่วเยียนเอาไว้ ทำให้หลิ่วเยียนหน้าแดงยิ่งกว่าเดิมทว่าเมื่อเห็นว่าโม่เป่ยเฟิงหลับตาอยู่ก็ปล่อยตามใจกัวไฮว่แล้วกัน
“เสี่ยวหาน ให้ฉันเข้าไป ฉันกับพี่เป่ยเฟิงเป็อะไรกันล่ะเธอไม่ต้องกังวลหรอก ถ้าเกิดเื่อะไรขึ้นฉันรับผิดชอบเอง” ประมาณสิบกว่านาทีกัวไฮว่ก็ได้ยินเสียงผู้ชายดังมาจากด้านนอก
“นายน้อยหนิว ครั้งนี้บอสได้กำชับเอาไว้แล้วค่ะว่าไม่ให้ใครเข้าไปคุณอย่าทำฉันลำบากใจเลยนะคะ” หลี่โม่หานพูดเบาๆเธอรู้จักคนที่จะบุกเข้ามาคนนี้ดี หรือจะบอกอีกอย่างว่าทั้งเมืองหลวงน้อยนักที่จะมีคนไม่รู้จักเขาหนิวเหมิ่ง เป็คนเ้าชู้ อันไหนเร้าใจก็เล่นด้วยหมดทว่านอกจากคนจากตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง ใครก็ไม่กล้าหาเื่หมอนี่เพราะเขามีปู่ที่รักเขาสุดชีวิตนั่นก็คือหนิวเทียนอวิ๋น หัวโจกกองทัพเมืองหลวง
“เสี่ยวหาน บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าฉันไม่เข้าใกล้ เธอไม่กลัวเหรอบอกเธอไว้ก็ได้นะว่า่นี้ฉันสนใจในตัวผู้หญิงมากเลย ถ้าเธอขวางฉันอีกละก็ฉันจะให้เป่ยเฟิงยกเธอให้เป็เมียฉัน” หลิวเหมิ่งมองหลี่โม่หานพร้อมกับพูดขึ้นหลี่โม่หานใจนร่นถอยก้าวมาด้านหลัง
“เป่ยเฟิง ฉันเข้ามาแล้วนะ ไม่ได้ทำเื่น่าอายอะไรอยู่หรอกใช่ไหม” หนิวเหมิ่งพูดพลางผลักประตูห้อง
“นี่สหาย พี่โม่เขาไม่สะดวกจะเจอนาย รบกวนรออยู่ที่ประตูหน่อยนะ” กัวไฮว่มองไปยังหนิวเหมิ่งที่มีรูปร่างเหมือนกันกับหลี่เย่าพี่ต่างสายเลือกของตนพร้อมกับพูดยิ้มๆ
“นายเป็ใครน่ะ เป่ยเฟิงเป็อะไรไป พวกเธอทำอะไรเขา” หนิวเหมิ่งเห็นว่าโม่เป่ยเฟิงนั่งขัดสมาธิ ลมหายใจรวยรินสีหน้าก็พลันถอดสีแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“ให้พี่โม่กินของดีอะไรนิดหน่อยน่ะ จะทำอะไรได้อีกล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “นี่นายตัวใหญ่ เราออกมาคุยกันหน่อย”
“ไสหัวไป ให้ฉันเข้าไปนะ ถ้าเขามีปัญหาอะไรขึ้นมาฉันบอกแกไว้เลยนะว่าแกได้ตายแน่” หนิวเหมิ่งพูดเสียงดัง
“นี่เ้าอ้วน ฉันก็บอกแกไว้เลยนะ ถ้าแกโวยวายแบบนี้อีกละก็จะส่งผลถึงพี่โม่ถึงตอนนั้นมีปัญหาอะไรขึ้นมาฉันจะไม่รับผิดชอบ” ประโยคของกัวไฮว่ทำเอาหนิวเหมิ่งหน้าแดงก่ำไปทั่วกัวไฮว่เองก็รู้แล้วว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้คือใครเพราะเขาเคยได้ยินพี่ใหญ่หลี่เย่าพูดถึงหนิวเหมิ่งแห่งเมืองหลวงคนนี้
“เ้าสี่ ตอนประลองอาวุธเมื่อหลายวันก่อนฉันได้รู้จักเ้าอ้วนคนหนึ่งเขาอยู่ที่เมืองหลวง ชื่อว่าหนิวเหมิ่ง ประลองอาวุธครั้งนี้อีกนิดพี่ก็จะแพ้แล้วแต่ว่าหมอนี่นิสัยเ้าเล่ห์ มันบอกว่าถ้ามีเวลาไว้เราไปที่เมืองหลวง เขาจะหาสาวๆสวยๆ มาให้” ก่อนที่จะเกิดเื่กับกัวไฮว่หลี่เย่าเคยพูดถึงหนิวเหมิ่งกับกัวไฮว่ เจี่ยหยวนและหวังเซิง