หวังก่วงผิง้าอดกลั้นโทสะ
แต่แม่เหอเจีย้าความสะใจชั่ววูบ
ความคิดและนิสัยของทั้งสองคนนั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่มันก็ทำให้แม่เหอเจียกร่างได้อย่างเต็มที่
คนอื่นสร้างเื่เพราะ้าการชดใช้ แล้วตระกูลเหอเล่าขาดเหลืออะไร?
เธอไม่ได้มาเพื่อขอให้ตระกูลหวังชดใช้ด้วยเงินทอง เดิมทีเธอก็เป็คนไร้เหตุผลอยู่แล้ว กู้ซือเหยียนเตือนเธอด้วยความหวังดี แต่เธอกลับตำหนิกู้ซือเหยียน ทั้งยังโทรไปที่บ้านตระกูลกู้อีกด้วย อาเล็กโจวนั้นรู้นิสัยเธอผู้นี้ดีว่าเป็คนโอหังเอาแต่ใจจนเคยตัว ตอนรับสายจึงไม่ปริปากเถียงสักคำ... ผู้หญิงที่ชอบเอาชนะคนอื่น เอาเปรียบคนอื่นตลอดเวลาแบบนี้ หากพาลโกรธใครขึ้นมาช่างน่ากลัวเหลือเกิน!
หากไม่พาลกล่าวโทษชั้นเรียนกวดวิชาแล้วจะทำอย่างไรได้อีก หรือจะให้เธอยอมรับว่าตนบกพร่องที่ดูแลลูกสาวไม่ดีพอ?
เธอไม่มีทางทำผิดพลาด ดังนั้นความผิดทั้งหมดจึงตกอยู่ที่ชั้นเรียนกวดวิชา!
เป็ ‘อาจารย์’ ที่ชั้นเรียนกวดวิชาที่ไม่มีความรับผิดชอบ เป็เ้าของชั้นเรียนกวดวิชาที่ไม่มีความรับผิดชอบ แม่เหอเจียใช้ชีวิตมาจนป่านนี้ยังไม่เคยพูดคุยด้วยเหตุผลกับใครมาก่อน และเธอก็ไม่จำเป็ต้องทำเช่นนั้น ผู้ชายของเธอแม้จะเป็เพียงหัวหน้าแผนกเล็กๆ ในกรมพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ เทียบกับหวังก่วงผิงที่เป็ถึงระดับหัวหน้าฝ่ายไม่ได้ แต่แล้วอย่างไรเล่า แม่เหอเจียไม่เคยก้มหัวให้ใคร!
หวังก่วงผิงตำแหน่งสูงแล้วอย่างไร ถึงยังไงก็ไม่อาจก้าวก่ายงานของกรมพัฒนาการศึกษาได้
แม่เหอเจียตอนนี้รู้สึกเสียใจเหลือคนา อยู่ดีไม่ว่าดีดันไปหลงเชื่อใบปลิวของชั้นเรียนกวดวิชาเสียได้ หากตนไม่ส่งเหอเจียไปเรียนที่ชั้นเรียนกวดวิชานั่นลูกสาวของเธอก็คงไม่ต้องเจอเื่แบบนี้นี้ ลูกสาวของเธอไม่ควรเจอกับเื่ทุกข์ระทม ถ้าชั้นเรียนกวดวิชาคิดอยากดำเนินกิจการเพื่อชื่อเสียงเงินทองก็ทำต่อไปเถิด แต่ตระกูลเหอไม่มีทางหายแค้น ไม่ว่าใครก็อย่าหวังว่าจะมีความสุข
“ชั้นเรียนกวดวิชาเป็ของใคร คนคนนั้นต้องรับผิดชอบลูกสาวฉัน พวกคุณจะไม่ยอมรับใช่ไหม ฝันไปเถอะ! บนหนังสือพิมพ์เขียนไว้หลาว่าเป็ของหวังเจี้ยนหัวจากวิทยาลัยฝึกหัดครูปักกิ่ง ส่วนเธอคือคู่หมายของหวังเจี้ยนหัวสินะ เขาทำเื่ไร้ยางอายแบบนี้ เธอก็คงไม่ได้ดีเด่ไปกว่ากันสักเท่าไรหรอก!”
จู่ๆ เพลิงโทสะก็โหมกระหน่ำไปที่เซี่ยจื่ออวี้
เวลานี้หร่านซูอวี้รู้สึกร้อนใจไปหมด เธอรีบอธิบายขึ้นมาทันที “ชั้นเรียนกวดวิชาไม่ใช่ของลูกชายฉัน พวกเราเป็ครอบครัวข้าราชการ อยู่ดีๆ จะไปเปิดชั้นเรียนกวดวิชาทำไม... จื่ออวี้ เธอพูดอะไรบ้างสิ!”
เซี่ยจื่ออวี้ทำหน้าเหมือนเห็นผี
เวลาแบบนี้ หร่านซูอวี้กลับผลักไสเธอไปรองรับเพลิงโทสะของแม่เหอเจีย?
เซี่ยจื่ออวี้ฟังอยู่ค่อนนานก็เข้าใจทันที ไม่รู้เหอเจียไปท้องกับใคร คนตระกูลเหอจึงเอาความผิดมาโยนใส่ชั้นเรียนกวดวิชา คิดว่าชั้นเรียนกวดวิชาไม่คิดจะรับผิดชอบ วันนี้ถึงได้เรียกคนมาพังบ้านหวัง และหวังเจี้ยนหัวเป็คนที่ถูกแม่เหอเจียระบายอารมณ์ใส่มากที่สุด ดังนั้นตอนนี้หร่านซูอวี้ผลักไสเธอออกไป ก็เพราะอยากให้เธอรับกรรมแทนสินะ!
“ฉัน...เป็ชั้นเรียนกวดวิชาของฉันเอง เจี้ยนหัวแฟนฉันแค่ไปช่วยเท่านั้น เขาไม่ได้มีส่วนดูแลจัดการชั้นเรียนกวดวิชาเลย แล้วจะมีโอกาสทำความรู้จักกับเหอเจียได้อย่างไรคะ แม่เหอเจีย มันต้องเป็เื่เข้าใจผิดแน่นอน ถ้าคุณยืนกรานจะไปแจ้งความ พวกเรายินดีให้ความร่วมมือกับทางตำรวจค่ะ!”
แม่เหอเจียยิ้มเย็น ไม่คิดจะรับฟังคำพูดของเซี่ยจื่ออวี้แม้แต่น้อย
เดิมทีเธอก็เป็ฝ่ายกล่าวหาผู้อื่น เธอเผด็จการทึกทักเอาเอง เื่สำคัญไม่ใช่การไปแจ้งความที่โรงพัก เพราะหากแจ้งความทุกคนก็จะรู้กันทั่ว ไม่เกิดประโยชน์กับลูกสาวของเธอทั้งสิ้น
เธอมาเพื่อจัดการกับคนตระกูลหวัง เห็นทีตอนนี้คงต้องจัดการกับเซี่ยจื่ออวี้ด้วยเสียแล้ว!
“เป็ของเธออย่างนั้นหรือ แต่บนหนังสือพิมพ์ไม่ได้เขียนแบบนั้นนี่ หรือว่าลูกชายข้าราชการก็ชอบกุข่าวลือ ถ้าอย่างนั้นยิ่งเป็เื่ใหญ่!”
ผู้หญิงคนนี้จับจุดเก่งจริงๆ
หวังก่วงผิงถลึงตาใส่เซี่ยจื่ออวี้ ถ้าพูดไม่เป็ก็อย่าพูด!
“พวกเราล้วนรู้ดีแก่ใจว่าเจี้ยนหัวไม่ได้ทำอะไรลูกสาวคุณ ว่ามา คุณ้าอะไร”
แม่เหอเจียถ่มน้ำลายถุย
“หัวหน้าหวัง อย่ามาขู่ชาวบ้านตาดำๆ อย่างพวกฉันหน่อยเลย ดีไม่ดีตำแหน่งของคุณคงไม่ต้องทำมันแล้ว ฉันขอบอกตรงนี้เลยว่า ชั้นเรียนกวดวิชาเป็ของใคร ฉันก็จะถามหาความรับผิดชอบกับคนคนนั้น ครอบครัวคุณต้องให้คำตอบกับฉัน!”
ใบหน้าของเซี่ยจื่ออวี้เดี๋ยวซีดเดี๋ยวแดงราวกับเห็นผี
แม่เหอเจียรับมือยากมาก ทว่าแท้จริงแล้วตอนจ่ายค่ากวดวิชายังไม่ใช่ความสามารถทั้งหมดที่เธอมี
ตอนนั้นเธอสามารถรับมือกับแม่เหอเจียได้ แต่ตอนนี้เซี่ยจื่ออวี้รู้สึกร้อนรนไปหมด
คนตระกูลหวังจะทำอย่างไร?
จากท่าทีของหร่านซูอวี้เมื่อครู่นั้นชัดเจนแล้ว
แล้วทางหวังก่วงผิง...กับหวังเจี้ยนหัวล่ะ?
ไม่ๆๆ เจี้ยนหัวต้องยืนอยู่ข้างเธออย่างแน่นอน
แม่เหอเจียมาพร้อมกับท้องฟ้ายามมืดมิด หลังอาละวาดจนบ้านตระกูลหวังพังพินาศ เธอก็พาคนกลับไปทันที
ทุกอย่างระเนระนาดไปจนหมด หร่านซูอวี้เช็ดน้ำตาที่เปรอะเปื้อนอยู่บนใบหน้า เซี่ยจื่ออวี้เองใบหน้าก็เปรอะไปด้วยเื หวังเจี้ยนหัวพยายามยันตัวลุกขึ้นยืน
“จื่ออวี้ ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาลนะ”
—---------------------------------------------------
แม่เหอเจียระบายความโกรธอย่างสะใจ ขณะที่ตระกูลหวังอยู่ในสภาพย่ำแย่
คนแถวนี้ไม่รู้จักเธอ แต่รู้จักหวังก่วงผิง
กลับจากไร่มารับตำแหน่งข้าราชการอีกครั้งได้เพียงไม่นาน แถมตำแหน่งก็ไม่ไก่กา ตอนนี้ตระกูลหวังกลับมีเื่อื้อฉาวเช่นนี้ พวกเพื่อนบ้านย่อมพากันวิพากษ์วิจารณ์ มีบางคนที่รู้สึกว่าเื่คืนนี้มีบางอย่างไม่ถูกต้อง ใครบ้างที่ลูกสาวถูกเอาเปรียบแล้วยังอยากป่าวประกาศให้รู้กันทั่วเช่นนี้ ไม่คิดจะรักษาชื่อเสียงของลูกสาวเอาไว้บ้างเลยหรือ?
“ไปทำให้ใครไม่พอใจมาหรือเปล่า ฉันว่าหัวหน้าหวังคงโอ้อวดเกินไป”
รองหัวหน้าหวังต่างหาก
เหนือเขายังมีหัวหน้าอยู่อีกคน
เพิ่งกลับเข้าเมืองมาได้ไม่นาน ก็กล้าใช้อภิสิทธิ์ในตำแหน่งหน้าที่ผลักดันลูกชายตัวเอง?
ที่จริงมีคนไม่ชอบใจั้แ่ตอนเห็นหน้าหนังสือพิมพ์แล้ว
สชั้นเรียนกวดวิชามีขนาดใหญ่ ต่อให้ทำกำไรกับนักเรียนหนึ่งคนได้ไม่มาก แต่ทุกเดือนคงได้เงินหลายพันหยวน! ครอบครัวของหวังก่วงผิงทำกำไรได้ไม่พอ ยังคิดอยากจะได้ชื่อเสียงอีก ไม่แปลกที่จะมีปัญหาน่ะสิ อีกฝ่ายจงใจหาเื่ทำลายชื่อเสียงของตระกูลหวังหรือเปล่ายังไม่ชัดเจนนัก แต่ที่แน่ๆ คือต้องมีปัญหาอะไรบางอย่าง คงต้องรอดูกันต่อไปว่า สุดท้ายแล้วเื่นี้จะจบลงอย่างไร!
หวังเจี้ยนหัวกับเซี่ยจื่ออวี้ไปที่โรงพยาบาล
ทันทีที่เซี่ยจื่ออวี้เพิ่งก้าวออกจากประตูบ้านตระกูลหวัง ก็รู้สึกเหมือนถูกสายตามากมายคอยเฝ้ามอง
คืนนี้เธอรู้สึกขายหน้าเหลือเกิน และไม่รู้ว่าแผลที่ใบหน้าจะทำให้เธอเสียโฉมหรือไม่
หวังเจี้ยนหัวเนื้อตัวก็เต็มไปด้วยาแ หวังก่วงผิงกับหร่านซูอวี้เองก็เดินทางไปหาหมอด้วยกัน ขณะนี้หมอกำลังทำแผลให้เซี่ยจื่ออวี้
“แผลที่หน้าคุณค่อนข้างใหญ่ ต้องเย็บแผล”
เซี่ยจื่ออวี้จับแขนหมอ “หมอคะ ฉันไม่อยากเสียโฉมนะคะ!”
เดิมทีหน้าตาเธอก็สู้เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้ หากต้องมีแผลเป็ที่ใบหน้า เซี่ยจื่ออวี้ไม่อยากจะคิดเลยจริงๆ
หมอเห็นเธอยังสาวก็รู้สึกสงสาร แต่เื่แบบนี้คงรับประกันอะไรไม่ได้
“ผมจะระวังตอนเย็บแผลแล้วกัน”
เซี่ยจื่ออวี้ทำได้เพียงเชื่อใจหมอ หวังเจี้ยนหัวเห็นเธอเืไหลเยอะขนาดนั้นก็อดสงสารไม่ได้ ตอนเย็บแผลเซี่ยจื่ออวี้จับมือเขาแน่น “เจี้ยนหัว ฉันกลัว เธอว่าแม่เหอเจียจะมาหาเื่ฉันอีกหรือเปล่า”
หวังเจี้ยนหัวเองก็ไม่มั่นใจเช่นกัน
ผู้หญิงบ้าคนนั้นช่างป่าเถื่อนเกินไป ถึงกับยกพวกมาพังบ้านเขา
อีกทั้งเธอยังรู้ประวัติของตระกูลหวังดี ทุกประโยคที่เธอเอื้อนเอ่ยออกมาล้วนเป็สิ่งที่ตระกูลหวังกังวลทั้งสิ้น
เื่นี้ควรจัดการอย่างไร ตระกูลหวังยังต้องปรึกษากันอย่างรอบคอบ หวังเจี้ยนหัวให้คำมั่นอะไรกับเซี่ยจื่ออวี้ไม่ได้ จึงทำได้เพียงปลอบโยนแฟนสาวไปก่อนว่า
“ฉันไม่ได้ทำในสิ่งที่เขาพูด เธอต้องเชื่อใจฉัน เื่นี้พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด!”
เซี่ยจื่ออวี้ผิดหวัง
เธอเชื่ออยู่แล้วว่าหวังเจี้ยนหัวไม่ได้แตะต้องเด็กกะโปโลคนนั้น
แต่แม่เหอเจียเป็หญิงตลาดล่างที่ป่าเถื่อนและไร้เหตุผล ใครผิดใครถูก แม่เหอเจียสนใจเสียที่ไหน
อีกฝ่าย้าจับผู้รับผิดชอบของชั้นเรียนกวดวิชามาระบายอารมณ์ต่างหาก
และผู้รับผิดชอบที่ว่า ตอนนี้ดูท่าคงมีแค่เธอแล้วสินะ?!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้