โดยปกติกว่างานจัดงานจะเลี้ยงเลิกก็ดึกมากแล้ว กว่าจะเก็บอุปกรณ์เสร็จและออกจากงาน ขับรถของบริษัทกลับเพื่อขนของกลับอีกรอบก็เป็เวลาเที่ยงคืนแล้ว การเก็บของทำความสะอาดก็เป็ทักษะอย่างหนึ่งเช่นกัน ทุกอย่างจะต้องบรรจุและพับอย่างเรียบร้อยแล้วใส่กลับไปยังที่ที่เอาออกมา เพื่อให้ทุกอย่างสามารถใส่ในรถได้ อี้สี่รู้สึกว่าเธอได้เรียนรู้เื่ราวมากมายจากงานจัดงานเลี้ยงครั้งนี้ การออกนอกพื้นที่ครั้งนี้ปรากฏว่าในงานเลี้ยงเต็มไปด้วยรายละเอียดต่างๆ ที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับงานเลี้ยงที่ดูสวยงามเพอร์เฟกต์ ซึ่งทุกรายละเอียดได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็อย่างดี สุดท้ายแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับความพยายามร่วมกันของทุกคน พนักงานบริการที่หล่อเหลามั่นใจทุกคนไม่ใช่แค่คนเสิร์ฟอาหารเท่านั้น อี้สี่เข้าใจถึงความเป็มืออาชีพของพวกเขา นอกเหนือจากความเป็มืออาชีพแล้ว พวกเขายังมีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสถานที่และต้านทานความเครียดความกดดันได้สูง อี้สี่ไม่ต้องจัดเสิร์ฟอาหารแค่นั่งอยู่เฉยๆ ทว่าเธอก็ยังช่วยทุกคนเท่าที่ทำได้ ช่วยเก็บถ้วยเปล่าจากงาน เติมอาหาร หั่นส้มและมะนาวเป็ชิ้นๆ ทั้งยังให้ความสนใจกับตารางงานของอามีตลอดเวลา
ตอนแรกอี้สี่ยังไม่คุ้นเคยกับการอยู่เบื้องหน้าเลย แต่หลังจากการออกนอกพื้นที่ครั้งนี้ คนเบื้องหน้าก็รู้สึกว่าเธอเป็คนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ทั้งยังเป็ที่ยอมรับกันอย่างมาก เธอดูสนิทสนมกับทุกคนขึ้นไม่น้อยเลย
“เอาทุกอย่างออกไปหมดแล้วใช่ไหม?” อามีและจินอิ๋นทำการยืนยันอีกครั้ง จินอิ๋นทำท่าทางว่าโอเค “ถ้าอย่างนั้นไปที่ร้านแล้วขนของออกกันก่อน คุณเองก็มีเครื่องใช้ไฟฟ้ามากมายในรถ อยากเปลี่ยนกับอี้สี่และเฉินจั่วชวนไหม แบบนี้จะช่วยให้คุณจัดการของได้ง่ายขึ้นด้วย” อามีถาม
“ไม่เป็ไร พวกคุณกลับรถคันเดิมเถอะ! ผมสามารถทำเองได้ อี้สี่เองก็ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น” จินอิ๋นพูด อามีพยักหน้า จากนั้นทุกคนจึงขึ้นรถเตรียมตัวเดินทางกลับ ด้วยเหตุผลบางอย่าง เมื่ออี้สี่ได้ยินสิ่งที่จินอิ๋นพูดก็รู้สึกโล่งใจและมีความสุขเล็กน้อย
หลังจากประตูรถปิดลง จินอิ๋นก็ถามอี้สี่พลางขับรถว่า “ไม่เป็ไรใช่ไหม? ในที่สุดก็เสร็จสิ้นประสบการณ์งานจัดเลี้ยงครั้งแรกของคุณแล้ว คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง? ยังกลัวงานจัดงานเลี้ยงอยู่หรือเปล่า?”
“ฉันคิดว่ามันค่อนข้างน่าสนใจ แล้วทุกคนก็ช่วยฉันได้มากเลย” อี้สี่พูด เธอมองจินอิ๋นจากที่นั่งด้านข้าง หน้าผากของจินอิ๋นมีเหงื่อผุดพรายเล็กน้อย ผมบลอนด์ที่เซตมาค่อนข้างยุ่งเหยิง แต่เขาก็ไม่ได้มีท่าทีเหนื่อยล้าแต่อย่างใด เมื่อมองจากด้านข้าง ขนตาของเขายาวสวยมาก ในขณะที่ติดไฟแดง เขาก็ได้หันหน้ามาสบตาเธอที่มองมาทางเขาเข้าพอดี อี้สี่ไม่มีเวลาที่จะหันไปมองทางอื่น และจินอิ๋นก็เพียงยิ้มเล็กๆ รอยยิ้มของเขาดูค่อนข้างอบอุ่น แต่ก็มีความรู้สึกกำกวมบางอย่าง
“คุณ...หลังจากวันหยุดในวันพรุ่งนี้ คุณจะกลับไปทำงานที่ร้านเดิมใช่ไหม?” อี้สี่รู้ว่าเขาแค่มาช่วยงานที่บาร์ชั่วคราวเท่านั้น เธอจึงรู้สึกเสียใจเล็กน้อย
“ใช่ แต่เราก็เจอกันได้อีกถ้ามีโอกาส เมื่อแต่ละร้านมีงานก็จะมาคอยช่วยกัน คราวหน้าก็มาดื่มที่ร้านเราสิ ผมจะเลี้ยงเครื่องดื่มคุณเอง” สิ่งที่เขาพูดให้ความรู้สึกเหมือนว่าทั้งคู่จะสนิทสนมก็ใช่ จะว่าสุภาพก็ค่อนข้างสุภาพจริงๆ อันที่จริงแล้วอี้สี่ไม่ได้มีความคาดหวังอะไรเลย ดังนั้นจึงไม่ผิดหวัง เธอพบว่าจินอิ๋นทั้งหล่อเหลาและน่าดึงดูด บางครั้งก็ดูเหมือนจะใส่ใจเธอเป็พิเศษ แต่มันก็เป็เพียงความประทับใจที่ดีเท่านั้น
“ได้สิ ถ้ามีโอกาสก็เลี้ยงฉันด้วยล่ะ” เธอพูดอย่างเป็ธรรมชาติ
“ครั้งหน้าจะไปดื่ม แล้วจากนั้นล่ะ? มาที่บ้านผมหามื้อดึกกินไหม?” จินอิ๋นพูด เขาใช้คำถามลองเชิงพูดเบาๆ ราวกับว่าไม่ใช่เื่น่าสนใจอะไร และบังเอิญที่รถจอดติดไฟแดงพอดี เขาจึงละมือจากพวงมาลัยมาวางลงบนต้นขาของอี้สี่ อี้สี่หดตัวเล็กน้อยทันที แต่ไม่ก็ได้ผลักไสเขาออกไป ใบหน้าด้านข้างของเขากระตุกเล็กน้อย มีความรู้สึกภาคภูมิใจที่ตะครุบเหยื่อได้ปรากฏบนหน้า
อี้สี่รู้สึกว่าความคิดกำลังตีกันเล็กน้อยอยู่ในหัว ตัวเธอที่ได้สนุกกับการได้ทำงานร่วมกับเขาตลอดทั้งคืนก็รับรู้ได้โดยนัยถึงความคลุมเครือบางอย่าง บอกตามตรงว่าก่อนหน้านี้ตอนที่เป็ครูไหนเลยจะได้เจอคนที่ทั้งหล่อเหลาทั้งเ้าเล่ห์ขนาดนี้กัน ตอนที่เป็นักเรียนยิ่งเป็ไปไม่ได้เลยที่ผู้ชายแบบนี้จะมาสนใจผู้หญิงธรรมดาๆ แบบเธอ แล้วตอนนี้เธอจะปฏิเสธคำเชิญนี้ได้อย่างไร ถึงอี้สี่จะคิดแบบนั้นแต่ก็ยังมีการต่อสู้บางอย่างภายในใจ เป็การต่อสู้ทางศีลธรรมที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ควรทำอะไรแบบนี้
เมื่อเห็นเธอนิ่งเงียบไปจินอิ๋นจึงพูดอย่างใจเย็นว่า “ผมรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่”
“ฉันกำลังคิดอะไรอยู่งั้นเหรอ?” อี้สี่ถามเขากลับ อันที่จริงเธอในตอนนี้้าแค่คำตอบส่งๆ ไปก็พอแล้ว จิตใจเธอกำลังค่อนข้างสับสนเล็กน้อย
“วันนั้น ครั้งแรกที่ผมเห็นคุณก็คือวันหลังจากวันหยุด บนตัวคุณตัวมีกลิ่นเหมือนหลัวจ้งซี”
“งั้นถ้าคุณรู้อยู่แล้ว ทำไมถึงได้มายุ่งกับฉันอีกล่ะ” อี้สี่รู้สึกประหลาดใจจริงๆ จินอิ๋นอาจจะดูเ้าเล่ห์ แต่ลึกๆ แล้วกลับเป็คนช่างสังเกตมาก
“ผมก็แค่ทำตามที่ตัวเอง้า” คำตอบของเขาช่างเอาแต่ใจ รถเลี้ยวโค้งจนมาถึงลานจอดรถของร้าน ทว่ารถของอามีก็ยังไม่มาถึง “หลัวจ้งซีไม่ใช่คนที่จะให้คำสัญญาอะไรง่ายๆ คุณไม่เข้าใจว่าคุณกำลังยึดติดกับอะไรอยู่ คุณเองก็้าเหมือนกัน ทำไมคุณไม่เป็ตัวของตัวเองล่ะ?” หลังจากที่จินอิ๋นดึงเบรกมือ เขาก็เชยคางของอี้สี่ขึ้นด้วยการเคลื่อนไหวที่อ่อนโยนมาก เขาเข้าริมฝีปากของเธออย่างนุ่มนวล ดูดดึงริมฝีปากทั้งสองของเธออย่างแ่เบา ััที่เขามอบให้นั้นไม่อาจต้านทานได้จริงๆ มือซุกซนของจินอิ๋นวางทาบลงบนหน้าอกนุ่มของเธอ โดยเขาพรมจูบไปด้วยพลางบีบนวดเบาๆ หัวใจของอี้สี่เต้นเร็วมาก ไม่ใช่ว่าอายแต่เป็เพราะตื่นเต้น เธอคิดว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะสามารถต้านทานรูปลักษณ์แบบนี้ได้ แถมยังการรุกรานแบบนี้อีก
ต่อมา หลังจากที่เห็นรถของอามีเลี้ยวเข้ามาที่ลานจอดรถผ่านกระจกมองหลัง จินอิ๋นจึงค่อยๆ ผละออก
ั้แ่ขนของลงจนมาถึงบ้านของเขา รวมๆ แล้วอาจต้องใช้เวลาอีกประมาณชั่วโมงหนึ่ง ใน่เวลานี้อี้สี่สามารถหาข้อแก้ตัวนับพันที่จะจากไปได้ แต่เธอก็ไม่ทำ
จินอิ๋นอาศัยอยู่ในห้องชุดที่อยู่ใจกลางเมืองซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่และเรียบง่ายมาก เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะพบเตียงคู่พร้อมโคมไฟหินสีเหลืองสลัวๆ อยู่ข้างเตียง ซึ่งให้บรรยากาศที่ดี เดิมทีอี้สี่้าอาบน้ำก่อน แต่ทันทีที่ประตูปิดเขาก็เข้าจู่โจมจูบเธอ เธอทำได้เพียงถอยหลังกลับในขณะที่เขาก็ยังคงรุกเดินหน้าต่อไปจนกระทั่งหญิงสาวล้มลงไปบนเตียง จินอิ๋นไม่ยอมปล่อยให้ริมฝีปากของเธอให้เป็อิสระ มือของเขาปลดกระดุมกางเกงของเธอได้อย่างคล่องแคล่วมาก เขาใช้มือข้างหนึ่งจับเอวของอี้สี่ ส่วนมืออีกข้างก็ดึงกางเกงของเธอลง แล้วยังสามารถถอดกางเกงตัวเองลงอย่างไม่มีสะดุดได้อีกด้วย เมื่อเธอกลับมามีสติอีกครั้งก็ได้มีบางสิ่งที่อุ่นร้อนและแข็งกดทับอยู่ตรงท้องน้อยของเธออยู่ จินอิ๋นเปิดลิ้นชักข้างเตียงหยิบถุงยางออกมาด้วยมือเดียว ใช้ฟันกัดซองฉีกออกแล้วใช้มือเดียวสวม ดูไหลลื่นมากจนทำให้เธอตั้งตัวไม่ทัน
เขาดันขาของเธอให้อ้าออก คุกเข่าอยู่ตรงหว่างขาเธอ ทำเพียงกดดันกายเข้าไปเล็กน้อยโดยอาศัยความชุ่มฉ่ำจากอารมณ์ที่พุ่งสูงของหญิงสาว ค่อยๆ เลื่อนชำแรกผ่านรอยแยกของอี้สี่เข้าไป จินอิ๋นดันชุดชั้นในของอี้สี่ขึ้นไปกองอยู่บนหน้าอก เอื้อมมือข้างหนึ่งคว้าเข้าที่ซาลาเปานุ่มนิ่ม ลูบไล้ยอดอกด้วยปลายนิ้ว ในขณะที่ร่างกายส่วนล่างยังคงดันแก่นกลางชายเข้าไปในช่องทางนุ่ม พลางกระตุ้นตรงกายสาวซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนน้ำหวานของอี้สี่ค่อยๆ ไหลล้นออกมา และยิ่งไหลออกมามากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกร้อนมากขึ้นเท่านั้น
เขามีวิธีแกล้งผู้หญิงในแบบของเขาเอง ซึ่งไม่จำเป็ต้องใช้นิ้วเบิกทางเลย แต่จะทำให้เธอบิดเร้าดิ้นรนทุกข์ทรมานด้วยแรงอารมณ์ โดยเขาจะจ่อกายอยู่เพียงตรงปากทางเข้าเท่านั้น ดวงตาจินอิ๋นจ้องเขม็งมุ่งความสนใจไปที่การเฝ้าดูเหยื่อของเขาถูกอารมณ์และไฟราคะแผดเผา จินอิ๋นชอบที่จะเห็นอี้สี่ครวญครางจนทนไม่ไหว ริมฝีปากของเธอเปิดอ้าออกเล็กน้อย ยอดอกชูชัน เมื่อถึงตอนนี้เขาจึงจะค่อยๆ ดันตัวตนเข้าไปจนสุดทาง
เมื่อจินอิ๋นเข้าสู่ร่างกายของเธอ อี้สี่รู้สึกว่าในที่สุดความว่างเปล่าก็ได้ถูกเติมเต็มแล้ว แต่กลับกันเธอก็รู้สึกเ็ปจนทนไม่ไหวเช่นกัน ท่อนเนื้อของเขามีมุมองศาโค้งงัดสูง อี้สี่รู้สึกว่ามันไม่สบายตัวจึงหดงอตัวโดยไม่รู้ตัว จินอิ๋นราวกับรู้ว่าเธอจะต้องดิ้นรนชายหนุ่มจึงจับสะโพกของเธอเอาไว้แน่นเพื่อป้องกันไม่ให้เธอหลบหนี เขาขยับเอวดันกายเข้าไปลึก ขยับช้าๆ จนในที่สุดความรู้สึกที่ทั้งเจ็บและเสียวซ่านก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นตรงกลางกายสาวช้าๆ “อ่า...อ่า...มันแน่น...ลึกเกินไป...ลึกเกินไป” สะโพกของอี้สี่ถูกยึดจับแน่น จินอิ๋นทำให้พวกเขาทั้งสองคนสอดประสานกันอย่างแนบชิด ท่อนเนื้อที่โค้งงองัดขึ้นของเขากระตุ้นจุดกระสันเสียวที่อยู่ลึกด้านในจนนิ้วเท้าของเธอขดเกร็งงออย่างแรง ด้วยความที่ว่างเปล่ามานานเกินไป ตอนนี้เมื่อได้ถูกเติมเต็ม เพียงแค่เขากระแทกเข้ามาแรงๆ ไม่กี่ครั้งเท่านั้น อี้สี่ก็เงยหน้าขึ้นไปข้างหลังแล้วส่งเสียงกรีดร้องออกมา ช่องทางรักของเธอบีบตัวอย่างรุนแรง เธอกรีดร้อง น้ำตาเอ่อไหลออกมาจากดวงตา จินอิ๋นขยับตัวช้าตัวลงอีกครั้ง เขาหลับตาลง เพลิดเพลินไปกับช่องทางที่กำลังกระตุกดูดรัดของเธอ
หลังจากที่อี้สี่สงบลงได้สักพักหนึ่งจินอิ๋นก็ได้พลิกตัวเธอให้เธอคุกเข่าต่อหน้าเขา เขาดันตัวตนเข้าไป โดยท่อนเนื้อที่มีรูปร่างงัดขึ้นเมื่อกระแทกอย่างรุนแรงจากด้านหลังจะสร้างแรงกดทับต่อกระเพาะปัสสาวะเสมอ ความรู้สึกซ่านเสียวตรงกายสาวผสมกับความอยากปัสสาวะที่มีมากขึ้น เธอรู้สึกทั้งอับอายและตื่นตระหนก เสียงสั่นเครือของหญิงสาวเอ่ยปากร่ำร้อง “ไม่ อ่า...แบบนี้ทำฉันอยากฉี่จริงๆ นะ...ฉันอยากไปเข้าห้องน้ำ” อี้สี่พยายามดิ้นหนี เธอพยายามจะหนี แต่เขาก็จับสะโพกเธอแน่นขยับกระแทกกายเข้ามาไม่หยุดยั้ง
“งั้นคุณก็แค่ปล่อยออกมา ผมไม่ว่าหรอก”
“ปวดจริงๆ นะ...ไม่ไหว...ไม่ไหวแล้ว...ฉันอยากฉี่จริงๆ...ปล่อยฉันไปเถอะ” เธอแทบจะร้องไห้ออกมา ขาที่คุกเข่าอยู่บนเตียงแทบไม่มีแรง ร่างกายอ่อนปวกเปียก เอวก็ได้แต่ถูกเขาจับพยุงไว้ ส่วนล่างของเธอตอดรัดจนแน่นมาก ด้วยกลัวว่าหากปล่อยออกมาจะต้องอับอายแน่ เธอจึงต้องหนีบท่านล่างให้แน่น
จินอิ๋นเองก็เกือบจะถึงแล้วเช่นกัน เขาขยับตัวส่งตัวตนชายกระแทกเข้าไปอย่างแรงหลายๆ ครั้ง สุดท้ายอี้สี่เองก็รู้สึกว่าเธอไม่สามารถกลั้นไว้ได้อีกต่อไปแล้วเช่นกัน ช่องทางนุ่มเริ่มกระตุกตอดรัด ความปวดปัสสาวะที่ไม่สามารถกลั้นไว้ได้ทำให้เธอไปถึงจุดสุดยอดที่รุนแรงมาก เธอปลดปล่อยน้ำใสออกมาจนทำให้ผ้าปูที่นอนเปียก ความรู้สึกเสียวซ่านตรงเอวของจินอิ๋นที่ถูกเธอตอดรัดก็ทำให้เขาต้องปลดปล่อยของเหลวสีขาวหลั่งอยู่ข้างใน
“รู้สึกดีจริงๆ เวลาที่คุณตอดรัดผม” เขาอ้าปากหอบหายใจ เห็นได้ชัดว่าเขาได้ปลดปล่อยออกไปแล้ว แต่ความรู้สึกดีที่ยังหลงเหลืออยู่ก็ทำให้ตัวตนของชายหนุ่มกระตุกอยู่ในตัวอี้สี่เบาๆ “ปล่อยมันออกมาจริงๆ ด้วย” เขาพูดขณะััความเปียกชื้นบริเวณขาของเธอ
อี้สี่รู้สึกอับอายมากจึงซุกหัวลงไปบนหมอน ห้องเล็กๆ ของจินอิ๋นยามนี้เต็มไปด้วยกลิ่นลามก จินอิ๋นยังคงไม่อ่อนตัวลง แต่เขารู้ว่าเขาหลั่งออกมามากจึงต้องถอนกายออกอย่างระมัดระวัง และดึงถุงยางออกก่อน เมื่อเห็นของเหลวสีขาวขุ่นจำนวนมากในถุงยาง พริบตานั้นอี้สี่ก็รู้สึกถึงชัยชนะบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้