“ในนี้คนเยอะ นายระวังหน่อย” ซุนหลิงหลิงหลิงตีเข้าที่มือของกัวไฮว่แล้วพูดขึ้นด้วยความโมโห
“อ่ะๆ งั้นรอคืนนี้เราไปที่โรงแรมกัน” กัวไฮว่กระซิบเบาๆข้างหูซุนหลิงหลิง ไม่นานสีหน้าของซุนหลิงหลิงก็แดงระเรื่อขึ้นมา
“ให้ตาย พี่หลิงหลิง พี่ลงเอยกับกัวไฮว่แล้วจริงด้วย” แม้เสียงกัวไฮว่จะเบา แต่เสิ่นปี้โหรวก็ยังได้ยินเธอจึงถามขึ้นด้วยความใ
“คนสวย เธอพูดอะไรน่ะ อย่าบอกนะว่าเธอก็ถูกใจพี่ไฮว่ของฉันด้วยน่ะอันที่จริงพี่ไฮว่เ้าชู้ไปหน่อยน่ะ เธอจะพิจารณาฉันไว้แทนก็ได้นะฉันเองก็ไม่เลวเลย” เซวียนต้าจู้มองเสิ่นปี้โหรวแล้วพูดขึ้นยิ้มๆสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้หน้าตาไม่เลวเลย ถ้าพากลับไปยังหมู่บ้านตระกูลเซวียนคนในหมู่บ้านต้องอึ้งแน่
“ขอโทษนะ ฉันไม่ชอบผู้ชายที่เด็กกว่า แล้วก็สูงขนาดนี้ด้วย” เสิ่นปี้โหรวพูดยิ้มๆ
“พวกเธอสองคนดูเหมาะกันดีนะ เส้นวาสนาก็เชื่อมเข้าด้วยกันแล้วด้วยไม่นานเธอจะตกหลุมรักเขา ฮ่าๆ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“กัวไฮว่ใช่ไหม คนที่เหยียบเรือหลายแคมแบบนายเนี่ยว่าแต่เส้นวาสนามันเชื่อมยังไงเหรอ” เสิ่นปี้โหรวมองกัวไฮว่พลางถามขึ้น
“พี่ไฮว่ พี่ไม่ได้ไปเข้าเรียนนานแล้วนะ ครูหลินถามหาพี่อยู่” ในขณะที่หลายคนต่างพูดคุยกันอยู่ มู่หรงเวยเวยก็เดินมาจากที่ไกลๆ
“พี่หลิงหลิง พี่ก็อยู่ด้วยเหรอ” เมื่อมู่หรงเวยเวยเห็นกัวไฮว่กับซุนหลิงหลิงยืนใกล้กันมากในใจก็พลันร้อนรน เธอยิ้มขึ้นอย่างจนใจ ถ้ากัวไฮว่คิดถึงตนเองบ้างก็คงจะดีเขาพัวพันกับผู้หญิงหลายคนเกินไปแล้วล่ะ
“เวยเวย การแข่งวิชาการครั้งก่อนไม่ทันได้มองให้ละเอียดวันนี้เธอสวยมากเลยล่ะ ไม่น่าล่ะหมอนี่ถึงได้ชอบเธอมากขนาดนั้น พูดว่าเมียสวยๆอยู่ตลอด” ซุนหลิงหลิงพูดขำๆ กับมู่หรงเวยเวย
“พี่หลิงหลิงอย่าพูดมั่วซั่วสิ” มู่หรงเวยเวยอายจนหน้าแดงก่ำเมื่อพูดเสร็จ ก็ไปยืนอยู่ข้างกายกัวไฮว่
“พี่ไฮว่ พรุ่งนี้พี่มีเวลาหรือเปล่า พรุ่งนี้ฉันจะกลับบ้านพี่ไปด้วยกันเถอะ” มู่หรงเวยเวยมองกัวไฮว่แล้วพูดขึ้นเบาๆเพราะไม่อาจยื้อเวลาป่วยของพี่ชายได้อีกแล้ว เธอเห็นว่าซุนหลิงหลิงมีสีหน้าไม่เลวเลยรู้ว่ากัวไฮว่น่าจะรักษาอาการป่วยของซุนหลิงหลิงให้หายดีแล้ว
“ได้ พรุ่งนี้เธอติดต่อฉันมานะ เราไปด้วยกัน” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เธอบอกว่าครูหลินตามหาฉัน มีเื่อะไรเหรอ ฉันจะไปดูสักหน่อยพวกเธอคุยกันไปก่อนนะ”
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” กัวไฮว่ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเคาะประตูห้องพักครูกลุ่มสาระภาษา
ไม่ทราบว่าหลิงซวงวุ่นวายอะไรอยู่ เธอเลยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาภายในห้องมีเพียงหลินซวงคนเดียวเท่านั้น กัวไฮว่เองก็ไม่ได้ส่งเสียงเขาเดินไปด้านหลังหลินซวงเงียบๆกลิ่นหอมระลอกหนึ่งทำให้เขาสูดดมเข้าไปลึกอย่างไม่รู้ตัว
“เด็กบ้านี่ ไม่เข้าเรียนมาอาทิตย์นึงแล้ว วันๆเอาแต่ให้เฉียนตัวตัวบ้านั่นมาลาเรียน หัวหน้าเซวียนก็ไม่สนใจนี่มันคืออะไรกันเนี่ย วันมะรืนก็จะมีนักเรียนมาใหม่มา แถมยังมาอยู่ในห้องหนึ่งอีกฉันต้องไปคุยกับผอ.หลี่ซะแล้ว” หลินซวงมองเอกสารที่อยู่บนโต๊ะเธอส่ายศีรษะแล้วพูดขึ้น
“คนสวยมาห้องหนึ่งก็ไม่แย่นะ” กัวไฮว่พูดขึ้นเบาๆเขาเห็นรูปภาพที่อยู่บนเอกสาร ก็มีความรู้สึกคุ้นเคยกันอย่างประหลาดแต่ก็ไม่รู้ว่าเคยเห็นที่ไหน
“ถ้าเป็คนสวยงั้นก็มาห้องฉันไม่ได้แล้วล่ะ ในห้องมีตาบ้าอยู่คนหนึ่งเด็กคนนี้ยังพบกับภัยอย่างเขาไม่ได้” หลินซวงพูดไปตามสัญชาตญาณ “อ๊ะ! ธะ...เธอเข้ามาได้ยังไง ทำไมไม่เคาะประตู” จู่ๆ หลินซวงก็ััได้ว่าด้านหลังมีคนยืนอยู่ จึงหันหลังกลับไปมองถ้าไม่ใช่ตาบ้านี่จะเป็ใครได้อีก
“ครู นินทานักเรียนลับหลังมันไม่ดีนะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆพลางหรี่ตามองหลินซวงด้วยความเ้าเล่ห์ “่นี้ยุ่งไปหน่อยพอไม่ยุ่งก็รีบมารายงานตัวกับครูเลย ครูคิดถึงผมแล้วใช่ไหม”
“กัวไฮว่ ครูเป็ครูของเธอนะ ช่วยจริงจังหน่อย” หลินซวงจัดการเสื้อผ้าตนเองให้เรียบร้อยเธอถลึงตามองกัวไฮว่พลางพูดขึ้นว่า “ในเมื่อเื่ยุ่งๆเสร็จแล้ว งั้นฉันหวังว่าพรุ่งนี้ฉันจะเห็นเธอนะ”
“พรุ่งนี้ไม่ได้ พรุ่งนี้เวยเวยลากลับบ้าน ผมต้องตามไปดูด้วย” กัวไฮว่พูดอย่างเป็จริงเป็จัง
“เวยเวยลากลับบ้าน เธอตามไปดูอะไรเหรอ” หลินซวงเบิกตาพูดขึ้น
“หลิงหลิงรักษาหายแล้ว ทางฝั่งเวยเวยยังมีเื่นิดหน่อยน่ะครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ครูหลินอันที่จริงอาการป่วยของครูก็ไม่เบาเลยนะ ให้ผมรักษาให้เอาไหม” กัวไฮว่ยิ้มร้ายพลางมองไปยังส่วนที่นูนออกมาของหลินซวง
“เด็กบ้า เธอคิดอะไรน่ะ ฉันเป็ครูเธอนะ เธอ...เธอกลับไปได้แล้ว” หลินซวงพูดด้วยความตระหนก
“ลมพร่องกายหนาว หงุดหงิดโมโหง่าย ครูหลิน โรคครูเขียนไว้บนหน้าหมดแล้วไม่ต้องจับชีพจรก็ดูออก” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ครูกินยานี่ก่อน สามารถลดอาการได้ชั่วคราว รอผมกลับมาจากบ้านเวยเวยเดี๋ยวจะรักษาให้ครูจนถึงที่สุดเลย ฮ่าๆ” กัวไฮว่พูดพลางโยนกล่องกล่องหนึ่งไปให้หลินซวงข้างในนั้นมียากันแก่เม็ดหนึ่งอยู่
“กัวไฮว่ ฉันก็แค่มีอาการลมพร่องกายหนาว หงุดหงิดโมโหง่ายเอง” หลินซวงมองกัวไฮว่เดินออกไปแล้วพูดขึ้นเสียงดัง
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก!” มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาจากข้างนอก
“ตาบ้า กลับมาอีกทำไม” หลินซวงะโเสียงดังจากนั้นก็เปิดประตูออก คนที่ยืนอยู่นอกประตูเป็หลี่สวินอวี้เขามองดูหลินซวงด้วยความอึ้งตะลึง ครูคนสวยอันดับหนึ่งของโรงเรียนฟู่จงหรือว่าเขาเองจะได้ยินผิดไป
“ผอ. ฉะ...ฉันไม่ได้ว่าคุณนะคะ เมื่อกี้กัวไฮว่มาน่ะค่ะ” หลิงซวงก้มศีรษะพูดขึ้นเบาๆ
“เด็กนั่นแหย่ให้เธอโกรธอีกแล้วเหรอ” หลี่สวินอวี้พูดยิ้มๆ “เสี่ยวหลิน อย่าโกรธไปเลย อันที่จริงเด็กนั่นก็ไม่เลวเลยนะ อย่างน้อยๆก็เรียนดีขึ้น ทั้งหมดเป็เพราะเธอนะ”
“ผอ.คะ อย่าล้อกันเล่นเลย ั้แ่ที่เขาเข้าเรียนจนถึงตอนนี้จำนวนครั้งที่ฉันเจอเขาไม่ต่างกับคุณเลย เขาเรียนของพวกนี้มาจากใครฉันเองก็ไม่รู้” หลินซวงส่ายศีรษะพร้อมกับพูดขึ้น
“อย่างนี้นี่เอง” หลี่สวินอวี้ยิ้มอย่างไม่เป็ธรรมชาติ “มะรืนนี้จะมีนักเรียนใหม่ เป็เด็กผู้หญิงหัวหน้าเซวียนเอาเอกสารมาให้เธอแล้วใช่ไหม”
“ผอ. อย่าเอาใครก็ได้มาไว้ในห้องฉันสิคะ” หลินซวงพูดขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจ “กัวไฮว่คนนึง เซวียนต้าจู้คนนึง แถมยังเฉียนตัวตัวที่ซ้ำชั้นอีกนี่แค่หนึ่งเดือนกว่าเองนะคะ ฉันมีนักเรียนใหม่มาสามคนแล้ว”
“แค่กๆๆ เื่นี้ฉันรู้หรอก แต่เด็กคนนั้นบอกว่าอยากอยู่ห้องเธอเธอเป็คนจีนอเมริกา เข้ามาในจีนแล้ว เธอเป็ผู้สืบทอดของตระกูลใหญ่ในอเมริกาบริจาคเงินค่าบำรุงโรงเรียนไปแล้วร้อยล้าน” หลี่สวินอวี้พูดยิ้มๆ
สามวันก่อน เด็กหญิงคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่ห้องทำงานของผอ.โรงเรียนฟู่จงเธอไม่ได้พูดพร่ำทำเพลง เธอส่งเอกสารของตนเองกับเช็คใบหนึ่งให้กับหลี่สวินอวี้
“ก่อนที่ทวดของหนูจะไปอเมริกาเคยอยู่ที่เมืองอู่เฉิงมาก่อนถึงหนูจะไม่เคยเห็นเขามาก่อน แต่หนูรู้ความปรารถนาของเขาดีเขาอยากให้หนูเอาขี้เถ้าของเขากลับมายังประเทศ แล้วก็อยากให้ลูกหลานกลับมายังจีน” เด็กสาวมองหลี่สวินอวี้แล้วพูดขึ้นเบาๆ “หนูจัดการเื่บ้านเก่าของเขาแล้วหนูเองก็จะอยู่ที่จีนไปตลอดด้วย ตอนนี้หนูอยากจะเป็นักเรียนของโรงเรียนฟู่จงรบกวนผอ.หลี่ด้วยนะคะ”
“ที่โรงเรียนมีกฎระเบียบนะ ถ้าเธออยากเข้าเรียน ก็ต้องทำข้อสอบก่อนถ้าคะแนนผ่านฉันถึงจะให้เธอเข้าเรียน” หลี่สวินอวี้มองเลขศูนย์หลายตัวที่อยู่บนเช็ครอบหนึ่งแต่ก็ยังเลือกให้เด็กสาวทำตามกระบวนการ
“ผอ.คะ ได้คะแนนเต็มทั้งเจ็ดกลุ่มสาระค่ะ”