น้ำเสียงกระตือรือร้นของหยวนจุนทำให้เซียวหานเบิกตากว้าง จากนั้นนางจึงแสดงสีหน้าที่ไม่อยากเชื่อออกมาทันที
แม้แต่นักยุทธ์ระดับตะวันยังยากที่จะเชื่อมประสานกับปราณดาราของดวงดาวลั่วสุ่ย นึกไม่ถึงเลยว่ามันจะปรากฏอยู่ที่นี่ ทั้งยังอยู่ในสภาพของเหลวด้วย!
“ฟ่อ”
งูเหลือมเกล็ดโลหิตที่ซ่อนอยู่ในความมืดส่งเสียงขู่ ราวกับว่ามันเข้าใจในสิ่งที่หยวนจุนกล่าวออกมาเมื่อครู่นี้
“เหอะเหอะ ข้าว่าสัตว์อสูรตัวนี้คงไม่อยากให้พวกเรานำหยดน้ำลั่วสุ่ยออกไป! ดูเหมือนเราคงต้องเสี่ยงแล้วล่ะ!”
หยวนจุนจับกระบี่หยวนจุนไว้แน่น ลูกไฟขนาดใหญ่ลุกโชนขึ้นในมือของเขาก่อนจะกระจายไปที่มุมถ้ำทั้งสี่
แม้ถ้ำนี้จะมืดและลึกมากจนแทบไม่เคยเห็นแสงสว่าง แต่ด้วยลูกไฟเหล่านี้จึงทำให้ภายในสว่างไสวขึ้นมาทันที
งูเหลือมเกล็ดโลหิตขนาดมหึมาซ่อนตัวอยู่หลังซอกหินที่เต็มไปด้วยน้ำลั่วสุ่ย แววตาเยือกเย็นของมันสะท้อนความดุร้ายออกมา
แม้ในมือจะถือกระบี่ยาวที่ทำมาจากเขี้ยวั แต่ถ้าหากหยวนจุนลงมือโจมตีมันก่อน เขาคงต้องถูกงูเหลือมเกล็ดโลหิตกลืนกินอย่างแน่นอน!
หยวนจุนเชื่อว่างูเหลือมเกล็ดโลหิตตัวนี้น่าจะรู้ถึงประโยชน์ของน้ำลั่วสุ่ยเช่นเดียวกับเขา
หยวนจุนไม่สามารถฆ่างูเหลือมเกล็ดโลหิตได้จึงไม่กล้าบุกเข้าไปข้างใน เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงดึงมือเรียวของเซียวหานแล้วหนีกลับเส้นทางเดิมอย่างรวดเร็ว
“ข้าจะกลับไปที่เมืองลั่วฝานแล้วเรียกท่านปู่มา!”
เซียวหานสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพยายามควบคุมอาการใ แต่เมื่อนางกล่าวออกไปก็ถูกหยวนจุนปฏิเสธในทันที
“การต่อสู้กับสัตว์ร้ายตัวนี้จะต้องเกิดการสั่นะเืครั้งใหญ่แน่ หากนักยุทธ์ของหลิววั่นซานและเมืองที่อยู่รอบๆ รู้เข้า การที่เราจะได้น้ำลั่วสุ่ยเพียงฝ่ายเดียวอาจกลายเป็เื่ที่ยากขึ้น”
“แล้วจะทำอย่างไร?” เซียวหานขมวดคิ้ว จิตใจของนางยังคงจดจ่ออยู่กับน้ำลั่วสุ่ยที่หายากและล้ำค่า แต่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี
“งูเหลือมเกล็ดโลหิตตัวนั้นเป็ถึงสัตว์อสูรระดับห้า มันเข้าใจในสิ่งที่พวกเราสนทนา หากเราจะเข้าไป เราต้องวางแผนออกมาให้ดีเสียก่อน!”
หยวนจุนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “กระบี่ของข้าสามารถควบคุมสัตว์อสูรจำพวกงูได้ ข้าจะเบี่ยงเบนความสนใจจากมัน จากนั้นเ้าค่อยเข้าไปข้างในแล้วนำน้ำลั่วสุ่ยออกมา!”
“เช่นนี้อันตรายเกินไป นั่นเป็ถึงสัตว์อสูรระดับห้า หากพลาดท่าเ้าอาจตายอยู่ที่นี่ได้นะ!”
หยวนจุนแสดงสีหน้ามุ่งมั่นออกมา เขาหัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวว่า “ข้าหยวนจุนไม่กลัวสิ่งใด ทั้งยังไม่กลัวที่จะเสี่ยงอันตรายอีกด้วย”
“หากทำให้มันออกมาจากถ้ำได้ก็จะดีมาก เพราะข้าจะได้มีโอกาสหนีมากขึ้น แต่ถ้าทำให้มันออกมาจากถ้ำไม่ได้ คงต้องหาวิธีรับมือกับมันจนกว่าจะนำน้ำลั่วสุ่ยออกไปได้”
เซียวหานพยักหน้าอย่างจริงจัง ทั้งสองจึงมองหน้ากันและบุกเข้าไปในถ้ำอีกครั้ง
เมื่องูเหลือมเกล็ดโลหิตรู้ว่าหยวนจุนและเซียวหานย้อนกลับมา มันจึงส่งเสียงขู่ที่น่ากลัวมากกว่าเดิมออกมาทันที
“ฟ้าว ฟ้าว”
หยวนจุนขว้างลูกไฟไปยังงูเหลือมเกล็ดโลหิต แต่งูเหลือมเกล็ดโลหิตที่กลัวไฟมาั้แ่กำเนิดนั้นกลับอ้าปากกว้างแล้วกลืนลูกไฟลงไปทันที
“การที่งูเหลือมเกล็ดโลหิตกลืนกินปราณดาราไปมากถึงเพียงนี้ ทำให้มันไม่เกรงกลัวไฟแล้วสินะ...”
หางของงูเหลือมเกล็ดโลหิตกวาดไปทั่ว มันกระแทกเข้ากับหินแหลมหินงอกที่อยู่บนพื้นจนเกิดเสียงหินแตกกระจายดังไปทั่วถ้ำ
กระแสปราณขนาดั์ทำให้หยวนจุนกระเด็นออกไป ส่งผลให้เขากระแทกเข้ากับกำแพงหินที่อยู่ด้านหลัง
งูเหลือมเกล็ดโลหิตก็ฉลาดไม่แพ้กัน ในเมื่อมันกลัวกระบี่หยวนจุน ดังนั้นมันจึงไม่จู่โจม แต่กลับใช้พลังปราณขัดขวางแทน
หยวนจุนถูกโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่าจนร่างกายเต็มไปด้วยคราบเื ตอนนี้เขาทำได้เพียงถือกระบี่หยวนจุนไว้ด้านหน้าแล้วรอโอกาส
สัตว์อสูรตัวนี้อยู่ในระดับห้า หากแสดงพลังทั้งหมดออกไป เกรงว่าชีวิตของหยวนจุนคงต้องถูกพรากออกไปอย่างแน่นอน!
เหตุผลที่งูเหลือมเกล็ดโลหิตใช้เพียงพลังปราณในการขัดขวาง ประการแรกคือกลัวว่าจะทำลายน้ำลั่วสุ่ยที่อยู่ข้างๆ ประการที่สองคือมันกลัวกระบี่หยวนจุน
เซียวหานที่ยังไม่สามารถเข้าใกล้น้ำลั่วสุ่ยได้ เมื่อเห็นงูเหลือมเกล็ดโลหิตโจมตีหยวนจุนอย่างต่อเนื่อง นางก็แสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมาทันที และไม่กล้าที่จะประมาทแม้แต่น้อย
แม้จะมีโอกาสเพียงเล็กน้อย นางก็ต้องฉวยโอกาสนั้นมาให้ได้
“ฟึ่บ”
หยวนจุนเค้นเพลิงอัคคีกลืน์ที่ซ่อนอยู่ในตะวันทรงกลดวงที่หนึ่งออกมา ทำให้เสียงเปลวไฟปะทุดังออกมาจากร่างกายของเขาในทันที
“ในเมื่อใช้เปลวไฟธรรมดาแล้วไม่ได้ผล เช่นนั้นคงต้องใช้พลังจากเพลิงอัคคีกลืน์เสียหน่อยกระมัง?”
หยวนจุนควบคุมปราณต้นเพลิงอัคคีกลืน์ที่มีขนาดเท่าฝ่ามือ เมื่อเปลวไฟสีดำลุกโชนขึ้น ปราณดาราที่อยู่ในถ้ำจึงสลายหายไปทันที
ความร้อนสูงเ่าั้ทำให้พื้นที่ภายในถ้ำร้อนระอุราวกับถูกแผดเผา แม้แต่เซียวหานที่อยู่ห่างจากหยวนจุนยังรู้สึกร้อนจนเหงื่อไหลออกมาทั่วร่างกาย
“ฟ่อ”
งูเหลือมเกล็ดโลหิตเป็สัตว์อสูรระดับห้าที่เข้าใจในสิ่งที่มนุษย์พูด ดังนั้นมันจึงรู้สึกถึงเปลวไฟของหยวนจุนได้เช่นเดียวกับมนุษย์ ซึ่งทำให้มันต้องร้องเสียงดังออกมาทันที
ร่างั์สั่นสะท้านเล็กน้อยเมื่อเพลิงอัคคีกลืน์ที่อยู่ในมือของหยวนจุนเริ่มเปลี่ยนรูปร่าง เพลิงนั้นกลายเป็เงาของสิงโตที่กำลังส่องแสงอยู่ตรงหน้าเขา
เนื่องจากต้นเพลิงอัคคีกลืน์ที่หยวนจุนกำราบได้ในครั้งนั้นมิใช่ปราณเพลิงแท้ ดังนั้นต้นเพลิงจึงมีจำกัด และไม่สามารถนำเพลิงกลับมาใช้ได้อีก
เพื่อทำให้เพลิงอัคคีกลืน์ที่มีอยู่ทรงพลังมากที่สุด หยวนจุนจึงใช้พลังยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในตอนนี้!
ปางมือมรณาท่าที่สาม ปางมือราชสีห์นอก!
“กรรซ์”
ราชสีห์เพลิงกระทืบเท้าลงบนพื้นก่อนจะพุ่งเข้าใส่งูเหลือมเกล็ดโลหิตอย่างบ้าคลั่งราวกับมันมีความคิดเป็ของตนเอง จากอากาศที่ว่างเปล่า ตอนนี้กลายเป็นักล่าตะครุบเหยื่อไปเสียแล้ว
อย่างที่เสี่ยวเมิ่งกล่าว เปลวเพลิงที่มีมาั้แ่โบราณอย่างเพลิงอัคคีกลืน์นั้นมีพลังทำลายล้างที่แข็งแกร่งและทรงพลังมาก ต่างจากเปลวเพลิงบางชนิดที่สามารถเสริมความเร็วได้ หรือบางชนิดที่สามารถใช้ป้องกันได้
เนื่องจากสัตว์อสูรที่อยู่ตรงหน้าอาศัยอยู่ในแอ่งน้ำที่เต็มไปด้วยปราณดารามาหลายปี จึงทำให้สัตว์อสูรที่กลัวเพลิงไฟมาั้แ่กำเนิดกลับกลายเป็ไม่กลัวไฟ แต่สิ่งนี้คือเพลิงอัคคีกลืน์ มิใช่เพลิงธรรมดาทั่วไปที่มันไม่เกรงกลัวแต่อย่างใด!
ขณะที่งูเหลือมเกล็ดโลหิตกำลังจะฟาดราชสีห์เพลิงด้วยหางั์ มันกลับถูกเพลิงความร้อนสูงที่ลุกลามขึ้นไปกว่าเจ็ดชุ่นเผาไหม้แทน
จากนั้นราชสีห์เพลิงจึงทำให้ร่างของงูเหลือมเกล็ดโลหิตถูกปกคลุมไปด้วยทะเลเพลิงทันที
“ตอนนี้แหละ!”
เซียวหานใช้โอกาสนี้หยิบขวดหยกห้าหกขวดออกมาจากแหวนมิติ ก่อนจะรีบวิ่งไปที่ร่องหินแล้วใช้ขวดหยกรองน้ำลั่วสุ่ยอย่างชำนาญ นางอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจกับความบริสุทธิ์และความหนาแน่นของปราณดาราในน้ำลั่วสุ่ย
“กรรซ์”
งูเหลือมเกล็ดโลหิตที่ถูกทะเลเพลิงกลืนกินกำลังอ้าปากพุ่งเข้าหาเซียวหาน เคราะห์ดีที่นางใช้ขวดหยกที่ปราศจากน้ำลั่วสุ่ยขวางไว้ จึงทำให้นางสามารถหลบได้ทัน
แต่ไม่ทันที่เซียวหานจะได้หนี หางของงูเหลือมั์ก็กวาดร่างอรชรของนางจนคลื่นพลังนั้นกระจายออก ทำให้นางลอยเคว้งอยู่ในอากาศทันที
เพลิงอัคคีกลืน์ปกคลุมไปทั่วร่างกายของเซียวหาน ทำให้ปราณดาราในร่างกายของนางสลายราวกับระเหยไปในอากาศทันที
หยวนจุนรีบพุ่งเข้าไปรับนางแล้วกวัดแกว่งมือ เมื่อเปลวเพลิงสีดำมืดนั้นปะทะเข้ากับพลังที่รุนแรง มันจึงสลายหายไปในอากาศทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้