เนื่องด้วยโมโม่ท่านนี้ถือเป็ลูกค้าชานมคนแรก บวกกับนางแต่งกายหรูหรา ด้วยเหตุนี้ชีเหนียงจึงจำนางได้อย่างแม่นยำ แค่เพียงแวบแรกก็จำนางได้
“ข้าแม่เฒ่าแซ่เลี่ยว ที่มาครั้งนี้ก็เพราะมีเื่ดีงามใหญ่หลวง” แม่เฒ่าเลี่ยวยิ้มแย้มเบิกบาน สายตาที่นางมองลั่วชีเหนียง ชัดเจนว่าเหมือนกำลังมองเทพแห่งความมั่งคั่งอย่างไรอย่างนั้น
ชีเหนียงเห็นนางเช่นนั้นก็พอเข้าใจได้ เดาว่าชานมที่นางซื้อกลับไปวันนั้นคงได้รับความชื่นชอบจากเ้านาย ที่มาวันนี้คงตั้งใจมาซื้อเพิ่ม ข้อหนึ่งเพื่อเอาใจเ้านาย ข้อสองเกรงว่าคงอยากกลับมาตักตวงส่วนลดสักหน่อย
“เลี่ยวมามา [1] เื่ดีงามอันใหญ่หลวงฟังดูดี เราค้าขายก็เพราะหวังว่ามีเื่ดีงามใหญ่หลวงมิใช่หรือ ขอยืมวาจามงคล ของท่านแล้ว”
เลี่ยวมามาได้ยินก็รู้ว่านางคือคนที่มองเื่ราวทะลุปรุโปร่ง เพียงแค่ตนพูดประโยคเดียว นางก็คาดเดาได้คร่าวๆ วิถีของโลกนี้ การคบค้าสมาคมกับคนสติปัญญาหลักแหลมช่างสบายดั่งที่คาด
“ฮูหยินของข้าชื่นชอบชานมของร้านเ้ายิ่งนัก จึงได้อยากจะเชิญเ้าไปแวะเวียนที่จวนของเราสักหน่อย”
เลี่ยวมามาคว้าเกาลัดมาหนึ่งกำมือ เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ได้ห้าม จึงเริ่มทาน ลั่วชีเหนียงรู้ว่านางจงใจหยุดเพื่ออยากวางมาด หากเป็สมัยก่อน ตนเองคงไม่ตามใจคนนิสัยเช่นนี้แน่ แต่นางในตอนนี้้าเงิน
อีกอย่าง บนโลกใบนี้ไม่มีขาวหรือดำ คนส่วนใหญ่ก็ล้วนใช้ชีวิตแบบสีเทา มิใช่หรือ
“เลี่ยวมามาระวังกระหาย ดื่มชาดอกไม้ให้ลื่นคอสักหน่อย” ชีเหนียงยื่นชาดอกไม้เมล็ดชุมเห็ดเทศ
ขณะที่เลี่ยวมามาพึมพำในใจ นางคงไม่ได้ใจแคบจนไม่อยากยกชานมให้ตนหรอกนะ ใครจะรู้ว่าชาดอกไม้ในปากกลับมีกลิ่นหอมสดชื่น รสชาตินี้มิได้แย่กว่าน้ำชาหลงจิ่ง [2] เหลือๆ ในกาของฮูหยินที่เคยแอบดื่มเลย!
รสชาติดีงาม! นางดื่มเข้าไปหนึ่งอึกใหญ่
หลังจากอิ่มหนำ เลี่ยวมามาก็โน้มตัวกระซิบเพื่อกำชับ “่นี้นายท่านของข้ากำลังจะจัดงานเลี้ยงวันเกิด ฮูหยินจึง้าสรรหาของดีๆ ชานมของเ้านับว่ามีเพียงหนึ่งเดียวในอำเภอเฉา ฮูหยินจึงอดไม่ได้ที่จะอยากใช้ เพียงแต่เื่ราคานี้…”
เลี่ยวมามา้าได้ส่วนลดมากหน่อย ตอนที่ตอบฮูหยินจึงบอกไปว่าแก้วละห้าสิบ โดยไม่ได้เอ่ยถึงเื่กิจกรรมส่วนลดหรือของแถมแต่อย่างใด
ชีเหนียงเองก็เข้าใจฉับพลันจึงยิ้มและตอบ “ชานมของข้าล้วนแต่ใช้วัตถุดิบอย่างดีทั้งยังละเอียดและประณีต ห้าสิบอีแปะ ไม่อาจต่ำกว่านี้ได้อีก” แม้จะพูดเช่นนี้ แต่กลับทำมือเป็ตัวเลขสี่สิบห้า
เลี่ยวมามาเข้าใจความหมายของนาง เดิมทีคิดว่าสามารถกดได้ที่ราคาสี่สิบอีแปะ แต่ความตั้งใจของตนก็มิได้ถูกทำลายลง ขาดไปห้าอีแปะก็ช่างมัน
“ทว่า ข้าไม่กล้ารับรองว่าฮูหยินจะตอบตกลง เ้าคงต้อง…”
“เลี่ยวมามาวางใจได้ แม้ฮูหยินไม่ยอม แต่แผงของข้าก็ให้มามาแก้กระหายได้มิใช่หรือ”
คำพูดของชีเหนียงแฝงความหมายชัดเจนว่า ถึงแม้การค้าขายจะเจรจาไม่สำเร็จ แต่การแนะนำของเลี่ยวมามา นางจะจดจำไว้แน่นอน
......
รอจนทั้งสองมาถึงจวน มองดูป้ายแขวนสกุลหยาง จู่ๆ ชีเหนียงก็เข้าใจว่านี่คือสถานที่แห่งใด
หลังจากได้รับรายงานให้รอ นางก็ได้เจอกับ ตู้ิเจวียน นายหญิงแห่งจวนสกุลหยาง
ตู้ิเจวียนสวมกระโปรงผ้าไหมสีแดงสดหางยาวเย็บปักลวดลายและนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้สน ผ้าเช็ดหน้าอันประณีตในมือของนาง อย่างน้อยก็ต้องมีมูลค่าสิบตำลึง
ชีเหนียงเพียงแค่กวาดตามองแวบเดียว การตกแต่งภายในห้องเหมือนจะธรรมดาไม่พิเศษ แต่ของทุกชิ้นกลับประณีตอย่างหาใดเทียบมิได้ นายหญิงแห่งจวนสกุลหยางช่างร่ำรวยนัก
มิโทษเลี่ยวมามาที่้าแอบงุบงิบไว้ส่วนตัว
หลังจากการแนะนำของเลี่ยวมามา ลั่วชีเหนียงคารวะหยางฮูหยิน
“คารวะฮูหยิน ข้าน้อยลั่วชีเหนียงขอคำนับฮูหยิน”
ดวงตาเกียจคร้านของตู้ิเจวียนเมื่อเห็นการคำนับของลั่วชีเหนียงถึงกับคมกริบขึ้นมาทันใด
การคำนับแบบซู่หลี่! หญิงบ้านนอกผู้นี้ถึงขั้นคำนับแบบซู่หลี่ได้ด้วย!
การคำนับแบบซู่หลี่นั้นมีไว้สำหรับสตรีผู้ออกเรือนแล้ว เข่าสองข้างคุกกับพื้น มือวางนาบกับพื้น แต่ไม่ก้มศีรษะลง เพียงแต่การคำนับเช่นนี้ ส่วนมากมีแต่คนในเมืองหลวงจึงจะทำเป็ หญิงบ้านนอกคนหนึ่งกลับมีมารยาทดีเช่นนี้เลยหรือ?
ตู้ิเจวียนเก็บความคิดดูแคลนในใจและสังเกตสตรีด้านล่างอย่างละเอียด เนื้อตัวแต่งกายมีระเบียบ มองดูแล้วเป็คนสะอาดสะอ้าน นิ้วมือขาวสะอาดปราศจากเศษดินโคลน จากนั้นมองดูดวงตาของนางที่มีความอ่อนช้อยเฉกเช่นสตรี เมื่อมองอย่างละเอียดกลับมีความเด็ดเดี่ยวที่ต่างจากสตรีอื่นจริงๆ
นี่คือหญิงที่มีจิตใจเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว
ตู้ิเจวียนเกิดความสนใจในตัวนางทันใด ก่อนหน้านี้เื่ที่หยางหนิงสืบสวนคดีสกุลลั่วกับโรงพนันสือวาน นางก็สงสัยใคร่รู้ในตัวหญิงผู้นี้อย่างมาก พอวันนี้ได้เห็นก็รู้สึกได้ว่าช่างต่างจากคนทั่วไปจริงๆ
“วันนี้ข้าเรียกเ้ามา ที่สำคัญคือตั้งใจจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้สามีของข้าในเดือนหน้า เดาว่าเลี่ยวมามาคงบอกกับเ้าแล้ว”
ตู้ิเจวียนส่งสัญญาณทางสายตา สาวใช้ข้างกายก็มาประคองลั่วชีเหนียงให้ลุกขึ้น การกระทำนี้ทำให้เลี่ยวมามาอดใไม่ได้
ใครบ้างไม่รู้ว่าฮูหยินคือชนชั้นสูงที่มาจากเมืองหลวง ฝั่งต้นตระกูลเองก็เป็บุคคลที่มีอำนาจ เพียงกระทืบเท้าผืนดินในเมืองหลวงก็สั่นะเืได้ คิดไม่ถึงว่าลั่วชีเหนียงจะมีวาสนาดีเช่นนี้ จนเข้าตาของฮูหยินได้
“บอกแล้วเ้าค่ะ เพียงแต่ข้าน้อยตอนนี้ นอกจากชานมถั่วแดงกับชานมไข่มุก แล้วยังมีชาดอกไม้ ไม่ทราบว่าฮูหยินพึงใจอันไหน และปริมาณเท่าใดเ้าคะ?” ชีเหนียงพูดไปแต่ไม่เห็นนางตอบ จึงเสริมอีก “ตอนนี้อากาศหนาว ดอกไม้มากมายยังไม่ใช่ฤดูของมัน เกรงว่าคงต้องเตรียมการแต่เนิ่นๆ”
“ชานมถั่วแดงขอจองไว้ก่อนหนึ่งร้อย ส่วนชาดอกไม้ ข้ายังไม่เคยดื่ม จึงไม่ค่อยรู้ชัด”
ชีเหนียงพยักหน้า ดีที่นางเตรียมมาก่อน
“ฮูหยิน ในตะกร้าที่ข้าน้อยนำมามีชาดอกไม้อยู่บ้าง มิสู้ท่านลองลิ้มชิมรสชาติดูก่อนได้เ้าค่ะ”
ในที่สุดเลี่ยวมามาจึงเข้าใจว่าเหตุใดตอนที่มาชีเหนียงถึงต้องแบกตะกร้า ตอนนั้นนางยังเห็นว่าล่าช้าจึงห้ามปรามไม่น้อย จากที่ดูตอนนี้ ลั่วชีเหนียงได้คาดการณ์ไว้แต่แรกแล้ว กระทั่งมีแผนการไม่เบา
ตู้ิเจวียนชะงักเล็กน้อย ฉับพลันก็นึกได้ว่านางคือสตรีที่หลักแหลม จึงยิ้มแย้มและให้บ่าวนำของมา
ชาดอกไม้ที่อยู่ในปาก คือสิ่งที่นางไม่เคยได้ดื่มมาก่อน รสชาติสดชื่นไม่พอ ยังมีกลิ่นหอมของมะลิปะปนอยู่ ไม่เสียแรงที่เป็ชาดอกไม้ มีความสง่างามพอตัว
นางชำเลืองเห็นของแปลกใหม่อีกหนึ่งอย่าง จึงยื่นมือหยิบสิ่งที่คล้ายกับช้อนยาวออกมา
“นี่คือสิ่งใด?”
ชีเหนียงเห็นและอธิบาย “มันคือช้อนเ้าค่ะ แต่สามารถใช้เป็หลอดดูดได้”
ขณะพูด นางก็หยิบช้อนหลอดดูดขึ้นมาแสดงให้ตู้ิเจวียนดู
“ชานมของร้านข้าค่อนข้างพิเศษ ในนั้นจะมีถั่วแดงที่บางครั้งตอนยกแก้วดื่มอาจจะติดตรงก้นและไม่ไหลลงมา อีกทั้งสตรีส่วนมากมักจะทาสีชาดที่ปาก แก้วที่ผ่านการดื่มอาจจะมีรอยประทับไว้ดูไม่สง่างาม ช้อนหลอดดูดนี้ ทั้งสามารถดื่มชานมและยังสามารถตักถั่วแดงกับไข่มุกด้านในได้ อีกทั้งสีชาดจากริมฝีปากก็จะไม่ติดให้เห็นเป็รอยชัดเจน เพียงแค่ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเบาๆ ก็เช็ดได้สะอาดเ้าค่ะ”
คำพูดนี้จี้ปมในใจของตู้ิเจวียนนัก ก่อนหน้านี้นางมักจะหงุดหงิดกับปัญหานี้ประจำ ตอนนี้พอได้รับการแก้ไขปัญหา นางดีใจจนสั่งเครื่องดื่มแต่ละชนิดไว้อย่างละหนึ่งร้อยชุด ส่วนช้อนนี้ แน่นอนว่าต้องคิดราคาต่างหาก
คราวนี้ลั่วชีเหนียงได้รับรายการสั่งซื้อขนาดใหญ่ในชีวิต นางเองก็ไม่ตระหนี่และมอบสูตรขนมของว่างหนึ่งอย่างให้แก่ตู้ิเจวียน ขนมที่ทำจากสูตรนี้สามารถทำให้ตู้ิเจวียนที่ตัวอยู่ห่างไกลในอำเภอเฉา สามารถมีจุดยืนมั่นคงในเมืองหลวงอีกครั้ง
-----
[1] มามา (妈妈) แปลว่า มารดา แม่ ในภาษาจีน และยังเป็คำสรรพนามที่ใช้เรียกกันในหมู่ แม่เล้า หรือแม่ค้านายหน้าได้ด้วยเช่นกัน
[2] ชาหลงจิ่ง คือ ชาเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็มากว่า 1,200 ปี ขึ้นชื่อเื่รสชาติ ความพิถีพิถัน และราคาที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็ชาหายาก เพาะปลูกได้ดีในบางพื้นที่เท่านั้น สมัยก่อนนิยมเสิร์ฟให้กับจักรพรรดิของจีนในสมัยโบราณ มีแหล่งกำเนิดจากเมืองหังโจว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้