ณ เมืองเฮยอวิ๋น ตระกูลเนี่ย
ม่านรัตติกาลเยื้องกรายมาเยือน เนี่ยเฉี่ยนที่สวมอาภรณ์สีสันเรียบง่ายยืนพิงขอบหน้าต่าง มองไปยังูเาจำลองด้านนอกด้วยอาการเหม่อลอย
ภายในห้อง เนี่ยเทียนที่อายุเพิ่งครบขวบปีผลักแม่นมออกด้วยความรำคาญ มุมปากเต็มไปด้วยคราบน้ำนม ทว่ากลับมองไปยังเนี่ยเฉี่ยนตาปริบๆ ะโอ้อแอ้เสียงดัง “เนื้อ กินเนื้อ...”
ใบหน้าของแม่นมโจวกระอักกระอ่วน หัวเราะอย่างลำบากใจ แล้วกล่าวว่า “คุณหนูใหญ่ ท่านดูสิเ้าคะ...”
เนี่ยเฉี่ยนคืนสติกลับมา ขึงตาใส่เนี่ยเทียนที่ตัวใหญ่อ้วนท้วนสมบูรณ์ ดุเสียงเบาๆ ว่า “เ้าตัวป่วนน้อย วันนี้เ้ากินเนื้อบดไปตั้งสองถ้วยแล้ว ไม่ยอมกินนมดีๆ ตอนนี้อยากจะกินเนื้อขึ้นมาอีก อย่างนี้จะย่อยได้ทันหรือ”
“เนื้อ จะกินเนื้อ...” เนี่ยเทียนยังคงร้องเรียกด้วยเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเช่นเคย
มองเนี่ยเทียนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มประจบ ทำให้เนี่ยเฉี่ยนคิดถึงน้องสาวที่จากไปจึงใจอ่อนขึ้นมา เขาพยักหน้าเบาๆ ให้กับแม่นมโจว
แม่นมโจวยกเนื้อบดละเอียดถ้วยหนึ่งออกมาทันที วางเบาๆ ลงไปบนโต๊ะ ดวงตาดำขลับของเนี่ยเทียนพลันเปล่งประกาย หยิบช้อนแกงที่ทำจากเงินขึ้นมาจ้วงตักด้วยความคุ้นชิน ใบหน้าเล็กๆ อ้วนกลมนั้นเต็มไปด้วยความพอใจ
ได้ยินเสียงกินอาหารดัง “จั๊บๆ” ของเนี่ยเทียน เนี่ยเฉี่ยนก็รู้สึกรำคาญขึ้นมานิดๆ อย่างไร้สาเหตุ “เสี่ยวเยว่ งานจับฉลากพรุ่งนี้มีเด็กเข้าร่วมทั้งหมดกี่คน?” เนี่ยเฉี่ยนถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน
หานเยวี่ย สาวใช้ที่ยืนลังเลอยู่หน้าประตู ตอบกลับมาเสียงเบา “คุณหนูใหญ่ ขอเพียงแค่เป็เด็กตระกูลเนี่ย แซ่เนี่ยที่อายุครบขวบปีเต็มล้วนเข้าร่วมกันหมดเ้าค่ะ เพราะอย่างไรเสียทุกๆ ห้าปี เทพเซียนเฒ่าของเขาหลิงอวิ๋นถึงจะพกอาวุธวิเศษมาด้วยแบบนี้สักครั้ง ถือเป็การเลี้ยงฉลองและให้รางวัลแก่ความขยันหมั่นเพียรมาตลอดหลายปีของคนในตระกูลเนี่ย ผู้ใดก็ตามที่มีลูกอายุครบขวบปีเต็มก็ล้วนไม่ยอมพลาดโอกาสเช่นนี้ไป”
ในเมืองเฮยอวิ๋นตระกูลเนี่ยถือเป็ตระกูลโด่งดังเลื่องชื่อ อีกทั้งบนโลกใบนี้ยังนับถือผู้ฝึกลมปราณ และมีอิทธิพลต่อวงศ์ตระกูล ตระกูลคนธรรมดาแทบทุกคนก็จะให้การสนับสนุนผู้ฝึกลมปราณที่แข็งแกร่งจนหมด แน่นอนว่าตระกูลเนี่ยเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
สำนักผู้ฝึกลมปราณอันเป็ที่พึ่งพิงของตระกูลเนี่ยคือสำนักหลิงอวิ๋นซึ่งตั้งอยู่บนเขาหลิงอวิ๋นใกล้กับเมืองเฮยอวิ๋น บนเขาหลิงอวิ๋นเต็มไปด้วยหินเมฆอัคคี หินเมฆอัคคีคือของวิเศษระดับล่างชนิดหนึ่งที่พบเห็นได้บ่อย ซึ่งจำเป็สำหรับการฝึกบำเพ็ญตนของผู้ฝึกลมปราณ ผู้ฝึกลมปราณของสำนักหลิงอวิ๋นยุ่งอยู่กับการฝึกบำเพ็ญตบะตลอดทั้งปี จะไม่เสียเวลามาขุดหินเมฆอัคคีระดับล่างเช่นนี้จากกลางูเา จึงจัดการส่งคนของตระกูลเนี่ยมาทำแทน
คนตระกูลเนี่ยทุกรุ่นล้วนผ่านการขุดหินเมฆอัคคีเพื่อมาเป็บรรณาการส่งให้กับสำนักหลิงอวิ๋น เพื่อแลกกับการปกป้องคุ้มครองจากสำนักหลิงอวิ๋น
ส่วนผู้ฝึกลมปราณของสำนักหลิงอวิ๋น นอกจากคุ้มครองไม่ให้ตระกูลเนี่ยถูกพลังอำนาจของตระกูลอื่นในเมืองเฮยอวิ๋นกดขี่แล้ว ทุกๆ ห้าปีจะมาที่ตระกูลเนี่ยหนึ่งครั้ง ใช้อาวุธวิเศษระดับล่างเหล่านี้มาทดสอบพร์ในการฝึกบำเพ็ญตบะของเด็กตระกูลเนี่ยโดยผ่านการจับฉลาก
เด็กทุกคนเมื่อเกิดมา ร่างกายจะต้องมีธาตุพิเศษที่ติดตัวมาด้วยไม่มากก็น้อย นอกจากห้าธาตุพื้นฐานอย่างทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดินแล้ว ยังมีเด็กบางคนที่ในร่างกายแฝงไปด้วยธาตุพิเศษหายากอย่างสายฟ้า ลม เมฆ น้ำแข็ง เป็ต้น ทุกครั้งที่ผู้ฝึกลมปราณของสำนักหลิงอวิ๋นมาเยือนจะต้องพกเอาอาวุธวิเศษระดับล่างที่มีธาตุหลากหลายชนิดแตกต่างกันมาด้วย
เด็กและอาวุธวิเศษที่มีธาตุเดียวกันจะเกิดการดึงดูดตอบสนองซึ่งกันและกัน และสิ่งนี้ก็จะช่วยยืนยันธาตุที่อยู่ในร่างกายของเด็กคนๆ นั้นได้ สิ่งนี้จึงทำให้รุ่นของบิดารักษาได้ถูกโรค รู้ทิศทางการฝึกบำเพ็ญตบะของลูกในอนาคต และยังช่วยลดแรงในการฝึกบำเพ็ญตบะของลูกตนเอง
ผู้ฝึกลมปราณของสำนักหลิงอวิ๋นจะใช้อาวุธวิเศษระดับล่างเ่าั้มาผูกมัดความซื่อสัตย์ของตระกูลเนี่ยเอาไว้ โดยมอบอาวุธวิเศษระดับล่างที่เอามาใช้ในงานจับฉลากให้กับเด็กตระกูลเนี่ยที่มีธาตุสอดคล้องกัน
สำหรับผู้ฝึกลมปราณสำนักหลิงอวิ๋นแล้ว อาวุธวิเศษระดับล่างเ่าั้ไม่ได้มีประโยชน์มากมายเท่าใดนัก แต่กลับสามารถช่วยในการฝึกบำเพ็ญตบะของเด็กๆ ตระกูลเนี่ยได้ แม้กระทั่งใน่ระยะเวลาที่ยาวนาน่หนึ่ง ต่างก็เป็อาวุธวิเศษที่ถนัดมือที่สุดของเด็กตระกูลเนี่ยด้วยซ้ำ
ด้วยเหตุนี้ งานเลี้ยงจับฉลากที่จัดขึ้นทุกห้าปีจึงสร้างความคึกคักให้กับบ้านตระกูลเนี่ยเป็อย่างยิ่ง ผู้ใดก็ตามที่มีลูกหลานอายุเต็มขวบปีล้วนมองงานนี้เป็เื่ใหญ่ในชีวิตของลูกหลาน แห่แหนแย่งชิงกันเอามาเป็ของตน
ครั้งนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
“ข้าถามเ้าว่ารอบนี้มีเด็กเข้าร่วมทั้งหมดกี่คน?” เนี่ยเฉี่ยนขมวดคิ้วถาม
“เจ็ดคนเ้าค่ะ” หานเยวี่ยก้มหน้าตอบเสียงเบา
“เสี่ยวเทียนเองก็เพิ่งจะอายุครบขวบปีเต็มพอดี เขาเองก็แซ่เนี่ยเช่นกัน เหตุใดจึงไม่มีคนมาแจ้งข้าให้นำตัวเนี่ยเทียนไปเข้าร่วมงานเลี้ยงจับฉลากครั้งนี้ด้วย?” เนี่ยเฉี่ยนพูดด้วยความไม่พอใจ
“คุณหนูใหญ่...” หานเยวี่ยฝืนยิ้มแล้วเงยหน้ามองเนี่ยเฉี่ยนหนึ่งครั้ง ตอบเสียงอ่อนว่า “แม้ว่าเนี่ยเทียนจะเป็ลูกของคุณหนูรอง แต่คุณหนูรองนาง... ก็เป็เหมือนท่าน ล้วนเกิดเป็หญิง อีกทั้งก่อนที่คุณหนูรองจะจากโลกนี้ไปก็ไม่เคยบอกว่าบิดาของเนี่ยเทียนคือผู้ใด”
“กฎของตระกูลเนี่ยถูกกำหนดไว้ชัดเจนแล้ว มีเพียงหลานชายและหลานสาวฝ่ายปู่เท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์เข้าร่วมงานเลี้ยงจับฉลากที่จะจัดขึ้นทุกห้าปีได้ ส่วนหลานตา... ไม่อาจเข้าร่วมได้เ้าค่ะ”
“ข้าไม่สนกฎบ้าบออะไรพวกนั้นหรอก ตอนนี้ท่านพ่อของข้ายังคงเป็ประมุขของตระกูล ข้าจะไปพูดกับท่านตอนนี้เลย!” เนี่ยเฉี่ยนพูดอย่างเกรี้ยวกราด พูดจบนางก็จากไปพร้อมโทสะ
“แม้ว่าตอนนี้นายท่านจะยังคงเป็ประมุขของตระกูล แต่ตำแหน่งนี้... ก็ไม่มั่นคงเลยสักนิด!” หลังจากเนี่ยเฉี่ยนจากไปพร้อมความโกรธเคือง ใบหน้าของหานเยวี่ยเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มใจ พึมพำกับตัวเองเสียงเบา
ผ่านไปครู่ใหญ่
เนี่ยเฉี่ยนบุกเข้ามายังเรือนของเนี่ยตงไห่ อ้าปากะโอย่างฉุนเฉียว “ท่านพ่อ เนี่ยเทียนเองก็เป็...”
เสียงะโของนางหยุดชะงักลงกลางคัน
ในห้องมืดสลัว บนใบหน้าประมุขคนปัจจุบันของตระกูลเนี่ย เนี่ยตงไห่ เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ร่างกายที่เคยแข็งแรงบึกบึนในเมื่อนั้น มายามนี้กลับผ่ายผอมโรยแรง นั่งหลังงองุ้มพิงกำแพง กำลังมองยาสีแดงเข้มเม็ดหนึ่งที่อยู่กลางฝ่ามือด้วยท่าทีลังเลตัดสินใจไม่ได้ว่าจะกินดีหรือไม่
เนี่ยเฉี่ยนที่กำลังกราดเกรี้ยวเห็นเช่นนั้นใจก็หดหู่ใจ น้ำเสียงจึงพลันอ่อนลงมา เกลี้ยกล่อมด้วยเสียงอ่อนโยน “ท่านพ่อ อย่านะเ้าคะ”
นางมองปราดเดียวก็รู้ว่ายาที่อยู่กลางฝ่ามือของเนี่ยตงไห่คือยาคืนพลัง เมื่อใช้ยาคืนพลัง สามารถทำให้ผู้ฝึกลมปราณคนหนึ่งมีพลังิญญาคืนมาอย่างเต็มเปี่ยม มีชีวิตชีวาอีกครั้ง สีหน้าสดใสอิ่มเอิบได้ใน่ระยะเวลาสั้นๆ
ทว่ายาคืนพลังกลับต้องแลกมาด้วยศักยภาพและอายุขัยของผู้ฝึกลมปราณ เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งนี้จะทำลายจิตใจและร่างกายของผู้ฝึกลมปราณอย่างใหญ่หลวง
โดยทั่วไปแล้ว มีแค่่ความเป็ความตายระหว่างที่ผู้ฝึกลมปราณต่อสู้กับศัตรูเท่านั้นถึงจะนำยาคืนพลังมาใช้เพื่อช่วยให้มีโอกาสรอดชีวิต แต่ในยามปกติเช่นนี้จะไม่มีผู้ใดกล้านำมาใช้เด็ดขาด
เนี่ยตงไห่ที่ก้มหน้ามองยาคืนพลังอยู่นานสองนานเห็นเนี่ยเฉี่ยนเข้ามาจึงฝืนยิ้มออกไป แล้วพูดด้วยคำพูดที่เข้าใจยากว่า “นับั้แ่ที่ถูกตระกูลอวิ๋นและตระกูลหยวนทำร้ายจนาเ็สาหัส ลมปราณของข้าก็แตกสลาย การรวบรวมพลังิญญาไม่สามารถต้านทานการแตกสลายที่รวดเร็วอย่างนี้ได้อีกต่อไป ข้าคงสิ้นหวังที่จะได้เหยียบย่างเข้าสู่ขั้นต้น์ไปตลอดชีวิต หรือแม้แต่ในขั้นกลางของ์นี้...ก็ใกล้จะรักษาไว้ไม่ไหวเต็มที”
“เ้าสองและเ้าสาม้าตำแหน่งประมุขตระกูลของข้ามานานแล้ว พรุ่งนี้คนของสำนักหลิงอวิ๋นจะมาเยือน หากเขามองออกถึงสภาพที่ย่ำแย่ลงของข้าในตอนนี้ อีกทั้งเ้าสองและเ้าสามกระพือไฟใส่อีกหน่อย ตำแหน่งนี้ของข้า เกรงว่าคงต้องยกสองมือประคองส่งให้อย่างแน่นอน”
“ท่านพ่อ หากต้องใช้อายุขัยของท่านแลกมาด้วยตำแหน่งประมุขของตระกูล ข้ายอมให้ท่านลงจากตำแหน่งก่อนเวลาเสียดีกว่า” เนี่ยเฉี่ยนพูดด้วยน้ำตาคลอเบ้า
“เ้าจะไปเข้าใจอะไรเล่า?” เนี่ยตงไห่ขึงตาใส่หนึ่งที บนใบหน้าเต็มไปด้วยความดุดันและเกรี้ยวกราด “จะมีเพียงข้าที่จะได้เป็ประมุขตระกูลเนี่ยเท่านั้น ถึงจะมีทางทวงคืนความยุติธรรมให้กับความอัปยศที่เ้าได้รับจากตระกูลอวิ๋น! ยังมีเ้าคนที่หลอกลวงน้องสาวเ้าผู้นั้นอีก มีเพียงใช้อำนาจของตระกูลเนี่ยเท่านั้น ถึงจะมีความหวังสืบหาเจอว่ามันเป็ใคร!”
“หากข้าลงจากตำแหน่ง เ้าสองและเ้าสามไม่มีทางสนใจความแค้นของเ้าและน้องสาวเ้าอย่างแน่นอน! เพื่อเ้าและจิ่นเอ๋อแล้ว ตำแหน่งนี้หากข้าสามารถนั่งอยู่ได้นานกว่าหนึ่งวัน ข้าก็ต้องนั่งอยู่นานกว่าหนึ่งวัน!”
“มีชีวิตอยู่ได้น้อยลงอีกแค่ไม่กี่ปีมันจะไปสำคัญอันใดเล่า? เมื่อใดที่ข้าลงจากตำแหน่งนี้ก็จะไม่มีอำนาจ่ชิงอะไรมาให้กับพวกเ้าอีกแล้ว ถ้าเช่นนั้นจะต่างอะไรกับคนที่ตายไปแล้วเล่า?”
“ท่านพ่อ!” เนี่ยเฉี่ยนร้องสะอึกสะอื้นไม่เป็เสียง
“พอเถอะๆ อย่าทำตัวเหมือนเด็กที่ยังไม่โตเลย พูดมาสิ เ้ารีบร้อนมาหาข้ามีเื่อันใด?” เนี่ยตงไห่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งครั้ง สีหน้ากลับมาเด็ดเดี่ยวดังเดิม
“ท่านพ่อ งานเลี้ยงจับฉลากวันพรุ่งนี้เป็เื่ที่สำคัญอย่างยิ่ง ในเมื่อท่านให้เสี่ยวเทียนแซ่เนี่ย ข้าหวังว่าเสี่ยวเทียนจะได้เข้าร่วมด้วย หากเสี่ยวเทียนสามารถจับฉลากเจออาวุธวิเศษที่เหมาะสมกับเขา นี่จะมีประโยชน์ต่อการบำเพ็ญตบะของเขาในวันข้างหน้าอย่างสูงสุด บางทีเขาอาจจะยืมใช้อาวุธวิเศษชิ้นนั้นเหยียบย่างเข้าสู่ขั้นเก้าของหลอมลมปราณตอนอายุสิบห้าได้ และได้เข้าไปอยู่ในสำนักหลิงอวิ๋นก็เป็ได้” เนี่ยเฉี่ยนกล่าววิงวอน
“เื่นี้...” เนี่ยตงไห่สีหน้าลำบากใจ “มีหรือที่ข้าจะไม่รู้? เื่นี้ข้าเคยพูดกับเ้าสองเ้าสามตั้งนานแล้ว แต่พวกเขาปฏิเสธเด็ดขาด บอกว่าเสี่ยวเทียนไม่ใช่หลานแท้ๆ ของตระกูลเนี่ยเรา จึงต้องทำตามกฎห้ามให้เสี่ยวเทียนเข้าร่วม”
“ท่านพ่อ ตบะของท่านใกล้จะหมดลงแล้ว น้องหญิงเองก็ไม่อยู่แล้ว ส่วนข้า... ชีวิตนี้ก็คงได้เท่านี้ คนของฝ่ายเราเองก็มีไม่มาก มีเพียงเสี่ยวเทียนที่เป็ผู้ชายคนเดียว ข้าหวังว่าท่านจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อ่ชิงโอกาสมาให้กับเสี่ยวเทียน” เนี่ยเฉี่ยนพูดด้วยน้ำตานองหน้า
เนี่ยตงไห่นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่แล้วพยักหน้าเบาๆ “ข้าเข้าใจแล้ว เ้ากลับไปเถอะ พรุ่งนี้พาเนี่ยเทียนไปที่งานเลี้ยงจับฉลากให้ตรงเวลา”
น้ำตาในดวงตาของเนี่ยเฉี่ยนเปล่งประกายวิบวับ ฉายให้เห็นถึงแววตาที่เด่นชัดขึ้นมา โค้งตัวให้แล้วจากไปทันที
ตอนที่นางก้าวออกจากห้องกำลังจะเดินจากไปนั้นเอง นางได้ยินเสียงเนี่ยตงไห่กลืนยาคืนพลังลงไป รวมไปถึงเสียงถอนหายใจยาวหนึ่งครั้งของเขา
ใจของเนี่ยเฉี่ยนราวถูกมีดกรีด รู้ดีว่าการมาของนางกลับเป็การช่วยให้เนี่ยตงไห่ตัดสินใจได้เร็วขึ้น นางไม่กล้าหันกลับไปมอง รีบก้าวเท้าเร็วๆ ผลุนผลันจากไป
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้