เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

      สตูดิโอของหนิงเยี่ยนฝานมีคนอยู่เต็มตลอดเวลา

        แม้ชายชราจะยังแข็งแรงดี แต่อย่างไรเขาก็อายุมากแล้ว ดังนั้นงานบางอย่างจึงมอบหมายให้ลูกศิษย์หรือผู้ช่วยเป็๞คนทำ

        ที่นี่คือสตูดิโอขนาดใหญ่

        นอกจากหนิงเสวี่ยแล้ว หนิงเยี่ยนฝานไม่ได้พักอาศัยอยู่กับคนในครอบครัว บ้านของสถาปนิกใหญ่นั้นเรียบง่ายมาก โดยเขาให้ความสำคัญกับประโยชน์ในการใช้สอยมากกว่าความสวยงาม

        หนิงเยี่ยนฝานทำงานด้านสถาปัตยกรรมมาครึ่งชีวิต หลังเกษียณเขายังทำหน้าที่เป็๲อาจารย์กิตติมศักดิ์ของมหาวิทยาลัยต่างๆ จากนั้นเขาจึงก่อตั้งสตูดิโอของตัวเองขึ้นมา หากใช้คำพูดของหนิงเยี่ยนฝานก็คือ เขามอบชีวิตวัยหนุ่มให้กับงานส่วนรวม พอถึงยามแก่เฒ่าที่ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่ปี เขาจึงขอออกแบบสิ่งที่ตัวเองชอบแล้วกัน ตอนเขาพูดคำนี้เขาเองก็นึกไม่ถึงว่าตนจะอายุยืนถึงเพียงนี้ มีชีวิตอยู่จนถึงยุคใหม่ ทั้งยังเป็๲คนดังของวงการสถาปัตยกรรม

        เซี่ยเสี่ยวหลานได้เข้าไปดูห้องทำงานส่วนตัวของหนิงเยี่ยนฝาน

        บ้านพักของเขาดัดแปลงมาจากเรือนสี่ประสาน โดยการตกแต่งของบ้านสมัยเก่านั้นเรียบง่าย ดูสะอาดสะอ้าน และหาก๻้๵๹๠า๱แสงแดดที่เพียงพอก็จำเป็๲ต้องนำหน้าต่างแบบสมัยเก่าออกไปทั้งหมด เรือนสี่ประสานนับว่าเป็๲ที่พักที่ดูมีระดับ แต่ใช้พื้นที่แนวราบได้อย่างสิ้นเปลืองเหลือเกิน หนิงเยี่ยนฝานจึงได้ทำการดัดแปลงมันให้กลายเป็๲บ้านตึก

        เรียบง่ายแต่โอ่อ่า หากบอกว่าหนิงเยี่ยนฝานไม่ได้ให้ความสำคัญกับการออกแบบก็คงจะไม่ได้ เพราะทุกพื้นที่เต็มไปด้วยรายละเอียดที่แตกต่างกัน

        “ตอนคุณปู่ดัดแปลงที่นี่ เขาอยากให้ที่นี่สามารถผลิตสถาปนิกรุ่นใหม่ให้ได้จำนวนหลายๆ คน”

        จบปริญญาตรีด้านสถาปัตยกรรมแล้วยังไม่ใช่สถาปนิกเต็มตัว นักศึกษาที่เรียนจบหาก๻้๪๫๷า๹เป็๞สถาปนิกไม่ใช่แค่ต้องสอบใบประกอบวิชาชีพ ทั้งยังต้องประยุกต์ใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาให้เป็๞... เรียนจบแล้วจะมีคนยอมให้ออกแบบตึกใหญ่เลยอย่างนั้นหรือ? โลกสวยเกินไปแล้ว ส่วนใหญ่ล้วนเริ่มจากออกแบบห้องน้ำกันทั้งนั้น!

        การออกแบบห้องน้ำที่ว่า ไม่ใช่การวาดแบบห้องน้ำจริงๆ แต่หมายถึงการเริ่มจากงานขั้นพื้นฐานนั่นเอง การก่อสร้างโครงการหนึ่งเริ่มต้นจากการประมูลราคาจนถึงการลงมือก่อสร้าง ทีมไหน๻้๵๹๠า๱คนก็ไปทำงานกับทีมนั้น บางครั้งการประมูลงานอาจต้องใช้ระยะเวลานานหนึ่งถึงสองปี โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่อย่างในต่างประเทศ ล้วนต้องผ่าน ‘การแข่งขัน’ มานับครั้งไม่ถ้วน ผ่านรอบแรกมีรอบสอง ผ่านรอบสองมีรอบสาม กว่าจะเข้าไปสู่รอบสุดท้ายได้นั้นไม่ง่ายเลยทีเดียว ขณะที่คิดว่าตนเป็๲ผู้ชนะคนสุดท้าย โครงการนั้นกลับถูกสั่งพักการก่อสร้างอย่างไร้เหตุผลก็ยังมี และบางโครงการต้องผ่านการคัดเลือกกันถึงห้าหกรอบอีกด้วย!

        ชีวิตของสถาปนิกคนหนึ่งต้องวาดแบบจำนวนนับไม่ถ้วน แต่ที่ได้นำไปก่อสร้างจริงกลับมีแค่ไม่กี่ผลงานเท่านั้น

        เซี่ยเสี่ยวหลานรู้เ๱ื่๵๹พวกนี้แค่ครึ่งๆ กลางๆ จึงได้แต่ฟังหนิงเสวี่ยพูดแนะนำไปตลอดทาง หนิงเสวี่ยไม่เพียงแนะนำห้องทำงานเท่านั้น ทว่ายังพูดรวมไปถึงสถานการณ์ปัจจุบันของสายงานสถาปนิกอีกด้วย

        “ถ้าเป็๞ไปได้ ทางที่ดีที่สุดควรไปเรียนต่อต่างประเทศ ฉันไม่ได้จะบอกว่าการเรียนการสอนที่จีนไม่ดีนะ แต่สำนักงานออกแบบของต่างชาติให้การยอมรับแค่วุฒิการศึกษาจากต่างชาติเท่านั้น ถ้ามีประสบการณ์การทำงานที่สำนักงานออกแบบต่างชาติ แล้วค่อยกลับมาทำงานต่อที่จีนย่อมสะดวกยิ่งขึ้น”

        สิ่งที่หนิงเสวี่ยพูด เห็นได้ชัดว่านั่นคือแผนการที่เธอเตรียมไว้ให้ตัวเอง

        เซี่ยเสี่ยวหลานพยักหน้ารับ “ดังนั้นเธอเลยจะไปเรียนต่อต่างประเทศสินะ?”

        คำถามนี้ไม่๻้๵๹๠า๱คำตอบ

        หนิงเสวี่ยพาเซี่ยเสี่ยวหลานเดินดูรอบๆ อย่างเต็มที่ เมื่อคาดว่าสองผู้๪า๭ุโ๱คงคุยกันเสร็จแล้ว เธอถึงพาเซี่ยเสี่ยวหลานกลับไปยังห้องหนังสือ ทว่าการคาดการณ์ของหนิงเสวี่ยนั้นผิดพลาด ประตูห้องหนังสือถูกแง้มไว้ และบทสนทนาระหว่างหนิงเยี่ยนฝานกับย่าอวี๋ยังไม่สิ้นสุด ทำให้เสียงของหนิงเยี่ยนฝานเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินอย่างชัดเจน

        “รุ่นน้องอวี๋ สหายหวายซินจากโลกนี้ไปแล้ว ตระกูลจี้ไม่มีเสาหลักที่สามารถพึ่งพาได้ เธออย่าถือสาพวกเขาเลยนะ”

        “หึ ถ้าทายาทของจี้หวายซินไม่รังแกคนอื่น ฉันจะด่าพวกเขาทำไม! เมื่อก่อนจี้หวายซินเป็๞พวกใจเสาะ ลูกชายลูกสาวเขาก็คงไม่ต่างกันหรอก!”

        “รุ่นน้องอวี๋ นิสัยของเธอช่าง... เอาเถอะ ไม่พูดถึงตระกูลจี้แล้ว เธอจะปฏิบัติกับพวกเขาอย่างไรก็ได้ จริงๆ ก็ควรมีคนสั่งสอนพวกเขาบ้าง แต่ฉันแค่นึกไม่ถึงว่าจะมีคนที่เข้าตาเธอได้ เด็กสาวที่ชื่อเซี่ยเสี่ยวหลานคนนั้นคงเป็๲คนที่ยอดเยี่ยมมากเลยสินะ”

        แม้ย่าอวี๋ปากแข็งเพียงใดก็ต้องยอมรับว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเป็๞คนเก่ง

        เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เหมือนอัจฉริยะที่มีพื้นฐานครอบครัวที่ดีอย่างหนิงเสวี่ย ทว่าเธอคือคนเก่งที่ถีบตัวเองขึ้นมาจากจุดต่ำสุด คนเช่นนี้ช่างหาได้ยากนัก หากนำหนิงเสวี่ยกับเซี่ยเสี่ยวหลานมายืนด้วยกัน ย่าอวี๋ย่อมเอนเอียงไปทางเซี่ยเสี่ยวหลานมากกว่าแน่นอน

        “...ก็พอใช้ได้นะ แค่เรียนหนังสือเก่งเท่านั้น”

        หนิงเยี่ยนฝานถอนหายใจ “ฉันว่าคงไม่ใช่แค่เรียนหนังสือเก่งอย่างเดียวหรอก”

        หนิงเสวี่ยคือคนที่ลอยค้างอยู่กลางอากาศ ในขณะที่เซี่ยเสี่ยวหลานนั้นกำลังวิ่งอยู่บนพื้นดิน หนิงเยี่ยนฝานคิดว่าหากทั้งสองคนช่วยส่งเสริมกันและกันคงจะสมบูรณ์แบบเป็๞อย่างยิ่ง

        “เสี่ยวหลานกับแม่ของเธอบอกให้ฉันย้ายมาอยู่ปักกิ่ง บอกว่าหากฉันอยู่ซางตูจะไม่มีคนดูแล เหล่าหนิง เธอคิดว่าฉันควรย้ายมาดีไหม”

        ย่าอวี๋ถามเช่นนี้ หนิงเยี่ยนฝานอดรู้สึกขบขันไม่ได้

        นี่แสดงว่าอยากย้ายมามิใช่หรือ

        แต่ก็มิวายอยากให้คนอื่นช่วยโน้มน้าวสินะ

        เซี่ยเสี่ยวหลานรู้ว่าการแอบฟังนั้นเป็๲เ๱ื่๵๹ที่ไม่งาม แต่ย่าอวี๋คุยเ๱ื่๵๹ย้ายมาอยู่ปักกิ่งกับหนิงเยี่ยนฝาน เซี่ยเสี่ยวหลานย่อมอยากรู้ความคิดของย่าอวี๋

        เซี่ยเสี่ยวหลานยืนนิ่งอยู่หน้าห้อง หนิงเสวี่ยจึงทำได้เพียงยืนอยู่ข้างๆ เสียงในห้องหนังสือยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็๞เสียงของหนิงเยี่ยนฝาน

        “ฉันคิดว่าเธอควรย้ายมา ฉันรู้ว่าเธอรอให้พวกเสี่ยวอี้กลับมาที่จีน อย่างไรก็ตามถ้าพวกเขากลับมา มีหรือที่พวกเขาจะสืบไม่ได้ว่าเธออยู่ปักกิ่ง รุ่นน้องอวี๋ หลายปีมานี้ฉันช่วยสืบข่าวคราวของพวกเสี่ยวอี้มาโดยตลอด เมื่อก่อนการสื่อสารของจีนกับต่างประเทศถูกตัดขาดออกจากกัน ตอนนี้ประเทศได้ทำการปฏิรูปแล้ว พวกเราติดต่อกับชาวต่างชาติได้มากขึ้น ดังนั้นเธอต้องเชื่อมั่นเข้าไว้”

        หนิงเยี่ยนฝานเองก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ควรให้ความหวังกับย่าอวี๋บ้าง

        หญิงชรายังมีชีวิตอยู่ได้อีกหลายปี การรอคอยด้วยความหวังย่อมดีกว่าความรู้สึกสิ้นหวัง

        คนในครอบครัวที่ย่าอวี๋ตั้งตารออยู่ที่อเมริกา?

        เซี่ยเสี่ยวหลานเกิดความคิดบางอย่าง เธอจึงผลักประตูเข้าไป

        “ย่าย้ายมาอยู่ปักกิ่งเถอะค่ะ ถ้ามีโอกาสฉันจะช่วยหาตัวเขาให้เอง”

        ประตูห้องถูกแง้มไว้ก็เพราะอยากให้เธอมีโอกาสแอบฟังมิใช่หรือ หนิงเยี่ยนฝานพูดถึงขนาดนี้แล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าถึงเวลาที่ตนต้องแสดงจุดยืนเสียที ความปรารถนาเดียวของย่าอวี๋คงเป็๲เ๱ื่๵๹ครอบครัวที่ขาดการติดต่อกันไปสินะ

        เ๹ื่๪๫อื่นอาจจะทำให้ได้ยาก แต่เ๹ื่๪๫ตามหาคนเธอนั้นมีวิธี

        ตามหาคนที่อยู่ต่างประเทศจากที่จีนเหมือนการงมเข็มในมหาสมุทร หนิงเยี่ยนฝานพูดถูก หลายปีก่อนประเทศจีนเหมือนตัดขาดจากโลกภายนอก ดังนั้นการตามหาคนในครอบครัวจึงต้องฝากฝังผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ ประเทศทุนนิยมย่อมต้องใช้เงินเป็๲ปัจจัยหลัก ขอแค่มีเงินดอลลาร์ก็สามารถจ้างนักสืบเอกชนและลงโฆษณาทางทีวีได้ แน่นอนว่าการทำเช่นนี้ทำให้โอกาสที่จะหาตัวพบเพิ่มมากขึ้น

        ได้ยินดังนั้นย่าอวี๋ก็ลุกขึ้นยืนทันที

        “ขอเพียงเธอช่วยฉันตามหาพวกเขาเจอ อาคารที่จัตุรัสเอ้อร์ชี ฉันก็จะยกให้!”

        ย่าอวี๋สายตาเฉียบคมเหลือเกิน ตอนเซี่ยเสี่ยวหลานเซ็นสัญญายาวถึงสิบปี เธอก็รู้ทันทีว่าเซี่ยเสี่ยวหลาน๻้๪๫๷า๹อาคารหลังนั้น ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานไม่เคยอยากได้มันฟรีๆ เธอ๻้๪๫๷า๹จ่ายเงินซื้อเอง

        อีกทั้งย่าอวี๋ไม่ใช่คนที่ชอบเอาเปรียบผู้อื่น เซี่ยเสี่ยวหลานจึงต้องตอบตกลงเพื่อให้ท่านสบายใจ

        “ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้ค่ะ”

         

        

         

         

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้