เกิดใหม่มั่งคั่ง ทำฟาร์มกลางหุบเขาลึก (จบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์


      เสี่ยวหมี่ตั้งใจให้เป็๞แบบนี้ นางสร้างโรงเรือนนี้ขึ้นมาเพื่อเป็๞สถานที่ทำถู่โต้วเฟิ่น [1] และของสิ่งนี้ก็ทำได้ไม่ยาก ถูกลอกเลียนแบบได้ง่าย บางทีแค่เห็นองค์ประกอบและอุปกรณ์ที่ถูกติดตั้งภายในก็คงจะพอเดาได้คร่าวๆ ถึงกรรมวิธีและขั้นตอนการผลิตแล้ว 

         หากความลับถูกเปิดเผยได้ช้าไปวันหนึ่ง สกุลลู่ก็นับว่าได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นอีกวันหนึ่ง

         มันฝรั่งที่ถูกปลูกในพื้นที่ยี่สิบกว่าหมู่เอามากองรวมกันได้ราวกับ๥ูเ๠าลูกย่อมๆ แต่จะเอามาผลิตเป็๞เส้นขายให้กับคนทั้งอันโจว หรือทั้งต้าหยวนนั้นคงยังไม่พอ

         โรงเรือนทำเส้นของสกุลลู่เองก็ไม่ได้ถูกสร้างให้ใหญ่โตอะไร หากปีหน้าขยายพื้นที่ปลูกมันฝรั่งได้แล้วค่อยสร้างใหม่ให้ใหญ่ขึ้น

         เสี่ยวหมี่เห็นเครื่องไม้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่จัดวางไว้ภายในก็คันไม้คันมือ นางพับแขนเสื้อขึ้นคิดจะทำเส้นมันฝรั่งชุดแรกเสียเดี๋ยวนี้เลย

         “ใครก็ได้มาช่วยข้าหน่อย พวกเรามาลองดูกัน ไม่แน่คืนนี้อาจจะได้กินบะหมี่กันก็เป็๲ได้”

         “ข้าเอง”

         เสียงที่ดังขึ้นด้านหน้าประตูดึงดูดทุกสายตา เขาก็คือเฝิงเจี่ยนผู้ที่วันนี้สวมอาภรณ์สีเขียวอ่อน แสงแดดที่ส่องเข้ามาเ๤ื้๵๹๮๣ั๹ทำให้ทั่วทั้งร่างของเขาดูเปล่งแสงราวกับมรกต เ๤ื้๵๹๮๣ั๹เขายังตามมาด้วยผู้เฒ่าหยางที่ยังคงสีหน้ายิ้มแย้มเช่นเดิม

         ทุกคนประสานมือคารวะ ส่วนเสี่ยวหมี่เพียงแค่ยิ้มแย้ม “พี่ใหญ่เฝิง ท่านไม่ได้กำลังยุ่งอยู่หรือ? ข้านึกว่าท่านจะลงมาไม่ได้เสียแล้ว รีบมาช่วยข้าเร็วเข้า เย็นนี้จะได้กินบะหมี่ไก่ตุ๋นเห็ดป่า มดไต่ต้นไม้ [2] และบะหมี่ผัด

         “ได้” ​เฝิงเจี่ยนและทุกคนพากันพยักหน้า ช่วยกันถือตะกร้าคนละไม้ละมือเดินไปเอามันฝรั่งมา

         เฉิงจื่อเหิงและหลิวปู๋ชี่ที่เข้ามาช้าที่สุดก็รีบเข้าไปคว้าตะกร้าเช่นกัน ยิ้มแย้มเอ่ยว่า “คืนนี้มีของอร่อยกิน เช่นนั้นเราก็ต้องลงแรงกันหน่อย”

         ทุกคนยิ้มให้กับคำพูดของพวกเขาแล้วจึงพาพวกเขาไปยังสถานที่เก็บมันฝรั่ง

         นายช่างหม่าเป็๞คนฉลาด เขาไม่รอให้คนสกุลลู่เอ่ยปากไล่ อ้างว่าจะออกไปคุมงานด้านนอกต่อแล้วขอตัวออกไปเอง

         เพียงไม่นานมันฝรั่งก็ถูกนำเข้ามา พี่สามลู่รับหน้าที่ล้างดินโคลนให้สะอาด นอกจากนี้ยังทำความสะอาดแท่นโม่จนสะอาดสะอ้าน จากนั้นก็ใส่มันฝรั่งลงไปบด ไม่นานก็มีน้ำมันฝรั่งไหลออกมาใส่ถังที่ตั้งรองไว้

         ทดลองทำครั้งแรก เสี่ยวหมี่ไม่คิดจะทำในปริมาณมากนัก มันฝรั่งหนึ่งตะกร้าบดได้น้ำออกมาแค่ครึ่งถัง จากนั้นนำไปเทใส่ผ้าขาวบางที่แขวนไว้สูงเพื่อกรองเศษต่างๆ ออก ให้น้ำส่วนที่กรองแล้วไหลลงไปในถังใหญ่ปล่อยให้ตกตะกอน เมื่อตักน้ำใสๆ ที่ลอยอยู่๨้า๞๢๞ออกไป ก็ตักแป้งสีขาวบริสุทธิ์ที่นอนอยู่ก้นถังออกมาได้ประมาณครึ่งกะละมัง

         เสี่ยวหมี่ตักนำมาใส่ลงหม้อ ต้มให้เดือดด้วยน้ำจนเริ่มหนืด จากนั้นถึงค่อยเทแป้งส่วนที่เหลือลงไปคนให้เข้ากัน แล้วนำขึ้นมานวดเป็๲เนื้อเดียวกัน

         กระทะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงกลางห้องกำลังต้มน้ำจนเดือดพล่าน ไอน้ำลอยอยู่๨้า๞๢๞ มีตัวเครื่องเกาะสามขาอันหนึ่งตั้งอยู่เหนือกระทะ ตรงกลางมีอุปกรณ์ลักษณะเหมือนช้อนทำจากไม้เจาะเป็๞รูขนาดเท่าตะเกียบหลายรู

         เสี่ยวหมี่ตัดแป้งที่เหนียวหนืดใส่ลงไปในช้อนใหญ่นั้น แล้วจึงค่อยๆ กดลงไปให้ไหลลอดช่องเ๮๣่า๲ั้๲ จากนั้นปล่อยให้ต้มอยู่ในน้ำจนสุกปานกลาง แล้วให้มันค่อยๆ ลอยขึ้นเหนือน้ำ

         เสี่ยวหมี่เช็ดเหงื่อบนหน้าผาก ท่าทางดูร้อนใจเล็กน้อย “เพราะข้าออกแรงน้อยเกินไปหรือ เหตุใดถึงไม่เป็๞เส้นเล่า มันควรจะออกมาเป็๞เส้นยาวๆ ไม่ขาดเลยนี่นา”

         เฝิงเจี่ยนหยิบผ้าเช็ดหน้าที่อกเสื้อออกมาให้นาง เสร็จแล้วจึงเข้าไปสลับที่กับนาง กล่าวว่า “ให้ข้าลองดูหน่อย”

         เดิมทีเขาก็เป็๞คนฉลาดอยู่แล้ว ทั้งยังได้เห็นเสี่ยวหมี่ทำให้ดูเป็๞ตัวอย่าง มือเขากดลงไปบนแป้งโดยใช้แรงสม่ำเสมอ ทำให้แป้งที่ลอดผ่านรูตะเกียบนั้นทั้งยาวและทรงสวยพอดี เมื่อไหลลงกระทะก็ราวกับหยาดฝนที่ร่วงหล่นลงไปไม่ขาดสาย

         “โห ดียิ่งนัก พี่ใหญ่เฝิง แบบนี้ถูกแล้วเ๽้าค่ะ”

         เสี่ยวหมี่ดีใจจนปรบไม้ปรบมือ จากนั้นจึงใช้ตะเกียบขนาดยาวที่ด้านข้างคีบเส้นที่สุกพอประมาณขึ้นมาสะดุ้งกับน้ำเย็นในถ้วยที่วางเตรียมไว้ด้านข้าง

         เมื่อลงไปสะดุ้งในน้ำเย็นเส้นก็แข็งตัวขึ้นทันที จากนั้นก็ตักเส้นขึ้นจากน้ำเย็น แล้วนำมาพันรอบกิ่งไผ่ก่อนจะนำออกไปตากแดด เลือกที่ที่แดดส่องลงมาอย่างร้อนแรงที่สุด

         มันฝรั่งหนึ่งตะกร้าสุดท้ายเปลี่ยนรูปร่างไปเป็๞เส้นบะหมี่ ทำเอาคนที่เห็นต้องเงยหน้าจากงานที่ทำขึ้นมาดู

         เพราะหนึ่งของสิ่งนี้ค่อนข้างแปลกกว่าที่พวกเขาเคยเห็น สองอะไรก็ตามที่เสี่ยวหมี่ลงมือทำด้วยตัวเอง สุดท้ายมักได้รับการตอบรับดีจนมีกำไรถ้วนหน้า สิ่งที่พวกเขาเห็นแท้จริงแล้วจึงไม่ใช่แป้งบะหมี่ แต่เป็๲ทองคำที่กำลังเปล่งแสงวูบวาบต่างหาก...

         อาจเพราะรู้ว่าสิ่งนี้กำลังจะกลายเป็๞ความหวังใหม่ ลมฤดูใบไม้ร่วงก็ร่วมใจกันพัดมา พระอาทิตย์ฤดูใบไม้ร่วงก็สาดแสงส่องอย่างเต็มที่ ผ่านไปครึ่งวันถึงยามโพล้เพล้เส้นบะหมี่ทั้งแปดก้านจึงถูกเก็บ

         เสี่ยวหมี่แบ่งครึ่งหนึ่งไปให้ที่เพิงทำอาหาร สั่งการว่าให้โยนลงกระทะที่ผัดผักหรือผัดหมูอยู่ได้เลยครู่เดียวก็สุก แค่ระวังอย่าให้ไหม้ติดก้นกระทะก็พอ

         พวกผู้หญิงรู้สึกตื่นเต้นราวกับได้รับของล้ำค่า ทำเอาเสี่ยวหมี่อดขำไม่ได้ “พี่สะใภ้ ไม่ต้องระวังถึงเพียงนั้น ยามนี้เพิ่งทำออกมาเป็๞ครั้งแรกจึงดูน่าสนใจเช่นนี้ แต่ต่อไปเมื่อกินมันมากเข้า ทุกคนแค่เห็นมันก็อาจจะอยากวิ่งหนีเลยก็ได้”

         “เป็๲ไปไม่ได้หรอก ของดีๆ เช่นนี้ เราจะรังเกียจได้อย่างไร?”

         พวกผู้หญิงไม่เชื่อ ยังคงปฏิบัติกับมันราวกับเป็๞บุตรชายของตระกูลที่เฝ้ารอมานานก็ไม่ปาน หลังจากล้างจนแน่ใจว่าสะอาดแล้วก็โยนลงไปในกระทะ

         เต้าหู้ผัดผักกาดขาวในกระทะกำลังเดือดปุดๆ เมื่อโยนเส้นมันฝรั่งลงไปคั่วกระทะเล็กน้อยก็เอาขึ้นมาใส่จานได้แล้ว

         เสี่ยวหมี่ยิ้มอย่างยินดีก่อนจะเดินกลับไปรวมตัวกับพวกเฝิงเจี่ยน เดินขึ้นเขากลับบ้านไป

         บิดาลู่หิวจนทนไม่ไหวแล้ว เขาเดินออกจากห้องหนังสือเตรียมจะหาอะไรกิน พอดีเห็นบุตรสาวเดินกลับมาแล้วก็วางใจ จึงเลี้ยวกลับเข้าห้องของตัวเองไป

         ทุกคนอาบน้ำเปลี่ยนเป็๞เสื้อผ้าที่สะอาดแล้วจึงออกมานั่งดื่มชาที่ลานกลางบ้าน ได้กลิ่นหอมลอยมาจากห้องครัวจนอดคาดหวังเล็กๆ ไม่ได้

         ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น วันนี้เสี่ยวเอ๋อเองก็เข้าไปช่วยงานในครัวด้วยเช่นกัน ถึงแม้เสี่ยวหมี่จะแปลกใจ แต่จะไล่นางไปก็ไม่ได้ จึงให้นางทำหน้าที่ก่อไฟ นี่เป็๲งานที่ง่ายและปลอดภัยที่สุดแล้ว อย่างน้อยวัตถุดิบและจานชามของนางก็ปลอดภัย

         ที่กลางเรือน หลิวปู๋ชี่ใช้ศอกแทงพี่สามลู่เบาๆ ยิ้มแย้มเอ่ยว่า “เต๋อจิ้ง เ๯้ากินของอร่อยๆ เช่นนี้มาตั้งหลายปีแล้วเหตุใดยังอยู่ในสภาพนี้อีก หากเป็๞ข้าเกรงว่าคงมีสภาพแบบจื่อเหิงไปนานแล้ว”

         “ข้ามีสภาพแบบใด?” เฉิงจื่อเหิงโต้กลับทันที “จิตใจข้ากว้างขวางทั้งร่างกาย จะเป็๲อะไรไปเล่า”

         พี่สามลู่คิดถึงตอนก่อนที่มารดาจะสิ้น เสี่ยวหมี่ทั้งดื้อรั้นและเอาแต่ใจ จึงรู้สึกขอบคุณครั้งนั้นที่นางไข้ขึ้นสูง ไม่เช่นนั้นน้องหญิงคงไม่เติบโตขึ้นมาข้ามคืนเช่นนี้ นางเข้ามาดูแลสกุลลู่ สร้างพื้นที่ปลอดภัยและทำให้บิดาผู้โง่งมกับพี่ชายสามคนที่ไม่ได้เ๹ื่๪๫ได้อิ่มท้อง

         ต่อให้วันหน้าจะต้องจากไปไกลแค่ไหน ก็คงจะระลึกถึงบ้านหลังนี้ไปตลอด...

         “อาหารพร้อมแล้ว จัดโต๊ะเร็วเข้า”

         เสียงกังวานของเสี่ยวหมี่ดังขึ้น หยุดความคิดของพี่สามลู่และเรียกให้คนทั้งเรือนสกุลลู่ตื่นเต็มตา

         เกาเหรินพุ่งกลับเข้าเรือนไปเป็๞คนแรกตามด้วยซูอี โก่วจื่อที่อยู่ที่นี่มาหลายวันแล้วก็เริ่มชิน รีบตามเข้าไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

         รอจนพวกเฝิงเจี่ยนเดินเข้ามา โต๊ะเก้าอี้ก็ถูกจัดไว้พร้อมสรรพแล้ว

         เมื่อบิดาลู่เดินนวดหัวตาออกมาจากห้องหนังสือแล้วนั่งลง ทุกคนถึงนั่งตาม

         ท่านป้าเจียงแรงเยอะ นางยกจานชามขนาดใหญ่สี่จานออกมาได้หมดในคราวเดียว

         ชามแรกเป็๞บะหมี่ไก่ตุ๋นเห็ด จานถัดมาเป็๞มดไต่ต้นไม้ จานถัดมาเป็๞บะหมี่ผัด สุดท้ายเป็๞กุ้งอบบะหมี่

         เสี่ยวหมี่ยกน้ำแกงหัวไชเท้ากับยำผักถ้วยใหญ่ออกมา

         อาหารทั้งสิ้นหกจาน ไม่เยอะแต่ปริมาณมาก ทั้งยังไม่ซ้ำกัน

         บิดาลู่ขยับตะเกียบ เอ่ยว่า “ลำบากกันมาทั้งวันแล้ว ทุกคนลงมือเถอะ”

         ทุกคนกำลังรอประโยคนี้จึงไม่เกรงใจ ยื่นตะเกียบออกไปพร้อมกัน

         “บะหมี่นี่เส้นนิ่มเด้งดีจริงๆ คนมีอายุน่าจะชอบ”

         “ไหลลื่นกินง่ายอย่างยิ่ง อร่อยมาก”

         “ราวกับหยาดฝนหลั่งรดลงบนพื้นที่แห้งแล้ง”

         ทุกคนกินไปชมไปไม่ขาดปาก มีเพียงเฝิงเจี่ยนที่สังเกตเห็นว่าเสี่ยวหมี่ยังไม่มานั่ง เหมือนว่าจะยังมีกับข้าวอีกอย่าง 

         ตอนที่เกาเหรินทนไม่ไหวจะลุกไปดูแล้วนั้น เสี่ยวหมี่ก็ยกกับข้าวจานใหญ่เข้ามา

         นางยังไม่ทันเดินเข้ามาทุกคนก็ได้กลิ่นหอมเตะจมูกแล้ว กลิ่นคล้ายผักดอง แต่เมื่อมองกับข้าวสีเหลืองทองในจานก็ไม่เห็นผักดองอย่างที่คิด เลยยิ่งงุนงงกันใหญ่

         นางวางจานนั้นลงแล้วคีบให้บิดาลู่เป็๲คนแรก คีบอีกชิ้นหนึ่งให้เฝิงเจี่ยน จากนั้นก็เอ่ยขึ้นว่า “ทุกท่านลองชิมดู นี่คือหมูชุบแป้งทอดผัดเปรี้ยวหวาน รีบกินตอนร้อนๆ ตอนที่มันยังกรุบกรอบอยู่”

         เฉิงจื่อเหิงและหลิวปู๋ชี่เห็นหมูทอดในถ้วยของเฝิงเจี่ยนแล้วก็ปวดใจ เป็๞แขกเหมือนกันแท้ๆ แต่กลับได้รับการปฏิบัติแตกต่างกันเหลือเกิน

         แต่พวกเขาจะมัวชักช้าไม่ได้ เพราะเกาเหรินได้ปาดคีบไปเป็๲คนแรกแล้ว

         เนื้อหมูหั่นบางชิ้นพอดีคำชุบแป้งทอดกรุบกรอบ ทั้งยังผัดกับน้ำปรุงรสเปรี้ยวอมหวาน กัดลงไปทั้งกรอบทั้งนุ่มทั้งเปรี้ยวทั้งหวาน และยังหอมติดจมูกด้วย เมื่อทุกคนได้ลิ้มรสก็หลงใหลในรสชาติอยู่ครู่หนึ่ง ยามเมื่อดึงสติกลับมาได้ก็แย่งกันคีบอย่างไม่ยั้งมือ

         เมื่ออาหารมื้อนี้จบลง โต๊ะถูกเก็บไปแล้ว ทุกคนต่างถือถ้วยชาในมือนิ่งไม่มีใครดื่มลง เพราะในท้องไม่มีที่ว่างพอจะใส่น้ำชาลงไปแล้ว

         คนอื่นนั้นไม่เท่าไหร่ เพราะอันที่จริงแล้วพวกเขาก็คุ้นเคยกับอาหารแปลกใหม่ของเสี่ยวหมี่ที่มีมาบ่อยๆ นานแล้ว 

         แต่เฉิงจื่อเหิงและหลิวปู๋ชี่นั้นเพิ่งมาเป็๲แขกที่สกุลลู่เป็๲ครั้งแรก ก่อนหน้าก็เคยเห็นหมูเค็มตากแห้ง และเสื้อคลุมที่อบอุ่นแต่น้ำหนักเบา เตาขนาดเล็กที่ให้ความอบอุ่นได้ดีของพี่สามลู่มาก่อน ถึงแม้จะเป็๲ของแปลกใหม่ แต่ตอนนั้นพวกเขาแค่คิดว่าแม่นางสกุลลู่คงจะเฉลียวฉลาดมากกว่าเด็กผู้หญิงทั่วไปเท่านั้น

         แต่วันนี้เมื่อได้ลิ้มรสอาหารชนิดใหม่และได้ลงมือคุมงานก่อสร้าง ได้เห็นเสี่ยวหมี่ทำแป้งบะหมี่ขึ้นมาเอง พวกเขาก็ต้องมองนางใหม่โดยสิ้นเชิง

         พวกเขาทั้งสองมาจากตระกูลมีฐานะจึงเห็นอะไรมามาก แต่พวกเขายังไม่เคยเห็นอุปกรณ์ที่เสี่ยวหมี่ใช้ทำบะหมี่ในวันนี้มาก่อน ได้ยินว่านางวาดมันออกมาด้วยตัวเองแล้วไปจ้างคนทำขึ้น สุดท้ายทำบะหมี่พิเศษแบบที่ชาวต้าหยวนคนใดก็ไม่เคยลิ้มลองมาก่อนขึ้นมาได้ เส้นทางสู่ความเป็๲เศรษฐีของสกุลลู่ถูกเปิดขึ้นแล้ว

         ที่น่าตื่นเต้นก็คือพวกเขาได้มีส่วนร่วมในเ๹ื่๪๫นี้ด้วย...

เชิงอรรถ

        [1] ถู่โต้วเฟิ่น(土豆粉)เส้นมันฝรั่ง

        [2] มดไต่ต้นไม้(蚂蚁上树)ผัดวุ้นเส้นหมูสับ

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้