“ต้าเกอ รีบไปล้างมือขอรับ คืนนี้พวกเรากินเนื้อแกะ!” เจียงหงหย่วนเพิ่งเข้ามาในลานบ้าน เจียงหงหนิงก็รีบวางหนังสือวิ่งออกมาต้อนรับ
เนื้อแกะนี่นา มิน่าถึงได้หอมขนาดนี้
เจียงหงหนิงตักน้ำมาให้เจียงหงหย่วนล้างมืออย่างกระตือรือร้น ยายสวีอยากช่วยแต่เขาไม่ยอม
ยายสวีคิดในใจว่านายน้อยทั้งสองช่างเป็คนกตัญญู ไม่รู้ว่าวันหน้าแต่งงานแล้วจะเปลี่ยนไปหรือไม่
“ช่วยยกหม้อดินไปวางที่โต๊ะหน่อยเถิด” เนื้อแกะหนึ่งหม้อเต็มๆ หนักมาก
หลินหวั่นชิวมอบผ้าขี้ริ้วสองผืนให้เจียงหงหย่วน เจียงหงหย่วนใช้ผ้าจับหูหม้อแล้วยกออกไป
หลินหวั่นชิวรีบตามไป ปูผ้าขี้ริ้วผืนหนาลงบนโต๊ะก่อนที่จะให้เจียงหงหย่วนจะวางหม้อดินลง
แค่เปิดฝาหม้อออก ไอ๊หยา กลิ่นหอมลอยอบอวลไปทั่วทั้งบ้าน
หลินหวั่นชิวโรยต้นหอมผักชีลงไป น้ำแกงเนื้อแกะสีขาวราวหิมะยังคงเดือดปุดๆ ้ามีต้มหอมผักชีสีเขียวลอยประดับ แค่มองก็กลืนน้ำลาย
“ตักน้ำแกงออกมาพักให้เย็นเสียก่อน หงป๋อ น้ำจิ้มไม่ใส่พริกถ้วยนี้เป็ของเ้า”
เจียงหงป๋อยิ้มขอบคุณ “ขอบคุณพี่สะใภ้!”
“พี่สะใภ้ นี่ขอรับ” เจียงหงหนิงที่คล่องแคล่วมาโดยตลอดตักน้ำแกงให้หลินหวั่นชิวเรียบร้อยแล้ว
“ต้าเกอ ถ้วยนี้ของท่านขอรับ” เจียงหงหนิงตักให้เจียงหงหย่วนหนึ่งถ้วย จากนั้นตักให้เจียงหงป๋อและให้ตัวเองเป็คนสุดท้าย
“รีบกินเถิด ถ้าไม่อิ่มยังมีบะหมี่อีก” หลินหวั่นชิวพูด บุรุษทั้งสามในบ้านถึงจะเริ่มขยับตะเกียบ
ยายสวีที่เดินผ่านห้องโถงเห็นแล้วยิ้ม บุรุษทั้งสามในบ้านต่างก็ยึดไท่ไท่เป็หลัก
ไท่ไท่ช่างวาสนาดี
“พี่สะใภ้ แกงเนื้อแกะที่ท่านทำอร่อยสุดยอดไปเลย!” เจียงหงหนิงกินจนลืมตาไม่ขึ้น เนื้อแกะตุ๋นจนนุ่ม จุ่มน้ำจิ้มแล้วละลายในปาก
กินหัวไชเท้าแบบเปล่าๆ ก็อร่อย หวานละมุน
ผัดกาดขาวกับเห็ดก็อร่อยไม่มีที่ติ
ดื่มน้ำแกงตามลงไป ไอ๊หยา อุ่นไปถึงในท้องแล้วแผ่ซานไปทั่วร่างกาย!
ร่างกายอบอุ่นไปทั้งตัว สบายสุดๆ
“เนื้อแกะมีฤทธิ์ร้อน กิน่หน้าหนาวจะช่วยบำรุงและไล่ความเย็นได้ดีที่สุด” เจียงหงป๋อพูด
“ไม่เสียแรงที่หงป๋อของพวกเราอ่านตำราแพทย์!” หลินหวั่นชิวชม หันไปพูดกับเจียงหงหย่วนว่า “หย่วนเกอ พวกเราต้องหาอาจารย์ดีๆ ให้หงป๋อด้วย”
วิชาแพทย์ต่างจากแขนงอื่น เก็บตัวค้นคว้าเอาเองไม่ได้
เจียงหงหย่วนไม่พอใจ น้องชายตัวยุ่งแย่งจุดสนใจจากเขาอยู่เรื่อย ตัวเขาไม่เก่งหรือไร?
ฮึ่ม รอเข้าหอก่อนเถิด เขาจะแสดงความเก่งจนภรรยาตัวน้อยลุกจากเตียงไม่ไหว
“อืม ไว้ข้าล่าสัตว์กลับมาแล้วจะไปถามท่านหมอฉู่ให้” เจียงหงหย่วนพูด
ครั้งก่อนพาหงป๋อไปดูอาการ ท่านหมอบอกเขาว่าถ้ามีน้ำมันกระดูกเสืออีกให้ช่วยเก็บไว้ ครั้งนี้เขาวางแผนว่าจะขึ้นเขาไปล่าเสือพอดี
ที่เจียงหงหย่วนมั่นใจว่าจะล่าเสือได้เพราะประสบการณ์จากชาติที่แล้ว เขาจำได้ว่า่สองปีนี้มีนายพรานขึ้นเขาโดนเสือกัดตาย ตอนนั้นเขาตามคนขึ้นไปช่วยตามหาเช่นกัน พอจะรู้ขอบเขตที่เสืออยู่คร่าวๆ
เจียงหงป๋อมองต้าเกอตัวเองแต่ไม่พูดกระไร ก้มหน้ากินเนื้อแกะ ทว่าน้ำแกงในถ้วยกับมีรอยกระเพื่อมเกิดขึ้น น้ำตาเขาหยดลงไป
พี่สะใภ้กับต้าเกอเหน็ดเหนื่อยเพื่อเขามาก
ตอนนี้ต้าเกอหาเงินได้เดือนละยี่สิบตำลึงเงินแต่ก็ยังไม่สบายใจ ต้องขึ้นเขาไปล่าสัตว์อยู่
เขาอยากร่ำเรียนวิชาให้เสร็จประเดี๋ยวนี้ จะได้ออกไปหาเงิน ช่วยแบ่งเบาภาระให้ต้าเกอกับพี่สะใภ้
เขาพยายามยับยั้งความรู้สึกในใจ น้ำตาไหลแค่สองหยดก็ไม่มีอีกแล้ว ไม่ถูกพวกหลินหวั่นชิวเห็นเข้า
กินเนื้อแกะในหม้อดินจนหมด หลินหวั่นชิวไม่ได้ให้พวกเขาดื่มน้ำแกงครึ่งหม้อที่เหลือ นางจะเก็บไว้ทำบะหมี่
แต่พวกเขาก็กินไม่ไหวแล้วเช่นกัน ทุกคนกินจนพุงพลุ้ยกลม
งานที่เหลือมอบให้ยายสวีทำ หลินหวั่นชิวกลับห้องไปล้างหน้าบ้วนปาก เจียงหงหย่วนจะใช้น้ำต่อจากนาง แต่หลินหวั่นชิวขวางไว้ “ท่านกินโอสถชำระไขกระดูกก่อนเถิดค่อยอาบน้ำ”
เจียงหงหย่วน “…”
“เ้าให้ข้ากลับบ้านเร็วก็เพราะเื่นี้?” เจียงหงหย่วนผิดหวังเล็กน้อย เขาคิดว่าภรรยาตัวน้อยจะให้นอนกอด
หลินหวั่นชิวพยักหน้า “ใช่ ไม่เช่นนั้นกว่าท่านจะกลับมาข้าก็หลับไปเสียแล้ว กินโอสถก่อนขึ้นเขา ร่างกายจะได้แข็งแรง โอกาสที่ได้รับาเ็จะได้ลดลง”
เจียงหงหย่วนพูดเหมือนการล่าสัตว์เป็เื่ง่าย แต่หากมันง่ายจริง เช่นนั้นแผลเป็ทั่วร่างกายเขามาจากที่ใด?
หลินหวั่นชิวมองว่าในเมื่อบนเสียนอวี๋มีขายแม้กระทั่งตั๋วทะลุมิติ ทั้งยังมอบของวิเศษอย่างโอสถชำระไขกระดูกให้ ไม่แน่ว่าอาจมีคัมภีร์วิชาลับขายด้วย
แต่นางยังหาคัมภีร์วิชาลับไม่เจอ…ไม่อาจเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ให้บุรุษของตัวเองได้ ถ้าเช่นนั้นก็เพิ่มความแข็งแรงด้านร่างกายแทน!
“เ้าเป็ห่วงข้า?” เจียงหงหย่วนรู้สึกอบอุ่นในใจ
“ก็ใช่น่ะสิ ข้าเป็ห่วงท่าน หากเป็ไปได้ ข้าอยากตามท่านไปล่าสัตว์ด้วยซ้ำ แต่ข้ารู้ว่าหากข้าไป ที่ต้องทนลำบากเป็เพียงเื่รอง ที่สำคัญคือข้าเพิ่มปัญหาให้ท่าน”
หลินหวั่นชิวไม่ปฏิเสธ ั้แ่ที่นางยอมรับในบุรุษผู้นี้ นางก็ไม่อยากหลีกเลี่ยงความรู้สึกตัวเองอีก คิดอย่างไรก็พูดกับเจียงหงหย่วนเช่นนั้น
ในด้านความรัก สมองของบุรุษทื่อตรงประเภทนี้จะซื่อมาก ไม่รู้จักตีความ ดังนั้น หากเ้าคิดสิ่งใดก็บอกกับเขาให้ชัดเจนจะดีที่สุด อย่าให้เขาเป็ฝ่ายเดาเด็ดดาด
เพราะหากปล่อยให้เขาเดา นั่นไม่ต่างกระไรกับหายนะ
“ข้าอยากผูกเ้าเข้ากับเอวกางเกงเสียจริง” เจียงหงหย่วนรวบหลินหวั่นชิวมากอดแน่นพร้อมกับจูบที่ผมของนางแล้วพูด เหตุใดภรรยาตัวน้อยจึงดีเช่นนี้
ดีจนเขารู้สึกว่าหากเขาควักหัวใจออกมาให้นางได้ก็ยังไม่พอ ต้องพยายามให้คู่ควรกับนางมากกว่านี้
“ยังคงเป็คำเดิม ต้องมีชีวิตกลับมา ไม่เช่นนั้น ข้าจะยึดบ้านท่าน ใช้เงินท่าน แล้วก็…”
“เ้าเป็ของข้าตลอดชีวิต ไม่สิ ชาติหน้าด้วย ชาติหน้าๆ ก็เป็ของข้า!” เจียงหงหย่วนจูบที่ริมฝีปากของหลินหวั่นชิวเพื่อเป็การปิดปากนาง
เขากลืนคำรักทั้งหมดลงท้อง อุณหภูมิภายในห้องร้อนผ่าวขึ้น…
เขากักขังนาง โอบกอดนาง อยากบดขยี้นางเข้าเป็หนึ่งเดียวกับเขา
เขาไม่อยากปล่อยนาง อยากจูบเช่นนี้ไปนานๆ
การโต้ตอบของภรรยาตัวน้อยทำให้เขายิ่งตื่นเต้นและ้ามากขึ้น
จังหวะที่อากาศในปอดกำลังจะหมด ในที่สุดเจียงหงหย่วนก็ปล่อยหลินหวั่นชิวให้เป็อิสระ
หลินหวั่นชิวซบศีรษะกับหน้าอกแผ่นหนาของเขา หอบหายใจคำโต
เสมือนปลาที่ถูกโยนขึ้นฝั่ง พยายามไขว่ขว้าหาอากาศ
“อย่าลงกลอนประตู เดี๋ยวข้าจะมาหา” เสียงเจียงหงหย่วนทุ้มต่ำ มีแรงดึงดูดจนนางจั๊กจี้ที่หู จั๊กจี้ไปถึงหัวใจ
“สิ่งใดที่ข้ารับปาก ข้าจะทำให้ได้เป็แน่ วางใจเถิด ข้าเพียงอยาก…อยากกอดเ้านอนก็เท่านั้น”
เจียงหงหย่วนกลัวหลินหวั่นชิวไม่พอใจจึงอธิบาย
“พรุ่งนี้ข้าจะขึ้นเขาแล้ว ไม่รู้ว่าอันตรายหรือไม่…” เห็นหลินหวั่นชิวไม่ตอบก็ดึงเื่ความปลอดภัยของตัวเองมาอ้างแบบหน้าไม่อาย
“ข้าจะเปิดประตูทิ้งไว้ให้”
เสียงเบาราวกับยุงของภรรยาตัวน้อยดังขึ้น ปลายเสียงเกี่ยวเข้าที่ใจเขาราวกับตะขอ
เขารู้อยู่แล้วว่าในใจภรรยาตัวน้อยมีเขาอยู่ แค่เขาพูดเช่นนี้นางต้องตอบตกลงเป็แน่
“รอข้านะ” เจียงหงหย่วนจูบหลินหวั่นชิวอีกครั้งแล้วจึงปล่อยนางพร้อมกับเดินออกไป
เขาต้องไปต้มน้ำที่ห้องครัว ต้องกินโอสถชำระไขกระดูก
