เฉินเฟิงรีบโบกมือพัลวัน
"อีอี อย่าพูดแบบนี้นะ เดี๋ยวคนที่ได้ยินก็เชื่อเป็ตุเป็ตะหรอก ฉันดูเป็คนเ้าชู้หลายใจขนาดนั้นเลยรึไง คิดดูสิ ที่เธอแอบชอบฉันตลอดสามปีที่ผ่านมา ฉันเคยทำตัวเ้าชู้ใส่เธอไหม?" เจอคำพูดอย่างมีชั้นเชิงของเฉินเฟิงเข้าไป หลิ่วอีอีถึงกับพูดไม่ออก
"เชื่อใจคุณเฉินเถอะ เขาไม่มีทางสนใจป้าแก่ๆ อย่างฉันหรอก" ผู้จัดการหลี่พูดเสริม แต่ใจของเธอกลับรู้สึกยินดีระคนผิดหวัง
หลังจากลงนาม เฉินเฟิงและหลี่ชิงเจาต่างเก็บสำเนาคนละฉบับไป สัญญานี้ไม่มีพันธะผูกพันอะไรมาก
เผลอๆ อีกสิบปีข้างหน้า เฉินเฟิงอาจหลงลืมหรือไม่ใส่ใจการเดิมพันครั้งนี้แล้วก็ได้ เพราะเขามั่นใจว่าตัวเองจะเข้าถือหุ้นธนาคาร ICBC ได้ภายในสิบปี เมื่อถึงเวลานั้น แม้ไม่มีการเดิมพัน หลี่ชิงเจาก็จะลาออกมาช่วยเฉินเฟิงอยู่ดี
เฉินเฟิงออกจากธนาคารพร้อมหลิ่วอีอี ส่วนหลี่ชิงเจายังไม่ถึงเวลาเลิกงาน จึงได้แต่ยืนส่งคู่บ่าวสาวขึ้นรถฮงฉีไป
"สถานีต่อไป บริษัทอสังหาปี้ตี้กรุ๊ป เราไปดูกันว่ามีทรัพย์สินดีๆ ขายไหม เราคงได้ใช้เงินร้อยล้านที่นั่น" เฉินเฟิงที่นั่งข้างคนขับพูดกับหลิ่วอีอีด้วยน้ำเสียงจริงจัง
หลิ่วอีอีถามเพราะความสงสัย
"ปี้ตี้กรุ๊ปคือกลุ่มอสังหากลุ่มที่สามที่คุณจะสนับสนุนเหรอ? คุณจะให้ประธานบริษัทปี้ตี้กลายเป็มหาเศรษฐีด้วยอีกหรือไง?!"
เฉินเฟิงเผยรอยยิ้มเลศนัย
"พอไปถึงแล้วเดี๋ยวก็รู้เอง ดูว่าผมทำยังไงแล้วเรียนรู้จากสิ่งที่ผมทำ"
ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถหงฉีพาเฉินเฟิงและหลิ่วอีอีมาถึงโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของปี้ตี้ในเขตเมือง
บริษัทปี้ตี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 1992 เป็หนึ่งในบริษัทตัวแทนที่เกิดระหว่างคลื่นแห่งการปฏิรูปตลาดของเหยียนหวง
บริษัทนี้เริ่มด้วยทุนจดทะเบียนยี่สิบล้านหยวน ผ่านการเติบโตอย่างต่อเนื่องสองสามทศวรรษ บริษัทได้ก่อตั้งรูปแบบการดำเนินงานแบบครบวงจร ด้วยนโยบาย 'มุ่งเป็ผู้นำการพัฒนาอสังหาฯ และโครงสร้างพื้นฐาน ควบคู่กับการส่งเสริมธุรกิจด้านการเงิน สินค้าอุปโภคบริโภค สุขภาพ และนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์'
ในปี 2019 ปี้ตี้กรุ๊ปมีทรัพย์สินในกว่า 1.14 ล้านล้านหยวน ด้วยรายได้จากการดำเนินงานสูงถึง 428.083 พันล้านหยวน โดยมีกำไร 14.743 พันล้านหยวน ซึ่งทำให้เป็บริษัทที่มีรากฐานมั่นคงสำหรับการก้าวขึ้นสู่ "บริษัทขนาดใหญ่รายได้สองล้านล้าน" และกลายเป็บริษัทชั้นนำของโลก
ในอนาคต ปี้ตี้จะเป็ผู้นำในอุตสาหกรรมด้านการก่อสร้างและพัฒนา ผลิตภัณฑ์ของใช้ รวมถึงแบรนด์เนมคุณภาพสูงต่างๆ โดยเฉพาะในด้านการก่อสร้างตึกสูงระฟ้า โครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสานในเมืองขนาดใหญ่ รถไฟความเร็วสูง มีจุดขายเป็ศูนย์การประชุมและการจัดแสดงสินค้า พื้นที่สวนอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ซึ่งล้วนมีจุดเด่นเฉพาะตัวที่ชัดเจน ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเมืองสิ่งก่อสร้างแถบชนบทและอสังหาริมทรัพย์ของเหยีนหวงอย่างกว้างขวางอย่างมีนัยสำคัญ
ในอนาคต โครงการพัฒนาอสังหาของปี้ตี้จะครอบคลุมกว่า 130 เมืองจาก 29 มณฑลและเขตปกครองตนเองทั่วประเทศ มีตึกสูงระฟ้าแลนด์มาร์คของเมืองที่สร้างเสร็จและอยู่ระหว่างการก่อสร้างเกือบ 30 แห่ง
ที่สำคัญกว่านั้นคือสำนักงานใหญ่ของปี้ตี้กรุ๊ปตั้งอยู่ในตัวเมืองโม๋ตู
ใจจริงเฉินเฟิงอยากผลักดันกลุ่มอสังหาอย่างเฮิงท่ายหรือไม่ก็เฉียนเคอมากกว่า แล้วยิ่งปี้ตี้กรุ๊ปในอนาคตจะเปลี่ยนเป็บริษัทมหาชนที่มีรัฐเป็หนึ่งในผู้ถือหุ้น ซึ่งจะเป็การยากหากเขา้าเข้าควบคุมทั้งหมด แต่เฉินเฟิงไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เฮิงท่ายยังไม่ถูกก่อตั้ง ส่วนเฉียนเคอก็ไม่ได้อยู่ในโม๋ตู ดังนั้นปี้ตี้กรุ๊ปจึงเป็เพียงตัวเลือกเดียว
ในเดือนกรกฎาคมปี 1992 บริษัทแม่ปี้ตี้กรุ๊ปก่อตั้งขึ้นโดยมีเป้าหมายในการสร้างพื้นที่สีเขียวในแถบชนบท
ใน่เริ่มต้น ปี้ตี้ได้คิดค้นโมเดลรูปแบบใหม่สำหรับการพัฒนาชุมชนโดยเป็มิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแข็งขัน มีการขยับขยายเมืองเก่าและการก่อสร้างบ้านพักอาศัยสำหรับผู้ย้ายถิ่น ลงทุนพัฒนาพื้นที่สีเขียวโดยไม่คำนึงถึงค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังส่งเสริมปรับปรุงสภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยของประชาชนในเมือง
ในเดือนมีนาคมปี 1997 ปี้ตี้กรุ๊ปทำการปฏิรูปบริษัทตามข้อกำหนดของระบบองค์กรสมัยใหม่ และสร้างระบบองค์กรสมัยใหม่ที่มีความชัดเจนในเื่กรรมสิทธิ์ ความรับผิดชอบตามที่กำหนด และการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์
ใน่นั้น ธุรกิจต่างๆ ของปี้ตี้กรุ๊ปมีการพัฒนาอย่างก้าวะโ โดยเฉพาะธุรกิจหลักด้านอสังหาฯ ซึ่งพัฒนาอย่างรวดเร็ว และกลายเป็บริษัทอสังหาฯ อันดับต้นๆ ในเมืองโม๋ตู
เฉินเฟิงมองสำนักงานใหญ่ปี้ตี้กรุ๊ปขณะครุ่นคิด
'ที่นี่คงเล่นด้วยยากกว่าเฉียนต๋ากรุ๊ปกับปี้หลงเยี่ยนกรุ๊ปเยอะ ถึงเวลาสามีภรรยาร่วมมือกันแล้ว'
เฉินเฟิงกำลังนึกถึงประธานบริษัทปี้ตี้ จางอวี่เลี่ยง!
เส้นกั้นระหว่างโลกของธุรกิจและรัฐบาล เส้นแบ่งที่ซึ่งพ่อค้าและเ้าหน้าที่รัฐเผชิญหน้ากันในวงการอสังหาฯ คงไม่มีใครที่สามารถควบคุมสมดุลนี้ได้อย่างเชี่ยวชาญเท่าจางอวี่เลี่ยงอีกแล้ว
จางอวี่เลี่ยงไม่เคยปฏิเสธการถูกเรียกว่าเป็พ่อค้าหมวกแดง [1] หนึ่งในคนที่เขายกย่องมากที่สุดคือหูเสวีย หนึ่งในพ่อค้าหมวกแดงผู้โดดเด่นอีกคน
จางอวี่เลี่ยงไม่ทำตัวโดนเด่น แต่กลับมีท่าทีเปิดเผยต่อสื่อตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็การสัมภาษณ์แบบพบหน้าหรือทางโทรศัพท์ เขามักตอบคำถามทุกข้อโดยไม่มีการเลี่ยงคำถาม แตกต่างจากผู้บริหารรัฐวิสาหกิจรายอื่นๆ
ทุกครั้งที่จางอวี่เลี่ยงแสดงออกต่อสาธารณะ เขาจะแสดงให้เห็นถึงบริษัทปี้ตี้มากกว่าตัวเขาเอง เขามีคำพูดติดปากคือ 'ทำตามที่รัฐบาลอยากทำ'
เฉินเฟิงรู้สึกว่าจางอวี่เลี่ยงคนนี้รับมือยากเสียยิ่งกว่ารองผู้ว่าฯ เมืองโม๋ตูอีก
ปี 1992 ปี้ตี้กรุ๊ปก่อตั้งขึ้นโดย 4 องค์กรในสังกัดคณะกรรมการการเกษตรและคณะกรรมการการพัฒนาเมืองด้วยทุนจดทะเบียนยี่สิบล้านหยวน
จางอวี่เลี่ยง อายุ 36 ปี ทำงานในหน่วยงานรัฐ และตลอด 12 ปีที่ผ่านมา ก็ดำรงตำแหน่งถึงรองผู้อำนวยการสำนักงานการเคหะฯ ภายใต้คณะกรรมการการเกษตรเมืองโม๋ตู เขาตัดสินใจ 'ลาออก' เพื่อเข้าสู่วงการธุรกิจและร่วมก่อตั้งบริษัทโม๋ตูปี้ตี้จำกัด
สำหรับเฉินเฟิง ปี้ตี้กรุ๊ปแห่งนี้เป็คู่มือที่รับมือยากเสียยิ่งกว่าทั้งเฉียนต๋ากรุ๊ปหรือปี้หลงเยี่ยนกรุ๊ปแบบไม่เห็นฝุ่น
ทั้งเฉียนต๋ากรุ๊ปกับปี้หลงเยี่ยนกรุ๊ป สุดท้ายก็เป็แค่กิจการอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว
แต่ปี้ตี้กรุ๊ปมีพื้นเพจากรัฐบาล
เฉินเฟิงชาตินี้มีเงินหยิบมือ และเคยโผล่หน้ามาที่หน่วยงานรัฐบาลแค่ครั้งสองครั้ง หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล
เมื่อก้าวเท้าเข้ามาในสำนักงานใหญ่ของปี้ตี้ เฉินเฟิงปะทะเข้ากับฮูอวี่ซึ่งตามพ่อของเขามาดูแปลนบ้านที่นี่พอดิบพอดี
ฮูอวี่ก็เห็นเฉินเฟิงเช่นกัน ไฟแห่งความอิจฉาลุกโชนเต็มดวงตาเมื่อเผชิญหน้ากับคู่อริ
ฮูอวี่เลิกคิดเื่กลับไปเลียแข้งเลียขาเฉินเฟิงเพียงเพราะเขาถูกรางวัลแล้ว ยิ่งกว่านั้นพ่อผู้เป็ถึงรองผู้อำนวยการยังยืนอยู่ข้างเขา
ฮูอวี่มีช่องโหว่ให้โจมตีเฉินเฟิงได้หลายจุด ไม่ว่าจะเื่ที่เฉินเฟิงและหลิ่วอีอีไม่เข้าเรียนหลายวันติดต่อกัน หรือเื่ที่ทั้งสองยังเรียนไม่จบ แต่กลับจดทะเบียนสมรสกันแล้ว
ฮูอวี่เดินตรงเข้าหาเฉินเฟิง เปิดฉากด้วยน้ำเสียงดูถูก
"นึกว่าใครที่ไหน ที่แท้ก็เฉินเฟิงเดือนมหาลัยผู้ถูกรางวัลใหญ่ของเรานี่เอง มาดูแปลนบ้านที่นี่เรอะ?"
เฉินเฟิงมองหว่างขาของฮูอวี่ ดูเหมือนว่าวันสองวันที่ผ่านมา อาการาเ็ที่เขาฝากไว้คงหายดีแล้ว
"วันนั้นฉันเตะแกไม่แรงละมั้ง อย่างแกน่าจะนอนโรงพยาบาลไปหลายๆ เดือน" เฉินเฟิงโต้กลับโดยไม่เห็นหัวพ่อของฮูอวี่แม้แต่น้อย
เพราะเขาทำการบริจาคเงินเป็จำนวนสิบสามล้านหยวนให้แก่กองทุนมหาวิทยาลัยโม๋ตูไปแล้ว
สถานะปัจจุบันของเฉินเฟิงในมหาวิทยาลัยไม่ด้อยไปกว่ารองผู้อำนวยการอย่างพ่อของฮูอวี่แม้แต่น้อย
เชิงอรรถ
[1] พ่อค้าหมวกแดง หมายถึง พ่อค้าที่มีอิทธิพลต่อรัฐบาล
