เกาหนิงซินหยิบเ้าเห็ดดอกน้อยขึ้นมาแล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าค่อยปัดเศษฝุ่นออกเบาๆ แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็ของล้ำค่าแต่เด็กคนนี้กับทั้งแข็ง ทั้งทนทาน นอกจากเปื้นฝุ่นนิดหน่อยส่วยที่เหลือก็ไม่ได้รับความเสียหายใด
“นังหนูเ้าอย่าได้ถือสาเลยนะ”ท่านหมอซวีได้แต่ยิ้มให้หญิงสาวอย่างประจบประแจง
“หากข้าถือสายังจะอยู่ที่ลั่วหยางอีกหรือ”หญิงสาวถามกลับอย่างไม่ใส่ใจขณะนำหลินจือเก็บเข้าไปในกล่องผ้าไหมตาเดิม
“เช่นนั้นแล้ว...นังหนูเ้ามีของดีเช่นนี้ทำไมไม่ไปหาข้าที่จวนเล่า อย่างไรซะเราก็เป็คนรู้จักกันนะ”ท่านหมอชราคิดได้ว่านี่เป็อีกคราที่เขาทำตัวไร้ยางอาย แต่เพื่อสมุนไพรล้ำค่าจะให้ทำมากกว่านี้ยังได้
“ย่อมคิดถึงท่านหมอเป็รายแรกอยู่แล้วเ้าค่ะ...เพียงแต่สมุนไพรชุดนี้ข้าจะนำเอาไปประมูล ไม่ต้องห่วงข้ายังมีเด็กพวกนี้อีกนิดหน่อยหากท่านอยากได้จริงๆหนิงซินย่อมต้องขายให้ท่านแน่นอน”หญิงสาวกล่าวพลางลุกขึ้นเตรียมพร้อมจะออกเดินต่อ
“ข้ารู้ๆว่าเ้าเป็เด็กดี นังหนูเ้าจะนำสมุนไพรเหล่านี้มาขึ้นทะเบียนใช่หรือไม่”
“ใช่แล้วเ้าค่ะ”
“เช่นนั้นให้ข้าตามเ้าไป แม้ข้าจะช่วยสิ่งใดไม่ได้มากแต่ข้าจำแนกสมุนไพรเก่งมากเลยนะ”อดีตหมอหลวงที่ผันตัวมาเป็หมอประจำจวนเสนอตัวเองอย่างกระตือรือร้น
“ได้เ้าค่ะ เช่นนั้นต้องรบกวนท่านหมอซวีแล้ว”ปฏิเสธคนแก่เกรงว่าจะเป็บาปกรรมจริงๆ
หนึ่งหญิงสาวสองคนชราที่ดูเหมือนว่าจะรู้จักกันมาก่อนตอนนี้กำลังสนทนากันอย่างออกรส สองผู้ชราที่เคยทำงานในวังหลวง หนึ่งหมอหลวง หนึ่งอดีตขันทีที่เคยรับใช้เ้านายสูงศักดิ์ พวกท่านช่วยเก็บอาการทำเป็ไม่รู้จักเพื่อรักษาหน้าของข้าได้หรือไม่
โมโหโว้ย
“พ่อบ้านลู่...หากข้าไม่ได้เป็คนเลือกท่านมาเอง ข้าคงคิดว่าท่านเป็สายลับที่มาสอดแนมข้า!”เกาหนิงซินหมุนตัวกลับไปถามสุดยอดพ่อบ้านที่เธอแสนภาคภูมิใจอย่างเหลืออด
ทำไมล่ะ...ทุกที่ที่เดินไปต้องมีร่องรอยของคนๆนั้นด้วย
ก็แค่มีอะไรกันไม่ใช่หรือ จะต้องตามติดทุกฝีเก้าเช่นนี้?
กลัวว่าเธอจะเอาไปป่าวประกาศ? ย่ามันเถอะมาทำให้มารดารำคาญมากๆเข้าไป
“พ่อบ้านลู่...เ้าว่าที่เจียงหนานเป็เช่นไร ที่จริงระหว่างลั่วหยางกับเจียงหนานล้วนเป็ตัวเลือกที่ดี แต่ที่ข้าเลือกมาที่นี่เพราะว่าระยะทางใกล้กว่า”บางทีการลุกล้ำความเป็ส่วนตัวมันก็ยากจะรับได้
“เอ่อ...นายท่านเราซื้อจวนแล้วนะขอรับ”พ่อบ้านลู่อยากร่ำไห้แต่ไร้น้ำตา เขาแค่ทักทายคนรู้จักเท่านั้นมันไม่ได้เป็อย่างที่เด็กสาวคิดแม้แต่น้อย
“ซื้อแล้วก็เก็บไว้เช่นนั้นแหละ ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเงินสักหน่อย”ความหงุดหงิดอันไร้ที่มาทำให้เ้าตัวแปลกใจไม่น้อย ขนาดเมื่อครู่ของล้ำค่าเช่นหลินจือลงไปกลิ้งคลุกฝุ่นเธอยังไม่รู้สึกอะไรเลย ทำไมสภาพอารมณ์มันแปลกๆ ปกติเธอควบคุมการแสดงออกได้อย่างดีเยี่ยม
หรือว่าป่วย?
โรคเครียดหรือเปล่า?
“นังหนูใจเย็นๆก่อน ข้ากับเ้าลู่เพียงแค่รู้จักกันเท่านั้น แต่ว่านังหนูเ้าผิดปกติที่ตรงไหนหรือไม่เมื่อครู่ขนาดโดนชนจนของเสียหายเ้ายังไม่โกธรเท่านี้เลย”ท่านหมอซวีสอบถามอย่างเป็ห่วง
“ข้าก็ว่ามันแปลกๆ...เหมือนมีลมมาติดที่หน้าอกทำให้หายใจไม่ทั่วท้องรู้สึกหงุดหงิด”หญิงสาวขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจหรือว่าท้องอืดกันนะตอนเช้าเล่นซดโจ๊กไปสามชามใหญ่เช่นนั้น
“ไม่ต้องกังวลไป ไม่ใช่ว่าข้าเป็หมองั้นหรือตรวจให้เ้าสักหน่อยใช้เวลาไม่นาน...กว่าเ้าหน้าที่จะมายังต้องรออีกพักใหญ่”ท่านหมอซวีเสนอตัวแบบสุดๆ
“เช่นนั้นก็ตรวจสักหน่อย วันนี้ข้ายังต้องไปจัดการธุระหลายที่หากยังเป็เช่นนี้เกรงว่าจะส่งผลต่อการค้า”ยิ่งพูดลมในอกยิ่งจุกแน่นขึ้นทำให้คิ้วเรียวขมวดอย่างไม่ชอบใจ ทั้งสามเดินเข้าไปในห้องรับรองที่จัดเตรียมไว้
“เ้า...ไปหยิบล่วมยาของข้ามา”ก่อนที่ท่านหมอซวีจะเดินเข้าไปได้สั่งนายกองที่ยืนอยู่หน้าห้อง
นายกองร่างสูงที่รู้จักท่านหมอซวีเป็อย่างดีเมื่อได้ยินคำสั่งก็ไม่กล้าชักช้าหมุนกายวิ่งออกไปทันที
“มาๆนังหนูหนิงซิน มานั่งก่อนให้ข้าจับชีพจรเบื้องต้นดูว่าเ้าป่วยหรือไม่...อย่าคิดมากทำใจให้สบายไม่แน่อาจเป็โทสะที่สุมอกเท่านั้น”ท่านหมอซวีเชื้อเชิญให้เด็กสาวนั่งลงพร้อมกับพูดให้อีกฝ่ายคลายความกังวล
ไม่ยักรู้ว่าหมอที่มีความสามรถในยุคนี้อยากตรวจอาการคนไปทั่ว?
ซ้ำยังเสนอตัวแบบสุดๆ คนอื่นเขาต้องไปเชิญมาอย่างนอบน้อม
สถานการณ์แบบนี้มีให้เห็นไม่บ่อยนัก งั้นก็แสดงว่าตาเฒ่ามีจุดประสงค์
อย่างว่าของฟรีหรือโชคลาภไม่อาจร่วงหล่นมาจากบนฟ้า
“เช่นนั้รก็รบกวนท่านหมอซวีแล้ว”แม้จะเดาความคิดของหมอชราได้แต่หญิงสาวก็ไม่เปิดโปงอีกฝ่าย
ท่านหมอซวีบอกให้เด็กสาววางมือไว้บนโต๊ะแล้วเริ่มลงมือตรวจชีพจร ชายชราวางปลายนิ้วอยู่บนเส้นชีพจรอยู่นานกว่าหนึ่งถ้วยชาคิ้วที่เป็สีขาวของเขาเริ่มขมวดเข้าหากัน ยิ่งเวลาผ่านไปการแสดงออกของท่านหมอซวียิ่งแปลกประหลาด แม้จะเปลี่ยนเป็ข้อมืออีกข้างผลก็เป็เช่นเดิม
“นังหนู....นี่”ท่านหมอซวีถอดหายใจอย่างคิดไม่ตก
“ข้าป่วยเป็โรคร้ายหรือเ้าคะ?”เกาหนิงซินถามยิ้มๆ ท่านหมอที่ทำท่าทางกังวลแทนคนไข้เช่นนี้เธอก็พึ่งเคยเจอ
“ไม่ใช่...คือว่า”ท่านหมอซวีกล่าวอย่างอ้ำอึ้งพลางเหลือบมอง่กลางลำตัวของเด็กสาวแวบหนึ่ง
“อ้อ...ท้องแล้ว?”สายตาของท่านหมอซวีไม่อาจรอดพ้นสายตาของเธอไป ตัวเธอเองก็เป็หมอไม่ใช่ว่าไม่เคยสงสัยในความผิดปกติของร่างกาย
หลังจากที่จัดการเื่ราวต่างๆให้เข้าที่ ตอนที่ว่างๆเธอก็นึกขึ้นได้ว่าร่างกายนี้ประจำเดือนควรจะมาวันไหน ค้นในความทรงจำของเ้าของร่างเดิมอยู่นานจนรู้ว่าประจำเดือนของเธอจะมาทุกวันที่สิบของทุกเดือน เพราะความที่มันมาตรงเวลาทุกครั้งเ้าของร่างเดิมจึงไม่ได้คิดถึงมันมากนัก
นับไทม์ไลน์ั้แ่จบภารกิจสามวันสามคืนครั้งนั้น ก็ผ่านมายี่สิบห้าวันเต็มๆ
ก็คิดไว้แล้วว่าต้องมีวันนี้
“ท่านหมอซวีไหนท่านรับรองเป็มั่นเป็เหมาะว่าไม่มีทางท้องได้”ิญญาหญิงสาวจากยุคสองพันที่มีความคิดที่เป็แม่เลี้ยงเดี่ยวแต่ดันมาตายก่อนไม่ได้ตื่นใกับข่าวนี้เท่าไหร่
“ร่างกายมนุษย์ก็เป็เช่นนี้ ไม่อาจคาดการณ์ได้...นังหนูหนิงซินเช่นนี้เ้าจะทำเช่นไรต่อไป”ท่านหมอซวีอดถามอย่างเป็ห่วงไม่ได้ อารมณ์นายท่านของเขายิ่งเอาแน่เอานอนไม่ได้อยู่
หากนายท่านไม่้าให้เด็กคนนี้เกิดมาเล่า
“จะให้ทำเช่นไรได้...เขามาแล้วก็ต้องเลี้ยงสิเ้าคะ”หญิงสาวตอบแบบส่งๆไปอย่างนั้น
“เลี้ยงสิ่งใดหรือ?”
เสียงแหบต่ำอันเป็เอกลักษณ์ดังขึ้นด้านหลังของคนทั้งสอง ด้วยนั่งหันหลังให้ประตูจึงไม่รู้สึกว่าภายในห้องมีบุคคลที่สี่เพิ่มมาอย่างเงียบเชียบ
ท่านหมอซวีที่กำลังเป็กังวลเมื่อได้ยินเสียงที่ดังขึ้นมากะทันหันก็ใจนร่างแข็งทื่อ
“นะ...นายท่าน”ท่านหมอซวีรีบฉุดเด็กสาวที่อยู่ข้างกายให้ลุกขึ้นทันที
เกาหนิงซินขืนกายไม่ยอมอยู่บ้างแต่แรงของตาเฒ่านี่เยอะกว่าที่คิด ทำไมต้องทำท่าทางเหมือนคนทำความผิดเช่นนี้ล่ะ
“ไม่ได้เจอกันนาน อาการป่วยหายดีแล้วหรือ”หญิงสาวผงกหัวทักทายชายหนุ่มที่อยู่ในชุดชุนนางที่ดูแปลกตา
“ดี”
เธอไหวไหล่ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายเท่าไหร่ ทำเพียงผายมือเชิญให้อีกฝ่ายนั่ง วันนี้เธอมาเพราะมีธุระอย่างชัดเจน ส่วนเื่ที่แทรกเข้ามาไม่ได้เป็ประเด็นที่ต้องถกเถียงให้มากความ
หนังสือสัญญาก็ลงนามกันทั้งสองฝ่าย เธอไม่ได้คิดที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับอีกฝ่ายในขณะเดียวกันเขาก็ไม่ควรมาก้าวก่ายเื่ส่วนตัวของเธอเช่นกัน
“ท่านรองเ้าเมืองติดทำคดี ข้าจึงมาแทน”ชายหนุ่มอธิบายถึงการมาของเขา สายตาเ็ามองสำรวจคนตัวเล็กที่งดงามจับตายิ่งกว่าตอนที่พบกันตรงโรงน้ำชาเมื่อหลายสิบวันก่อน
“อ้อ...เช่นนั้นต้องรบกวนท่านเ้าเมืองแล้วเ้าค่ะ”คิ้วเรียวดั่งคันศรเลิกขึ้นอย่างรับรู้
“ให้ข้าตรวจสอบสิ่งของที่เ้าจะนำมาขึ้นทะเบียนเสียก่อน ขั้นตอนการออกหนังสือและจ่ายภาษีล้วนใช้เวลาไม่นาน”
“ได้เ้าค่ะ...พ่อบ้านลู่เปิดกล่องให้ท่านเ้าเมืองดู”ในเมื่ออีกฝ่ายแสดงความเป็มืออาชีพก็ไม่มีอะไรให้ต้องตำหนิ อืม...ช่างเป็ชายหนุ่มที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
“ท่านหมอซวี ท่านมีความรอบรู้เื่สมุนไพรหายากช่วยข้าตรวจสอบมูลค่าคร่าวๆที”ชายหนุ่มหันไปสั่งการท่านหมอซวี ส่วนอีกทางหนึ่งเขาเตรียมกระดาษสำหรับร่างหนังสือ เพราะรู้ว่าคนตัวเล็กจะมาเขาจึงเพิ่มงานให้รองเ้าเมืองแล้วมาที่นี่โดยทิ้งคนสนิทไว้ ตอนนี้เขาเลยต้องทำทุกอย่างด้วยตนเอง
แม้ต้องลงมือทำเองทุกขั้นตอนแต่ท่วงท่าของชายหนุ่มไม่ได้ติดขัดแม้แต่น้อย เห็นเช่นนั้นแล้วเกาหนิงซินก็อดใจไว้ไม่ได้ลุกขึ้นไปช่วยอีกฝ่ายฝนหมกอย่างใจกว้าง
แท่งหมึกชั้นดีที่ผ่านกรรมวิธีการทำจากต้นตำหรับส่งกลิ่นหอมอ่อนๆยามฝนลงบนจานฝนหมึก
หอม...น่าจะอร่อยไม่น้อย
ลองสักหน่อยคงไม่เป็ไร
มือเรียวเล็กที่กำลังตั้งสมาธิกับการหมุนวนแท่งหมึกอย่างตั้งใจ จู่ๆกลิ่นหอมรวยรินที่แผ่ออกมาจากน้ำหมึกสีดำสนิทก็ทำให้หญิงสาวอดใจไม่ไหว
ความคิดและสมองสั่งการแทบจะพร้อมๆกัน ก่อนที่ทุกคนในห้องจะไหวตัวทัน แท่งหมึกแท่งเล็กๆก็ลอยเข้าไปอยู่ในปากของหญิงสาวเรียบร้อย
จืดๆ...แต่ก็หอมดี
ชอบ
ก่อนที่ฟันซี่เล็กจะกัดลงไปบนแท่งหมึกให้สมใจอยาก จู่ๆมือปริศนาก็ล้วงเข้ามาในปากของเธอพร้อมกับคว้านเอามันออกไป
คนที่ถูแย่งของกินจากในปากเบิกตากลมโตจ้องมองตัวการอย่างไม่เข้าใจ
“ของสิ่งนี้กินไม่ได้”
ปากเล็กอ้าค้างเติ่งอย่างตั้งตัวไม่ทัน
เมื่อได้ยินคำอธิบายจากคนตัวโตที่นั่งตัวตรงอยู่บนเกาอี้ น้ำตาเม็ดโตก็หยดแหมะออกมาจากดวงตาที่เบิกกว้างของคนตัวเล็ก
ความรู้สึกที่โดนห้ามเวลาอยากได้อะไรมากๆแล้วไม่ได้มันเป็อย่างนี้
ไม่...ห้ามน้ำตาไม่ได้เลย
คนเลว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้